‘สตีเวน ซีกัล’ อดีตดาวบู๊สู่ซี้ ‘ปูติน’ เคยอินศาสนาพุทธจนเกือบโดนมาเฟีย ‘เก็บ’

‘สตีเวน ซีกัล’ อดีตดาวบู๊สู่ซี้ ‘ปูติน’ เคยอินศาสนาพุทธจนเกือบโดนมาเฟีย ‘เก็บ’

จากพระเอกหนังบู๊เกรดบี สู่ฑูตพิเศษสหรัฐฯ ที่รัสเซียตั้ง ย้อนเรื่องราวของ ‘สตีเวน ซีกัล’ (Steven Seagal) กับอดีตที่เคยเกือบโดนมาเฟีย ‘เก็บ’ และวีรกรรมด้านลบจำนวนมหาศาล จนไม่มีใครอยากข้องแวะด้วย… ยกเว้น ‘วลาดีมีร์ ปูติน’ (Vladimir Putin)

ถ้าจะพูดถึงหนังบู๊สุดระห่ำยุคทศวรรษที่ 1990 บ้างก็อาจจะนึกถึงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ขึ้นหิ้งที่นำแสดงโดยพระเอกเบอร์ต้น ๆ ของแวดวงภาพยนตร์ฮอลลีวูดอย่าง ทอม ครูซ (Tom Cruise) หรือ บรูซ วิลลิส (Bruce Willis) เพราะไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ชุด Mission Impossible หรือ Die Hard ก็นับว่าเป็นหนังแอคชั่นที่ได้รับความนิยมในไทยเป็นอย่างมาก

แต่ก็มีอีกชื่อของพระเอกอีกคนหนึ่ง ที่แม้ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ของเขาจะเป็นหนังเกรดบีที่คุณภาพอาจจะไม่ได้ดีเทียบเท่ากับสองเรื่องที่เราได้กล่าวมาข้างต้น แต่ถ้าดูเอามัน ดูเอาสนุกก็ถือว่าใช้ได้ก็คงต้องยกให้พระเอกฉายา ‘จอมหักกระดูก’ อย่าง สตีเวน ซีกัล (Steven Seagal) แม้ว่าพอถัดจากยุค 90s มาแล้ว ภาพยนตร์ที่เขารับบทบาทเป็นพระเอกจะไม่ค่อยได้คุณภาพเสียเท่าไรนัก (ถึงขั้นว่ามีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ได้คะแนนจาก Rotten Tomatoes ไปถึง 0%) แต่หากย้อนไปดูภาพยนตร์อย่าง Above the Law (1988) หรือ Under Seige (1992) ก็นับว่าเขาเป็นดาราหนังบู๊ที่มีภาพจำชัดเจน ‘ในตอนนั้น’ อยู่มากเลยทีเดียว

นอกจากจะเป็นดาราหนังบู๊แล้ว ซีกัลเองก็แทบจะเรียกได้ว่าคลุกคลีอยู่กับทุกวงการ ตั้งแต่ภาพยนตร์ ศิลปะการต่อสู้ ดนตรี รายการโทรทัศน์ พุทธศาสนา ธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง และถึงขั้นว่าเคยมาแจมเล่นดนตรีกับวงเพื่อชีวิตตำนานไทยอย่าง คาราบาว 

จนตอนนี้ถึงขั้นว่าไปสนิทกับประธานาธิบดีรัสเซียอย่าง วลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) จนได้สัญชาติรัสเซียมาครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมล่าสุดปูตินยังมอบรางวัล เกียรติยศแห่งมิตรภาพ (The Order of Friendship) ซึ่งเดิมทีเจ้าตัวก็ดำรงตำแหน่งเป็นผู้แทนพิเศษด้านความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม มรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ (Special Representative for Russian-U.S. Humanitarian Ties)

