23 ต.ค. 2565 | 13:10 น.
วันที่ 20 มิถุนายน ปี ค.ศ. 1993 ณ ประเทศสิงคโปร์ ถือเป็นวันแจ้งเกิดของกองหน้าทีมชาติไทยนาม ซิโก้ - เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เมื่อเด็กหนุ่มจากจังหวัดขอนแก่นรายนี้ถูกเปลี่ยนตัวไปลงสนามแทนวิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ ในนาทีที่ 65 ของการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 17 รอบชิงชนะเลิศระหว่างทีมชาติไทยที่พลาดเหรียญทองมาแล้วกว่า 3 สมัยพบกับทีมชาติเมียนมาร์
โดยตอนที่ทีมชาติไทยเปลี่ยนตัวซิโก้ลงสนามไปนั้น ผลการแข่งขันเป็นทางด้านเมียนมาร์ที่ตามตีเสมอทีมชาติไทยมาเป็น 3-3 ประตู และรูปเกมต่างฝ่ายต่างเปิดเกมบุกเพื่อให้ได้มาซึ่งประตูชัยอันจะนำไปสู่เหรียญทองแห่งเกียรติยศนี้
กองเชียร์ทางบ้านที่รับชมการถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยต่างลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อ
เกมการแข่งขันดำเนินมาจนถึงนาทที่ 88 สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ ที่เติมเกมบุกขึ้นมาทางด้านซ้ายตัดสินใจเปิดบอลมาที่เสาแรกให้ ซิโก้ - เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โหม่งเสยไปทางด้านหลังบอลลอยพุงเสียบตาข่ายไปอย่างสวยงาม
เป็นประตูชัยให้ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะเมียนมาร์ไปได้ 4-3 คว้าเหรียญทองสมัยที่ 6 ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และประตูนี้คือประตูที่ 3 ของซิโก้ในซีเกมส์ครั้งนั้นอีกด้วย
การคว้าเหรียญทองของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยในครั้งนั้นนอกจากจะเป็นปฐมบทจ้าวอาเซียนแล้ว ยังเป็นต้นกำเนิดของดาวยิงจอมตีลังกาอย่าง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และในวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปพบกับเส้นทางชีวิตการค้าแข้งของเจ้าตัวกันครับ
จุดเริ่มต้นจากเหรียญทองซีเกมส์ สู่ดรีมทีมและเจ้าอาเซียนอย่างสมบูรณ์แบบ
หลังจาก ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โหม่งบอลเสยเสียบตาข่ายเป็นประตูชัยให้ทีมชาติไทยผงาดคว้าเหรียญทองในซีเกมส์ ครั้งที่ 17 ปี 1993 มาครองได้ เจ้าตัวก็กลายเป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติไทยชุดดรีมทีมที่เป็นความหวังใหม่ของวงการฟุตบอลไทย
ในปีถัดมา ซิโก้อยู่ในทีมชาติไทยชุดบีที่คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 25 ปี 1994 ซึ่งภาพที่ติดตาแฟนบอลไทยคือในรอบชิงชนะเลิศที่ทีมชาติไทยชุดบีสามารถเอาชนะเยอรมนีไปได้ 4-0
ทีมเยอรมันที่มาทำการแข่งขันในครั้งนั้นก็คือทีมเว็สท์ฟาเลินชุดสมัครเล่น แต่กระนั้น กระแสดรีมทีมฟีเวอร์ก็กลายเป็นปรากฏการณ์ปลุกกระแสวงการฟุตบอลไทย
ปี 1995 ทีมชาติไทยมีศึกสำคัญนั่นก็คือการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 18 ณ จังหวัดเชียงใหม่ และซิโก้ก็คือหนึ่งในผู้เล่นทีมชุดป้องกันแชมป์ในครั้งนั้น แต่ก็ถูกรัศมีของเนติพงษ์ ศรีทองอินทร์บดบังจนไม่อาจแจ้งเกิดได้เต็มตัวนัก ซิโก้ยิงไปเพียงหนึ่งประตูเท่านั้นในนัดที่ทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติกัมพูชาไป 9-0 แต่ถึงอย่างไรเจ้าตัวก็คือนักเตะกำลังสำคัญของทีม
ปี 1996 เป็นครั้งแรกที่สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (ASEAN Football Federation) หรือเอเอฟเอฟ (AFF) ได้ทำการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์
