20 ต.ค. 2566 | 08:36 น.
- 21 ตุลาคม 2566 พัคซอจุนจะมาร่วมงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทยที่แฟนคลับยอมทุ่ม 78 ล้านเพื่อกระทบไหล่
- พัคซอจุน คืออดีตเด็กขี้อายที่ใช้การแสดงทลายความกลัวของตัวเองก่อนก้าวสู่นักแสดงดาวรุ่งคนหนึ่งในเกาหลีใต้
- ถึงจะมีผลงานมากมาย แต่พัคซอจุนเชื่อว่าทุกผลงานคือจุดเปลี่ยนในชีวิตการแสดงของเขาแล้ว
พัคซอจุนคือนักแสดงเกาหลีคนที่ 3 ที่ได้ร่วมงานกับ Marvel Studio หลังสตูดิโอจากสหรัฐอเมริกาปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์และโปสเตอร์จากเรื่อง ‘The Marvels’ ภาคต่อของ ‘Captain Marvel’ ที่เตรียมฉายวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 นี้
อีกทั้ง 21 ตุลาคม 2566 พัคซอจุนจะมาร่วมงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทยในงาน ‘Lotus’s Anniversary 2023 The Golden Moment Park Seo Jun Meet & Greet in Bangkok ฟินไม่พักกับพัคซอจุน’
อีกทั้งการเข้าร่วมแฟนมีตติ้งครั้งนี้ แฟนคลับไม่ต้องแย่งซื้อบัตร แต่ต้องแข่งกันซื้อสินค้าจากร้านค้าในพันธมิตรของโลตัสเพื่อให้เป็นหนึ่งใน 2,500 คนที่ทำยอดซื้อสูงสุดที่จะได้สิทธิ์ไปกระทบไหล่นักแสดงดัง
ผลปรากฏว่า ‘ยอดซื้อ’ สูงสุดอยู่ที่ 78 ล้านบาท! จนหลาย ๆ คนหันมาจับตามองการเยือนประเทศไทยครั้งนี้ของพัคซอจุน
ขณะเดียวกัน อาจมีคนสงสัยว่า พัคซอจุนคือใคร และเหตุผลอะไรที่ทำให้แฟนคลับกล้าทุ่มทุนหลักล้านเพื่อกระทบไหล่ศิลปินในดวงใจ
บทความนี้ The People ชวนย้อนดูเส้นทางการเป็นนักแสดงของพัคซอจุน รวมถึงแนวคิดของเขาต่อการแสดง สิ่งที่เขาเลือกเพื่อทลายความขี้อายของตัวเองในวัยเด็ก
เด็กขี้อายสู่นักแสดงดาวรุ่ง
พัคซอจุนวัยมัธยม คือ เด็กขี้อาย ไม่กล้าคุยกับใคร
ในบทสัมภาษณ์ของสำนักข่าว Korean Herald ปี 2017 พัคซอจุนให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมไม่กล้าแม้แต่จะสั่งอาหารที่ร้าน เพราะผมอาย”
เด็กขี้อายคนนี้เลยตัดสินใจท้าทายตัวเองครั้งใหญ่ ด้วยการสมัครเข้าร่วมชมรมแอนิเมชันของโรงเรียน
งานแรกของเขาคือการแต่งตัวคอสเพลย์ (การแต่งตัวเหมือนกับคาแรกเตอร์ของการ์ตูน) ในเทศกาลงานศิลปะของโรงเรียน
“ครั้งแรกที่ผมแสดง ผมไม่ได้กลัวผู้ชม ผมเองก็รู้สึกเซอร์ไพรส์ตัวเองเหมือนกัน” พัคซอจุนเล่าไว้ในบทสัมภาษณ์ของ Korean Herald
การแสดงครั้งแรกที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด พัคซอจุนก็เลยเลือกที่จะสานต่อความสามารถด้านการแสดงจากการสมัครเรียนที่สถาบันการแสดงตอนเรียนชั้นมัธยมปลาย
หลังจากนั้น พัคซอจุนก็ใช้ชีวิตในฐานะเด็กนักเรียนทั่วไป ทำงานพาร์ตไทม์ เรียนพิเศษ และสอบเข้าคณะละคร มหาวิทยาลัยแห่งชาติคยองพุค (Kyungpook National University)
เมื่อเวลาและโอกาสมาถึง ปี 2012 พัคซอจุนในวัย 24 ปีก็ได้เดบิวต์ในฐานะนักแสดงครั้งแรกผ่านบทบาทของ ‘ชีอู’ หนึ่งในสมาชิกไอดอลวง ‘EDEN’ จากซีรีส์ Dream High 2
