ไบรอัน แมริออตตี : ซีอีโอบริษัท Funko ผู้ค้นพบวิธีการขายของให้เหล่าเด็กเนิร์ด

ไบรอัน แมริออตตี : ซีอีโอบริษัท Funko ผู้ค้นพบวิธีการขายของให้เหล่าเด็กเนิร์ด
ถ้าคุณเป็นแฟนคลับภาพยนตร์สนุก ๆ สักเรื่อง หรือเกมดัง ๆ สักเกม หลายคนน่าจะเคยเห็นเจ้าของตุ๊กตาหัวเหลี่ยมที่ปรับเปลี่ยนหน้าตาไปตามคาแรคเตอร์ตัวละครในสื่อเหล่านั้นกันมาบ้าง เจ้าตุ๊กตาหัวโตพวกนี้ ชื่อรุ่นของมันคือ Funko Pop ซึ่งย่อมาจาก Popular หรือสมัยนิยม ผลงานชิ้นเอกจากแบรนด์ของสะสมที่เรียกได้ว่ามาแรงที่สุดในเวลานี้ ‘Funko’ เหตุผลที่ต้องเรียกเป็นชื่อรุ่น เพราะภายใต้แบรนด์ Funko ยังมีของสะสมรุ่นอื่น ๆ ขายรวมอยู่ แต่ด้วยกระแสความนิยมของรุ่น Pop ทำให้ของเล่นรุ่นนี้กลายเป็นสินค้าเชิดหน้าชูตาของแบรนด์ Funko ได้อย่างเต็มภาคภูมิ แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องยกเครดิตความสำเร็จให้กับ CEO ผู้ออกไอเดียการผลิตสินค้ารุ่น Pop ออกมาอย่าง ไบรอัน แมริออตตี (Brian Mariotti) ที่แม้เขาจะไม่ใช่ผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้ตั้งแต่เริ่มต้น แต่ก็เรียกได้ว่าคือผู้ที่ทำให้งานอดิเรกเนิร์ด ๆ อย่างการสะสมของเล่น หรือตุ๊กตา กลายเป็นวัฒนธรรมสุดจะป็อปขึ้นมาในหมู่ชาวอเมริกันยุคหลัง ในช่วงต้นของปี 2000s ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของภาพยนตร์ การ์ตูน เกม หรือแม้แต่กีฬา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเนื้อหาที่มีแฟนคลับเฉพาะกลุ่ม พวกเขามักรู้จักกันเป็นวงแคบ ไม่สุงสิงกับคนในแวดวงอื่น ช่วงชีวิตวัยเด็กของไบรอันก็เป็นเช่นนั้น ตั้งแต่อายุ 12 เขาทั้งชอบสะสมของเล่น ของแถมจากซองขนม และเป็นแฟนคลับการ์ตูนดัง (และไม่ดัง) หลาย ๆ เรื่อง หากลองมองย้อนกลับไป คาแรคเตอร์ของเด็กแบบนี้อาจดูไม่ค่อยเท่เท่าไร แต่มันก็กลายมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจของ Funko ประสบความสำเร็จ เพราะผู้บริหารนั้นรู้จักกลุ่มลูกค้าดียิ่งกว่าใคร หลังจากไบรอันตัดสินใจเข้าซื้อบริษัท Funko ต่อจากไมค์ เบคเกอร์ (Mike Becker) เจ้าของเดิม ในปี 2005 ช่วงเวลานั้นสถานการณ์ของบริษัทค่อนข้างยากลำบาก ยอดขายจากสินค้าเดิม ๆ อย่างตุ๊กตาหัวสั่น (Bubble Head) ไม่เป็นไปอย่างที่หวัง ทั้งไบรอันและทีมงาน ซึ่งมีอยู่เพียง 2-3 คน จึงต้องรีบหาทางออกให้กับบริษัท โดยการทดลองผลิตสินค้าออกขายในหลายรูปแบบ ความสำเร็จแรกพวกเขาได้มันมาจากการเปิดตัวสินค้ารุ่น Funko Force 2.0 ซึ่งเปิดตัวในงาน San Diego Comic Con สินค้ารุ่นดังกล่าวมีหน้าตาเป็นตัวละครชื่อดังอย่าง Batman, Bargirl และ Green Lantern ซึ่งถือเป็นลิขสิทธิ์การ์ตูนแรก ๆ ที่ Funko เริ่มต้นซื้อ หลังจากที่ตลอดมาเป็นงานออกแบบเอง ด้วยหน้าตาที่น่ารัก และราคาที่จับต้องได้ทำให้ Funko Force 2.0 ได้รับความสนใจ และมียอดสั่งซื้อไม่น้อยจากกลุ่มแฟนคลับ ในที่สุดเจ้า