Cocktail - ส่งเธอออกไป: มากกว่าการได้ยืนข้างเธอตลอดไป คือการยินดีที่จะสูญเสียเธอไปตลอดกาล

Cocktail - ส่งเธอออกไป: มากกว่าการได้ยืนข้างเธอตลอดไป คือการยินดีที่จะสูญเสียเธอไปตลอดกาล
เป็นอีกครั้งที่ผลงานเพลงจาก ‘Cocktail’ จับแตะหัวใจของคนฟังอย่างเรา ด้วยจังหวะพอดีและดนตรีเลิศรส เพลงใหม่ล่าสุดของวงดนตรีวงนี้ อย่าง ‘ส่งเธอออกไป’ นั้นเมื่อเปิดเล่น ก็ราวส่งตรงถึงหัวใจให้นึกคิดและรู้สึกไปตามความหมายของท่อนร้องภายในเพลงได้อย่างมีเสน่ห์น่าฟังไม่น้อย ‘ส่งเธอออกไป’ เป็นเพลงที่พูดถึงความรัก - โดยส่วนตัวผู้เขียนชอบเพลงที่พูดถึงความรัก เพราะเมื่อเราเอ่ยคำนี้ออกมา ขอบเขตเนื้อหาของมันก็ดูจะกว้างไกลเท่าขอบเขตของจักรวาล เพราะมนุษย์เรานั้น โดยมากหลังจากเกิดมา ก็รักบางสิ่งบางอย่าง หรือแม้กระทั่งบางคน อยู่ทุกวัน   ความหมายของคำว่ารัก ขอบเขตความรักจึงกว้างเท่าจักรวาล ลึกซึ้งและหลากหลายเท่าความเป็นมนุษย์ เช่นเดียวกัน ‘ความหมาย’ ของคำว่ารักคำเดียวกันนี้ ก็อาจเป็นอะไรได้มากมายพอให้เหล่าศิลปินทุกแขนง รวมถึงนักดนตรี มีความรักหลากหลายรูปแบบให้หยิบจับมาเล่ากันไม่รู้เบื่อ Cocktail เองก็สร้างสรรค์ผลงานเพลงเกี่ยวกับความรักอยู่เสมอ ตลอดระยะเวลาราว 20 ปีของอายุวง พวกเขาบรรจุความรักหนึ่งรูปแบบลงในหนึ่งเพลง เมื่อเริ่มเขียนเพลงใหม่ ก็เล่าถึงความรักอีกแบบ เรื่อยเรียงจนมาถึง ‘ส่งเธอออกไป’ ที่เป็นเพลงเกี่ยวกับความรักรูปแบบหนึ่ง ซึ่งถูกวงให้นิยามความหมายไว้อย่างน่าสนใจ ขอเกริ่นถามผู้อ่านสักนิด สำหรับคุณ ‘ความรัก’ คืออะไร - รักคือการให้, รักคือการแบ่งปัน, รักคือการอยู่ร่วมกันเพื่อทำให้ทุกวันเป็นวันที่ดี, รักคือการเฝ้าดูใครสักคนเติบโต, รักคือรูปวาดของเขาหรือเธอในสมุดวิชาคณิต, รักคือการให้อีกฝ่ายยืมยางลบทุกวันแม้ว่าจะไม่เคยได้คืน ฯลฯ  คำตอบในใจผู้อ่านคงเหมือนบ้าง ต่างบ้าง และคงหลากหลายกว่านี้ เพราะรักคือทุกสิ่งที่ผู้เขียนบรรยายเอาไว้ และคือทุกอย่างเท่าที่ผู้อ่านนึกออกด้วย ดังนั้น ผู้เขียนเดาเอาว่า ระหว่างที่ Cocktail เริ่มตวัดปลายปากกาเป็นเนื้อหาเพลง ก็คงตั้งคำถามกับตัวเองราว ๆ เดียวกัน ก่อนจะได้คำตอบเป็นรูปแบบหนึ่งของรักที่ต่างออกไปอีกว่า หรือความรักคือการสูญเสีย?   