แอมเบอร์ เจ. หลิว ไอดอลผู้ทำลายขนบเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี ด้วยลุคทอมบอย

แอมเบอร์ เจ. หลิว ไอดอลผู้ทำลายขนบเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี ด้วยลุคทอมบอย
“เวลามีคนถามว่า ‘เมื่อไหร่ฉันจะทำตัวเป็นผู้หญิง’ ฉันก็จะตอบว่า ‘ฉันก็เป็นผู้หญิงอยู่นี่ไง’” ประโยคที่บอกว่า ‘ความงามมีหลายรูปแบบ’ ดูเหมือนจะกลายเป็นสิ่งเชื่อถือไม่ได้ ในวันที่คุณก้าวเข้ามารู้จักกับวงการเคป๊อป ด้วยภาพลักษณ์ทอมบอย ผมซอยสั้น และเสื้อผ้าผู้ชายหลวม ๆ ทำให้ แอมเบอร์ โจเซฟีน หลิว (Amber Josephine Liu) หรือ หลิว อี้หยุ่น (Liu Yi Yun) สมาชิกชาวไต้หวัน สัญชาติอเมริกัน จากวงเกิร์ลกรุ๊ป f(x) มักตกเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงเพศสภาพ และความเหมาะสมของตัวเธอในฐานะศิลปินไอดอลอยู่เสมอ ๆ ย้อนกลับไปในปี 2009 ช่วงเวลาที่วงการเคป๊อปกำลังโด่งดังในเอเชียจนอาจเรียกได้ว่าถึงขีดสุด หลังจากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของวงไอดอลชื่อดังอย่าง TVXQ, Super Junior, Girl Generation และ SHINee ในที่สุดค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ S.M. Entertainment ก็ตัดสินใจจะเดบิวต์วงเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ขึ้นมาอีกวง f(x) (อ่านว่า เอฟ(เอกซ์)) คือชื่อวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ฟังก์ชัน สูตรทางคณิตศาสตร์ ที่ตัวเอ็กซ์สามารถแทนค่าเปลี่ยนผลลัพธ์เป็นอะไรก็ได้ สมาชิกวงประกอบด้วย วิกตอเรีย, ลูนา, คริสตัล, ซอลลี่ (ออกจากวงในเดือนสิงหาคมปี 2015 และเสียชีวิตด้วยโรคซึมเศร้าในเดือนตุลาคมปี 2019) และ แอมเบอร์ ตอนนั้นพวกเธอคือดาวดวงต่อไปที่ค่ายหวังจะปั้นให้โด่งดังโลดแล่นในวงการต่อจากวงรุ่นพี่ ในยุคสมัยที่รูปแบบของไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ผู้หญิงสวยเซ็กซี่ และ หญิงสาวบอบบางน่ารัก ช่วงเวลานั้น f(x) ที่เปิดตัวด้วยภาพลักษณ์ทะมัดทะแมง เสียงร้องทรงพลัง และท่าเต้นแข็งแรงเด่นชัด ในเพลง La Cha Ta (2009) จึงกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย ทั้งในกลุ่มแฟนคลับและคนทั่วไป ความสนใจของคนส่วนใหญ่ที่ติดตามวงการเคป๊อป ยังพุ่งไปที่สมาชิกที่มีผมซอยสั้น แต่งตัวแบบไอดอลผู้ชาย แถมยังทำหน้าที่เป็นแร็ปเปอร์ ซึ่งสมาชิกคนนั้นก็คือ แอมเบอร์ นั่นเอง ภาพลักษณ์ที่แตกต่างทำให้เธอโด่งดังขึ้นทันทีที่เปิดตัว แต่น่าเสียดายที่มันกลายเป็นความแปลกใหม่ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เพราะเมื่อวง f(x) เริ่มปล่อยเพลงในเวลาต่อมา ผู้คนต่างคาดหวังที่จะเห็นด้านที่เป็นผู้หญิงในรูปแบบที่เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีมักจะเป็น แต่ไม่ว่า f(x) จะปล่อยมาสักกี่เพลง แอมเบอร์ก็ยังไม่เปลี่ยนไปจากลุคแรกที่ทุกคนเห็น เธอยังคงไว้ผมสั้น ไม่ใส่กระโปรง แถมเริ่มสักลวดลายลงบนแขนทั้งสอง “พวกเขาอาจจะเข้าใจผิดว่าการทำตัวเป็นทอมบอย หรือคนไร้เพศ มันเป็นแค่คอนเซ็ปต์ แต่ที่จริงแล้ว ทั้งหมดนี้คือตัวฉันเอง” สีสันที่แปลกและแตกต่างไปจากวงการไอดอลเคป๊อปของแอมเบอร์ จึงกลายเป็นจุดที่ถูกคนอื่นนำมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตีตัวตนของเธอในเวลาถัดมา “ทำไมถึงมีผู้ชายอยู่ในวงเกิร์ลกรุ๊ปได้” “เมื่อไหร่ยัยแมนเบอร์ (Manber) จะออกจากวง” “ยัยนั่นไม่เห็นจะสวยเลย” “ไอดอลผู้หญิงไม่ควรจะมีกล้าม” “ใครจะไปอยากเข้าใกล้ผู้หญิงที่มีรอยสัก” นั่นคือความเห็นในโลกโซเชียลที่แอมเบอร์ต้องเจออยู่เป็นประจำ แต่หนึ่งในเสียงวิจารณ์ที่ค่อนข้างเป็นประเด็นที่สุดคือการแสดงความเห็นล้อเลียนหน้าอกของเธอ “หน้าอกของแอมเบอร์อยู่ที่ไหนน่ะ” “ทำไมอกเธอแบนราบขนาดนั้น” “แอมเบอร์ไม่มีหน้าอกเหรอ” ประเด็นนี้เองกลายเป็นจุดที่ทำให้แอมเบอร์ตัดสินใจตอบโต้ด้วยการทำคลิปวิดีโอประชดประชันแบบตลก ๆ ลงในช่อง YouTube ที่เธอสร้างขึ้นกับเพื่อน ๆ โดยใช้ชื่อคลิปว่า ‘WHERE IS MY CHEST? (Responding to Hate Comments)’ ที่แปลเป็นไทยประมาณว่า ‘หน้าอกของฉันอยู่ไหนเนี่ย?’ ออกมาให้ทุกคนได้ดู เนื้อหาในคลิปเป็นเรื่องราวมหากาพย์การตามหา ‘หน้าอกของแอมเบอร์’ ตามที่ต่าง ๆ โดยแอมเบอร์และเพื่อนสนิทของเธอคือ ไบรซ์ (Bryce) ได้ค้นหาหน้าอกของแอมเบอร์ไปทั่วบริเวณบ้าน ไปถามผู้คนมากมายบนท้องถนน แถมยังไปตามหาแถวพุ่มไม้และถังขยะอีกด้วย “ฉันแค่รู้สึกว่า ฉันควรจะพูดอะไรเกี่ยวกับมันบ้าง” เธออธิบาย ซึ่งระหว่างการตามหาหน้าอก แอมเบอร์ยังได้อ่านความเห็นเกลียดชังอื่น ๆ พร้อมกับตอบโต้แบบตลก ๆ ไปด้วย “ที่จริงมันยังเป็นเรื่องยากสำหรับฉันอยู่เวลาต้องอ่านคอมเมนต์พวกนั้น ปกติฉันไม่ค่อยได้อ่านหรอก แต่ตอนอัดวิดีโอฉันอ่านทีละอันเลย และมันก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น ฉันรู้สึกแย่มาก ๆ ที่ต้องมาเห็นคนเป็นร้อยเป็นพันด่าว่าฉันน่าเกลียดหรือแปลกประหลาด “คำด่าที่ฉันเจอมาตลอด 8-9 ปี มีแต่เรื่องเดิม ๆ จนฉันแอบคิดว่า ‘ด่าเรื่องอื่นบ้างได้ไหม’ แต่ช่างมันเถอะ ฉันก็แค่อยากให้พวกเขาคิดได้ว่ามันเป็นเรื่องผิดที่เอาแต่ซ่อนตัวอยู่หลังคอมพิวเตอร์ แล้วก็พ่นอะไรออกมาตามใจตัวเองแบบนั้น” การที่แอมเบอร์เลือกประชดแบบขำ ๆ ทำให้คลิปของเธอแพร่หลายไปสู่ความสนใจของทั้งคนที่ชื่นชอบไอดอล รวมถึงคนอื่น ๆ ในวงกว้างอย่างรวดเร็ว และยังจุดประเด็นให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับปัญหาการคุกคามทางไซเบอร์ที่มีต่อไอดอล แม้จะยังมีผู้คนออกมาแสดงความคิดเห็นด้านลบต่อแอมเบอร์ แต่อีกด้านก็มีคนมากมายที่สนับสนุนและแสดงความเห็นในด้านบวก อย่างที่เธอเล่าว่า “มีหลายความเห็นบอกว่า ‘โอ้ ฉันก็หน้าอกเล็กเหมือนกัน’ มันดีมากนะ เพราะฉันได้รู้ว่าไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่ต้องเจอเรื่องพวกนี้ และฉันไม่ได้โดดเดี่ยว” แม้มีคนสนับสนุน ให้กำลังใจ แต่แอมเบอร์ก็ยอมรับว่า ยังคงรู้สึกเจ็บปวดกับความเห็นด่าทออยู่ แต่หลาย ๆ ครั้ง เธอเลือกที่จะมองผ่าน และเคารพตัวเองมากขึ้น “ฉันเคยพยายามปรับตัวตามสิ่งที่สังคมอยากให้เป็นแล้ว แต่มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด แถมยังสิ้นหวังกว่าเดิม” แอมเบอร์มองว่าการเป็นไอดอลหญิงในแบบที่สังคมยอมรับ คงไม่ใช่ทางของเธอ “มันเหนื่อย เหมือนคุณกำลังมองหาการยอมรับจากใครก็ไม่รู้”  แอมเบอร์เลือกใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองสบายใจ แต่งกายในแบบที่ต้องการ ไปออกกำลังกาย เล่นบาสเก็ตบอลที่เธอชอบ นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอค่อย