18 เม.ย. 2567 | 15:08 น.
KEY
POINTS
อยากจะเห็นหน้า อยากจะมาดูให้ชัดเจน
มยุราตัวจริงเป็นเป็น ได้แต่เห็น เห็นแต่ในทีวี
ผมม้าปกคลุมหน้าผาก ทาปากทาแก้มโสภี
รูปร่างก็กำลังดี ปีทั้งปี ยังสาวไม่สร่าง
ตัดสินใจเด็ดขาด กี่บาทก็ยอมทุ่มเท
หม้อแกง กล้วยกวน สาเก ขายแบบเท เลหลังเป็นทุน
วันเสาร์เขามีคอนเสิร์ต เปิดแสดงให้คนดูฟรี
เพลงดังฟังดูเพราะดี มีดนตรี มีมยุรา
เสียงกระหึ่ม เครื่องไฟให้ใจมันร้อน
เสียงกลองไม่ล้าไม่ผ่อน ไม่มีขาดตอนให้เสียอารมณ์
อยากเห็นตัวใกล้ใกล้ แต่จนใจผู้คนแน่นหนา
เบียดเสียดเต้นแร้งเต้นกา ด้วยเจตนาหาสุขใส่ตัว
มองหาแม่มยุรา อีแร้งอีกาจิกกันวุ่นวาย
ลืมตัวบวกกับความตกใจ จึงร้องออกไปมยุราช่วยด้วย
เพลงมีหลายหลาก มาจากใจไทยไทยงดงาม
ไทยเดิม แตรวง หมอลำ ล้วนสร้างสรรค์ให้จรรโลงใจ
เชิญรำวงสามช่า ไม่เหยียบขาเหยียบเท้าของใคร
ขอโทษหากผิดพลั้งไป ต้องขออภัยนะมยุรา
(เพลงมยุรา ประพันธ์โดย ยืนยง โอภากุล - ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง - ระพินทร์ พุฒิชาติ ศิลปินซูซู อัลบั้มปะการังไปไหน)
อาจจะมีหลายเพลงที่เขียนถึงชื่อดารา แต่ก็มีเอ่ยแค่ชื่อบ้าง หรือเปรียบเทียบเป็นนัยบ้าง เช่นเพลง ‘ซีดไปตามกัน’ ที่มีเนื้อร้องว่า ‘สวยอย่าบอกใคร มองทางซ้ายเหมือนจารุณี มองทางขวาก็เหมือนลีลาวดี’
หรือ ‘จารุณีโป๊ะเช๊ะ’ (จารุณีเบอร์ 2) ของวง ‘แฮมเมอร์’ หรือแม้กระทั่งใช้ชื่อและนามสกุลคือ ‘โสภา สถาพร’ ผลงานในอัลบั้ม ‘บิลลี่ทรงเครื่อง’ ของ ‘บิลลี่ โอแกน’
แต่เพลงที่เขียนถึงดาราคนหนึ่งแบบเฉพาะเจาะจง แบบเต็ม ๆ เพลงก็อาจมีอยู่บ้าง แต่ที่โด่งดังและมีความร่วมสมัยก็เห็นจะเป็นเพลง ‘มยุรา’ ของวง ‘ซูซู’
นอกจาก ‘มยุรา’ ที่เป็น ‘เพลงเฉพาะตัว’ แล้ว ‘มยุรา ธนะบุตร’ ยังเคยเป็นข่าวดังในอดีตที่เธอประสบอุบัติเหตุต้องตัดมดลูก ซึ่งเป็นข่าวที่ได้รับการจดจำอย่างยาวนานในสังคมไทย เนื่องจากในยุคนั้นข่าวอะไรเกี่ยวกับดาราจะได้รับความสนใจ และประชาชนจะโฟกัสมาก
‘มยุรา ธนะบุตร’ ได้รับเกียรติเป็นดาราที่ร่วมประทับรอยพิมพ์มือ - พิมพ์เท้า ณ ‘ลานดารา’ เกียรติยศดาราไทย ของ ‘หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)’ หรือ ‘Hollywood Boulevard’ เมืองไทย
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก หอภาพยนตร์ Thai Film Archive
จากบทบาทนักแสดงผู้สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการหนังไทยคือการเป็น ‘นางเอกตลก’ ที่แตกต่างจากนางเอกรุ่นเดียวกัน ทำให้ ‘มยุรา ธนะบุตร’ เป็นหนึ่งในความทรงจำของวงการหนังไทย
จาก ‘แหม่มจ๋า’ ภาพยนตร์เรื่องแรกในปี พ.ศ. 2518 ที่เธอถ่ายทอดความน่ารักในบท ‘นางเอกหน้าเป็น’ ได้อย่างสนุกสนาน ที่ไม่เพียง ‘แจ้งเกิด’ นางเอกโฆษณาวัยรุ่นในวงการภาพยนตร์ไทย แต่ ‘แหม่มจ๋า’ ยังทำรายได้ทะลุล้าน
แม้เธอจะไม่มีพื้นฐานด้านการแสดงภาพยนตร์ เพราะเป็นนางแบบโฆษณา หากแต่ได้รับคำแนะนำจาก ‘ผู้กำกับคุ่บุญ’ อย่างคุณอา ‘ดอกดิน กัญญามาลย์’ เจ้าของวลี ‘ล้านแล้วจ้า’
