คริส ไพน์: ผู้ชายแหวกแนว ผู้เสริมให้ Wonder Woman อร่อยขึ้น

คริส ไพน์: ผู้ชายแหวกแนว ผู้เสริมให้ Wonder Woman อร่อยขึ้น
หากจะบรรยายคริส ไพน์ (Chris Pine) ด้วยรูปร่างหน้าตา เขาก็คงไม่พ้นคำว่า “หนุ่มหล่อ ร่างสูง ผู้มาพร้อมกับดวงตาสีฟ้าสะกดสายตา” ที่เอาจริง ๆ แล้วก็มีนักแสดงในฮอลลีวูดอีกจำนวนมากที่ได้รับคำบรรยายเช่นนี้ ตัวเขาเองก็รู้ดีว่าเขาถูกนำไปจำสลับกับนักแสดงตระกูล “คริส” (อีแวนส์, แพร็ตต์, เฮมสเวิร์ธ) คนอื่น ๆ อยู่เป็นประจำ แต่ถ้าจะให้ระบุความเป็นตัวตนของคริส ไพน์ อย่างเฉพาะเจาะจง คงต้องบอกว่า เขาคือ “คริสที่แหวกแนวและมีสไตล์ที่สุด” ในยุคนี้   ลูกเป็ดขี้เหร่สู่คุณชายสุดหล่อ คริส ไพน์ มีคุณพ่อโรเบิร์ต ไพน์ เป็นนักแสดง และคุณแม่กวินเน็ต กิลฟอร์ด เป็นอดีตนักแสดงที่ผันตัวเป็นนักจิตบำบัด ทำให้เขาคุ้นเคยกับแวดวงการแสดงมาตั้งแต่เล็ก ๆ และเคยไปแสดงในซีรีส์ CHiPS ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้เป็นชายหนุ่มรูปงามสุดมั่นใจ จนกลายมาเป็นนักแสดง แต่เรียกได้ว่าเพราะความไม่มั่นใจของเขาทำให้เขากลายมาเป็นนักแสดงต่างหาก เพราะช่วงวัยรุ่นเขาเคยถูกฮอร์โมนเล่นงาน สิวเห่อเต็มหน้าจนหมดความมั่นใจ และถูกล้อเลียน   พอโตขึ้นมาแม้ว่าจะอยู่มหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง University of California, Berkeley ในสาขาเอกภาษาอังกฤษ และจัดว่าเป็นเด็กเรียนเก่งคนหนึ่ง แต่ไพน์กลับอยู่คนเดียวซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่กล้าเข้าสังคม ไม่กล้าไปเข้าแก๊งกับพวกหนุ่ม ๆ เด็กหอ หรือพวกนักกีฬา และไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี จนกระทั่งคนรู้จักคนหนึ่งแนะนำว่าให้ลองไปแสดงละครเวทีดู จนเขาได้แสดงละครเวทีเรื่องแรกเรื่อง Talbot’s Box ในตอนนั้นเขาแค่หาอะไรทำไม่ให้เหงา แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการแสดงละครเวทีอีกหลายเรื่องจากนั้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่เขาประทับใจในมนต์เสน่ห์แห่งการแสดง และรู้สึกได้ถึงพลังและความมั่นใจที่กลับคืนมา ไพน์ให้สัมภาษณ์กับ The Off Camera Show ถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเป็นนักแสดงว่า   “ครั้งแรกที่คุณขึ้นเวที คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่คุณควบคุมให้ผู้ชมสามารถเงียบได้เมื่อรอฟังบทพูดต่อไปของคุณ”   ไพน์รักษาสิวจนหายและเริ่มมีคนชมว่าเขาหน้าตาดี และเริ่มทำให้เขาเริ่มมุ่งมั่นในทางนี้ เขาได้มีโอกาสไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ University of Leeds  ที่อังกฤษเป็นเวลา 1 ปี  และคิดถึงการแสดงละครเวทีอย่างมาก เขาเคยสมัครเข้าเรียน LAMDA โรงเรียนสอนการแสดงชื่อดังของอังกฤษ และได้รับการตอบรับด้วย ทว่าค่าใช้จ่ายแพงเกินไป พ่อแม่ของเขาจ่ายไม่ไหว แต่เขาก็รู้ตัวแล้วว่าสิ่งที่เขาอยากทำคืออะไร