ส่งเธอออกไป เพลงแห่งการสูญเสียด้วยความเต็มใจ   ลืมฉันไปเถอะ อย่าจำฉันเลย สงสารฉันบ้าง ทิ้งฉันไปก่อน อย่ามัวอาวรณ์ ร่ำไร เมื่อความจริงความรักมันไม่ชนะทุกอย่าง เพราะว่าสุดท้ายปลายทางไม่ใช่เรื่องหัวใจ   ข้างต้นคือเนื้อเพลงท่อนแรกของ ‘ส่งเธอออกไป’ ขับร้องโดยเสียงร้องที่คุ้นเคยของ ‘โอม - ปัณฑพล ประสารราชกิจ’ ท่อนแรกของเพลงทำให้รู้ว่าภาพรวมของมันจะดำเนินไปในโทนหม่นระคนเศร้า ท่ามกลางเสียงดนตรีที่ดังขึ้นประสาน ระบายหน้ากระดาษของหนึ่งเพลงให้งดงาม ผู้เขียนนึกชื่นชอบท่อน ‘เมื่อความจริงความรักมันไม่ชนะทุกอย่าง เพราะว่าสุดท้ายปลายทางไม่ใช่เรื่องหัวใจ’ อยู่มากทีเดียว ความรักไม่ชนะทุกอย่าง ปลายทางไม่ใช่เรื่องหัวใจ เพียงแค่ฟังก็รู้สึกได้ว่าถ้อยคำข้างต้นถูกเขียนขึ้นมาอย่างเข้าใจโลก เข้าใจรัก และความเข้าใจเหล่านั้นก็ถักทอกลายเป็นภาพยนตร์สั้นประกอบเพลงนี้ ที่มีชื่อหนังว่า ‘แดนอนันต์’ (neverland) ได้อย่างงดงาม หนังสั้นเรื่องนี้เติมเรื่องราวในเพลง ‘ส่งเธอออกไป’ และทำให้ผู้ชมได้เข้าใจว่าทำไมความรักของใครบางคนจึงเท่ากับการสูญเสียได้มากขึ้น   แดนอนันต์ หนังสั้นประกอบเพลงส่งเธอออกไปที่กำกับโดย ‘มะเดี่ยว - ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล’ เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ sci-fi / drama ที่โอบล้อมด้วยแมกไม้และป่าเขา บ้านหลังน้อยซึ่ง ‘แทน’ (รับบทโดย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) ชายหนุ่มหัวหน้าครอบครัว พา ‘มุก’ (รับบทโดย ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช) ภรรยาที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และ ‘เบลล์’ (รับบทโดย มินซึล ปาร์ค) ลูกสาว หนีชีวิตวุ่นวายในเมืองใหญ่มาพักอาศัยนั้น เป็นของขวัญจากสิ่งที่เรียกตนเองว่า ‘อนันต์’ มันคือสิ่งลึกลับที่ปรากฏตนเป็นลูกตุ้มทรงกลมขนาดยักษ์ มันเปิดบทสนทนาคล้ายมอบโอกาสให้ชายหนุ่มได้ ‘แลก’ บางสิ่งเพื่อต่อเวลาชีวิตให้คนรักของตน แทนแลกเวลาชีวิตของตนเพื่อยืดเวลาให้ภรรยา ข้อแม้ที่ตามมาคือเขาห้ามบอกใคร นอกจากนั้นเขากับครอบครัวก็ต้องอยู่ ‘ที่นี่’ เท่านั้น แม้บ้านที่ตั้งอยู่กลางแมกไม้นานาพรรณจะไร้กรงขัง