11 มี.ค. 2566 | 22:38 น.
- ฟิล์ม รัฐภูมิ โด่งดังในช่วงทศวรรษ 2550 กระทั่งมาเจอกระแสข่าวดราม่าเรื่องความสัมพันธ์กับนักแสดงหญิงอีกราย
- ผลจากดราม่าครั้งนั้นส่งผลต่อเส้นทางบันเทิงของเขา เวลาต่อมา ฟิล์ม รัฐภูมิ เบนมาสู่สายการเมือง แต่ก็ย้ายพรรคบ่อยครั้ง
ในช่วงยุคปี พ.ศ. 2548 คงไม่มีใครปฏิเสธความโด่งดังของ ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์’ นักร้อง นักแสดงดาวรุ่งของอาร์เอส ที่โด่งดังมากในยุคนั้น แต่ทว่าเส้นทางในวงการบันเทิงกลับสะดุดลงจากพิษดราม่า จนต้องโซซัดโซเซหายไปจากวงการบันเทิงอยู่ช่วงหนึ่ง
‘ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์’ เกิดวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 เป็นชาวอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เรียนจบชั้นประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนอำนวยพิทยา และระดับมัธยมปลายจาก โรงเรียนจันทร์หุ่นบำเพ็ญ ก่อนจะมาต่อในระดับอุดมศึกษาและจบปริญญาตรีจาก คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์สื่อดิจิตอล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม และ ปริญญาโท คณะบริหารการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ก่อนจะมาเป็นดางรุ่งของอาร์เอส ฟิล์ม รัฐภูมิ เคยถูกวางตัวให้เป็นหนึ่งในสมาชิกวงบอยแบนด์ ชื่อ ‘G-BOYZ’ ที่อยู่ในสังกัดสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ร่วมกับ ‘เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร’ และ ‘แบงค์ พิสิษฐ คำยอด’ ซึ่งมีผลงานเพลงออกมา 2 ผลงาน นั่นก็คือเพลง ‘ยิ้ม ยิ้ม’ ที่รีเมคจากต้นฉบับของ ‘อ้น ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์’ และเพลง ‘ไม่รู้จะเลือกใคร’ ต้นฉบับของ ‘ชาคริต แย้มนาม’ แต่ทว่าตอนนั้นไม่ได้รับการโปรโมทมากนัก จึงยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายมาอยู่ในสังกัดอาร์เอส ซึ่งเป็นค่ายคู่แข่งในตอนนั้น
อาร์เอส กลายเป็นบ้านที่สร้างชื่อให้กับฟิล์ม รัฐภูมิ ได้โด่งดังเป็นพลุแตก และมีผลงานออกมาทั้ง เพลง ละคร ภาพยนตร์ ด้วยหน้าตาหล่อเหลาสไตล์โอปป้าเกาหลี ทำให้ ฟิล์ม รัฐภูมิ กลายเป็นพระเอกในใจของแฟน ๆ ได้ไม่ยาก
ฟิล์ม รัฐภูมิ กับผลงานที่ปังทั้งเพลงและละคร
ฟิล์ม รัฐภูมิ มีผลงานอย่างหลากหลายในหลายส่วน โดยเฉพาะผลงานเพลงในยุคนั้นถือว่าครองอันดับหนึ่งในทุกชาร์ตทุกคลื่นวิทยุในประเทศไทย โดยเฉพาะเพลง ‘ที่ที่เรารักกัน’ ที่ถือว่าเป็นเพลงที่โด่งดังมาก ๆ ในยุคนั้น
ส่วนผลงานละครก็ไม่น้อยหน้า ไต่ระดับความปังมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้ประกบคู่กับนางเอกชื่อดังของค่ายและนางเอกของช่อง 3 ในยุคนั้นแทบจะทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ‘โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล’ ใน หัวใจลัดฟ้า, ‘แพท ณปภา ตันตระกูล’ ใน หิมะใต้พระจันทร์, ‘ตอง ภัครมัย โปตระนันท์’ ในเสน่ห์นางงิ้ว, ‘เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ’ ในคุณชายร้ายเล่มเกวียน และ ‘ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ’ ใน ละครเมียเถื่อน เป็นต้น
นอกจากผลงานทางหน้าจอที่ปังอย่างต่อเนื่อง ในยุคนั้นฟิล์ม รัฐภูมิ ยังได้เป็นตัวแทนโครงการที่สำคัญ อาทิ ได้รับคัดเลือกให้เป็น Brand Ambassador ของมูลนิธิที่อยู่อาศัย (Habitat For Humanity) พรีเซนเตอร์ งดเหล้าเข้าพรรษา ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนงานโฆษณาหน้าจอทีวีอีกเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย
