บุลม่า: แม่ 3 แบบผู้เป็นทุกอย่างให้บุรุษ 3 คนใน Dragon Ball

บุลม่า: แม่ 3 แบบผู้เป็นทุกอย่างให้บุรุษ 3 คนใน Dragon Ball

บุลม่า แม่ 3 แบบผู้เป็นทุกอย่างให้บุรุษ 3 คนใน Dragon Ball จากสถานะวัตถุทางเพศ โดนลวนลาม กลายมาเป็นตัวละครหญิงที่แบกเนื้อเรื่อง

ผู้อ่าน Dragon Ball จำนวนมากคงยอมรับว่านางเอกเรื่อง Dragon Ball นั้นไม่ใช่จีจี้ แต่เป็นบุลม่า ตามสไตล์การ์ตูนญี่ปุ่นคือพระเอกกับนางเอกอาจไม่จำเป็นต้องรักกันหรือเป็นแฟนกันก็ได้

ตามที่ผู้เขียนเคยเล่าไว้ในบทความ “ซง โกคู (Son Gokū) แห่ง Dragon Ball เจ้าตำรับ ‘ไซอิ๋วผสมซูเปอร์แมน’” (คลิกอ่านบทความจากลิงก์ในคอมเมนต์) ว่าเดิมทีนั้น Toriyama Akira ตั้งใจจะเขียนเรื่องไซอิ๋ว (Journey to the West) ในแบบ Parody คือเป็นภาคพิสดารตามแบบฉบับของตัวเอง แต่เนื่องจาก Toriyama มักมีสไตล์คือเขียนไปพลาง เช็คเรตติ้งจากผู้อ่านไปพลาง แล้วก็ปรึกษากับทีมงานและกอง บ. ก. ไปพลาง ระหว่างที่ปรับเนื้อเรื่อง ทำให้เนื้อเรื่อง Dragon Ball กลายเป็นยำใหญ่สื่อ Pop Culture หลายเรื่องเข้าด้วยกัน

แรกเริ่มนั้น วางตัวให้โกคูเป็นตัวเอกคือเป็นลิงที่มีฝีมือต่อสู้และมีพละกำลังมหาศาล เลยตั้งชื่อว่า “ซงโกคู (孫悟空)” ซึ่งเป็นเสียงภาษาญี่ปุ่นของคำว่า “ซุนหงอคง” เป็นตัวละครฝ่ายบู๊ (武) คือสายใช้กำลัง ส่วนตัวละครที่แทนพระถังซัมจั๋ง (唐三藏) ซึ่งเป็นตัวละครฝ่ายบุ๋น (文) ที่ใช้สติปัญญานั้น Toriyama สร้างตัวละครให้ออกมาเป็นคู่ตรงข้ามไปเลยคือให้เป็นผู้หญิง และได้ออกมาเป็นตัวละครบุลม่าในที่สุด เข้าตามลักษณะความเป็นหยินหยาง (陰陽) ของจีน คือ หยินหมายถึงผู้หญิงและความอ่อนโยน หยางหมายถึงผู้ชายและความเข้มแข็ง

แม้ว่าบุลม่าจะถูกเอามาทำเป็น Sex Objects ในหลายครั้งเนื่องจาก Dragon Ball เป็นการ์ตูนสำหรับวัยรุ่นชาย จึงมีฉากที่บุลม่าขายเซ็กซี่ หรือโดนลวนลามอยู่เป็นระยะในช่วงแรก ๆ เพื่อเป็น Fan Services แต่ว่าเมื่อเนื้อเรื่องพัฒนาให้จริงจังมากขึ้น บุลม่าก็กลายเป็นตัวละครหลักที่แบกทั้งเรื่องไว้เลย

เริ่มตั้งแต่ช่วงแรก คนที่ค้นพบการมีอยู่ของ Dragon Ball ก็คือบุลม่า, คนที่รับสืบทอดความรู้ทางเทคโนโลยีจากพ่อของตัวเองก็คือบุลม่า, คนที่เป็นแรงบันดาลใจให้โกคูเริ่มออกเดินทางเพื่อพัฒนาตัวเองก็คือบุลม่า และเนื่องจากบุลม่าเป็นตัวแทนแห่ง “สติปัญญา” จึงมีการเล่าเรื่องว่าบุลม่าเป็นผู้มีความรู้ด้านเทคโนโลยีระดับสูง ตรงข้ามกับโกคูที่เริ่มแรกคือนับเลขไม่เป็นและอ่านหนังสือไม่ออกด้วยซ้ำ (ไปเรียนนับเลขและเรียนหนังสือกับผู้เฒ่าเต่าในตอนหลัง)

ดังนั้น เมืองที่บุลม่าอาศัยอยู่จึงต้องเป็น City of the West ซึ่งมีความหมาย 2 ความหมายแฝงอยู่ ความหมายแรกคือเลียนแบบต้นฉบับไซอิ๋วว่าเป็น Journey to the West คือโกคูต้องเดินทางไปบ้านบุลม่าที่อยู่ทาง the West แต่ความหมายแฝงอีกอันก็คิดเพิ่มได้ว่าเป็นกระบวนการที่โกคูเรียนรู้อารยธรรมตะวันตกมากขึ้น ทำให้รู้จักใช้เทคโนโลยีมากขึ้น และเป็นประโยชน์กับโกคูเองในอนาคต (ในอนาคตมีการประยุกต์เทคโนโลยีของบุลม่าในการฝึกวิชา) ก็สามารถคิดได้ จึงนับว่า แม้ว่าบุลม่าจะเป็นเพื่อน แต่ก็เป็น “บุพการีทางความคิด” คนแรกของโกคูด้วย และคอยสอนสิ่งต่าง ๆ ด้านเทคโนโลยี, อารยธรรมตะวันตก และอัปเดตวิเคราะห์ข้อมูลของฝ่ายศัตรูให้ตัวละครหลักอยู่เสมอ