‘ดอกดิน กัญญามาลย์’ ดึงตัวตนของ ‘มยุรา ธนะบุตร’ ออกมา พร้อมสอนให้เธองัดเอา ‘ความเป็นตัวเอง’ ออกมาใช้ให้มากที่สุด จนกลายเป็นเอกลักษณ์ และเป็นดาวดวงที่ 135 ที่ได้รับเกียรติพิมพ์รอยมือและรอยเท้าบน ‘ลานดารา’ หน้าโรงภาพยนตร์ศรีศาลายา ‘หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)’
ทำให้ ‘มยุรา ธนะบุตร’ กลายเป็นนางเอกหน้าใหม่ และกลายเป็น ‘ดาวรุ่งพุ่งแรง’ ของแวดวงหนังไทยนับตั้งแต่นั้น
โดยมี ‘คู่ขวัญ’ หรือ ‘คู่พระคู่นาง’ ที่แสดงนำร่วมกันต่อมาคือ ‘สมบัติ เมทะนี’ ที่โดดเด่นก็คือ ‘มยุรา ธนะบุตร’ มักรับ ‘บทตลก’ ที่แตกต่างจากนางเอกร่วมรุ่นคนอื่นๆ สร้าง ‘ภาพจำ’ อย่างรวดเร็วให้แก่นักแสดงสาววัย 17 ปี จนเป็นขวัญใจของคนไทยในเวลาต่อมา
ตลอดชีวิตการแสดงเธอมีผลงานทั้งจอแก้ว และจอเงินให้ได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสามารถที่หลากหลายครบทุกบทบาท และการดูแลตัวเองที่ทำให้ยังคงดูสวย และสดใสอยู่เสมอ ทำให้ ‘มยุรา ธนะบุตร’ เป็น ‘ดาวค้างฟ้า’ ในวงการบันเทิงไทย ชนิดที่เรียกว่าไม่มีใครปฏิเสธ
ดูเหมือน ‘มยุรา ธนะบุตร’ จะมีหลายชื่อ ทั้งในชีวิตจริง และในการแสดง เธอมีชื่อแรกเกิดว่า ‘รัตนา ชาตะธนะบุตร’ ชื่อเล่น ‘ตั๊กแตน’ หรือเรียกย่อ ๆ กันว่า ‘ตั๊ก’ เป็นบุตรคนที่ 2 จากพี่น้องทั้งหมด 4 คนในครอบครัวบิดาที่เป็นชาวจีนไหหลำอพยพ
เกิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ วิชาเอกคีตศิลป์สากล วิชาโทบัลเล่ต์ เริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงจากการเป็นนางแบบถ่ายปกนิตยสารลลนา และถ่ายงานโฆษณาสบู่ดาร์ลิ่ง โดยใช้ชื่อในการถ่ายแบบว่า ‘อัมพิกา ธนะบุตร’
สมรสกับ ‘ธาดา เศวตศิลา’ ทำให้เธอเปลี่ยนนามสกุลมาเป็น ‘มยุรา เศวตศิลา’ และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ‘กุลนภา เศวตศิลา’
‘มยุรา ธนะบุตร’ ได้รับการชักนำเข้าสู่วงการหนังไทยโดย ‘พร้อมสิน สีบุญเรือง’ หรือ ‘พันคำ’ เดิมที ‘พันคำ’ กำลังจะเปิดกล้อง ‘ทิวาหวาม’ ที่มี ‘นัยนา ชีวานันท์’ นางเอกเบอร์หนึ่งในขณะนั้น รับบทนางเอก แต่ทางต้นสังกัดของ ‘นัยนา’ คือ ‘ละโว้ภาพยนตร์’ ไม่ปล่อยตัว
‘พันคำ’ จึงจะมอบบทนางเอกให้ ‘มยุรา ธนะบุตร’ พร้อมตั้งชื่อ ‘วันวิสาข์’ ให้ ‘มยุรา’ ใช้ในการแสดง ตามชื่อนางเอกในเรื่อง ‘ทิวาหวาม’ ทำให้ ‘ละโว้ภาพยนตร์’ ยอมปล่อย ‘นัยนา’ มาแสดง ‘มยุรา’ จึงพลาดบท ‘วันวิสาข์’ ไปอย่างน่าเสียดาย
แต่คนจะดังอะไรก็ห้ามไม่ได้ เมื่อ ‘ดอกดิน กัญญามาลย์’ ได้มอบบทนางเอก ‘แหม่มจ๋า’ ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของเธอ โดย ‘อาดอกดิน’ ได้ตั้งชื่อในวงการให้ว่า ‘มยุรา ธนะบุตร’ นับแต่นั้น
ผลปรากฏว่า ‘แหม่มจ๋า’ ดังเปรี้ยง ทำรายได้ทะลุ 1,000,000 บาท ทำให้ ‘อาดอกดิน’ ได้ตะโกนคำว่า ‘ล้านแล้วจ้า’ อีกเรื่อง จากภาพยนตร์หลายเรื่องของเขาที่ทำได้ทำรายได้แตะหนึ่งล้านบาท