แต่หากทำผิดเงื่อนไขด้วยการก้าวออกจากป่าไปยัง ‘อีกฝั่ง’ การแลกเปลี่ยนที่ตกลงไว้กับอนันต์จะถือเป็นโมฆะ และความตายก็จะพรากชีวิตคนที่เขารักที่สุดไป Cocktail - ส่งเธอออกไป: มากกว่าการได้ยืนข้างเธอตลอดไป คือการยินดีที่จะสูญเสียเธอไปตลอดกาล   รักที่อยากต่อเวลา แน่นอนว่าด้วยความเป็นมนุษย์ การสูญเสียคนรักไม่ใช่ทางเลือกแรกที่เราอยากก้าวเดินเข้าไปอยู่แล้ว ช่วงแรกเริ่มของหนังสั้น ‘แดนอนันต์’ จึงเล่าถึงความรักที่ต้องการต่อเวลา แทนอยากเพิ่มเวลาให้ภรรยา เพื่อให้เธอสามารถอยู่บนโลกนี้ อยู่ด้วยกันกับเขา กับลูก ให้นานขึ้นอีกแม้เพียงวันเดียวก็ยังดี จากวันเดียวที่คาดหวัง กลายเป็น 2 ปี และมากกว่านี้เท่าที่จะมากได้ - แทนและครอบครัวใช้ชีวิตในแดนอนันต์ได้ 2 ปี และเพิ่งค้นพบว่าครอบครัวของเขาเหลือเวลาอยู่ร่วมกันอีกเพียง 15 นาทีเท่านั้น จะสุขหรือเศร้าก็เหลือเพียง 15 นาที ก่อนที่ความตายจะพรากทุกอย่างไป อาจจะเป็นคำถามที่บีบหัวใจไปสักหน่อย แต่ 15 นาทีสุดท้ายที่ได้อยู่ร่วมกับคนรัก หากเป็นคุณจะใช้ช่วงเวลานั้นทำอะไร? และสุดท้ายแม้ฉันทุ่มเทให้ความรักเท่าไร ฉันก็ไม่อาจทำเธอยิ้มได้ตลอดไป   ‘ส่งเธอออกไป’ คือคำตอบที่แทนเลือก   มากกว่าการได้ยืนข้างเธอตลอดไป คือการยินดีที่จะสูญเสียเธอไปตลอดกาล 15 นาทีสุดท้ายที่มีปลายทางเป็นจุดจบของชีวิต ต่อหน้า ‘อนันต์’ ลูกตุ้มทรงกลมขนาดยักษ์ แทนกล้ำกลืนน้ำตา ในหัวพราวภาพทรงจำมากมายของเขากับภรรยาและลูก ชายหนุ่มตัดสินใจแลกครั้งสุดท้าย  แทนแลกทั้งชีวิตของตนเองกับลมหายใจ กับการออกไปจากที่นี่ของมุกและเบลล์ เขาตัดสินใจเลือกอย่างไม่ลังเล แม้จะรู้ว่าการแลกครั้งนี้ แปลว่าเขาต้องเป็นคนเดียวที่ติดอยู่ในแดนอนันต์แห่งนี้ และไม่ได้พบหน้าภรรยากับลูกอีกเลยตลอดกาล “ขอแค่มุกมีอายุยืนยาวเพื่อดูเบลล์เติบโต แค่ได้รู้ว่าเบลล์จะมีชีวิตต่อไปอย่างที่คนคนหนึ่งควรจะมี ขอแค่นั้นก็พอ” คำวอนขอที่เปี่ยมด้วยความรักที่สุดประโยคหนึ่ง เท่าที่เราเคยได้ฟังคำนี้ ออกมาจากปากชายที่เลือกจะ ‘สูญเสีย’ ทุกอย่างที่มีเพื่อคนที่ตนรัก   Cocktail - ส่งเธอออกไป: มากกว่าการได้ยืนข้างเธอตลอดไป คือการยินดีที่จะสูญเสียเธอไปตลอดกาล   ฉันคืออดีต อนาคตเธอสำคัญกว่า ให้หยดน้ำตา