‘โบกี้ไลอ้อน’ สู่วันที่รู้ว่าเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้ ศิลปะที่สมบูรณ์แบบใน LANTA CONCERT

วินาทีที่คอนเสิร์ต BOWKYLION LANTA CONCERT เปิดฉากขึ้น ‘โบกี้’ พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ ก็เรียกเสียงฮาด้วยการประกาศว่า

“....ห้ามผู้ชมจุดเทียนพรรษาระหว่างชมการแสดง ห้ามทะเลาะ ถ้าจะทะเลาะให้นัดหมายล่วงหน้า แล้วไปทะเลาะกันที่อื่น แต่ถ้าจะร้องไห้ก็มีกระดาษทิชชู่เตรียมไว้ให้ใต้เก้าอี้” 

ไม่กี่อึดใจหลังเปิดคลิปห้องนอนที่ละลานตาไปด้วยสิ่งของมากมาย ‘โบกี้’ ก็ปรากฏตัวขึ้น ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ท่ามกลางแฟน ๆ กว่า 4,000 คนที่รอคอยคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของเธอ เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

คอนเซ็ปต์ของ BOWKYLION LANTA CONCERT คือการเล่าเรื่องราวในชีวิตของ ‘โบกี้’ ผ่านไพ่ยิปซีแต่ละใบ ซึ่งมีทั้งยามทุกข์และยามสุข 

ไพ่ใบแรกที่ ‘โบกี้’ เลือกเปิดคือ QUEEN OF SWORDS (ราชินีดาบ) หมายถึงความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่ง ‘โบกี้’ ใช้ไพ่ใบนี้เป็นภาพในบัตรคอนเสิร์ตด้วย

เธอเปิดตัวมาในลุคเทพีพยากรณ์ชุดสีเงินกรุยกราย สวมมงกุฏที่ประดับด้วยดวงดาว พระจันทร์ และพระอาทิตย์ พร้อมแสงสีทองเพิ่มออร่า เรียกเสียงกรี้ดจากเหล่าพี่กะเทยที่ตั้งตารอ จนเสียงแหบเสียงแห้ง

แต่ยังหรอก เสียงพี่กะเทยยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะยังกรี้ดกันได้ต่อในเพลง ‘ค.ควาย’ ซึ่ง ‘โบกี้’ สลัดชุดสีเงินออก แปลงโฉมเป็นสาวเซ็กซี่ในชุดเดรสยาวสีแดง สวย ๆ สับ ๆ เชิดใส่คนเก่า 

ในพาร์ทนี้เธอยังมีชุดบอดี้สูทตกแต่งด้วยเพชรระยิบระยับเล่นไฟบนเวทีที่รายล้อมไปด้วยหมู่ดาว ซึ่งเธอเลือกนำมาใช้ในเพลง ‘บานปลาย’ ที่ทุกคนในฮอลล์พากันร้องเสียงดังในท่อน “ได้โปรดอย่ามองตา ขอเธอนั้นอย่ามาทัก อย่าได้สนถ้าเธอนั้นไม่ได้รัก….” 

ไพ่ที่ถูกนำมาเปิดเป็นใบที่สองคือ The Moon (พระจันทร์) ซึ่งหมายถึงความกลัวและความกังวล ในพาร์ทนี้ ‘โบกี้’ เล่าเรื่องราวผ่านเพลง “แขนซ้าย” และ “คงคา” ซึ่งในเพลงที่สองเธอจบมันอย่างสวยงามด้วยการนั่งบนพระจันทร์ แล้วลอยออกไปราวกับนางฟ้า 

ไพ่ใบที่สามคือ Three of Cups (3 ถ้วย) หมายถึงความสัมพันธ์ การสังสรรค์ เพื่อน สังคม การนำเสนอในพาร์ทนี้เหมือนกับละครเวที แถมยังได้นักร้องรับเชิญอย่างวง ‘PiXXiE’ มาสร้างความสดใสด้วยเพลง “มูเตลู” ซึ่งเจ้าของเวทีก็ขอทิ้งลุคตัวแม่เพลงเศร้ามาร่วมแจมด้วย 