แม้ว่าบทบาทของบุลม่าจะเบาบางลงไปบ้างในช่วงของศึกกองทัพโบว์แดง แต่กลับมามีบทบาทเด่นอีกครั้งช่วงศึกจอมปีศาจพิคโกโล่ และเด่นมากช่วงก่อนและหลังศึกดาวนาเม็ก บุลม่าเป็นคนแรกที่รู้ว่าเครื่องวัดพลังของชาวไซย่าใช้งานยังไง, บุลม่าลงทุนเรียนภาษานาเม็กจากมิสเตอร์โปโปเพื่อควบคุมยานอวกาศชาวนาเม็ก (ยานที่พระเจ้าใช้ตอนมาโลก) สำเร็จ จัดว่าเป็นสุภาพสตรีคนแรกของโลกที่ได้ไปท่องจักรวาล และรอดชีวิตจากศึกสุดโหดที่ดาวนาเม็กได้

หลังกลับจากดาวนาเม็ก บุลม่ากลายเป็น “บุพการีแห่งวิถีชีวิต” ให้กับเบจิต้าอีกด้วย จากที่เคยเขียนในบทความ “เบจิต้า: ความรักของนักรบชาวไซย่า นักล่าผู้เหี้ยมโหดที่กลายเป็นพ่อบ้านแสนดี” (คลิกอ่านบทความจากลิงก์ในคอมเมนต์) ว่า หลังจากเบจิต้าโดนฟรีเซอร์ฆ่าตาย แล้วได้รับการชุบชีวิตขึ้นมาอีกนั้น ชีวิตเก่าในฐานะนักล่าได้แตกดับลง และกลับมามีชีวิตใหม่บนเส้นทางใหม่

แม้ว่าเป้าหมายเดิมในชีวิตของเบจิต้าจะหายไป แต่บุลม่าก็ให้การต้อนรับอย่างดีและสอนสั่งวิถีแห่งชาวโลกหลายอย่าง จนลงเอยด้วยกันอีก เรียกว่าเป็นทั้งภรรยา และเป็นทั้งผู้ปกครองที่คอยให้คำแนะนำต่าง ๆ กับเบจิต้า รวมทั้งสร้างอุปกรณ์เพื่อให้เบจิต้าได้ฝึกวิชาอีกต่างหาก และแน่นอน บุลม่ายังเลี้ยงดูส่งเสียเบจิต้าอีกด้วยเพราะวัน ๆ เบจิต้ามันก็ไม่ทำมาหากิน (ฮา)

ในโลกอนาคต บุลม่ายังกลายเป็นตัวละครที่สำคัญที่สุด คือสามารถสร้างไทม์แมชชีนสำเร็จในสภาพที่ขาดแคลนทรัพยากรอย่างมากเพราะต้องหนีเอาตัวรอดอยู่ตลอดเวลา และกลายเป็นแม่ของทรังคซ์ผู้ซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายของมนุษยชาติอีกด้วย จัดเป็น “บุพการีที่แท้จริง” ทั้งทางชีวภาพและทางความคิดให้กับทรังคซ์ ทรังคซ์ในอนาคตจึงมีบุคลิกที่ลึกลับ, อ้างว้าง และปวดร้าว แบกโลกทั้งโลกไว้กับตัวคนเดียว ต่างไปจากตัวละครเอกคนอื่น ๆ ในเรื่องอย่างมาก

ในจักรวาลหลักในภาค Super บุลม่ายังเป็นสปอนเซอร์หลักให้กับเทพทำลายล้าง จนได้เทพทำลายล้างมาเป็นพันธมิตรอีกต่างหาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดตัวละครหลักอย่างบุลม่าไป

เรียกว่าแม้ Dragon Ball จะเป็นการ์ตูนต่อสู้ แต่ตัวละครหลักอย่างบุลม่า กลับกลายเป็นตัวหลักที่เป็นเดอะแบกของทั้งเรื่องได้ด้วยพลังแห่งสติปัญญา (และพลังเงิน) ผู้เขียนจึงเห็นว่าบุลม่านั้นเป็นบุพการีให้กับตัวละครหลักทั้ง 3 คนคือ เป็นบุพการีทางความคิดของโกคู, เป็นบุพการีแห่งวิถีชีวิตแบบชาวโลกให้เบจิต้า, และเป็นแม่แท้ ๆ ของทรังคซ์ ทั้งทรังคซ์อนาคตและทรังคซ์ปัจจุบัน ก็หวังว่าใน Dragon Ball ภาคใหม่ ๆ นั้น Toriyama จะยังคงให้น้ำหนักกับบทบาทของบุลม่าพอสมควรแบบเช่นที่ผ่านมา อย่าเน้นฉากต่อสู้จนตัวตนของบุลม่าเบาบางเกินไปก็แล้วกัน

เรื่อง: วีรยุทธ พจน์เสถียรกุล
ภาพ: Dragon Ball Wiki - Fandom