เมื่อเรียนจบจาก Berkeley เขาก็มุ่งมั่นเข้าสู่ฮอลลีวูด ได้รับบทเล็ก ๆ ในซีรีส์อย่าง ER และ CSI: Miami ก่อนจะได้มาเป็นพระเอกในหนัง The Princess Diaries 2: Royal Engagement (2004)  ประกบคู่กับ แอน แฮทธาเวย์ และต่อด้วย Just My Luck (2006) ประกบคู่กับลินด์ซีย์ โลฮาน ซึ่งในสมัยนั้นทั้งคู่เป็นนักแสดงหญิงชื่อดังที่ทำให้คริส ไพน์เริ่มเป็นที่จับตาในวงการในฐานะนักแสดงหนุ่มหน้าหล่อคนใหม่   บทบาททางเลือก Star Trek เวอร์ชันรีบูตของ เจเจ อับรามส์ กลายเป็นหลักไมล์สำคัญในอาชีพจากการได้รับบทกัปตัน เจมส์ ที เคิร์ก รุ่นใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม จนทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงแถวหน้า แต่หลังจากนั้น คริส ไพน์ก็ไม่หยุดนิ่งอยู่กับการแสดงในหนังบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์แต่อย่างเดียว เขามีผลงานหลากหลายแนวทั้งแนวแอคชันอย่าง  Unstoppable (2010)  และ Jack Ryan: Shadow Recruit (2014) พากย์เสียงแอนิเมชัน  Rise of the Guardians (2012)  โชว์ทักษะการร้องเพลงในหนังมิวสิคัล  Into the Woods (2014)  หนังดรามาโชว์การแสดงอย่าง  Z for Zachariah  (2015) หนังที่สร้างจากเรื่องจริงอย่าง The Finest Hours (2016) และหนังคาวบอยชั้นดีอย่าง  Hell or High Water (2016) ซึ่งเรื่องหลังนี้เขาได้รับคำชมว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา   สไตล์ที่แตกต่าง “เป็นหนุ่มวินเทจ ไม่ชอบเทคโนโลยี ไม่ใส่ถุงเท้า ใช้โทรศัพท์ฝาพับ” คำนิยามนี้บ่งบอกความเป็นตัวตนของคริส ไพน์ได้เป็นอย่างดี แต่ถึงกระนั้นเขาก็ติดอันดับนักแสดงหนุ่มที่แต่งตัวดีที่สุดในฮอลลีวูดจากสื่อแฟชั่นเจ้าดังหลายสำนักมาหลายปีแล้ว ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะเขาไม่เคยที่จะปล่อยตัวให้เป็นตาลุงเชย แม้เขาจะมีความขี้เล่นและความกล้าในการเลือกใส่ชุดที่แตกต่างจากขนบของผู้ชายคนอื่น ๆ ก็ทำให้เขาโดดเด่นจนสาว ๆ ต้องมองเหลียวหลัง เสื้อผ้าของเขามักจะเป็นชุดที่สีสันสดใส ถึงแม้จะออกงานทางการแต่สูทของเขาก็เลือกใช้สีอื่น ๆ มาดึงดูดสายตาผู้คน ทั้งสีเบอร์กันดี, สีฟ้าเบบี้ บลู, สีแทน, สีขาว, สีน้ำตาล ไปจนถึงสีเขียวที่น้อยคนจะเลือกใช้ แต่เขากลับสนุกกับการทดลองอะไรใหม่ ๆ ไม่จำเจ   เมื่อปี 2017 รูปคริส ไพน์ใช้โทรศัพท์ฝาพับแกล้งถ่ายรูปโต้ตอบปาปารัสซีที่แอบถ่ายเขา กลายเป็นข่าวฮือฮาไม่น้อย เพราะทุกคนไม่คิดว่าดาราฮอลลีวูดแถวหน้าผู้มีชื่อเสียงและเงินทอง ขับรถวินเทจสุดหรูคันละหลายล้านอย่างเขาจะใช้โทรศัพท์ที่ตกยุคไปแล้ว และถ้าเขาใช้สมาร์ทโฟนน่าจะง่ายต่อการติดต่อกันมากกว่า ข่าวนี้ทำให้ไพน์เองก็ประหลาดใจไม่น้อยที่ผู้คนสนใจกันเกินคาด เพราะเขาคิดว่าการใช้โทรศัพท์ฝาพับก็เป็นเรื่องธรรมดาของทุกคน ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น   “ผมเป็นคนที่ชอบทำอะไรให้มันง่ายขึ้น