21 ก.พ. 2566 | 16:34 น.
- ค่าย YG Entertainment ถูกมองว่ามีปัญหาเรื่องดองศิลปินในสังกัดจนกระทบต่อผลงานของศิลปิน
- ที่ผ่านมา ศิลปินในค่าย YG ไม่ต่อสัญญามาบ้างแล้ว ขณะที่ศิลปินอีกหลายรายที่สัญญากับค่ายใกล้หมดลงอย่างเช่น BLACKPINK ก็ทำให้แฟนเพลงต่างกังวลกับอนาคตของศิลปินขวัญใจ
ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ‘วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์’ (YG Entertainment) ค่ายเพลงชื่อดังของวงการ K-pop ที่ผลิตและสร้างไอดอลชื่อดังมาแล้วมากมายทั้งชาย-หญิง ไม่ว่าจะเป็น ‘SEVEN, Sechskies, BIGBANG, 2NE1, AKMU, WINNER, iKON, BLACKPINK, TREASURE’ และน้องใหม่ ‘BABYMONSTER’ ที่เตรียมจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ เป็นค่ายที่เกิดวิกฤตอย่างหนักในประเด็นการเปลี่ยนแปลงศิลปินภายในค่าย
วายจีก่อตั้งขึ้นในปี 1996 โดย ‘ยางฮยอนซอก’ พร้อมดำเนินธุรกิจทั้งในส่วนที่เป็นค่ายเพลง, ตัวแทนนักแสดง-นายแบบ และอื่น ๆ รวมไปถึงจัดจำหน่ายและผลิตสินค้าเสื้อผ้าด้วย โดยไอดอลในยุครุ่งเรืองที่ได้ชื่อว่า ‘สร้างเงินสร้างค่าย’ อย่างแท้จริงให้กับวายจีนั่นก็คือ ‘BIGBANG’ ที่เดบิวต์ในปี 2006 และได้ชื่อว่าเป็นบอยกรุ๊ปในยุคเจน 2 ที่ยิ่งใหญ่และทำเงินมากที่สุดในโลก (อ้างอิงจาก hollywoodreporter.com)
และยังเป็นโรลโมเดลให้กับวงไอดอลชายรุ่นหลัง ๆ สร้างชื่อและฐานความแข็งแรงให้กับวายจี ให้กลายเป็นค่ายเพลงที่ยืนอยู่ในอันดับทอป ๆ อย่างสง่างาม
ส่วนไอดอลหญิงในอดีตก็ต้องยกให้กับ ‘2NE1’ วงเกิร์ลกรุปวงแรกที่ประสบความสำเร็จ ก่อนจะส่งไม้ต่อมาถึง ‘BLACKPINK’
แต่ทว่าในปี 2019 กลับเป็นปีที่ YG ต้องเผชิญกับดราม่าหนักราวกับมรสุมลูกใหญ่จากกรณีเหตุอื้อฉาว ไนท์คลับ Burning Sun ที่มี ‘ซึงรี’ อดีตสมาชิก BIGBANG อยู่ในฐานะหุ้นส่วนของร้าน ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีจัดหาและค้าประเวณีให้แก่นักลงทุนชาวต่างชาติระดับวีไอพีของไนท์คลับ Burning Sun
และยิ่งช็อกมากขึ้นไปอีกเมื่อพบกรุ๊ปแชตลับที่มีบทสนทนาการล่วงละเมิดทางเพศและคลิปวิดีโอแอบถ่ายจำนวนมาก เป็นเหตุให้ซึงรี ต้องประกาศลาออกจากวงและออกจากค่าย ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของเนติเซ่นเกาหลีในประเด็นนี้อย่างหนัก
รวมถึงกรณีของ ‘บีไอ’ หรือ ‘คิมฮันบิน’ หัวหน้าวง ‘iKON’ ที่ถูกแฉว่าเคยติดต่อซื้อยาเสพติดกับผู้ค้ายารายหนึ่งในช่วงปี 2016 เป็นเหตุให้เกิดการสอบสวนชุดใหญ่อีกครั้ง และเข้ารับการตรวจหาสารเสพติดจนท้ายที่สุดพบว่าไม่เคยใช้ยาเสพติด เป็นอีกหนึ่งดราม่าร้ายแรงของค่าย ก่อนเจ้าตัวจะขอรับผิดชอบต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยการขอลาออกจากวงและค่ายเพื่อรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
