03 ม.ค. 2568 | 17:00 น.
ช่องวัน นัมเบอร์วันในใจคนไทยทั้งประเทศ หลังจากปล่อยละครเรื่องไหนออกมา ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม หากยังจำกันได้เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2024 ‘สงครามสมรส’ ปล่อยตอนก่อนอวสานออกมาโดยมี ชาคริต แย้มนาม (ปรเมศวร์) ชายที่สร้างความเจ็บปวดให้กับ แอฟ ทักษอร (บัวบงกช) และ เจ้าคุณ-พันธ์ชนกชนม์ (ปณต) ไม่สิ้นสุด จนก่อให้เกิดมหกาพย์การหย่าร้าง ถึงจะนำเดินมาใกล้ถึงตอนจบแล้ว ปรเมศวร์ก็ยังคงทำร้ายจิตใจครอบครัวไม่เลิก ด้วยการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่ใช่แค่บัวบงกชที่ชอกช้ำ ลูกชายอย่างปณตเองก็ใจสลายไม่ต่างกัน ถึงขนาดรวบรวมความกล้าลุกขึ้นมาแฉพ่อตัวเองกลางศาล การแสดงที่คนไทยทั้งประเทศต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือว่าที่ดาวเด่นของวงการบันเทิงไทยในอนาคตอย่างแน่นอน
การแสดงของทุกคนในฉากนี้ดันให้เรตติ้งของช่องขึ้นสู่อันดับหนึ่ง แบ่งเป็น ทั่วประเทศ : 7.777, กรุงเทพฯ : 7.032, ต่างจังหวัด (เขตเทศบาลเมือง) : 7.295, กรุงเทพฯ และคนเมือง : 7.191, ต่างจังหวัด (นอกเขตเทศบาลเมือง) : 8.124 และเมื่อตอนจบมาถึง สงครามสมรส กลายเป็นละครเรตติ้งสูงสุดของปีนี้ไปอย่างไม่เหนือความคาดหมาย
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ‘บท’ สุดเข้มข้น ต่างจากละครไทยส่วนใหญ่ซึ่งจะเน้นไปที่ฉากการใช้ความรุนแรง เช่น ฉากตบจูบ สงครามสมรสได้ สันต์ ศรีแก้วหล่อ มากำกับการแสดงจนออกมาเป็นผลงานสุดตราตรึง บวกกับการตีความตัวละครของชาคริต แอฟ และเจ้าคุณ ยิ่งตอกย้ำว่าละครไทยไม่ได้วนอยู่ในอ่างเพียงอย่างเดียว
เพราะนี่คือเรื่องราวการต่อสู้ทางกฎหมายของผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงที่ยอมลาออกจากงาน ทิ้งชีวิตที่ตัวเองใฝ่ฝันทั้งหมด เพื่อเป็นแม่บ้านดูแลสามีและลูกโดยไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งจับได้ว่าคนรักแต่งงานซ้อน และกำลังพรากทุกอย่างไปจากชีวิต เธอจึงทำทุกวิถีเพื่อปกป้องลูกและเกียรติของตัวเอง
สงครามสมรสทำให้เห็นว่าผู้หญิงไม่ได้เป็นเพศที่ยอมอ่อนข้อให้กับความรักเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป และการฟ้องร้องไม่ใช่เรื่องน่าอาย จุดเด่นอีกข้อของละครเรื่องนี้คือไม่ได้ชี้นำว่าใครดีหรือเลว แต่ให้ทุกคนใช้วิจารณญาณเอาเองว่า ใครกันแน่สมควรได้รับความยุติธรรม
ช่องวัน31 ยังคงดันโปรเจกต์อย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือการเปิดตัว oneD ORIGINAL ซีรีส์ 5 เรื่อง เสนอประเด็นหลากหลาย นำมาตีความใหม่ผ่านสายตาของนักเขียนบท พร้อมกับเอาใจแฟนละครกันด้วยเวอร์ชันเรียล ๆ (Uncut) ปล่อยออกมาให้รับชมแบบไม่ตัดสักฉากทิ้งไป ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของช่องวัน
