จับตาการเปิดเกมรุกของ ‘ยำยำ’ เพื่อเป็นแบรนด์ในใจกลุ่ม New Gen

จับตาการเปิดเกมรุกของ ‘ยำยำ’ เพื่อเป็นแบรนด์ในใจกลุ่ม New Gen

หลังจากมีการรีเฟรชแบรนด์ไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ‘ยำยำ’ ได้เปิดเกมรุกอีกครั้งเพื่อเป็นแบรนด์ในใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ผ่านตัวโปรดักต์ และกลยุทธ์การตลาด ชิงมาร์เก็ตแชร์ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท

  • ยำยำ เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายแรกในไทย ซึ่งเริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2514
  • เป้าหมายของ ยำยำ คือ ต้องการโตในทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่

ยำยำ ถือเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายแรกในประเทศไทย โดยเริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2514 ภายใต้การดูแลของ ‘บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด’ ซึ่งต่อมาได้เข้าร่วมทุนเป็น ‘กลุ่มบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ’ ในปี พ.ศ. 2515

โดยเป้าหมายของ ยำยำ ต้องการขยายการเติบโตในทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ กลุ่มลูกค้าสำคัญในยุคปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาทางแบรนด์เองได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มความหลากหลายของโปรดักต์ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่

‘ยำยำ ช้างน้อย’ สำหรับเด็กอายุ 6 - 12 ปี, ‘ยำยำ คัพ’ ตอบโจทย์กลุ่ม Gen Z, ‘ยำยำ จัมโบ้’ สำหรับกลุ่ม 18 - 55 ปี และ ‘ยำยำ สูตรเด็ด’ โปรดักต์ในกลุ่มพรีเมียมที่ออกสู่ตลาดประมาณปี พ.ศ. 2561 จับกลุ่มคน Gen Z

รวมถึงวางกลยุทธ์การตลาดให้สอดรับกับทิศทางที่ต้องการเดินไป เช่น ในปี พ.ศ. 2557 ได้มีการปรับโลโก้และแพ็กเกจให้ใหญ่ขึ้น พร้อมชูคอนเซ็ปต์ ‘ส่งความสุขที่มาจากความอร่อย’ เพิ่มรอยยิ้มเข้าไปในโลโก้สื่อถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของยำยำในการส่งความสุขจากความอร่อยสู่ผู้บริโภค ถัดมาในปี พ.ศ. 2562 ได้มีรีเฟรชแบรนด์เพื่อให้แบรนด์มีความทันสมัย มีชีวิตชีวามากขึ้นไปอีก

และเมื่อไม่นานมานี้ได้เปิดเกมรุกอีกครั้ง ด้วยการปรับโฉม และการสื่อสารรูปแบบใหม่ของยำยำ สูตรเด็ด โดยใช้งบ 70 ล้านบาท ทำแคมเปญ Beyond Irresistible สื่อสารผ่านดิจิทัล มีเดีย สื่อนอกบ้าน และจัดโปรโมชั่นในทุกช่องทางการขาย

ขณะเดียวกันก็ได้ดึง ‘โบกี้ไลอ้อน’ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ด้วยเหตุผลที่ว่า เธอเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีความเด็ด แซ่บ มีความสามารถ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน

ส่วนสาเหตุที่นำ ยำยำ สูตรเด็ด มาปรับโฉมใหญ่ครั้งนี้ เพราะต้องการบุกตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเซกเมนต์พรีเมียมให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโตน่าสนใจ สะท้อนจากความนิยมของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากต่างประเทศเข้ามาในบ้านเราที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

ขณะที่ภาพรวมของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตั้งแต่มกราคม - ธันวาคม 2565 มีมูลค่ารวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 14% โดย ณ ปัจจุบัน ยำยำ มีมาร์เก็ตแชร์ 21.4% เป็นเบอร์ 2 ของตลาด