ร้องเพลงของ PiXXiE ไปแล้ว ทั้งสี่จึงต่อด้วยเพลง “รักไปร้องไห้ไป” ของ ‘โบกี้’ ก่อนส่งท้ายด้วยเพลง “เกินต้าน” ของ PiXXiE

ที่น่าประทับใจคือเคมีของ ‘โบกี้’ ที่เข้ากันได้ดีอย่างเหลือเชื่อกับ 3 สาว มาเบล-พิมมา-อิงโกะ จนแฟน ๆ อยากเห็นสี่สาวร่วมงานกันสักเพลง 

ไพ่ใบต่อไปคือ Wheel of Fortune (กงล้อโชคชะตา) แน่นอนว่าต้องพูดถึงการเปลี่ยนแปลงของโชคชะตา

พาร์ทนี้ ‘โบกี้’ เซอร์ไพรส์ผู้ชมด้วยการโผล่ออกมาจากด้านข้างเวที เดินทักทายแฟน ๆ ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนโซฟากลางเวทีอย่างทุลักทุเล เพราะเธอเลือกสวมกระโปรงสุ่มที่ตกแต่งด้วยตุ๊กตาและของกระจุกกระจิก เรียกเสียงฮาจากแฟน ๆ ไปอีกหนึ่งกรุบ 

หลังจัดท่านั่งเรียบร้อย เธอก็เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทุกคนรู้จักเธอ นั่นคือการคัฟเวอร์เพลงเมื่อช่วงสิบปีก่อน 

แล้วเราก็ได้ฟังเธอร้องเพลงดังต่าง ๆ นั้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ร (W8), กลับมา, ฉากเรียกน้ำตา, อยากให้รู้ว่ารักเธอ, รักไม่ได้, Ditto และ Easy on me 

เธอปิดพาร์ทนี้ด้วยเพลง “โต๊ะริม” พร้อมเดินไปรอบธันเดอร์โดม เพื่อให้แฟน ๆ ที่ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด  

 

ต่อไปเป็นไพ่ Page of Pentacles (เด็กเหรียญ) ที่หมายถึงการได้รับโอกาสในการพัฒนา เธอใช้ไพ่ใบนี้เพื่อขอบคุณสปอนเซอร์ด้วยการแต่งเพลงโชว์สด ๆ 

ตามด้วยไพ่ Three of Swords (3 ดาบ) หมายถึง ความเจ็บช้ำ เสียใจ พาร์ทนี้น่าจะเป็นพาร์ทที่ทำให้ผู้ชมเสียน้ำตามากที่สุด

‘โบกี้’ ที่มาในชุดราตรียาวสีหวาน เล่าถึงคุณยายที่เสียชีวิตไปแล้วผ่านเพลง “ยิ้มลา” ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่ายังไม่เคยปล่อยที่ไหนมาก่อน 

‘โบกี้’ เล่าให้ฟังว่า เธอมักจะชอบบอกให้คุณยายยิ้มให้ดูหน่อย นั่นจึงเป็นที่มาของเพลงที่มีท่อนฮุคว่า “ยิ้มให้ดูหน่อยแล้วค่อยไป ยิ้มให้ดูก่อนเราจะจากไกล เพราะทั้งชีวิตมีเธอข้าง ๆ ตรงนี้ แค่เธอยิ้มก่อน แล้วเธอค่อยนอนหลับฝันดี” 

เธอร้องเพลงนี้เพื่อถ่ายทอดความรักและความผูกพันระหว่างเธอกับคุณยาย ในขณะที่บนเวทีมีภาพวาดของเธอกับคุณยาย เดินจูงมือกันตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก กระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แล้วสุดท้ายก็เหลือเธอเดินเพียงคนเดียว 

‘โบกี้’ ได้เปิดเพลงนี้ให้คุณยายฟังในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตด้วย

มาถึงช่วงนี้หลายคนเริ่มน้ำตาคลอ มีเสียงสะอื้นดังเป็นระยะ บางคนเริ่มหยิบทิชชู่ใต้เก้าอี้ขึ้นมาซับน้ำตาเงียบ ๆ 

‘โบกี้’ พาทุกคนในธันเดอร์โดมดำดิ่งต่อในเพลง “วาดไว้” ที่เหมือนเป็นการเก็บตกสำหรับคนที่ยังกลั้นน้ำตาไว้ได้จากเพลงที่แล้ว 

