เลือกใช้ชีวิตแบบไหน เมื่อ work-life balance ทำชีวิตและงานพังยิ่งกว่าเดิม

เลือกใช้ชีวิตแบบไหน เมื่อ work-life balance ทำชีวิตและงานพังยิ่งกว่าเดิม
การใช้ชีวิตแบบ work-life balance เป็นเหมือนนิทานหลอกเด็กที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเราหลายคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่งานส่วนมากไม่มีเวลาที่แน่นอน บางครั้งงานด่วนก็มาในช่วงดึกดื่น หรือแม้แต่วันที่ควรจะเป็นวันหยุด ยิ่งทุกวันนี้รูปแบบของงานหลาย ๆ อย่างถูกดิสรัปอย่างรวดเร็วจากเทคโนโลยีดิจิทัล และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปหลายสิ่งอัน ออฟฟิศบางส่วนเลยได้ปรับมาทำงานจากบ้านซึ่งทำให้เส้นแบ่งระหว่างชีวิตส่วนตัวกับการทำงานดูพร่าเลือนไปอีก เลือกใช้ชีวิตแบบไหน เมื่อ work-life balance ทำชีวิตและงานพังยิ่งกว่าเดิม รู้จัก Work-life harmony คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เลยเปลี่ยนจาก work-life balance ที่กำลังทำให้งานและชีวิตพังยิ่งกว่าเดิม มาเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตที่เรียกว่า work-life harmony ซึ่งมีความยืดหยุ่นมากขึ้นช่วยให้ชีวิตและการทำงานเกิดความสมดุลยิ่งขึ้น จากการเบลนด์ผสมสองอย่างนี้เข้าด้วยกันอย่างแนบเนียน อย่างเช่น ขณะดริปกาแฟยามเช้า อาจสลับมาประชุมออนไลน์ สักพักพักกินบรันช์ แล้วค่อยมานั่งตอบอีเมลลูกค้าพร้อมเล่นกับแมวไปด้วยในเวลาเดียวกันได้อย่างไม่มีสะดุด แต่บางคนการใช้ชีวิตแบบ work-life harmony ที่ต้องทำหลาย ๆ อย่างสลับกันไปมาอาจทำให้โหลดงานหนักโดยไม่รู้ตัวจนลืมการดูแลสุขภาพของตัวเอง บางวันต้องประชุมทั้งวัน ตั้งแต่ลุกจากเตียง ลากยาวจนถึงเที่ยง ตกเย็นก็ต้องแก้งาน ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนร่างกายทำงานหนักโดยไม่รู้ตัว การทำงานหนักยังทำให้หลายคนละเลยการดูแลสุขภาพ ไหนจะเรื่องไม่ค่อยอยากออกกำลังกายให้รู้สึกเหนื่อยเพิ่ม ไหนงานที่เร่งรีบทำให้ไม่ค่อยสนใจดูแลตัวเองเรื่องอาหารที่เป็นประโยชน์ ส่วนใหญ่เลือกซื้ออาหารแช่แข็งมาอุ่นไมโครเวฟกินบ่อย ๆ ซึ่งหลายอย่างมีคุณค่าอาหารน้อยกว่าอาหารปรุงสุกใหม่ ๆ การกินอาหารพวกนี้ชนิดเดียว  ซ้ำ ๆ ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เต็มที่โดยไม่รู้ตัว พฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมายิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพมากขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกับระบบภูมิคุ้มกัน ที่มีหน้าที่ดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อในร่างกาย ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดโอกาสหรือความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยได้ ระบบภูมิคุ้มกันจึงมีความสำคัญกับเรามาก ยิ่งในช่วงที่เชื้อโรคแพร่ระบาดมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดต่อได้ง่าย การมีภูมิคุ้มกันที่ดียิ่งช่วยให้เราพร้อมรับมือกับเชื้อโรคซึ่งอาจจะได้รับมาโดยไม่รู้ตัวตอนไหนก็ได้   เลือกใช้ชีวิตแบบไหน เมื่อ work-life balance ทำชีวิตและงานพังยิ่งกว่าเดิม ทำอย่างไรให้ร่างกายสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ข้อมูลจาก ผศ. ดร. เอกราช บำรุงพืชน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย ประธานชมรมโภชนวิทยามหิดล ระบุว่า สารอาหารต่าง ๆ มีผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะวิตามินและแร่ธาตุ จากการศึกษาวิจัยพบว่า วิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด มีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน ด้วย 3 หน้าที่ เลือกใช้ชีวิตแบบไหน เมื่อ work-life balance ทำชีวิตและงานพังยิ่งกว่าเดิม การได้รับวิตามินเกลือแร่รวมตั้งแต่ A-Zinc เลยเป็นพื้นฐานที่สำคัญของร่างกายได้สร้างภูมิคุ้มกัน ถ้าเปรียบภูมิคุ้มกันเป็นรั้วบ้าน หรือกำแพงบ้านที่ช่วยป้องกันขโมย วิตามินรวมก็ไม่ต่างจากการเสริมรากฐานที่ดีให้กับรั้วที่มั่นคง เมื่อมีรั้วที่แข็งแรงแล้วจากการได้รับวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ อย่างเพียงพอแล้ว ค่อยไปต่อยอดเสริมวิตามินหรือสมุนไพรตัวอื่น ๆ ตามความเหมาะสม เหมือนเป็นการตกแต่งบ้านตามความพอใจของแต่ละคน เลือกใช้ชีวิตแบบไหน เมื่อ work-life balance ทำชีวิตและงานพังยิ่งกว่าเดิม   สุขภาพดีเริ่มที่ตัวเรา จะเห็นว่าวิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ เป็นสิ่งจำเป็นกับร่างกาย ทั้งในการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และการใช้ชีวิตแบบ work-life harmony ของพวกเรา ที่ต้องทำงานหลายอย่างหลากหลายในแต่ละวัน ซึ่งแต่ละกิจกรรมก็ต้องการวิตามินเกลือแร่ต่าง ๆ อย่างพอเพียง เพื่อช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ การหาวิตามินรวมจาก A ถึง Zinc ที่รวบรวมส่วนประกอบอันเป็นประโยชน์ต่อร่างกายทั้งระบบภูมิคุ้มกัน , สมองและระบบประสาท ,การเสริมสร้างพลังงาน และ สุขภาพดวงตา ไว้ในเม็ดเดียวครบเลย เลยเป็นทางเลือกหนึ่งที่สะดวกของคนรุ่นใหม่วัยทำงานในการดูแลตัวเอง การใช้ชีวิตแบบ work-life harmony ที่จะช่วยให้ชีวิตเรามีสุขภาพที่ดี เลยเป็นทั้งการจัดการชีวิตการทำงานให้กลมกลืน แล้วไม่ควรลืมที่จะดูแลตัวเองออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันที่ดี และเสริมด้วยวิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ทำทุกสิ่งอย่างสมดุล เพราะสุขภาพดีเป็นสิ่งที่ตัวเราสามารถเลือกได้เอง อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : https://bit.ly/3tJaFmn เลือกใช้ชีวิตแบบไหน เมื่อ work-life balance ทำชีวิตและงานพังยิ่งกว่าเดิม