คาแรกเตอร์ของชีอู คือ หนุ่มเจ้าชู้ที่ถูกส่งเข้าไปในโรงเรียนศิลปะแห่งหนึ่งตามข้อตกลงของบริษัทที่แม้จะแสดงเป็นเรื่องแรก แต่พัคซอจุนก็เล่นอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังได้โชว์ความสามารถร้องและเต้นด้วย
เรื่องแรกผ่านไป เขาก็มีผลงานต่อเนื่อง แต่เรื่องที่ทำให้ใครหลายคนรู้จักนักแสดงพัคซอจุนมากขึ้นคือเรื่อง ‘Kill Me, Heal Me’ ซีรีส์แนวโรแมนติก - คอมเมดี้ที่เขาเล่นประกบคู่กับ ‘จีซอง’ นักแสดงมากความสามารถของเกาหลี รวมถึงเรื่อง ‘She Was Pretty’ ซีรีส์โรแมนติกที่พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทที่แอบรักกัน และบท ดูมัน ในซีรีส์แนว Coming of Age
และเป็นที่รู้จักมากขึ้นในบทหนุ่มดอกไม้แห่ง ‘ฮวารัง’ จากซีรีส์ Hwarang: The Beginning ปี 2016 และการรับบท ‘โกดงมัน’ นักมวยผู้ไล่ล่าความฝันจากซีรีส์ ‘Fight For My Way’ ปี 2017
จริง ๆ แล้ว ผลงานในช่วงแรกบนเส้นทางการแสดงของพัคซอจุน (รวมถึงบทบาทของเขาในปัจจุบันด้วย) บางเรื่องเขาเป็นพระเอก บางเรื่องเป็นพระรอง และบางเรื่องเป็นเพียงทีมนักแสดงนำ
สำหรับพัคซอจุน เขามองว่าการแสดงคือการถ่ายทอดอารมณ์ ดังนั้นเขาเลยคิดว่าทุกบทบาทก็มีความสำคัญที่จะเล่าเรื่องของพวกเขาเอง
“ผมคิดว่าผมไม่จำเป็นต้องเป็นดาวเด่นในฉากใดฉากหนึ่งเสมอไป ผมคิดว่าการแสดงเป็นเรื่องเกี่ยวกับอารมณ์มากกว่าสิ่งที่เรากำลังแสดง ดังนั้นคุณจำเป็นต้องเข้าใจตัวละครอื่น และตอบกลับพวกเขา นั่นถึงทำให้ฉากและงานเหล่านั้นดูมีชีวิต”
ซาจังนิมหัวเกาลัดที่พาอิแทวอนดังไกลระดับโลก บทบาทที่ทำให้พัคซอจุนเติบโตไปอีกขั้น
อิแทวอน คลาส (Itaewon Class) เป็นซีรีส์เกาหลีที่รีเมกจากเว็บตูนชื่อเรื่องเดียวกัน
แม้เส้นเรื่องจะเหมือนกัน แต่พัคซอจุนก็ถ่ายทอดชีวิตของ ‘พัคแซรอย’ เด็กหนุ่มที่สู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับ ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาไม่ยอมแพ้ สู้กับอำนาจ สู้กับทุนนิยม และสู้กับตัวเองจนเป็นเจ้าของร้านอาหารย่านอิแทวอนได้สำเร็จ
และอาจเป็นเพราะซีรีส์เรื่องนี้ได้พูดแทนความรู้สึกของมนุษย์เงินเดือน คนทำงาน และคนที่กำลังเจอปัญหาชีวิตได้อย่างดี เลยทำให้อิแทวอน คลาส ดังไกลไปทั่วโลก
แล้วถึงจะจำเนื้อหาซีรีส์ไม่ได้ หรือชื่อตัวละครไม่ได้ แต่คิดว่าคุณอาจจะเคยเห็นภาพโปรโมตซีรีส์ที่มีผู้ชายตัดผมทรงเกาลัดอยู่บ้าง
ข้อมูลจาก Nielson Korea ปี 2020 ระบุว่า อิแทวอน คลาสเป็นซีรีส์ที่มีเรตติ้งสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของช่อง JTBC และสูงเป็นอันดับ 2 ของรายการโทรทัศน์เกาหลีด้วยเรตติ้งตอนสุดท้ายที่สูงถึง 16.5% จากผู้ชมทั่วโลก และสามารถครองใจผู้ชมชาวเกาหลีด้วยเรตติ้ง 18% ในช่วงเวลาที่มีผู้เข้าชมสูงสุด
ในงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์เรื่องนี้ พัคซอจุนบอกว่า เขาอยากจะถ่ายทอดความเป็นพัคแซรอยในแบบของเขาเอง แม้ว่าแฟน ๆ บางคนอาจจะรู้จักพัคแซรอยมาก่อนแล้ว