ๆ กลายมาเป็นแบบอย่างของใครหลายคน ในฐานะคนดังที่มีความมั่นใจ แถมยังรักและเคารพตัวเอง วันที่ 1 กันยายน 2019 ครบรอบ 10 ปีของวง f(x) แอมเบอร์เขียนจดหมายด้วยลายมือ โพสต์ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว เพื่อประกาศให้แฟน ๆ รู้ว่า เธอกำลังจะออกจากค่าย S.M. Entertainment เพราะสัญญาหมดอายุ แต่พวกเขายังสามารถติดตามผลงานของเธอในฐานะศิลปินได้ต่อ เพราะแอมเบอร์ได้เซ็นสัญญาใหม่กับค่าย Steel Wool ต้นสังกัดที่อเมริกา เพื่อเดินหน้าทำงานในฐานะศิลปินเดี่ยว แต่ช่วงเวลาน่ายินดีกลับเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เพราะขณะที่กำลังจะปล่อยอัลบั้มเดี่ยว แอมเบอร์ต้องเจอกับเรื่องเศร้าสลด อย่างการจากไปของ ซอลลี่ อดีตสมาชิกของวง f(x) ซึ่งนับเป็นศิลปินไอดอลอีกคนที่ถูกคุกคามบนโลกโซเชียลมาเป็นเวลานาน ก่อนจะต้องจากไปด้วยโรคซึมเศร้า แอมเบอร์ตัดสินใจประกาศเลื่อนตารางงานทั้งหมด เพื่อมาร่วมงานศพของซอลลี่ เธอให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวของอเมริกัน CBS This Morning และพูดถึงการสูญเสียในครั้งนี้ว่า “ซอลลี่เป็นเด็กน่ารัก และเต็มไปด้วยความสุข ที่ผ่านมาเธอดูเหมือนไม่แคร์ความเห็นพวกนั้น ฉันเลยคิดมาตลอดว่าเธอเจ๋งมาก ๆ ที่ทำแบบนั้นได้ เพราะฉันทนข้อความพวกนี้ไม่ได้เลย แต่ซอลลี่กลับอ่านมัน พูดถึงมัน และทิ้งมันไว้ข้างหลัง”  แน่นอน ไม่ต่างจากแอมเบอร์ ซอลลี่เองก็เจ็บปวด และความเจ็บปวดที่ไม่เคยบอกใครได้พรากเจ้าตัวไปจากผู้คนที่รักเธอตลอดกาล “เวลาที่ฉันเห็นข่าวประมาณว่า ‘วันนี้ซอลลี่ทำอะไรอีกแล้ว’ ฉันก็แบบ ‘พวกคุณเกี่ยวอะไรด้วย ผู้หญิงคนนี้ก็แค่ใช้ชีวิตของตัวเอง’ มันแย่มาก เพราะฉันรู้สึกว่าเรื่องที่ง่ายที่สุดที่พวกเราทำได้ ทุกคนทำได้ คือพยายามใจดีกับคนอื่น” คือความเห็นของแอมเบอร์ที่มีต่อกรณีซอลลี่ (การจากไปของซอลลี่ ไม่ใช่การสูญเสียครั้งสุดท้าย เพราะเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน  วงการบันเทิงเกาหลียังต้องเสีย คู ฮารา อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปวง KARA ไปด้วยเหตุผลเดียวกัน) การคุกคามบนโลกไซเบอร์ยังคงเป็นปัญหาที่ค้างคาในสังคมเกาหลี หลายคนอาจลืมไปว่าอีกฟากหนึ่งของหน้าจอ ไอดอลก็คือมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อและหัวใจ สามารถรู้สึกเจ็บปวดกับความเกลียดชังที่ถูกโยนเข้าหา แอมเบอร์อาจโชคดีที่สามารถมองข้ามและทำงานของเธอต่อไปได้ แต่ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ไม่อาจรับมือไหว เพราะในยุคที่โลกยอมรับความแตกต่างหลากหลายมากขึ้น ไม่ควรมีใครต้องพบเจอกับคำพูดร้าย ๆ เพียงเพราะเป็นตัวของตัวเอง     ที่มา https://www.bbc.com/news/av/world-asia-42335316/flat-chested-k-pop-star-responds-to-cruel-body-comments https://www.bbc.com/korean/news-42148031 https://www.kpopstarz.com/articles/49113/20131114/f-x-amber-krystal-sulli-luna-victoria-henry.htm https://www.asiaone.com/entertainment/fxs-amber-liu-speaks-out-dark-side-k-pop-and-bandmate-sullis-death-i-miss-her-lot https://www.youtube.com/watch?v=Fz3AFw-1xKM https://www.youtube.com/watch?v=SHgbU1938SE