ไม่ว่าจะเป็น ลูกกตัญญู ประจำปี 2552 เนื่องใน วันแม่แห่งชาติ, รางวัลขวัญใจนักข่าวฝ่ายชาย จาก Star Entertainment Awards 2008, รางวัลนักร้องขวัญใจวัยรุ่น จาก OHO Awards 2008, รางวัลพระเอกนักสังคมสงเคราะห์ประจำปี 2552 จาก Star Party 20 ปี ทีวีพูล, รางวัลนักแสดงดาวรุ่งฝ่ายชายยอดเยี่ยมจาก Star Entertainment Awards 2005 และ ดาวรุ่งชายยอดเยี่ยม จากละคร หัวใจลัดฟ้า ในงาน Top Awards 2005
เป็นเครื่องการันตีชัดเจนถึงความสำเร็จในวงการบันเทิงของผู้ชายที่ชื่อ ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้เป็นอย่างดี
ฟิล์ม รัฐภูมิ และ ข้อพิพาทระหว่าง ‘เสี่ยอู๊ด’
ในช่วงปี พ.ศ. 2549 ขณะที่ชีวิตและการงานในวงการบันเทิงกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น เกิดทอล์คออฟเดอะทาวน์ครั้งใหญ่ระหว่าง ฟิล์ม รัฐภูมิ และ ‘เสี่ยอู๊ด สิทธิกร บุญฉิม’ เสี่ยพระเครื่องชื่อดังผู้ล่วงลับไปแล้วขึ้นมา เกี่ยวกับประเด็นที่เสี่ยอู๊ดเคยช่วยเหลือฟิล์ม เรื่องเงิน ทอง บ้าน และรถ จนถูกขุดคุ้ยกันยกใหญ่
ซึ่งฟิล์ม ออกมาแถลงข่าวยอมรับว่า รู้จักเสี่ยอู๊ด เพราะว่าจ้างไปเล่นคอนเสิร์ตที่ระยอง ส่วนเรื่องการช่วยเหลือเรื่องเงินหลักล้าน ฟิล์ม ยอมรับว่า ตอนเข้าวงการใหม่ ๆ ทางครอบครัวตนค่อนข้างมีหนี้สินเยอะ ประสบปัญหาบ้านถูกยึด อีกฝ่ายเลยยื่นมือเข้ามาช่วย จำนวนเงินตรงตามที่อีกฝ่ายพูดหมดเลย
ส่วนเรื่องรถมินิคูเปอร์ที่มีข่าวว่าเสี่ยอู๊ดซื้อให้ ฟิล์ม ยืนยันว่าแค่ไปปรึกษาว่าอยากได้รถ ไม่เคยเอ่ยปากขอ
“ผมไม่เคยลืมบุญคุณนะครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังจำว่าพี่เขามีบุญคุณแล้วผมก็อยากขอบคุณเขามาก ที่มีบุญคุณกับครอบครัวผมกับผม แต่ถ้ามาบอกว่าผมลืมบุญคุณหรือเปล่า คงไม่ถึงขั้นนั้น ไม่มีเรื่องชู้สาว ไม่มีเลย
ถ้าให้สรุปความสัมพันธ์ พี่เขาเป็นพี่ที่มีบุญคุณ เป็นพี่ที่นับถือเสมอ ผมเคยปฏิเสธสิ่งที่พี่เค้าให้ แต่พี่เค้าบอกว่าอยากช่วยจริงๆ ผมเห็นว่าเค้าปรารถนาดีอยากช่วยจริงๆ ตอนนั้นผมยังเด็ก จะปฏิเสธเลยก็คงไม่ได้ครับ” คำพูดในวันแถลงข่าวของฟิล์ม รัฐภูมิ
โดยทางเสี่ยอู๊ด ได้ออกมาแถลงข่าวตอบโต้คำพูดของฟิล์มในทุกประเด็น และกลายเป็นความบาดหมางที่เข้าขั้นเป็นความเกลียดชังจากฝั่งเสี่ยอู๊ดที่มีต่อฟิล์ม รัฐภูมิ
ประเด็นข้อพิพาทของเสี่ยอู๊ดและฟิล์มครองพื้นที่สื่ออยู่พักใหญ่ ก่อนจะค่อย ๆ เงียบหายไปจากหน้าสื่อ และในปี พ.ศ. 2551 ศาลได้ตัดสินจำคุก เสี่ยอู๊ด ฐานฉ้อโกงประชาชน ฐานใช้และเลียนแบบเครื่องหมายราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมจำคุก 5 ปี และให้คืนเงินกว่า 4 ล้าน ก่อนจะพ้นโทษออกมาในปี พ.ศ. 2556 และในปี พ.ศ. 2558 ปรากฎข่าวเสี่ยอู๊ดเสียชีวิตจากการกินยาฆ่าตัวตาย พร้อมทิ้งจดหมายระบายความในใจเชิงตัดพ้อเอาไว้
ฟิล์ม รัฐภูมิ และดราม่าระหว่าง ‘แอนนี่ บรู๊ค’
กลางปี พ.ศ. 2553 ขณะที่การงานกำลังไปได้ราบรื่น ชื่อของ ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้กลับมาครองพื้นที่สื่ออีกครั้ง ด้วยกระแสข่าวทำ ‘แอนนี่ บรู๊ค’ อดีตนักแสดงและนางแบบสาวท้อง ซึ่งตัวของฟิล์ม ก็ได้ออกแถลงข่าวยอมรับว่าเคยคบหากับแอนนี่จริง แต่ปฏิเสธที่จะรับเป็นพ่อของลูก เนื่องจากในตอนนั้นมีข่าวนักแสดงชายหลายคนพัวพันกับแอนนี่ บรู๊ค ด้วย และยืนยันให้ทางแอนนี่ตรวจดีเอ็นเอเสียก่อน แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมจนกลายเป็นดราม่าเรื้อรังอยู่พักใหญ่