บอกลาเธอครั้งสุดท้าย   วินาทีที่เพลง ‘ส่งเธอออกไป ดังขึ้นภายในหนัง คงเป็นช่วงเวลาที่ใบหน้าของใครหลายคนพราวเกาะด้วยหยดน้ำตา หนังสั้น ‘แดนอนันต์’ และเพลง ‘ส่งเธอออกไป’ นั้นเติมเต็มกันและกัน ผลจากการดูหนัง ฟังเพลงนี้ได้ทั้งความบันเทิงทางอารมณ์ และผลึกความคิดที่ร้อยเรียงเป็นรูปเป็นร่าง ทั้งหนังและเพลงเล่าชัดว่าในบริบทดังกล่าว ความรักคือการสูญเสีย และเป็นการสูญเสียชนิดที่เต็มใจที่สุด จนอาจจะเรียกได้ว่าบริสุทธิ์ที่สุดรูปแบบหนึ่ง เป็นความรักที่เจ็บปวดและงดงามแม้ในยามหลุดจากโลกแห่งภาพยนตร์มาสู่โลกความจริง   ส่งเธอออกไป ส่งเธอออกไปให้เธอห่างไกลสุดสายตา ส่งเธอออกไปให้ไกลจนเกินคว้าเธอ ให้ไกลจนเราไม่ได้พบเจอกันอีกครา   การยอม ‘ส่งเธอออกไป’ ในโลกจริงอาจไม่ได้ sci-fi / drama เท่าในหนัง แต่เรื่องราวในเนื้อเพลงนั้นเป็นสิ่งที่จับต้องได้ - เพราะความรักไม่ชนะทุกอย่าง และปลายทางของชีวิตก็มีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่าเรื่องหัวใจ หลายครั้ง การที่คนสองคนมีความรักลึกซึ้งต่อกัน ก็ไม่ได้การันตีว่าเส้นทางที่โรยด้วยรักนั้นจะไร้ขวากหนาม ชีวิตมักส่งอุปสรรคมาทดสอบความรักอยู่เสมอ และบางทีมันก็ไม่ใช่บททดสอบ แต่คือคำถามที่มีคำตอบตายตัวว่าเราต้องปล่อยความรักครั้งนี้ไป หน้าที่การงาน อาหารมื้อถัดไป เงินในบัญชี เวลาที่มีให้แก่กัน เสียงทุ่มทะเลาะที่ดังขึ้นทุกวัน รอยน้ำตาบนใบหน้าคนที่รัก รอยยิ้มที่เลือนหาย ความสุขที่เราเคยมอบให้อีกฝ่ายได้ แต่ตอนนี้ไม่อาจทำได้อีกต่อไป บางครั้ง การยอมสูญเสีย ปล่อยคนรักไป เพื่อให้เขาหรือเธอได้เจอะเจอชีวิตใหม่ และอาจจะรักครั้งใหม่ ที่เติมเต็มรอยยิ้มนั้นให้งดงามได้อีกครั้ง ก็อาจจะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้าย เป็นความรักครั้งสุดท้ายที่คนคนหนึ่งมอบให้กับใครสักคนได้ และเช่นกัน บางครั้ง มากกว่าการได้ยืนข้างเธอตลอดไป อาจเป็นการยินดีที่จะสูญเสียเธอไปตลอดกาล   ให้เธอออกไป ให้เธอห่างไกลคนไร้ค่า ใกล้ฉันเธอเองก็มีได้เพียงน้ำตา  ขอเธออย่าเสียเวลากับฉันเลยดีกว่า   ทิ้งฉันไปเถอะ   ลืมฉันไปเถอะ   เรื่อง: จิรภิญญา สมเทพ สามารถรับชมมิวสิกวิดีโอเพลง ‘ส่งเธอออกไป’ ได้ที่ https://bit.ly/3vF1aGd