เรื่องแรก คือ ‘บางกอกคณิกา’ เปิดโปรเจกต์ด้วยการนำทัพของเหล่าสาวงาม อิงฟ้า วราหะ, ก้อย-อรัชพร โภคินภากร และ ชาร์เลท-วาศิตา แฮเมเนา โดยได้ พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์ (นักเขียนบทมือรางวัล) และ มิกิ ยามาโตริ มาร่วมสะท้อนพลังเพื่อนหญิงพลังหญิง เรียกได้ว่าช่องวัน31 ‘กล้ามาก’ ในการนำเสนอเรื่องราวของหญิงขายบริการผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ ขณะที่ยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ว่า บ้านเมืองเรามีเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ด้วยเหรอ ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่รัฐลงพื้นที่ในแหล่งที่อ้างว่าพบเจอการขายบริการ พวกเขากลับไม่เจอเลยสักครั้ง การมาของบางกอกคณิการาวกับจุดกระแสให้สังคมตระหนักถึงการมีอยู่ของผู้หญิงเหล่านั้น ทำให้เห็นความสำคัญถึงสิทธิของกลุ่มผู้ขายบริการทางเพศมากขึ้น เพราะนี่คืออีกหนึ่ง ‘อาชีพ’ ที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีไม่ต่างจากอาชีพอื่นใดในสังคม ถึงจะถูกด้อยค่าว่าเป็นจุดด่างพร้อยของประเทศก็ตาม
เรตติ้งหลังจากปิดตัวลง ทั่วประเทศ : 4.216, กรุงเทพฯ : 4.589, ต่างจังหวัด (เขตเทศบาลเมือง) : 3.990 ,กรุงเทพฯ และคนเมือง : 4.227, ต่างจังหวัด (นอกเขตเทศบาลเมือง) : 4.210 โดยผู้ชมทางทีวี รวม 10.5 ล้านคน และ บนทุกช่องทางออนไลน์ รวม 220 ล้านวิว ในขณะเดียวกัน มียอดผู้ชมกว่า 1.1 ล้านคน ดูสดออนไลน์สูงสุด ทั้งนี้ ยังถูกพูดถึง บนโลกออนไลน์ มากกว่า 5.5 ล้านครั้ง และ เข้าถึงคนออนไลน์ รวม 26 ล้านครั้ง
ส่งไม้ต่อให้กับ ‘LOVE LESSON 010 แบบฝึกรัก..ไม่รู้ล้ม’ ซีรีส์รวมเอาตัวตึงสายฮามาไว้ในเรื่อง นำโดย ไบร์ท นรภัทร รับบทเพลย์บอยหนุ่มผู้ไม่เคยศรัทธาในความรัก และ ปราง กัญญ์ณรัณ หญิงสาวผู้มาพร้อมคำสาปได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้ลงมาทำภารกิจปราบคนเจ้าชู้ น่าเสียดายที่เรื่องนี้กระแสไม่เป็นถูกพูดถึงมากเท่าที่ควร
ถึงเรื่องก่อนหน้าจะเงียบ แต่ ‘แม่หยัว’ ซีรีส์ฟอร์มยักษ์หยิบเอาชีวิตของท้าวศรีสุดาจันทร์มาตีความใหม่ พร้อมแทรกฉากจิ้นให้เหล่าสาววายได้ส่งเสียงกรี๊ดกันทั้งประเทศ เรียกได้ว่าเป็นการปรับตัวให้เข้ากับกระแสโลกที่เปลี่ยนไปสุด ๆ ถึงผู้ชมบางคนจะมองว่าไม่เหมาะสม แต่ต้องยอมรับว่าช่องวัน31 ยังคงใช้ความกล้าในการทำละครอยู่เสมอ ครั้งนี้ได้ สันต์ ศรีแก้วหล่อ ผู้กำกับมือรางวัล และ ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์ ครีเอเตอร์ & สคริปต์ไรเตอร์ และที่จะขาดไม่ได้เลยคือ อัญชลี ไมตรี ที่ปรึกษาด้านข้อมูลคอยตรวจเช็คความถูกต้องของทุกอย่าง
แม้จะได้รับกระแสตอบรับอย่างดี ปล่อยอีพีไหนออกมาก็ได้รับการพูดถึงบนโลกออนไลน์อย่างถล่มทลาย แต่สุดท้ายก็ถูกกระแสตีกลับ หลังจากมีฉากทารุณสัตว์ที่ใช้เข้าฉาก จนขึ้นเทรนด์ X (ทวิตเตอร์) เรียกร้องให้แบนละครเรื่องนี้จนถึงที่สุด ถึงกระแสจะแรงเพียงใด แม่หยัว ก็สามารถขึ้นแท่นละครหลังข่าวทำเรตติ้งสูงสุดอันดับ 1 โดยคว้าเรตติ้งคนกรุงเทพฯ และ คนเมืองสูงสุดไปได้ถึง 6.4