ผมชอบความเรียบง่าย และไม่ซับซ้อน ผมไม่อยากจะถูกเชื่อมติดอยู่กับอะไรมากนัก” ส่วนเรื่องการไม่ใส่ถุงเท้านั้น เขาให้เหตุผลง่าย ๆ ว่าเป็นเพราะเขาใส่รองเท้าที่ระบายอากาศได้ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่ถุงเท้าให้เท้ามีกลิ่นเหม็นอับ   ปี 2020 ไพน์ได้รับการยกย่องให้เป็น Quarantine Fashion Icon ผู้นำแฟชั่นเสื้อผ้าช่วงกักตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เพราะทุกชุดของเขาดูโดดเด่นแม้จะเป็นส่วนผสมที่ไม่เห็นจะเข้ากันตรงไหน อย่างเช่น เสื้อลายเสือ, กางเกงขาสั้น, ชุดสีส้มทั้งตัว, เสื้อชมพู, เสื้อกล้าม เขาก็ทำให้มันดูดีได้ด้วยบุคลิกมั่นใจ   เซนส์แฟชั่นที่ไม่เหมือนใครของคริส ไพน์จะทำให้ผู้ชมต้องตกหลุมรักเขาอีกครั้งในหนัง Wonder Woman 1984 เขาให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเขาอยากจะทำให้แฟชั่นยุค 80s กลับมาฮิตให้ได้อีกครั้ง เพราะส่วนตัวแล้วเขาชอบบรรยากาศชีวิตในยุคนั้นที่สุด และเขาก็ทำให้มันกลับมาฮิตได้สมใจ เพราะแค่ฉากใส่กระเป๋าคาดเอวในตัวอย่างหนัง ก็ทำให้ขึ้นเทรนด์ฮิตทวิตเตอร์ ไพน์ยังบอกอีกว่าแม้แฟชั่นยุค 80s ดูเชยไม่ทันสมัย แต่สำหรับเขาแล้วชอบมาก ที่มันใส่สบายและมีประโยชน์ใช้สอยที่ดี ใส่ของก็ได้ ทำอะไรได้มากกว่าเป็นเครื่องประดับ ซึ่งความคล่องตัวและสบาย ๆ เหมือนได้พักผ่อนแบบนี้นี่แหละเป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนชอบกัน   คนรักของสาวน้อยมหัศจรรย์ คริส ไพน์ ได้รับการจับตาในการเข้ามารับบทเป็นสตีฟ เทรเวอร์ คนรักของ ไดอานา หรือ วันเดอร์ วูแมน ในภาพยนตร์ Wonder Woman (2017) ของผู้กำกับ แพตตี เจนกินส์ ในยุคที่หนังซูเปอร์ฮีโรครองตลาดแต่ว่ามีแต่ฮีโรเพศชาย ทำให้มีกระแสแซวและจิกกัดว่าคริส ไพน์เป็นได้ “แค่” แฟนหนุ่มของซูเปอร์ฮีโรหญิง เพราะตอนนั้นบรรดานักแสดงชายตระกูล “คริส” ทั้งหลายในฮอลลีวูดต่างได้เป็นซูเปอร์ฮีโรในหนังฟอร์มยักษ์ด้วยกันทั้งนั้น ทั้งคริส อีแวนส์ รับบท Captain America, คริส แพร็ตต์ รับบท Star-Lord ใน Guardians of the Galaxy, คริส เฮมสเวิร์ธ รับบท Thor แต่คริส ไพน์ก็ไม่สนใจกับกระแสค่อนแคะและให้สัมภาษณ์อย่างให้เกียรติเพื่อนร่วมงานหญิงทั้ง กัล กาด็อต และแพตตี เจนกินส์อยู่เสมอว่าทั้งสองเป็นผู้หญิงมากความสามารถที่ทุ่มเทและมุ่งมั่นกับการสร้างหนังเรื่องนี้อย่างมาก ส่วนตัวเขาเองนั้นแค่เข้ามาเพิ่มเติมสีสันให้กับเรื่องเท่านั้น   เขาอธิบายว่า “เธอรับภาระแบกโลกทั้งใบเอาไว้บนบ่าอยู่แล้วครับ ผมแค่ไปอยู่ตรงนั้นเพื่อช่วยเหลือเธอ ทำให้เธอหัวเราะ และจีบเธอ” และเขาเองก็ไม่ได้สนใจที่จะต้องอัพกล้ามฟิตหุ่นให้กล้ามโตแบบคนอื่น ๆ ด้วย “ผมยังรู้สึกเหมือนตอนอายุ 15 ผมไม่เห็นว่าตัวเองจะเป็นผู้ชายในโฆษณา Armani ได้ (เขาเป็นนายแบบโฆษณาน้ำหอม Armani Code) ผมไม่ใช่กัปตันทีมฟุตบอล ผมเป็นไอ้เด็กที่คนอื่นล้อเลียน