เฉินชิวสือ: นักข่าวพลเมืองจีนผู้หายตัวไปหลังจากเผยแพร่ 'ความจริง' การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่อู่ฮั่น

เฉินชิวสือ: นักข่าวพลเมืองจีนผู้หายตัวไปหลังจากเผยแพร่ 'ความจริง' การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่อู่ฮั่น
“ความตายผมยังไม่กลัว คิดว่าผมจะกลัวพรรคฯ เหรอ?” โรคระบาด อู่ฮั่น และเฉินชิวสือที่หายไป   “ผมมาที่นี่ทำไมน่ะเหรอ ความรับผิดชอบของผมคือการเป็นนักข่าวพลเมือง ในฐานะนักข่าว เมื่อเกิดภัยพิบัติ คุณไม่กล้าไปยังที่เกิดเหตุทันที แล้วยังจะเรียกว่านักข่าวได้เหรอ ผมเลยนั่งรถไฟความเร็วสูงเที่ยวสุดท้ายเข้ามา” เสียงอันหนักแน่นของ “เฉินชิวสือ” ทนายความผู้เรียกตนว่าเป็น “นักข่าวพลเมือง” ดังท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บเวลาประมาณสี่ทุ่มกว่า ๆ ของวันที่ 24 มกราคม 2020 หน้าสถานีรถไฟฮั่นโข่ว   เฉินเป็นที่รู้จักในฐานะทนายความ นักพูดสุนทรพจน์ บล็อกเกอร์ และนักข่าวพลเมือง เมื่อทราบข่าวว่าอู่ฮั่นจะปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เขาจึงรีบรุดมายัง ฮั่นโข่ว เมืองอู่ฮั่นเพื่อเผยแพร่สถานการณ์ความเป็นไปของศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แห่งนี้ ถึงแม้ว่าเมื่อปี 2019 เขาถูกทางการจีนสั่งปิดบัญชีผู้ใช้โซเชียลมีเดียเพราะได้เผยแพร่คลิปลงพื้นที่รายงานสถานการณ์การประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนในฮ่องกง แต่ก็มิได้ทำให้ความตั้งใจในการเผยแพร่ “สถานการณ์จริง” ของเขาลดน้อยลงแม้แต่น้อย   “โรคระบาดครั้งนี้รุนแรงกว่าโรคซาร์สเมื่อปี 2003 มาก และการระบาดทั้งสองครั้งล้วนเกิดจากการปิดบังความจริง เกิดจากการปิดกั้นข้อมูล พวกเราไม่สามารถผิดพลาดซ้ำ ๆ ได้อีกแล้ว”   เฉินประกาศไว้ในคลิปแรกของเขาในอู่ฮั่น ด้วยตระหนักดีว่าการเปิดเผยข้อมูลนั้นจะทำให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันรับมือกับปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เฉินถ่ายคลิปวิดีโอลงพื้นที่สังเกตการณ์ในเมืองอู่ฮั่นอย่างต่อเนื่อง อัปโหลดลงโซเชียลมีเดียในจีน และส่งให้เพื่อนของเขาที่อยู่ในฮ่องกงจัดการดูแลบัญชีผู้ใช้ในทวิตเตอร์และยูทูบ โดยได้อัพโหลดคลิปตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2020 เรื่อยมา   เฉินฉายภาพผู้คนยืนต่อคิวรอเข้ารับการรักษาเต็มทางเดินโรงพยาบาล ผู้ป่วยที่นอนไร้ลมหายใจอยู่ทั้งในและนอกห้องฉุกเฉิน ตลาดขายส่งอาหารทะเลที่ถูกปิดตัวลง ฌาปนสถานที่มีรถขนศพวิ่งเข้าวิ่งออก คนงานก่อสร้างโรงพยาบาลสนามหั่วเสินซาน บุคลากรทางการแพทย์ที่ระเบิดอารมณ์เพราะความเครียด ชาวอู่ฮั่นที่รวมตัวกันจัดส่งอุปกรณ์ป้องกันโรคให้โรงพยาบาล เฉินบรรยายให้เห็นถึงสภาพเงื่อนไขต่าง ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นในการจัดการของประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงโรงพยาบาล ภาพเหล่านี้ล้วนถูกถ่ายทอดไปอย่างเป็นเหตุเป็นผล ตามที่สองตาได้เห็น สองหูได้ยินโดยไร้การ “เซ็นเซอร์” ใด ๆ เฉินเน้นย้ำตลอดว่าเขาไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกหรือเผยแพร่ข่าวลือเรียกยอดวิว เพียงแต่ต้องการเผยแพร่สิ่งที่พบเห็นตามจริงเท่านั้น   “ความตายผมยังไม่กลัว (คิดว่า) ผมจะกลัวพรรคคอมมิวนิสต์เหรอ ?!”   