ในครั้งนั้นเรียกชื่อรายการตามสปอนเซอร์ว่าไทเกอร์ คัพ (Tiger Cup) และทีมชาติไทยก็สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม โดยซิโก้สามารถยิงประตูได้ทั้งหมด 5 ประตูและหนึ่งในนั้นคือประตูชัยที่เกิดขึ้นในรอบชิงชนะเลิศกับมาเลเซีย
ปี 1997 ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพลชุดล่าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 19 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และทีมชาติไทยก็สามาถคว้าเหรียญทองมาครองได้ ก่อนที่ในอีก 2 ปีถัดมาในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ปี 1999 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่การแข่งขันฟุตบอลในซีเกมส์จะใช้ทีมชาติชุดใหญ่ ซิโก้ยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีมชุดอำลาซีเกมส์นี้ และเจ้าตัวก็สามารถทำได้ถึง 6 ประตูเป็นดาวยิงสูงสุดประจำรายการ และพาทีมชาติไทยขึ้นครองแชมป์ซีเกมส์เป็นสมัยที่ 9 และเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน
ปี 2000 และ 2002 เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มีส่วนสำคัญในการพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนหรือไทเกอร์ คัพมาครองได้ทั้ง 2 ครั้ง เป็นบทพิสูจน์ความเป็นเจ้าอาเซียนของทีมชาติไทยได้อย่างแท้จริง โดยในปี 2000 เจ้าตัวยิงไปทั้งสิ้น 4 ประตูขณะที่ครั้งถัดมาซิโก้ยิงไปทั้งสิ้น 3 ประตู
พาทีมชาติไทยสู่เวทีระดับเอเชีย
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คือผู้เล่นที่ผ่านเวทีการแข่งขันระดับเอเชียมาแล้วมากมาย ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์เจ้าตัวมีโอกาสติดทีมชาติไทยถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกปี 1994 ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 12 ณ เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในครั้งนั้นทีมชาติไทยเดินทางไปด้วยความหวัง แฟนฟุตบอลต่างเชื่อมั่นในความเป็นดรีมทีม แต่เมื่อถึงเวลาแข่งขันจริงผลการแข่งขันกลับไม่เป็นไปตามที่วาดฝันไว้
ทีมชาติไทยชุดนั้นประเดิมด้วยการพ่ายแพ้แก่ฮ่องกง 1-2 แพ้ซาอุดิอาระเบีย 2-4 แพ้อุซเบกิสถาน 4-5 นัดสุดท้ายยังดีที่สามารถเสมอกับมาเลเซียได้ 1-1 เก็บ 1 คะแนนกลับบ้านได้สำเร็จ โดยซิโก้คือคนยิงประตูในนัดนี้ หลังจากการแข่งขันจึงเริ่มมีการตั้งข้อสงสัยกันว่าแท้จริงแล้วทีมชาติไทยในขณะนั้นคือชุดแห่งความหวังหรือดรีมทีมจริงหรือไม่
ปี 1996 ทีมชาติไทยสามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปอย่างเอเชียหรือเอเอฟซี เอเชียน คัพ (AFC Asian Cup) ได้เป็นผลสำเร็จ ทุกคนต่างคาดหวังว่าทีมชาติไทยจะทำผลงานได้อย่างดี
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คือหนึ่งในขุนพลทีมชาติไทยชุดที่จะไปกู้ชื่อจากเอเชียนเกมส์ที่ผ่านมา แต่แล้วความปรารถนาที่จะกู้ชื่อก็กลายเป็นการตอกย้ำความล้มเหลวในระดับทวีป เมื่อทีมชาติไทยไม่สามารถต่อกรกับทีมอย่างซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน และอิรักได้เลย ทีมชาติไทยแพ้รวดทุกนัดที่ลงสนามโดยซิโก้สามารถยิงประตูได้ 1 ประตูซึ่งเกิดขึ้นในนัดที่ทีมชาติไทยแพ้อิหร่านไป 1-3