สองเหตุฉาวของศิลปินในค่ายยังส่งผลกระทบถึงประธานค่ายอย่าง ‘ป๋าหยาง’ ยางฮยอนซอก ที่ถูกแฉว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับตำรวจเพื่อปกปิดคดีของบีไอ รวมไปถึงถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในกระบวนการค้าประเวณีร่วมกับซึงรี ฟอกเงิน การพนัน เลี่ยงภาษีและจดทะเบียนการค้าผิดรูปแบบ สารพัดปัญหา จนท้ายที่สุดต้องทิ้งเก้าอี้ผู้บริหารและลาออกจากค่ายไป
เรื่องราวข้างต้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของค่ายและตัวศิลปินอย่างหนัก หุ้นของค่ายร่วงกราวจนค่ายไร้ความน่าเชื่อถือ ปี 2019 จึงเป็นปีมหาซวยของ YG อย่างแท้จริง ในปีเดียวกัน ศิลปินที่อยู่กับ YG มานานก็เริ่มโบกมือลาออกจากค่าย ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงตลกชื่อดัง ‘ยูบยองแจ’ ที่อยู่มาตั้งแต่ ปี 2015 ก็ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับค่าย หลังมีประเด็นซึงรีเกิดขึ้น
ถัดมาในเดือนพฤศจิกายน 2019 ‘CL’ ลีดเดอร์คนเก่งหัวหน้าวง ‘2NE1’ ก็โบกมือลาจาก YG ไปอีกคนหลังหมดสัญญา รวมถึง ‘จองแจวอน’ หรือ ONE แรปเปอร์ชื่อดัง และกลุ่มนักแสดงอย่าง ‘โกจุนฮี, คิมฮีจอง’ และ ‘คิมแซรน’ นักแสดงวัยรุ่นชื่อดังก็ออกจาก YG เช่นกัน
สิ้นปี 2019 YG ยังต้องเสียนักร้องมากความสามารถอย่าง ‘อีฮาอี’ หรือ ‘Lee Hi’ เจ้าหญิงแห่งวงการเพลงโซลของเกาหลี อดีตรองชนะเลิศในรายการประกวด K-POP STAR Season 1 ที่เซ็นสัญญาเป็นศิลปินของ YG มาตั้งแต่ปี 2012 ก็ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา หลังอยู่มานานกว่า 7 ปี เพชรเม็ดงามคนหนึ่งที่ควรค่าแก่การรักษาให้อยู่คู่กับค่ายตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ ‘AOMG’ ค่ายเพลงฮิปฮอปที่ก่อตั้งโดย ‘Jay Park’
ก่อนจะออกจาก YG อีฮาอี เคยตอบคำถามที่แฟนคลับสงสัย โดยเฉพาะเรื่องผลงานของเธอที่มีน้อยมากตลอดระยะเวลา 7 ปีที่อยู่กับ YG ในรายการ ‘Look Me Up’ ทางช่อง 1theK
ในครั้งนั้น อีฮาอี เปิดเผยว่า YG ต้องการให้การคัมแบคของศิลปินในค่ายเต็มไปด้วยสมบูรณ์แบบ จึงทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมตัวหลายเดือน และด้วยความที่ค่ายมีศิลปินเยอะ จึงมีเพียงแค่ 5 วงที่ได้คัมแบคในแต่ละปี
นอกจากนี้ อีฮาอียังแก้ต่างให้กับ YG ว่า ไม่เคยเลือกปฏิบัติหรือดองเธอเอาไว้อย่างที่หลายคนเข้าใจ