ถึงกระนั้น เมื่อได้ยินชื่อของซีกัล ใครหลายคนจากแทบจะทุก ๆ แวดวงที่เขาแทรกตัวอยู่ก็พากันส่ายหัวกับชื่อของชายคนนี้ เพราะว่าวีรกรรม (ด้านลบ) ของเขาถึงขั้นว่ายาวเป็นหางว่าว ตั้งแต่ทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงานในกองถ่ายและทำข้อมือของ ฌอน คอนเนอรี (Sean Connery) พระเอกเจมส์ บอนด์อันโด่งดังหัก และยังมีประเด็นที่นักแสดงหญิงในวงการมากมายออกมาบอกว่าซีกัลพยายามจะล่วงละเมิดทางเพศเขาหลายต่อหลายคน

ในบทความนี้ เราจะพาไปดูช่วงรุ่งโรจน์ของเขาในฐานะดาราหนังบู๊ฉายาจอมหักกระดูกก่อนจะพาไปหาคำตอบว่ามันเป็นมายังไง ‘ซีกัล’ กับ ‘ปูติน’ ถึงไปเป็นเพื่อนซี้กันได้ แต่ถ้าจะเล่าแค่เรื่องราวความโด่งดังก็คงจะน่าเบื่อไป ขอบอกใบ้ ๆ ว่า พี่แกโด่งดังจนไปข้องแวะกับมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเลยทีเดียว

ดาวบู๊อินพุทธขอลาจอ แต่เจ้าพ่อไม่เข้าใจ

ถ้าจะย้อนไปในช่วงเวลาที่ดาวบู๊สายหักกระดูก (บ้างก็ว่าที่เขาเอาแต่หักกระดูกเป็นเพราะเขาเตะไม่เป็น) รุ่งโรจน์ในสายอาชีพในการเป็นพระเอกหนังแอคชั่นเกรดบีก็ต้องเป็นช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 มาจนถึงช่วงราว ๆ ต้นทศวรรษที่ 1990 ที่มีภาพยนตร์บู๊มัน ๆ ถูกใจคอหนังสายบวกมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Above the Law (1988), Hard to Kill (1990), Under Seige (1992), หรือ Executive Decision (1996) 

ท่ามกลางสนามแข่งที่ประชันกันอย่างดุเดือดเพื่อที่จะได้เป็นคนที่ถูกเลือก แน่นอนว่าการก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกบนจอเงินที่ถูกฉายและขายไปทั่วโลกไม่ใช่เรื่องง่าย โชคดีที่เส้นทางของ สตีเวน ซีกัล มีคนช่วยดันอย่างเต็มที่ แถมคนช่วยดันคนนั้นก็ดูจะมีพาวเวอร์ในอุตสาหกรรมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งเขามีนามว่า ‘จูเลียส นาสโซ’ (Julius Nasso) โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ ที่ตั้งใจปั้นคนนี้จนไปดังระเบิดจากภาพยนตร์เรื่อง Under Seige ในปี 1992

แต่ในช่วงเดียวกันกับที่หนังของซีกัลกำลังไปได้สวย ชื่อของเขาเรียกว่าทำเงินได้ไม่น้อย ซีกัลเองก็เริ่มหันไปเข้าทางธรรม เขาได้ค้นพบและหลงใหลความงามสงบของพุทธศาสนา และในแวดวงศาสนาพุทธที่เขาได้ไปคลุกคลีเขาก็ได้มีประเด็นเช่นเดียวกัน เพราะมีครั้งหนึ่งเขาถูกแต่งตั้งว่าเป็น องค์ลามะกลับชาติมาเกิด ซึ่งผู้คนก็พากันตั้งคำถามกันยกใหญ่ในภายหลังว่าคนอย่างซีกัลเนี่ยหรอ คือผู้ที่บรรลุในทางธรรมที่กลับชาติมาเกิด? เห็นได้จากการที่เขาเคยมีประเด็นที่พยายามจะคุกคามทางเพศดาราสาวคนอื่นแล้วผู้คนจึงสันนิษฐานว่า ซีกัลได้ถูกแต่งตั้งว่ากลับชาติมาเกิดเพราะบริจาคให้วัดไปเยอะแน่ ๆ 

แต่เรื่องกลับชาติมาเกิดหรือไม่นั้นไม่ใช่ประเด็นหลักที่เรากำลังจะพูดถึงในบทความนี้ เพราะสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงคือการที่พุทธศาสนา นอกจากจะพาหลักธรรมในการดำเนินชีวิต (ที่เขาดูจะไม่เจริญรอยตามเสียเท่าไหร่) มันยังพา ‘มาเฟีย’ มาหาเขาอีกด้วย