“มีแฟน ๆ มากมายที่รู้จักพัคแซรอยจากเว็บตูน แล้วมาดูซีรีส์เรื่องนี้ แล้วสำหรับพวกเขา เขาก็มีภาพของพัคแซรอยในแบบพวกเขาเอง เช่นเดียวกัน ผมก็มองเห็นพัคแซรอยผ่านมุมมองของผมเหมือนกัน ผมเลยต้องการที่แสดงเป็นพัคแซรอยที่ผสมความเป็นตัวผมลงไปด้วย”
ขณะเดียวกัน ในฐานะผู้ชมก็ต้องยอมรับว่า พัคแซรอยทำให้ชื่อนักแสดงพัคซอจุนได้รับความนิยมและอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตการทำงานด้านการแสดงของเขาเลยทีเดียว
แต่มุมมองของนักแสดง บทสัมภาษณ์จากนิตยสาร Esquire Korea พัคซอจุนบอกว่า พัคแซรอยก็มอบบทเรียนชีวิตที่ทำให้เขาเติบโตไปพร้อมกับตัวละครนี้ด้วยเช่นกัน
“ตอนแรกผมไม่ได้เป็นคนที่สนใจประเด็นสังคมเท่าไร แต่พัคแซรอยไม่ได้เป็นแบบนั้น ระหว่างถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ ผมคิดถึงเรื่องนี้มากขึ้น ขณะที่พัคแซรอยเติบโตในซีรีส์ ตัวผมเองก็ได้เติบโตและพัฒนาไปด้วยเหมือนกัน”
ไม่เพียงแต่แฟนซีรีส์จะเอาคำพูดของพัคแซรอยมาเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต แต่พัคซอจุนเองก็มีคำพูดประทับใจของตัวละครนี้ที่ทำให้เขาต้องกลับมาทบทวนชีวิตการทำงานของเขาที่ผ่านมาด้วย
คำพูดนั้นคือคำพูดของพัคแซรอยในวันที่เขารู้สึกหมดหวัง หมดทางไปต่อ แต่ก็ฝันถึงอนาคตที่ดีกว่า
“ไม่ว่าความอยุติธรรม หรือใครหน้าไหนก็ไม่อาจมารุกรานชีวิตที่ผมเลือกได้เอง อยากจะศรัทธาอะไรก็ไม่มีผลตามมา ผมอยากจะใช้ชีวิตแบบนั้น” พัคแซรอยพูดในอิแทวอน คลาส
พัคซอจุนเล่าในงานแถลงข่าวว่า ประโยคนี้ทำให้เขากลับมานึกถึงชีวิต ความเชื่อ ความศรัทธาของพัคซอจุนว่า บางครั้งก็ต้องยืนหยัดในบางอย่างเพื่อตัวเองบ้าง
เมื่อซีรีส์ออกอากาศครบทุกตอน พัคซอจุนเขียนถึงพัคแซรอยผ่านแคปชันในอินสตาแกรมส่งท้ายไว้ว่า
“เมื่อวานเหล้าหวานมาก มันหวานเพราะผมได้รับความรักและความสนใจจากผู้คนมากมายตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ใช้ชีวิตมากับพัคแซรอย ผมคิดว่าพัคซอจุนก็เติบโตไปด้วยเหมือนกัน ขอบคุณนักแสดงและทีมงานทุกคนที่ทำให้ผมกลับมาคิดถึงความเชื่อและคุณค่าของชีวิตอีกครั้ง
“ตอนนี้พัคแซรอยกลายเป็นไดอารี่อีกหน้าหนึ่งของผม ขอบคุณที่มอบความรักและสนับสนุนซีรีส์เรื่องนี้มาตลอดนะครับ มันเป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์และสวยงามเพราะทุกคน…”
เจ้าพ่อรอมคอมที่อยากเปลี่ยนบทบาท
ด้วยเวลาและโอกาสในช่วงเริ่มต้นชีวิตนักแสดงทำให้หลายคนอาจติดตาพัคซอจุนในลุคพระเอกหนุ่มมาดกวน ตลกหน้านิ่ง รวมถึงซาจังนิมแสนอบอุ่นก็ตาม
แต่ในปี 2023 จากบทสัมภาษณ์ของเว็บไซต์ SBS Star พัคซอจุนประกาศว่า เขาจะงดรับผลงานสายโรแมนติก - คอมเมดี้ชั่วคราว เพื่อท้าทายตัวเองผ่านงานแนวอื่น
“ตั้งแต่ทำงานวันแรกจนถึงตอนนี้ ส่วนใหญ่ละครที่ผมมีโอกาสแสดงจะเป็นแนวโรแมนติก - คอมเมดี้มาตลอด มันยิ่งทำให้ผมอยากลองงานแนวอื่น ผมก็ไม่อยากพลาดความสนุกในการทำงานแนวนั้น
“ตั้งแต่ซีรีส์ ‘What’s Wrong with Secretary Kim’ จบ ผมก็เลือกที่จะปฏิเสธผลงานแนวโรแมนติก - คอมเมดี้ ผมชอบผลงานแนวนี้นะ และผมก็ทำได้ ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำ แต่ผมอยากจะลองทำงานแบบอื่นบ้าง”