ท้ายที่สุด ฟิล์ม รัฐภูมิ ตัดสินใจยุติงานในวงการบันเทิง ลาบวช ก่อนจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และแม้ว่าปัจจุบันผลจะออกมาว่าฟิล์ม รัฐภูมิ ไม่ใช่พ่อของลูกแอนนี่ แต่ฟิล์ม ก็ไม่สามารถกลับไปมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงได้เหมือนครั้งที่กำลังรุ่งเรืองได้อีก
ฟิล์ม รัฐภูมิ กับเส้นทางงานการเมือง
ปี พ.ศ. 2561 ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้ก้าวขาเข้าไปในเส้นทางงานการเมืองอย่างเป็นทางการ โดยได้สมัครเป็นสมาชิก พรรคพลังท้องถิ่นไท ของ ‘ชัช เตาปูน’ และได้รับเลือกให้เป็นรองโฆษกพรรค
ในครั้งนั้นฟิล์ม ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.กทม. แต่ได้ถูกขยับขึ้นไปอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อในลำดับที่ 8 และไม่ได้รับตำแหน่ง ส.ส. เนื่องจากพรรคพลังท้องถิ่นไทได้ที่นั่ง ส.ส. บัญชีรายชื่อเพียง 3 ที่นั่งเท่านั้น
12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ฟิล์มตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นรองโฆษกพรรคและสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไท โดยให้เหตุผลว่าอุดมการณ์ของตัวเองกับทางพรรคไม่ตรงกัน และได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยมี ‘คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์’ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ณ ขณะนั้น ให้การต้อนรับ
และหลังจากที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลาออกจากพรรคเพื่อไทยและมาตั้งพรรคใหม่อย่าง ‘พรรคไทยสร้างไทย’ ฟิล์ม รัฐภูมิ ก็ได้เข้ามาเป็นสมาชิกและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองโฆษกพรรค อีกทั้งยังได้ลงพื้นที่กับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่ง 31 ตุลาคม พ.ศ. 2565 มีรายงานว่า ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอลาออกจากสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย แต่ไม่ได้แจ้งให้พรรคทราบอย่างเป็นทางการ
ก่อนจะปรากฎภาพ ฟิล์ม รัฐภูมิ เดินตามหลัง ‘นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระหว่างลงพื้นที่ ติดตามการดำเนินโครงการดิจิทัลชุมชนที่จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ร่วมถึงไปร่วมประชุมรัฐมนตรีดิจิทัลของภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค Asia – Pacific Digital Ministerial Conference สมัยที่ 1 ที่สาธารณรัฐเกาหลี พร้อมนายชัยวุฒิ
จนท้ายที่สุดการยืนยันชัดว่า ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 และได้รับการแต่งตั้งจาก ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ทำหน้าที่เป็นโฆษกคนรุ่นใหม่ ร่วมเสริมทีมสื่อสารนโยบายพรรคสู่สังคม
ทำให้ชื่อของฟิล์ม รัฐภูมิ ถูกคนในสังคมที่มีความสนใจในการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ถึงจุดยืนทางการเมืองอย่างหนัก เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่เอากลุ่มเผด็จการ รวมถึงประเด็นย้ายพรรค 4 พรรคในรอบ 4 ปี
ต้องเฝ้ารอดูว่าจากนี้ไปในเส้นทางการเมืองของฟิล์ม รัฐภูมิจะมีการโยกย้ายเปลี่ยนพรรคอีกหรือไม่
เรื่อง: Realllaom K.
ภาพ: แฟ้มภาพ NATION PHOTO