ปี 1998 เป็นปีที่มีรายการระดับทวีปสำคัญอีกครั้งนั่นก็คือการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ต้องเก็บความคับข้องใจว่าตัวเองและทีมชาติไทยไม่ดีพอในระดับเอเชียอย่างนั้นหรือ ศึกในครั้งนี้ซิโก้ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าทีมชาติไทยและตัวเค้ามีดีกว่าที่ผ่านมา
ทีมชาติไทยเริ่มต้นด้วยความดุดันเมื่อเปิดสนามเอาชนะคู่ปรับอย่างฮ่องกงไปได้ 5-0 และซิโก้ก็สามารถยิงได้ 2 ประตูในนัดดังกล่าว จากนั้นไทยก็ส่งท้ายรอบแรกด้วยการเอาชนะโอมาน 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มรอบที่ 2 ซึ่งไทยยังคงทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องเมื่อสามารถเสมอคาซัคสถาน 1-1 ชนะเลบานอน 1-0 แพ้การ์ตา 1-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับยอดทีมอย่างเกาหลีใต้
การแข่งขันกับเกาหลีใต้ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในวันนั้นคือนัดประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทย ทีมชาติไทยเป็นรองเกาหลีใต้ทุกด้านยกเว้นเสียงเชียร์ในฐานะเจ้าภาพ ในขณะที่ไทยเรากำลังเสียเปรียบในเกมการแข่งขัน ก็เป็น ซิโก้ - เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ยิงประตูให้ทีมชาติไทยขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 81 ก่อนจะมาโดนตีเสมอได้ในนาที 85 และในท้ายที่สุด ทีมชาติไทยก็แซงเอาชนะไปได้ในช่วงโกลเดนโกลด์ 2-1 สร้างประวัติศาสตร์ไปคว้าอันดับที่ 4 ได้ในท้ายที่สุด
ปี 2000 ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยังคงเป็นผู้เล่นที่มีส่วนพาทีมชาติไทยไปแข่งขันระดับทวีปอีกครั้งในศึกเอเอฟซี เอเชียน คัพซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศเลบานอน โดยนัดแรกทีมชาติไทยทำผลงานได้ไม่ดีนัก เมื่อพ่ายแพ้ต่ออิรักไปก่อนในนัดเปิดสนาม ก่อนที่ในอีก 2 นัดที่เหลือจะทำผลงานได้ดี เมื่อสามารถเสมอกับทีมชาติอิหร่านและเลบานอนด้วยสกอร์ 1-1 ทั้งสองนัด
ปี 2002 ซิโก้กลับมามีชื่อติดทีมชาติไทยไปแข่งขันเอเชียนเกมส์อีกครั้ง โดยครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่การแข่งขันฟุตบอลในเอเชียนเกมส์มีการกำหนดอายุเป็นทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 23 ปี บวกด้วยโควต้าอายุเกิน ซึ่งซิโก้แม้จะอายุเกินไปแล้วแต่ก็ถูกเรียกติดทีมชาติไทยชุดนี้ในโควต้าดังที่ว่ามา และก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
ในรอบแรกซิโก้เมื่อสามารถยิงประตูได้ทุกนัด ช่วยให้ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะทั้งเยเมน เวียดนามและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ และในท้ายที่สุดทีมชาติไทยชุดนั้นก็ได้อันดันที่ 4 เอเชียนเกมส์อีกครั้ง
ปี 2007 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กลับมามีชื่อติดทีมชาติไทยลุยเวทีระดับเอเชียอีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวไม่ได้มีชื่ออยู่ในทีมชาติไทยชุดเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2004 ที่ประเทศจีน ผลงานการแข่งขันในครั้งนั้นซิโก้ก็มีส่วนกับความสำเร็จของทีมชาติไทยที่สามารถเอาชนะโอมาน 2-0 ซึ่งเป็นชัยชนะนัดแรกของทีมชาติไทยในเวทีการแข่งขันรายการนี้
เข้าใกล้ฟุตบอลโลกกับทีมชาติไทย