ทันทีที่เธอร้องท่อน “ที่เธอเคยบอกฉันอย่าร้องไห้ อยู่ให้ได้ถ้าเธอไม่อยู่ โปรดรับรู้เธอยังอยู่ในใจ…” ทุกคนในฮอลล์พร้อมใจกันเปิดไฟสีส้มที่โทรศัพท์ แล้วโบกให้กำลังใจ ‘โบกี้’ พร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาแบบกลั้นไม่อยู่ 

ไม่มีสักคนที่ทะลึ่งร้องว่า “พี่กะเทยบอกฉันอย่าร้องไห้” เพราะเวลานั้นบรรดาพี่กะเทยเองก็เอาแต่นั่งร้องไห้ เสียน้ำตาให้กับซีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคอนเสิร์ตนี้ จนไม่มีเวลาปลอบใคร

‘โบกี้’ ค่อย ๆ ปรับอารมณ์และบรรยากาศคอนเสิร์ตด้วยไพ่ใบต่อมา ได้แก่ ไพ่ Six of Cups (6 ถ้วย) ซึ่งหมายถึง ความรัก ความอบอุ่น 

พาร์ทนี้ยังเป็นเรื่องราวของคนในครอบครัว ซึ่งแขกรับเชิญที่มาร้องเพลงกับ ‘โบกี้’ ในพาร์ทนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ‘ว่าน วันวาน” พี่สาวของเธอนั่นเอง สองพี่น้องร่วมร้องเพลง ‘ซับ’ บนเวทีที่ถูกแปลงเป็นสีชมพูเต็มไปด้วยดอกไม้

หลังร้องเพลงจบ ‘ว่าน’ ร้องไห้ด้วยความตื้นตัน เธอบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีวันนี้เป็น “เดจาวู” เพราะเธอเคยคิดไว้แล้วว่าวันหนึ่งโบกี้จะได้ขึ้นมาร้องเพลงบนเวทีแบบนี้ 

‘ว่าน’ ยังขอบคุณพระเจ้าที่มอบพลังให้กับโบกี้ เพราะโบกี้เคยบอกว่าถ้าผ่านไปหลายปีแล้วยังไม่ดัง เธอจะหยุด แต่ในที่สุดโบกี้ก็พัฒนาตัวเองขึ้นมา จนกลายเป็นเจ้าป่าที่มีเสียงเพราะมากที่สุด (ว่านอ้างถึง “เจ้าป่า” ตามชื่อเพลงของโบกี้) 

ต่อไปคือไพ่ The Star (ดวงดาว) หมายถึง ความหวัง ซึ่งเริ่มต้นด้วยคลิปแปลงร่างของ “เซเลอร์ โบ” กับน้องเหมียว “ลูน่าจัง” เป็นการบอกใบ้ว่าพาร์ทนี้มีแขกรับเชิญอีกคน 

ระหว่างที่กำลังลุ้นว่าแขกรับเชิญในพาร์ทนี้เป็นใคร ‘โบกี้’ ในชุดตัวแทนแห่งดวงจันทร์ ก็เดินจูงมือลงมากับ “มิลลิ” ดนุภา คณาธีรกุล ที่มาในชุดน้องเหมียวเซ็กซี่

ทั้งคู่เปิดตัวด้วยเพลงพลังหญิงอย่าง “บอยพาโบ้” ก่อนจะต่อด้วยเพลง “คนเฬว" สองสาวออกลีลาเซ็กซี่จนเวทีร้อนฉ่า โดยมีฉากหลังที่เล่นสีระหว่างสีแดงกับสีดำให้อารมณ์คล้ายอยู่ในนรก 

นอกจากลีลาการร้องและการเต้นที่เข้ากันได้ดี ชนิดไม่มีใครยอมใคร ลีลาการรับส่งมุกของพวกเธอก็แพรวพราวไม่แพ้กัน บางช่วงแอบคิดว่า ถ้าในกลุ่มเพื่อนเรามีคนอย่าง ‘มิลลิ’ กับ ‘โบกี้’ เราคงจะปวดหัว เอ้ย ได้หัวเราะทั้งวัน 