เมื่อเขาได้หันไปเข้าทางธรรม ที่ปรึกษาทางด้านพุทธศานาก็ชี้แนะแก่ซีกัลว่า อย่าไปทำมันเลยหนังบู๊ หนังหักกระดูกคน หนังที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเพื่อนมนุษย์ มันเป็นบาป ซีกัลผู้เลื่อมใสอย่างเต็มหัวใจจึงเกิดความคิดในหัวที่จะเลิกเล่นหนังบู๊และถอยห่างออกจากการเป็นดาวบู๊ที่นาสโซมุ่งมั่นปั้นขึ้นมา จนเขาได้เริ่มถอนตัวและเบี้ยวสัญญาหลายงานจนปัญหาเกิด

แน่นอนนาสโซไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ท่ามกลางผู้คนมากมายในบ่อปลา เขาอุตส่าห์เลือกปลาถูกตัว แต่ปลาตัวนั้นกลับอยากกลับลงบ่อเพราะกลัวผิดศีลข้อที่หนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะคนเรามีสิทธิ์เลือก ใช่ครับ มันควรเป็นแบบนั้นแหละ แต่เมื่อใดที่มีผลประโยชน์มาข้องเกี่ยว มันก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปน่ะสิ

นาสโซเป็นโปรดิวเซอร์ที่มีอิทธิพลคนหนึ่งในฮอลลีวูด แถมเขายังมีความสัมพันธ์ที่โยงใยกับครอบครัวมาเฟียอีกด้วย และครอบครัวมาเฟียหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้โดยตรงก็คือ ‘ตระกูลแกมบิโน’ (Gambino Family) พวกเขาอยู่เบื้องหลังและน่าจะได้-เสียกับผลประโยชน์จากดาราบู๊หลายคน และการที่ดาราบู๊คนหนึ่งที่กำลังอยู่ในจุดพีค ดื้อดึงและกำลังทำให้เขาเสียประโยชน์ การยื่นมือเข้ามาเกี่ยวจึงเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยง

ณ ตอนนั้นซีกัลก็ไม่ได้รู้อะไรว่าตัวเขากำลังโดนหนึ่งในตระกูลมาเฟียที่มีอิทธิพลที่สุดในฮอลลีวูดหมายหัว จนกระทั่งปี 2001 ที่เขาถูกบังคับให้ขึ้นรถปริศนาเพื่อไปพบกับ แอนโธนี่ ‘ซอนนี’ ชีโคเน (Anthony ‘Sonny’ Ciccone) หัวหน้ามาเฟียตระกูลแกมบิโนที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง และพวกเขาก็ขู่ให้ซีกัลกลับมาแสดงหนังกับนาสโซเหมือนเดิมและต้องจ่ายเงินให้พวกเขา 150,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อภาพยนตร์ทุกเรื่องที่นาสโซได้เป็นเคยผู้ผลิต ท้ายที่สุดแล้วซีกัลก็ต้องจ่ายเงินไปกว่า 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ

นับเป็นโชคดีของซีกัลที่สามารถสถานการณ์ดังกล่าวมาได้ หลังจากการพบปะครั้งนั้นก็ได้มีคน ๆ หนึ่งมาบอกกับเขาว่า

ถ้าคุณพูดอะไรไม่เข้าหูไปสักไปนิดเดียวนะ พวกนั้นมันเก็บคุณแน่นอน

ท้ายที่สุดตระกูลแกมบิโนก็ถูกทางการกวาดล้างและถูกจับเขาตารางกันไปหมด รวมถึงนาสโซด้วย แต่ดูเหมือนว่านาสโซจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะนาสโซก็ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเกี่ยวกับการที่ซีกัลผิดสัญญาเรื่องการแสดงกับเขาและเรียกค่าเสียหายกว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็หาทางไกล่เกลี่ยกันได้นอกชั้นศาลและเรื่องราวนี้ก็จบไป

 

ซี้กับปูตินจนได้สัญชาติ

ไปสนิทกับปูตินได้ไง?