ความไม่มั่นใจมันยังคงฝังลึกในใจผมอย่างไม่น่าเชื่อ”   แน่นอนว่าผู้กำกับแพตตี เจนกินส์ไม่คิดเช่นนั้น เพราะ คริส ไพน์ไม่เพียงแต่เข้ามารับบทคนรัก แต่เขาเป็นเครื่องยืนยันว่า ไม่ว่าตัวละครหลักจะเป็นเพศไหนก็ควรค่าต่อการมีความรักที่ดี และคริส ไพน์เป็นผู้มีคุณสมบัตินี้อย่างเต็มเปี่ยม เขาทั้งหล่อเหลา มีอารมณ์ขัน มีเสน่ห์ และมั่นใจ และเสริมให้ตัวละครสตีฟ เทรเวอร์เป็น “นายในดวงใจ” คนสำคัญ   “การมีอยู่ของสตีฟ ทำให้เธอมีพื้นที่ในการเป็นซูเปอร์ฮีโร ในความฝันของพวกเราคือการเป็นซูเปอร์ฮีโรในอย่างที่เราอยากเป็น แต่ส่วนหนึ่งในนั้นคือพบกับชายคนหนึ่งที่เป็นชายที่แสนดี ซึ่งไม่มีปัญหากับการที่เธอเป็นซูเปอร์ฮีโรและยังต้องการที่จะอยู่กับผู้หญิงคนนั้น” เจนกินส์กล่าว และไม่ใช่ว่าคริส ไพน์ ไม่ทุ่มเทกับบทนี้เลย เขาออกกำลังกาย 6 วันต่อสัปดาห์แต่เน้นไปที่การสร้างกล้ามเนื้อแบบลีน ๆ ให้สมส่วนมากกว่าจะต้องอัพล่ำ   Wonder Woman กลายเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จระดับปรากฏการณ์และทำให้คริส ไพน์ ได้รับคำชมอย่างมากในการเพิ่มมิติให้กับตัวละครของวันเดอร์ วูแมน เคมีระหว่างเขากับกัล กาด็อต ก็ดีงามทั้งในและนอกจอ ทำให้มีผู้ที่ต้องการให้เขากลับมาอีกอย่างล้นหลาม ซึ่งการกลับมาใน Wonder Woman 1984 นี้ คริส ไพน์ได้พูดถึงตัวละครของเขาว่า “ในภาคนี้ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจและสนุกสนานมากขึ้น บทบาทของผมเป็นทั้งเพื่อน คนรัก เป็นแฟนหนุ่มพ่วงบอดีการ์ดผู้ที่พยายามอย่างสุดความสามารถในการช่วยไดอานาทำภารกิจของเธอ ผมเป็นเหมือนวัตสัน แล้วเธอคือโฮล์มส์ครับ” ไพน์เทียบตัวละครของเขาเป็นผู้ช่วยผู้แสนดีดอกเตอร์วัตสัน ในขณะที่ไดอานาคือนักสืบอย่างเชอร์ล็อค โฮล์มส์   ส่วนแพตตี เจนกินส์ก็คอนเฟิร์มว่าเธอคิดถูกที่เลือกเขามารับบทนี้   “เขาไม่ใช่ผู้ชายประเภทพระรองแม้แต่น้อย เขามีความเป็นผู้นำแบบอัลฟาสุด ๆ เขาเป็นคนที่สามารถทนต่อความยากลำบากได้อย่างแท้จริง ตั้งแต่วันแรกฉันก็พูดเสมอว่าเรื่องนี้มันต้องเหมือนกับวันเดอร์ วูแมน ได้เจอกับ อินเดียนา โจนส์ โดยที่อินเดียนาจะไม่ถูกบดบังรัศมี คริสเป็นคนที่มีคุณสมบัตินั้นอย่างธรรมชาติ ถ้าคุณเจอเขา จะเห็นได้ถึงความอบอุ่นของเขา ความเป็นคนสบาย ๆ และเป็นคนที่ยกย่องผู้หญิงอย่างแท้จริงของเขา”   เรื่อง: เพจผู้ชายคนนั้นจากหนังเรื่องนี้   อ้างอิงเรื่องแฟชั่น https://www.instyle.com/reviews-coverage/chris-pine-has-worn-suit-almost-every-color? https://www.papermag.com/chris-pine-quarantine-fashion-2647568026.html?rebelltitem=14#rebelltitem14 https://musiccitydrivein.com/2020/08/09/chris-pine-quarantine-fashion-icon/ https://www.gq-magazine.co.uk/gallery/chris-pine-fashion-style-photos?image=5d13a065003d75580dae6cce https://www.instyle.com/news/man-style-stretchs-chris-pine-has-passion-fashion