ขณะที่ข้อมูลจาก Herald Pop อธิบายเพิ่มเติมว่า พัคซอจุนยกตัวอย่าง ‘Concrete Utopia’ และ ‘Gyeongseong Creature’ ผลงานการแสดง 2 เรื่องล่าสุดของเขาว่าแตกต่างจากผลงานเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมาตลอด 12 ปีในวงการบันเทิงของนักแสดงคนนี้
“จะเห็นว่า ‘Concrete Utopia’ และผลงานเน็ตฟลิกซ์เรื่องล่าสุดเรื่อง ‘Gyeongseong Creature’ นั้นเป็นแนวที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ผมคงจะเลือกผลงานที่ดูน่าสนใจ”
“นี่เป็นสิ่งที่ผมคิดในวันนี้ แต่ถ้ามีงานสายโรแมนติก - คอมเมดี้ที่ดี ผมก็คงตอบรับเล่น”
ทุกผลงานคือประสบการณ์ใหม่และจุดเปลี่ยนชีวิต
พัคซอจุนคือนักแสดงที่อยู่ในวงการบันเทิงมากว่า 10 ปี ผ่านมาแล้วหลายบทบาท ทั้งเด็กหนุ่มผู้ไล่ล่าความฝัน เจ้าของร้านทันบัมสู้ชีวิต ประธานบริษัทสุดเท่ และอีกมากมาย
บทสัมภาษณ์จากนิตยสาร W Korea ในปี 2021 พัคซอจุนให้สัมภาษณ์ว่า ทุกผลงานที่ผ่านเข้ามา คือจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตการแสดงของนักแสดงพัคซอจุน
“เวลาผมให้สัมภาษณ์ บางครั้งผมก็นึกว่าผลงานไหนที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของผม แต่ผมคิดว่าทุกผลงานเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับผมหมดเลย เพราะความคิดของผมเปลี่ยนไปตามเนื้อเรื่องและการทำงานกับคนอื่น ๆ บางเรื่องประสบความสำเร็จมาก บางเรื่องประสบความสำเร็จน้อยตามสถิติต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกผลงานที่ผมเล่นนั้นมอบโอกาสให้ผมได้เติบโต และเจอประสบการณ์ใหม่ ๆ”
ในบทสัมภาษณ์เดียวกัน เขายังพูดถึงชีวิตวัย 20 ปีที่ผ่านมาของเขาอีกว่า ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าแค่ทำงานก็มีความสุข แต่วันนี้เขาจะต้องเก่งและมีความสามารถหลาย ๆ ด้าน
“แทนที่จะบอกว่า ผมจะเป็นนักแสดงต่อไป ผมอยากจะปล่อยให้ผมได้ใช้ชีวิต ไม่มีใครรู้อนาคต การแสดงอาจไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่า 10 ปีข้างหน้า ชีวิตผมจะเป็นอย่างไร”
แต่เราเชื่อว่า ต่อให้พัคซอจุนจะอยู่ในบทบาทไหน แฟน ๆ ก็จะยังคงรักและสนับสนุนเขาเสมอ เพราะในฐานะนักแสดง เขาคือนักแสดงที่มีคุณภาพ นักแสดงที่อยากให้ผู้ชมรู้สึกอิน เติบโต และเรียนรู้ไปกับคาแรกเตอร์ที่เขาสวมบทบาท
ครั้งหนึ่งในงานแถลงข่าวซีรีส์อิแทวอน คลาส พัคซอจุนบอกว่า ในฐานะนักแสดง เขาอยากจะให้ช่วงเวลา 2 ชั่วโมงที่ผู้ชมเลือกมาดูละครที่แสดงนั้นคุ้มค่าและมีความหมาย ขณะเดียวกันเขาก็จะตอบแทนความรักแฟนคลับด้วยผลงานที่ดีขึ้นต่อไปในอนาคต
ด้วยเหตุผลนี้ การมาร่วม Exclusive Fanmeeting ที่บางคนยอมจ่ายไปถึงหลักสิบล้าน น่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายและแสนพิเศษระหว่างพัคซอจุนกับแฟนคลับที่จะอยู่ในความทรงจำของพวกเขาไปอีกนาน
ภาพ : แฟ้มภาพ Getty Images, ซีรีส์ Itaewon Class
อ้างอิง :