ผ่านปีแห่งความโหดร้ายมาได้ แต่ใช่ว่าสถานการณ์ของ YG จะดีขึ้น ปี 2021 YG ยังคงเสียศิลปินในค่ายไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ‘ซานดารา พัค’ หนึ่งในสมาชิกวง 2NE1 ที่อยู่กับ YG มานานถึง 17 ปี ก็โบกมือลาหลังหมดสัญญาอย่างเป็นทางการ, นักแสดงหนุ่ม ‘ซนโฮจุน’ ก็เป็นอีกคนที่ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาและอำลา YG ไปอยู่ค่ายใหม่เช่นกัน
จนมาถึงปี 2022 สถานการณ์ของค่ายเริ่มดีขึ้น ศิลปินในค่ายเริ่มได้ทยอยปล่อยผลงาน หลังรอให้ผ่านช่วงมรสุมดราม่าของค่ายมาได้ แต่ก็ยังคงเป็นอีกปีที่ YG ต้องเสียศิลปินในค่ายไปอีกหลายคน
ในปีนี้สมาชิกวง ‘BIGBANG’ กลับมารวมตัวกันพร้อมผลงานเพลงใหม่ วันเดียวกัน ‘T.O.P’ หนึ่งในสมาชิกของวงตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ YG หลังอยู่ด้วยกันมานานถึง 16 ปี ส่วนสมาชิกคนอื่น ๆ ในวง อย่าง ‘จีดราก้อน’ ยังคงอยู่กับ YG เช่นเคย, ‘แทยัง’ ย้ายไปอยู่ภายใต้การดูแลของ THE BLACK LABEL ค่ายในเครือที่ดูแลโดย ‘Teddy’ และ ‘แดซอง’ ที่หมดสัญญากับค่ายก็ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา แต่ทุกคนสามารถกลับมารวมตัวกันในฐานะ BIGBANG ได้เหมือนเดิม
รวมไปถึง ‘บังเยดัม’ และ ‘มาชิโฮะ’ สมาชิกวง TREASURE ก็ประกาศสิ้นสุดสัญญากับทาง YG ไปอีกสองคน หลังจากพักงานมาระยะหนึ่ง ส่งผลให้ TREASURE ดำเนินกิจกรรมของวงต่อไปด้วยสมาชิกเพียง 10 คนเท่านั้น สร้างความเสียดายและเสียใจแก่บรรดาแฟนคลับของวงเป็นอย่างมาก โดย YG แจ้งว่า มาชิโฮะมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการฟื้นฟูรักษาตัวจากปัญหาสุขภาพ ส่วนบังเยดัม ตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นไปในฐานะโปรดิวเซอร์ในอนาคต
อาฟเตอร์ช็อก YG เสียเด็กในค่ายไปยังไม่จบแค่นี้ สิ้นปียังมีอีกสองข่าวช็อก เมื่อนักแสดงชื่อดัง ‘คังดงวอน’ ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาและออกจากค่ายหลังอยู่ด้วยกันมานานถึง 7 ปี และสมาชิกทั้ง 6 ของวง ‘iKON’ ตัดสินใจออกจาก YG หลังสิ้นสุดสัญญา
ในระหว่างที่มีคนออกจากค่ายรัว ๆ ก็ยังมีคนเลือกจะอยู่ต่อ อย่าง 2 ดูโอ้พี่น้องมากความสามารถทางดนตรี ‘AKMU’ ก็ตัดสินใจต่อสัญญากับ YG ไปอีก 5 ปี รวมถึงสมาชิกทั้ง 4 ของวง ‘WINNER’ ก็ตัดสินใจต่อสัญญากับ YG เช่นกัน พร้อมกันนี้ YG ยังประกาศเตรียมเดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ของค่ายขึ้นมาเพิ่ม นั่นก็คือ ‘BABYMONSTER’ ที่เตรียมจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้
การเปลี่ยนแปลงสถานะของศิลปินภายในค่ายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา สะท้อนอะไร?