คงเป็นคำถามยอดฮิตที่ลอยขึ้นมาในความคิดของใครหลายคนอย่างแน่นอน ว่าพระเอกสายบู๊ไปสนิทกับประธานาธิบดีรัสเซียอย่าง ‘วลาดีมีร์ ปูติน’ (Vladimir Putin) ได้ยังไงกัน สนิทกันถึงขั้นที่ว่าซีกัลนิยามความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีรัสเซียว่าเขาเปรียบเสมือน ‘เพื่อนรัก’ หรือ ‘พี่-น้อง’ กันเลยทีเดียว (ทั้งคู่อายุเท่ากัน) แถมยังเคยบอกว่า

(ปูตินคือ) หนึ่งในผู้นำที่ดีที่สุดที่โลกใบนี้เคยมีมา

เรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันเริ่มต้นในปี 2003 (ปีเดียวกับที่ตระกูลแกมบิโนเกมนั่นแหละครับ) ณ เทศกาลภาพยนตร์แห่งมอสโก (Moscow Film Festival) และด้วยความที่ทั้งคู่มีความรักในศิลปะการต่อสู้เหมือนกัน (จริง ๆ ประเด็นเรื่องศิลปะการต่อสู้ของซีกัลนี่ก็สามารถกล่าวถึงได้อีกประเด็นหนึ่งเลย เพราะคนก็มาตั้งคำถามกับแกมากมายไปหมด จนครั้งหนึ่งมีนักมวยคนหนึ่งเคยมาเล่าว่าเขาเคยประชันกับซีกัล แล้วซีกัลก็ไปห้าวใส่เขาจนโดนน็อค ‘อึราด’ เลยทีเดียว แต่เอาไว้พูดถึงกันในบทความต่อไปก็แล้วกันครับ) 

 

‘สตีเวน ซีกัล’ อดีตดาวบู๊สู่ซี้ ‘ปูติน’ เคยอินศาสนาพุทธจนเกือบโดนมาเฟีย ‘เก็บ’

 

และด้วยความที่มีความชอบเหมือนกัน ทั้งคู่จึงเริ่มสนิทกันขึ้นเรื่อย ๆ และได้ไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ไปรับชมการแสดงศิลปะการต่อสู้รูปแบบต่าง ๆ ร่วมกัน ทั้งคู่ก็สนิทกันเรื่อยมาจนมาถึงปี 2015 ในช่วงที่สหรัฐอเมริกามีประธานธิบดีเป็น บารัค โอบามา (Barack Obama) ปูตินถึงกับทำเรื่องไปหาโอบามาขอให้ซีกัลเป็น ‘ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์’ (Honorary Consul) เพื่อจะได้สานสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกด้วย และสตีเวน ซีกัล ก็เป็นคนที่เข้าข้างรัสเซียมาโดยตลอด ตั้งแต่การบุกยึดไครเมียจนโดนยูเครนแบนไม่ให้เข้าประเทศไปในปี 2017 เป็นเวลากว่า 5 ปี 

นับว่าเป็นเรื่องราวสุดงงและประวัติสุดแปลกของชายนามว่า สตีเวน ซีกัล อย่างน้อยเรื่องราวนี้ก็ทำให้เห็นด้านมืดของวงการฮอลลีวูดว่าแม้ฉากหน้ามันจะดูสวยหรู แต่เบื้องหลังอาจจะมีความโหดร้ายเช่นนี้ซ่อนอยู่ แท้จริงแล้วยังมีเรื่องราวอีกมากมายของ สตีเวน ซีกัล แต่แทบจะทั้งหดล้วนเป็นวีรกรรมเกี่ยวกับเรื่องราวด้านลบทั้งนั้น จนใครหลายคนก็อยากจะเบือนหน้าหนี

แต่ก็อย่างที่บอกแหละครับ ใครคนนั้นไม่ใช่ ‘วลาดีมีร์ ปูติน

 

ภาพ
Getty Images
IMDb

อ้างอิง
The Untold Truth Of Steven Seagal - The Looper

The Gambino Mafia family once shook down Steven Seagal – and lived - We Are The Mighty

ACTION STAR: I WAS MUSCLED BY THE MOB - New York Post

THE RISE AND FALL OF STEVEN SEAGAL - Grunge