ซิโก้ - เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ติดทีมชาติไทยชุดคัดเลือกฟุตบอลโลกมาตั้งแต่ฟุตบอลโลก1994 แต่ครั้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2002 ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วมกัน ครั้งนั้นทีมชาติไทยสามารถผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบสุดท้ายของทวีปเอเชียได้
รอบคัดเลือกรอบแบบกลุ่มทีมชาติไทยอยู่ร่วมสายกับศรีลังกา ปากีสถาน และเลบานอน โดยเลกแรกที่เลบานอน ซิโก้ซัด 2 ประตูให้ทีมชาติไทยเอาชนะศรีลังกาไป 4-2 ในนัดเปิดสนาม ก่อนมายิงประตูชัยให้ทีมชาติไทยเฉือนชนะเลบานอนเจ้าบ้าน 2-1 ส่วนเลกที่สองที่ประเทศไทยซิโก้ยิง 2 ประตูในนัดที่เอาชนะศรีลังกา 3-0 ก่อนจะมายิงอีก 4 ประตูในนัดเอาชนะปากีสถาน 6-0 รวมแล้วในรอบคัดเลือกรอบแบ่งกลุ่มนี้ซิโก้ยิงประตูไปทั้งสิ้น 9 ประตู ส่งให้ทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ในรอบคัดเลือกรอบแบ่งกลุ่มรอบสุดท้ายซึ่งในขณะนั้นมีทั้งสิ้น 10 ทีมแบ่งเป็น 2 สายๆ ละ 5 ทีมไทยอยู่ร่วมสายกับซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน อิหร่านและอิรัก โดยทีมชาติไทยมี 4 แต้มจากการเสมอ 4 นัด โดยซิโก้ยิงประตูสำคัญในนัดบุกไปเสมอบาห์เรน 1-1 สร้างประวัติศาสตร์ใกล้เคียงฟุตบอลโลกมากที่สุดของทีมชาติไทย ก่อนที่การคัดเลือกฟุตบอลโลกในอีก 4 ถัดมาจะเป็นฉนวนเหตุให้ซิโก้ห่างหายไปจากทีมชาติไทยช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ค้าแข้งลีกอังกฤษ
ปี 1999 ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองมีโอกาสไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรมิดเดิ้ลสโบรห์ในศึกพรีเมียร์ลีกของประเทศอังกฤษเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่ก็ไม่ได้รับโอกาสเซ็นสัญญา แต่เจ้าตัวก็ไม่ละความพยายาม หลังจากนั้น ซิโก้ ไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ในดิวิชั่น 1 ซึ่งก็คือลีกรองจากพรีเมียร์ลีก และประสบความสำเร็จได้รับการเซ็นสัญาญาเป็นนักเตะอาชีพของสโมสร
ชีวิตการเป็นนักเตะอาชีพของซิโก้ในถิ่นฮัดเดอร์ฟิลด์ทาวน์นั้นไม่ใช่งานง่ายเลย ตลอดระยะเวลา 1 ปีกว่า ซิโก้เป็นเพียงผู้เล่นของทีมสำรองเท่านั้น ไม่สามารถสอดแทรกตัวเองขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ ก่อนจะต้องกลับสู่มาตุภูมิ แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในการลงสนามแต่เจ้าตัวก็ได้ประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์มากมาย
สู่ลีกลอดช่อง ก่อนจะไปเป็นตำนานที่ฮอง อันห์
ปี 2001 หลังจากซิโก้กลับจากการค้าแข้งที่ประเทศอังกฤษได้ไม่นาน เจ้าตัวก็มีโอกาสไปเล่นยังเอสลีก (S League) ของประเทศสิงคโปร์กับสโมสรสิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ โดยซิโก้ทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง
แต่ในช่วงเวลานั้น ทีมชาติไทยเองผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบแบ่งกลุ่มรอบสุดท้ายของทวีปเอเชีย ซึ่งมีโปรแกรมทับซ้อนกับเอสลีก ทำให้นักเตะไทยที่ค้าแข้งกับสโมสรของสิงคโปร์ในเวลานั้น ไม่สามารถรับใช้ต้นสังกัดได้อย่างเต็มที่และซิโก้คือหนึ่งในนั้น
แม้จะทำผลงานได้น่าพอใจแต่การที่ไม่สามารถรับใช้ต้นสังกัดได้อย่างเต็มที่ให้สมกับค่าตัวที่ทางสโมสรได้ลงทุนไปจึงทำให้ซิโก้กับสิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซต้องแยกทางกัน