YG มักถูกขนานนามจากกลุ่มแฟนคลับค่ายหรือที่เรียกกันว่า YG STAN หรือ YG Family ว่าเป็น ‘ค่ายนักดองศิลปิน’ ปัญหานี้ไม่ใช่แค่รับรู้กันในกลุ่มแฟนคลับค่ายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแฟนคลับ K-pop ส่วนใหญ่ด้วย ทั้ง ๆ ที่ศิลปินในค่ายทุกคนล้วนมีความสามารถและสามารถทำเงินให้ค่ายได้เป็นอย่างดี
ยกตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนที่สุด นั่นก็คือวง ‘iKON’ ที่เรียกว่าได้สมาชิกแต่ละคนมีความสามารถและเก่งเป็นอันดับต้น ๆ ในกลุ่มไอดอลชายเจน 3 ก็ว่าได้
ย้อนกลับไปปีแรกที่เดบิวต์ ก็เคยคว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่ได้จากทุกงานที่ไปเข้าร่วม ทำเพลงอะไรออกมาก็ดังเป็นกระแสได้หมด หนึ่งในนั้นคือ ‘Love Scenario’ ที่มีเนื้อร้องเปิดเพลงขึ้นมาว่า ‘ซารางึน แฮดดา อูรีกา มันนา’ กลายเป็นเพลงที่โด่งดังและถือเป็นเพลงชาติของวง ผู้คนในประเทศเกาหลีร้องตามได้ตั้งแต่เด็กยันผู้สูงอายุ ซึ่งหากบอกว่า ‘ทรงอย่างแบด...แซดอย่างบ่อย’ ถูกยกให้เป็นเพลงชาติในแก๊งฟันน้ำนมของบ้านเรา เกาหลีก็มี ‘Love Scenario’ ของ iKON เป็นเพลงชาติแก๊งฟันน้ำนมในเกาหลีเช่นกัน
Love Scenario ของ iKON ได้การรับรองระดับทองคำขาวจากแกออนชาร์ต และยังทำให้ iKON ได้รับรางวัลแดซัง (ชื่อเรียกรางวัลที่ใหญ่ที่สุดในงานประกาศรางวัล) สาขา Best Song Of The Year ในงาน Melon Music Awards 2018 ได้เป็นครั้งแรก พ่วงกับอีกสองรางวัลคือบนซัง TOP10 Melon Music Awards และ ‘บีไอ’ ที่ได้รางวัล Song Writer จากการแต่งเพลง Love Scenario ด้วย
ชาร์ตเพลง - ยอดอัลบั้ม ไม่เคยขี้เหร่ ขาขึ้นทุกครั้งที่มีเพลงออกมา เพียงแต่ปัญหาอยู่ที่ค่ายไม่เคยส่งเสริมอย่างถูกจุด มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ YG ส่ง iKON ออกทัวร์ที่ประเทศญี่ปุ่นรัว ๆ จนฐานแฟนในเกาหลีเริ่มโบกมือลา กว่าค่ายจะคิดได้ก็เกือบจะเสียฐานแฟนคลับในประเทศไปแล้ว กระทั่งมาเกิดปัญหาจากเรื่องราวของบีไอในช่วงที่ iKON กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
พูดกันตามตรง iKON กลายเป็นวงที่เป๋ไปพักใหญ่ เสียลีดเดอร์พ่วงตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของวงอย่างไม่คาดคิด แถมค่ายยังเพิกเฉยและดองเข้ากรุตามสไตล์ YG ไม่แอคทีฟกิจกรรมอะไรให้กับวง จนสมาชิกที่เหลือต้องกระเสือกกระสนไปออกรายการ ‘Kingdom’ แข่งขันกับวงรุ่นน้องเจน 4 เพื่อให้ชื่อวงยังอยู่ ทั้ง ๆ ที่ความสามารถระดับ iKON ไม่ควรต้องไปลงแข่งเลยด้วยซ้ำ
