โช จูบิน : จากนักกิจกรรมดีเด่น สู่เจ้าของห้องแชทวิปริต ‘Nth room’

โช จูบิน : จากนักกิจกรรมดีเด่น สู่เจ้าของห้องแชทวิปริต ‘Nth room’

TW : มีการบรรยายรายละเอียดความรุนแรง การข่มขืน และทรมานเหยื่อ 

  ข่าวเด่นประเด็นเดือดในประจำปี 2020 ของประเทศเกาหลี ถ้าไม่นับข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ว่ากันตามตรงก็กลายเป็นประเด็นระดับโลกไปแล้ว ช่วงต้นปีก็ยังมีข่าวการเปิดโปงห้องแชทวิปริตชื่อ ‘Nth room’ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นคดีอาชญากรรมทางเพศที่โหดร้ายที่สุดในรอบหลายปีของเกาหลีใต้ หนึ่งในคนร้ายที่ถูกจับกุมและเปิดเผยหน้าตาต่อสาธารณะคือชายวัย 24 ปี ชื่อว่า โช จูบิน (Cho Ju-bin) โช จูบิน คือหนึ่งในผู้ก่อตั้งแชทรูมลับชื่อ Nth room (N번방) ซึ่งต้องเข้าผ่านแอปพลิเคชัน Telegram โดยอันที่จริงลักษณะของ Nth room ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี 2018 ก็เป็นห้องสนทนาปกติทั่วไป เพียงแต่เนื้อหาที่หลั่งไหลอยู่ภายในห้องแชทที่ถูกจำแนกเป็น 8 ห้อง คือการแชร์ภาพและคลิปวิดิโอลามกอนาจารของบุคคลที่ทั้งบรรลุนิติภาวะและยังไม่บรรลุนิติภาวะ ความรุนแรงของเนื้อหามีตั้งแต่ภาพโป๊เปลือย คลิปแอบถ่าย ไปจนถึงวิดิโอข่มขืนและทรมานเหยื่อ โดยผู้ที่ประสงค์จะเข้าดูเนื้อหา จำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับทีมผู้ก่อตั้งในราคาที่แตกต่างกัน ตามระดับความรุนแรงของเนื้อหาในห้องแชท โดยราคาค่าสมาชิกที่สูงที่สุดคือ 1.5 ล้านวอน (ประมาณ 40,000 บาท) กรุ๊ปแชทดังกล่าว ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ราว 260,000 คน และทำรายได้จากค่าสมัครรวมถึงค่าบริการไปหลายร้อยล้านวอน เรื่องราวแชทลับแสนดำมืดนี้เริ่มเป็นที่สนใจขึ้นมาเพราะช่วงเดือนมีนาคมมีข่าวการจับกุมหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังห้องแชท แม้ตอนแรกตำรวจจะไม่ยอมเปิดเผยใบหน้าของชายคนดังกล่าว แต่เพราะเรื่องราวถูกผลักมาในจุดที่เป็นความสนใจของสื่อ รวมถึงภาคประชาชน ที่ไม่อาจทนเพิกเฉยต่อเนื้อหาคลิปวิดิโอที่ปฏิบัติต่อเหยื่ออย่างโหดร้ายทารุณ ว่ากันว่า เหยื่อที่อายุน้อยที่สุดมีอายุเพียง 9 ปี ทั้งความโกรธแค้นของประชาชนและข้อมูลเหล่านี้ทำให้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้มีคำสั่งตั้งคณะสืบสวนพิเศษขึ้นมาตามสืบคดี หลังจากมีการลงชื่อให้เปิดเผยใบหน้าของผู้ก่อตั้งและสมาชิกในห้องแชทรวม ๆ กว่าล้านรายชื่อ ในที่สุดใบหน้าของชายคนแรกก็ปรากฎต่อหน้าสื่อ แล้วประวัติของเขาก็กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เพราะผู้ใช้นามแฝงว่า ‘พัคซา’ หรือชื่อจริง โช จูบิน แท้จริงเคยเป็นนักเรียนระดับหัวกะทิที่จบการศึกษาด้านสารสนเทศและการสื่อสารจากมหาวิทยาลัยดัง ไม่ใช่แค่เรียนเก่ง แต่ประวัติที่ผ่านมาของเขายังเคยเป็นนักกิจกรรม เป็นหัวหน้าทีมจิตอาสาที่คอยทำหน้าที่ช่วยเหลือคนพิการ แถมยังเป็นสมาชิกองค์กร NGO อีกหลายแห่ง ประวัติอันขาวสะอาดทำให้ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะกลายมาเป็นหนึ่งในเจ้าของห้องแชทแสนชั่วที่ส่งต่อเนื้อหาการข่มขืน ทรมาน ไล่ไปตั้งแต่ทำร้ายร่างกาย ใส่กรรไกรเข้าไปในช่องคลอด ใช้มีดสลักคำว่า ‘ทาส’ บนร่างเหยื่อ ไปจนถึงบังคับให้เหยื่อกินของเสีย นายโช จูบินจะทำการล่อลวงเหยื่อด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งข่มขู่โดยอ้างว่าจะนำข้อมูลส่วนบุคคลมาเผยแพร่ (เขาบอกว่าตัวเองมีทีมงานอยู่ในหน่วยงานรัฐ) ทั้งหลอกว่าจะสัมภาษณ์งานก่อนจะข่มขู่ให้เหยื่อถ่ายคลิปและภาพตามคำสั่งของตน โช จูบิน จะเรียกเหยื่อว่า ‘ทาส’ โดยแต่ละวันก็จะมีคลิปวิดิโอสดใหม่ของ ‘ทาส’ อัปโหลดเข้ามาในแชทตามคำสั่งสลับสับเปลี่ยนกันไป ในด้านการหาสมาชิกใหม่ โช จูบินมักจะใช้คำอวดอ้างว่าเขามีคอนเทนต์อนาจารของดารา ไอดอล หรือคนมีชื่อเสียงอยู่ในมือ หากอยากดูก็ต้องยอมจ่าย และคำโฆษณาเหล่านี้ก็สามารถตกลูกค้ากลุ่มที่เป็นวัยรุ่นได้ไม่น้อยเลย   ผู้ใช้: มีรูปโป๊ของคนนี้ไหม? โช จูบิน: ก็พอมีบ้าง ผู้ใช้: คนนี้เป็นทาสของคุณด้วยหรือเปล่า? ไม่ได้หลอกกันใช่ไหม? โชจูบิน: เลขประจำตัวประชาชนเธอคือ 9XXXXX-XXXXXX เบอร์โทรศัพท์ของเธอคือ 010-XXXX-XXXX เธอย้ายบ้านใหม่เมื่อวันที่ XX เดือน XX ปี 2018 และผมมีภาพของเธอ แต่คุณจะเห็นมันได้ก็ต่อเมื่อเป็นสมาชิก VIP   อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่โช จูบินบอกไปนั้นไม่ได้ถูกไปเสียทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องโกหก เพื่อล่อลวงให้คนเสียเงิน แต่สำนักข่าว Dispatch ก็วิเคราะห์ว่า ข้อมูลที่เขาปล่อยไปนี้ อาจทำให้มีกระแสสะกดรอยตามคนดังมากขึ้น ช่วงปลายเดือนมีนาคม ตำรวจเกาหลีใต้ออกมาแถลงว่า โช จูบินจะถูกตั้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ร.บ.ความเป็นส่วนตัว รวมถึงจะมีการตั้งข้อหาอื่น ๆ เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขู่ ขู่กรรโชก โดยระหว่างถูกนำตัวออกจากสำนักงานตำรวจกรุงโซล โช จูบินได้กล่าวต่อหน้าสื่อว่า "ผมขอโทษใครก็ตามที่ต้องเจ็บปวดเพราะผม" และ
“ขอบคุณที่ช่วยหยุดยั้งชีวิตของปีศาจ ที่ผมไม่สามารถหยุดได้เอง”
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ศาลในกรุงโซลได้ตัดสินจำคุกนาย โช จูบิน เป็นระยะเวลา 40 ปี นอกจากนี้ ตำรวจเกาหลีใต้ยังเผยว่า ตอนนี้ความคืบหน้าของคดีคือได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยแล้ว 124 ราย และจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการฉาวบน Telegram และโซเชียลอื่น ๆ แล้วอีก 18 คน พวกเขายังคงติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ก่อตั้งแชทลับเหล่านี้ต่อไป มิน กับรยอง (Min Gap-ryong) ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลี  ออกมากล่าวว่า หลังจากสอบสวนคดีนี้มาอย่างเข้มข้น จากนี้ทางตำรวจจะพยายามเปลี่ยนแปลงความเมินเฉยที่สังคมมีต่ออาญาชากรรมทางเพศออนไลน์ และกำจัดอาชญากรรมเช่นนี้ให้หมดไปจากสังคมอย่างเร็วที่สุด     ที่มา https://www.bbc.com/news/world-asia-52030219 https://www.bbc.com/news/world-asia-55082072 https://en.yna.co.kr/view/AEN20201126003500315?section=national/national https://qz.com/1824130/korea-shocked-by-telegram-chat-room-sexual-abuse-scandal/ https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/s-korean-man-held-over-sex-crime-ring-paraded-in-public