จากนั้นเจ้าตัวก็ไปค้าแข้งยังสโมสรฮอง อันห์ ยาลาย ในศึกวีลีก (V League) ของประเทศเวียดนามเป็นระยะเวลากว่า 4 ปี และด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมบวกกับนิสัยใจคอที่เรียบง่าย เป็นกันเองกับทุกคนทั้งเพื่อนร่วมทีมและแฟนฟุตบอล ทำให้ซิโก้กลายเป็นที่รักของคนเวียดนามได้ไม่ยาก
สู่บทบาทโค้ช
ช่วงปั้นปลายการค้าแข้งกับสโมสรฮอง อันห์ ยาลาย ซิโก้มีโอกาสได้เป็นโค้ชแอนท์เพลเยอร์ในฤดูกาลสุดท้าย และนี่คือจุดเริ่มต้นสู่บทบาทใหม่ในเส้นทางสายฟุตบอล
ในช่วงปี 2008-2012 หลังจากกลับมาประเทศไทยซิโก้มีโอกาสทำงานในตำแหน่งผู้ฝึกสอนของสโมสรต่างๆ ในศึกไทยลีก ไม่ว่าจะเป็นสโมสรจุฬา-สินธนา ชลบุรี บีบีซียู และบางกอก เอฟซี
ปี 2013 ซิโก้ - เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้มารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2013 ที่ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งถือว่ามีความท้าทายอย่างมากเพราะผลงานก่อนหน้าของทีมชาติไทยซีเกมส์ ก็คือการตกรอบแรกมาสองสมัยซ้อน (2009 และ 2011)
ซีเกมส์ในครั้งนั้นฟุตบอลชายถูกตั้งความหวังว่าจะคว้าเหรียญทองมาครองได้ เพื่อทวงคืนความเป็นหนึ่งในอาเซียน ซิโก้วางแผนเตรียมทีมอย่างต่อเนื่องและในท้ายที่สุดเจ้าตัวก็สามารถทำได้สำเร็จ
ปี 2014 ซิโก้พาทีมชาติไทยคว้าอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ทำให้เจ้าตัวสร้างประวัติศาสตร์เป็นทั้งผู้เล่นและโค้ชที่ได้อันดับ 4 เอเชียนเกมส์
ในช่วงปลายปี ซิโก้ - เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง สร้างผลงานยอดเยี่ยมอีกครั้งเมื่อสามารถพาทีมชาติไทยชุดใหญ่คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนหรือเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 (AFF Suzuki Cup) ซึ่งเป็นการกลับมาคว้าแชมป์ได้ในรอบ 12 ปี
ปี 2016 ซิโก้พาทีมชาติไทยกลับมาป้องกันแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 ได้อีกครั้งโดยในรอบชิงชนะเลิศสามารถพลิกสถานการณ์จากที่เสียเปรียบอยู่จากความพ่ายแพ้ในนัดแรกมาสู่การเก็บชัยชนะในบ้านครองแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่
นอกจากนี้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ซิโก้สามารถพาทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มรอบสุดท้ายโซนเอเชียได้ เหมือนอย่างที่สมัยตัวเองเป็นนักฟุตบอลเคยมาถึงรอบนี้ ก่อนที่จะลงจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทยในปี 2017 ระหว่างศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบแบ่งกลุ่ม รอบสุดท้ายโซนเอเชีย
หลังจากนั้นซิโก้มีโอกาสได้ไปคุมสโมสรการท่าเรือ เอฟซีในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนจะพักงานกุนซือไประยะหนึ่ง
ปี 2020 ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กลับมารับงานในตำแหน่งกุนซืออีกครั้ง โดยเจ้าตัวเซ็นสัญญากับสโมสรฮอง อันห์ ยาลาย ในประเทศเวียดนาม
และล่าสุดก็มีข่าวว่าซิโก้คือหนึ่งในผู้มีสิทธิ์รับงานกุนซือทีมชาติเวียดนามต่อจากปาร์ค ฮัง ซอ ที่จะวางมือหลังจากศึกชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนปลายปีนี้
นี่คือเรื่องราวของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยอดศูนย์หน้าของทีมชาติไทย และกุนซือผู้พาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จจนเป็นกระแสทีมชาติไทยฟีเวอร์
เรื่อง: ธิษณา ธนคลัง (แฟนพันธุ์แท้เอเชียนเกมส์)