แล้ว ‘มิลลิ’ ก็ปิดท้ายด้วยเพลง “สุดปัง” ที่ทั้งมันส์และเท่ จนเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงไปได้ไกลขนาดนั้น 

กลับมาที่อีกพาร์ทของ ‘โบกี้’ ที่นำเสนอเรื่องราวของตัวเองต่อกับไพ่ Two of Cups (2 ถ้วย) หมายถึง ความสัมพันธ์ที่ลงตัว 

พาร์ทนี้ ได้แขกรับเชิญอย่าง ‘ทอย’ (The Toys) ที่ขึ้นมาร้องเพลง “ขอโทษที่เป็นแบบนี้” ก่อนที่ ‘โบกี้’ จะขึ้นมาแจม ตามด้วยเพลง “ใครอีกคน” ซึ่งเป็นเพลงแรกของ 'โบกี้' ในค่าย What The Duck

ระหว่างที่แฟน ๆ กำลังฟินกับความน่ารักของทั้งคู่ ‘โบกี้’ เล่าว่าเคยใช้ชีวิตด้วยกันแล้ว ก่อนที่ ‘ทอย’ จะดับฝันแฟน ๆ ด้วยการตบมุกว่า “แต่มันบั่นทอน” 

ช็อตฟีลกันสุด ๆ

สุดท้าย ‘โบกี้’ ยกเวทีให้ ‘ทอย’ อำลาไปด้วยเพลง “Fire Boy” ให้แฟน ๆ ได้โยกหัวโยกตัวตามกันเบา ๆ 

ไพ่ The Sun (พระอาทิตย์) หมายถึง ความสุข ความสำเร็จ ความสดใส พาร์ทนี้เริ่มต้นด้วยเพลงใหม่ของ ‘โบกี้’ อย่าง “รู้กันแค่นี้” ที่มีบางคนลุ้นว่า ‘ต่อ ธนภพ’ พระเอกเอ็มวีจะขึ้นเวทีเป็นแขกรับเชิญหรือเปล่า

แต่ลุ้นยังไงก็คงลุ้นไม่ขึ้น เพราะ ‘ต่อ ธนภพ’ จองบัตรนั่งชมคอนเสิร์ตปะปนกับพวกเราแล้ว 

ต่อด้วยเพลงฟังสบาย ๆ อย่าง “ทราบแล้วเปลี่ยน” ที่ ‘โบกี้’ มาในลุคแอร์โฮสเตสขี้เล่น และเพลง “คิดถึงแต่” ซึ่งมีการโชว์ชุดต่าง ๆ ที่ ‘โบกี้’ เคยใส่ในช่วงที่ผ่านมา 

หลังจากนั้น ‘โบกี้’ กล่าวขอบคุณทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง เธอพยายามเอ่ยชื่อทุกคนให้ครบ รวมถึงขอบคุณค่าย What The Duck ที่ก่อร่างให้เธอกลายเป็นพี่กะเทยอย่างทุกวันนี้

เดินทางมาถึงพาร์ทสุดท้าย เธอเลือกที่จะไม่เปิดไพ่อะไรต่อแล้ว โดยให้เหตุผลว่า “ได้รับความเชื่อมั่นจากทุกคนที่มาชมคอนเสิร์ตแล้ว” (ฟังประโยคนี้แล้วอดใจฟูไม่ได้เลย) 

‘โบกี้’ ยังบอกด้วยว่างานศิลปะของเธอในวันนี้ “สมบูรณ์แบบแล้ว” เพราะเป็นงานศิลปะที่มีคนเข้ามาดู ทั้งยังกล่าวซึ้ง ๆ อีกว่า “จากคนที่เคยคิดว่าตัวเองไม่มีค่า วันนี้รู้แล้วว่าโบเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้ ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เกิดวันที่สวยงามและมีความหมาย โบสัญญาว่าจะจริงใจและทำงานศิลปะต่อไป”

ก่อนที่ตอนจบ เธอจะอำลาแฟน ๆ ไปด้วยเพลง “ลงใจ” 

ปิดฉาก BOWKYLION LANTA CONCERT คอนเสิร์ตใหญ่คอนเสิร์ตแรกในชีวิต 'โบกี้ไลอ้อน" อย่างงดงาม 

 

ภาพ What the duck