ก่อนจะปิดจบกันด้วย ‘ทิชา’ และ ‘การุณยฆาต’ หยิบยกเอาเรื่องค้ามนุษย์และสิทธิของผู้ป่วยในการยุติการรักษาออกมาได้อย่างทรงพลัง
ทิชา คือผลงานการเขียนบทของ เนปาลี หรือ เจี๊ยบ-วรรธนา วีรยวรรธน ศิลปินเจ้าของบทเพลง วันเดือนปี และเพราะใจ ภายในเรื่องเป็นการเล่าผ่านสายตาของแรงงานต่าวด้าว ซึ่งหนีเข้าเมืองไทยแบบผิดกฎหมาย หวังจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่สุดท้ายการเข้ามาแบบผิด ๆ ตั้งแต่แรก กลับทำให้ความฝันว่าจะมีชีวิตที่ดีต้องพังทลายลง เธอต้องทำงานเยี่ยงทาสอยู่ในบ้านของผู้มีอิทธิพล ไม่มีปากมีเสียง แม่ถูกฆ่าตายต่อหน้าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกย่ำยีสารพัดอย่าง จะร้องไห้ก็ต้องกลั้นเอาไว้ไม่ให้เจ้าของบ้านรู้สึกรำคาญใจ
ตอนจบของซีรีส์ ยังนำเสนอภาพข่าวค้ามนุษย์ ให้เห็นถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม ส่งผลให้ ทิชา กลายเป็นซีรีส์อันดับ 1 กวาดเรตติ้งทั่วประเทศ : 4.66, กรุงเทพฯ : 5.36, ต่างจังหวัด (เขตเทศบาลเมือง) : 5.38, กรุงเทพฯ และคนเมือง : 5.37, ต่างจังหวัด (นอกเขตเทศบาลเมือง) : 4.24
‘การุณยฆาต’ ซีรีส์วายปิดจบโปรเจกต์ นำเสนอเรื่องราวการยุติชีวิตไม่ขอรับรู้ความเจ็บปวดททรมาณจากอาการป่วย เพียงตอนแรกที่ปล่อยออกมา สามารถคว้าเรตติ้งละครหลังข่าวที่คนเมือง/ ต่างจังหวัด ในเขตเทศบาลเมือง รับชมสูงสุด 3.1 ซึ่งต้องยอมรับว่า ต่อ ธนภพ และ เจเจ ตีความตัวละครออกมาได้อย่างน่าประทับใจ โดยผ่านการกำกับการแสดงของ วรวิทย์ ขัตติยโยธิน ร่วมกับการพัฒนางานสร้าง (โชว์รันเนอร์) และเขียนบทฉบับซีรีส์โดย ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
ซีรีส์ดัดแปลงมาจากนวนิยายไทย ‘การุณยฆาต (Euthanasia)’ จากบทประพันธ์ของ Sammon โดยสำนักพิมพ์วันเดอร์วาย (Onederwhy) เล่มที่ 1 ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อวันที 1 สิงหาคม พ.ศ. 2562 อย่างที่บอกว่ามีการดัดแปลง เนื้อหาในซีรีส์จึงมีบางส่วนแตกต่างจากฉบับนวนิยายดั้งเดิมอยู่บ้าง
อันที่จริงสังคมไทยเราเริ่มพูดถึง การการุณยฆาต กันมากขึ้น หลายครั้งการอยู่แบบเจ็บปวดก็ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น แต่สังคมเรายังยึดติดอยู่กับบุญบาป การจะขอร้องอ้อนวอนให้ยุติชีวิตคงถูกครอบครัวคัดค้านอยู่ไม่น้อย ในซีรีส์ทำให้เข้าใจถึงกระบวนการรักษาพยาบาล และการรักษาแบบประคับประคอง (Palliative Care) เพื่อให้ช่วงเวลาบั้นปลายของผู้ป่วยระยะสุดท้ายจากไปอย่างสงบไร้สิ่งติดค้างให้ได้มากที่สุด แน่นอนว่าย่อมทำให้คนที่ยังอยู่ต่อเข้าใจถึงเหตุผลของการจากไปด้วยเช่นกัน
ละครของช่องวัน31 ไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิง แต่ยังสะท้อนความเป็นจริงในสังคมและเรียกกระแสให้เกิดการวิพากษ์กันอย่างสร้างสรรค์ ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ช่องวัน 31 ได้รับความนิยมและครองใจผู้ชมมาอย่างยาวนาน
เรื่อง : วันวิสาข์ โปทอง
ภาพ : ช่อง One31
อ้างอิง :