Funko Force ก็ได้ถูกพัฒนาออกมาเป็นสินค้ารุ่นใหม่ Funko Pop! หรือ Pop! Vinyl ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน สาเหตุก็เพราะพวกเขาสามารถค้นพบ ‘คนกลุ่มหนึ่ง’ ซึ่งกลายมาเป็นฐานลูกค้าสำคัญของบริษัทอย่าง ‘กลุ่มแฟนคลับ’ นั่นเอง “ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอเกม ทีวีโชว์ การ์ตูน กีฬา หนัง หรือเพลง ทั้งหมดนี้ล้วนมีฐานแฟนคลับ สิ่งที่เราทำก็แค่การเชื่อมต่อพวกเขาเข้าหาสิ่งที่เขารักด้วยสินค้าที่เราสร้าง” ไบรอันกล่าว นั่นจึงเป็นที่มาของไลน์สินค้ารุ่น Funko Pop ที่มักออกมามีหน้าตาเหมือนคาแรคเตอร์ตัวละครในหนัง เกม หรือนักกีฬาดัง ๆ เรียกได้ว่าไม่ว่าเป็นคาแรคเตอร์ไหน ขอแค่มีกลุ่มแฟนคลับติดตามอยู่ Funko ก็จะตามไปขอซื้อลิขสิทธิ์มาทำของสะสมจนได้ ไบรอันบอกว่า ที่พวกเขาสามารถรับรู้เทรนด์ว่าตอนนี้สังคมกำลังชอบอะไรได้อย่างรวดเร็ว สาเหตุหนึ่งก็เพราะบริษัทของเขาคือแหล่งรวมตัวของเหล่า geeks “ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง เหล่าเซลส์ ทีมไอที นักออกแบบ หรือจะลูกจ้างตำแหน่งไหนก็แล้วแต่ พวกเขาต่างก็มาทำงานกับเราด้วย passion ดังนั้น ไม่ว่าใครก็สามารถแชร์ไอเดียของตัวเองได้ หลาย ๆ ไอเดียได้กลายมาเป็นสินค้าที่น่าสนใจของเราด้วย ผมคิดว่านี่คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ Funko มาได้ไกลขนาดนี้” โดยนอกจากความหลากหลายที่ครอบคลุมไลน์สินค้าของ Funko อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เจ้าตุ๊กตาหัวโต ทำจากไวนิลพวกนี้ยังคงฮิตติดตลาด แม้จะเปิดตัวมาเกือบ 10 ปีแล้ว คือการที่มันไม่ได้มีหน้าตาเหมือนของสะสมทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะหัวเหลี่ยม ๆ โต ๆ ที่ทำให้มันดูน่ารักมากกว่าจะดูสมจริง CEO คนเก่งอย่างไบรอันกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า “โมเดลฟิกเกอร์ส่วนใหญ่ในตลาด มักจะออกแบบโดยพยายามทำให้เหมือนคาแรกเตอร์จริงทุกกระเบียดนิ้ว พวกเขาอยากจะทำโทนี่ สตาร์ค ให้เหมือนโทนี่ สตาร์ค แต่ Funko จะออกแบบในทางตรงข้าม” พวกเขาจับจุดได้ว่า ไม่จำเป็นต้องดีไซน์ให้เหมือนเป๊ะ แค่เพียงคงรายละเอียดซึ่งเป็นจุดเด่นของคาแรคเตอร์นั้น ๆ เอาไว้ มันก็จะกลายมาเป็น โทนี่ สตาร์ค ในเวอร์ชันของ Funko ที่ดูน่ารักไม่เหมือนใคร และกลายเป็นของสะสมที่เหล่าแฟนคลับทั้งจากสายคอมมิคและสายภาพยนตร์ Marvel จะต้องตามหามาไว้ในครอบครองสักตัว ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ที่ Funko ภายใต้การนำของไบรอัน แมริออตตี ที่ทำให้พวกเขากลายเป็นแบรนด์ของเล่นที่ต่อให้ผลิตอะไรออกมาก็ยังมีคนตามซื้อ แถมยังเป็นแบรนด์ของเล่นที่ถือครองลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ต่าง ๆ ไว้มากที่สุดในโลกอีกด้วย สำหรับใครที่ยังไม่เคยซื้อสินค้าของ Funko มาก่อน เริ่มอยากจะมีไว้ในครอบครองกันบ้างหรือยัง?