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก ‘มยุรา ธนะบุตร’ กลายเป็น ‘นางเอกคู่บุญดอกดิน’ โดยได้รับบทนางเอกต่อมาอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น มือปืนพ่อลูกอ่อน, กุ้งนาง, สิงห์สำออย, แม่ดอกกัญชา, ไอ้แปดนิ้ว
นอกจาก ‘หนังดอกดิน’ แล้ว ‘มยุรา’ ยังรับงานหนังจากค่ายอื่น ๆ อาทิ บ่อเพลิงที่โพทะเล, กระดังงากลีบทอง, ชื่นชีวานาวี, ซูเปอร์ลูกทุ่ง, 7 ป่าช้า รวมกว่า 70 เรื่อง
จนถึงจุดอิ่มตัวทั้งของเธอเอง และวงการหนังไทยก็เริ่มซบเซาลง เธอจึงเข้าสู่วงการละครโทรทัศน์ ประเดิมด้วยละครของช่อง 3 เรื่อง ‘กุลปราโมทย์’ ผ่านการชักจูงของ ‘รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง’ รวมละครทีวีที่เธอรับเล่นเกือบ 90 เรื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด’ ออกอากาศทางช่อง 7 สี ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอเป็นอย่างมาก
พฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2522 ‘มยุรา’ ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ต้องตัดมดลูกทิ้ง หลังจากพักรักษาตัวจนหายดี ‘มยุรา’ กลับมาแสดงละครอีกครั้ง นอกจาก ‘ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด’ ผลงานละครที่สร้างชื่อเสียงให้เธอเรื่องอื่น ๆ ก็มีอาทิ แก้วกลางดง, ถนนไปดวงดาว, ด้วยปีกของรัก, เก้าอี้ขาวในห้องแดง, คลื่นเสน่หา และอีกหลายเรื่อง
การข้ามจากช่อง 3 มาเล่นละครให้ช่อง 7 นอกจาก ‘ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด’ แล้ว ยังมีเรื่อง ‘มัสยา’ และ ‘เนื้อนาง’ ที่เล่นคู่กับ ‘ธงไชย แมคอินไตย์’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘บ้านสอยดาว’ คู่กับ ‘พี่เบิร์ด’ ทำให้ผลงานเข้าตา ‘สุรางค์ เปรมปรีดิ์’ เป็นอย่างมาก
จึงมอบหมายให้ ‘มยุรา ธนะบุตร’ รับบท ‘พิธีกรคู่’ ของ ‘7 สีคอนเสิร์ต’ คู่กับ ‘พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์’ ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี จนทำให้ต่อมา เธอได้รับเชิญให้เป็นพิธีกรระดับประเทศและระดับนานาชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นางสาวไทย มิสทีนไทยแลนด์ รางวัลเมขลา
หลังจากนั้น ‘มยุรา ธนะบุตร’ ไปรับงานพิธีกร ‘ชิงร้อยชิงล้าน’ ของ ‘เวิร์คพอยท์’ คู่กับ ‘ปัญญา นิรันดร์กุล’ ทำให้เธอเป็นพิธีกรหมายเลขหนึ่งในยุคนั้น และทำให้เธอต่อยอดอาชีพพิธีกรรายการโทรทัศน์ต่อมามากถึง 40 รายการ
แต่รายการที่เป็นที่จดจำในความทรงจำของแฟนบันเทิงชาวไทย นอกจาก ‘ชิงร้อยชิงล้าน’ แล้ว ก็เห็นจะเป็น ‘7 สีคอนเสิร์ต’ ที่ให้เธอมี ‘เพลงประจำตัว’ คือ ‘เพลงมยุรา’ และเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้
อยากจะเห็นหน้า อยากจะมาดูให้ชัดเจน
มยุราตัวจริงเป็นเป็น ได้แต่เห็น เห็นแต่ในทีวี
ผมม้าปกคลุมหน้าผาก ทาปากทาแก้มโสภี
รูปร่างก็กำลังดี ปีทั้งปี ยังสาวไม่สร่าง
เรื่อง : จักรกฤษณ์ สิริริน
ภาพปก : อินสตาแกรม tuckmayura