แต่สุดท้ายแล้ว “ความจริง” ที่ถูกถ่ายทอดผ่านเลนส์ของเขาก็ถูกลบทิ้ง บัญชีผู้ใช้โซเชียลมีเดียในจีนของเขาก็ถูกปิด เฉินบอกในคลิปว่าเขาและครอบครัวได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้ง   “ผมก็กลัว ไวรัสอยู่ตรงหน้า ถอยหลังไปก็เป็นกฎหมายและอำนาจรัฐจีน แต่ผมจะยืนหยัดสู้ต่อ”   กระทั่งวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เฉินขาดการติดต่อกับครอบครัว แม่ของเฉินออกมาขอให้ชาวเน็ตในอู่ฮั่นช่วยกันตามหาเขา ต่อมาเพื่อนของเฉินได้แจ้งทางบัญชีทวิตเตอร์และยูทูบว่าเฉินถูกควบคุมตัวไปโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไป “กักตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค” เวลาผ่านไปเจ็ดเดือน วันที่ 17 และ 21 กันยายน เพื่อนของเฉินได้แจ้งผ่านทางยูทูบว่ามีสายข่าวรายงานว่าเฉินสบายดี เพียงแต่อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของทางการ ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าอยู่ที่ใด กระทั่งอู่ฮั่นเปิดเมืองอีกครั้ง กระทั่งทั่วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายจากโรคโควิด-19 กระทั่งผู้คนกลับมาดำเนินชีวิตกันตาม “ปกติ” ผ่านไปสามร้อยกว่าวัน วันแล้ววันเล่าเพื่อนของเฉินยังคงโพสต์ทวิตเตอร์ถึงเขา นับวันรอคอยการกลับมาของเขา   ถึงแม้เราต่างก็ไม่อาจทราบได้ว่าแท้จริงแล้วตอนนี้เฉินชิวสือเป็นอย่างไร อยู่ที่ใดในประเทศจีน แต่สิ่งที่เราทำได้คือการย้ำเตือนให้โลกไม่ลืมว่า ภายใต้อำนาจรัฐอันน่าเกรงขามของประเทศจีน ยังมีเฉินชิวสือและประชาชนอีกหลายคนที่ได้เสียสละตน ยืนหยัดต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการพูด เพราะเชื่อว่าเป็นสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ยืนหยัดเพื่อการพูดถึงปัญหาอย่างตรงไปตรงมาด้วยความหวังว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะนำไปพิจารณาเพื่อการพัฒนาของประเทศชาติและความเป็นอยู่ของชาวจีน ถึงแม้วันนี้เราจะยังไม่พบตัวเขา แต่สิ่งที่เราได้เห็นแล้วทั่วกันคือ การเสียสละของเขาเพื่อการรับรู้ของมวลชน   “กระบวนการค้นหาความจริงนั้นยากลำบากและเจ็บปวดทรมาน ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จในวันนี้วันพรุ่ง”   “ขอแค่คุณส่งเสียงออกมา ยังไงก็ต้องมีการสั่นสะเทือน แต่หากคุณนิ่งเงียบ หากคุณไม่ยอมส่งเสียง เอาแต่รอคอยความช่วยเหลือจากคนอื่น ผลลัพธ์ก็คือถึงคุณจะตายไปแล้ว แม้แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตบนกระดาษ คุณยังไม่มีสิทธิ์จะเป็น”   (เฉินชิวสือ, 2020)   ที่มา: https://cn.nytimes.com/business/20200217/wuhan-coronavirus-journalists/ https://www.rfa.org/mandarin/yataibaodao/ https://www.dw.com/   Youtube: 陈秋实 Twitter: @chenqiushi404   เรื่อง: พิชชาภา ทุมดี ภาพ: Youtube 陈秋实   #ThePeople #Politics #ChosenbyThePeople #โควิด19 #อู่ฮั่น