ความเจ็บปวดนี้ ไอคอนิก (ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับวง iKON ) รับรู้กันดี
จนในที่สุดเมื่อหมดสัญญา สมาชิกทั้ง 6 ก็ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาพร้อมกัน และออกจาก YG ไปอยู่กับต้นสังกัดใหม่อย่าง 143 Entertainment
“ในที่สุดพวกเขาก็หนีออกมา, ฉันหวังว่าพวกเขาจะพบเอเจนซี่ที่ดีเพื่อโปรโมตพวกเขาให้ดีขึ้น, ขอแสดงความยินดีกับ ikon ที่ออกจาก YG ตอนนี้หาเอเจนซี่ที่ดีเพื่อโปรโมตดีกว่า, ความสามารถและพรสวรรค์ของพวกเขาถูกทิ้งไปเปล่า ๆ ” ตัวอย่างความเห็นจากเนติเซ่นเกาหลีต่อข่าวการออกจากYG ของสมาชิกวง iKON
ใช่ว่าศิลปินใน YG จะมีแค่ iKON ที่ถูกดองเพียงวงเดียว วงอื่น ๆ ก็เคยโดนมาแล้วเช่นกัน แต่ความร้ายแรงก็ยังไม่เทียบเท่ากับสิ่งที่ iKON ต้องเจอ ดังนั้น การที่ศิลปินไม่ต่อสัญญาและเลือกจะออกจากค่ายไป สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารงานที่ผิดพลาดและการจัดการที่ไม่ถูกต้องของค่ายที่มีมาแต่ไหนแต่ไรมา โดยเฉพาะปัญหาการดอง ไม่ให้ศิลปินได้แอคทีฟสร้างฐานความนิยมให้มากขึ้น ทั้งที่อยู่ในช่วงขาขึ้นหรือวงกำลังขายได้ คือส่วนสำคัญที่ทำให้ศิลปินขาดความเชื่อมั่นที่อยากจะต่อสัญญา
และอีกหนึ่งวงที่น่าจับตาที่สุดของ YG หลังจากนี้ไป เห็นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก 4 สาว ‘BLACKPINK’ ที่มีกำหนดจะสิ้นสุดสัญญากับ YG ในช่วงสิ้นปี 2023 ที่ก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวลือว่าทั้ง 4 สาว เตรียมย้ายไปอยู่กับ THE BLACK LABEL ที่เป็นบริษัทในเครือ ก่อนที่ทาง YG จะออกมาปฏิเสธผ่านสื่อถึงข่าวลือดังกล่าวว่าไม่มีมูลความจริง
“สัญญาของเรากับเมมเบอร์นั้นยังไม่หมดลง และยากที่จะยืนยันว่าพวกเธอจะเซ็นสัญญากับ THEBLACKLABEL หรือไม่ หลังจากที่สัญญาสิ้นสุดลง” คือคำตอบของ YG ที่ออกมาพูดถึงเรื่องนี้
การนับถอยหลังช่วงหมดสัญญาของ BLACKPINK ดูจะเป็นประเด็นที่น่าจับตาทั้งจากแฟนคลับ ตลอดจนสื่อทั่วโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก แม้ว่า ‘ยางฮยอนซอก’ จะกลับมานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการบริหารการผลิต YG อีกครั้ง จะเป็นความหวังของแฟนค่ายขึ้นมาอีกนิด แต่หากYG ยังรักษา BLACKPINK ที่ปัจจุบันอยู่ในฐานะวงที่ทำเงินให้กับค่ายมากที่สุดไว้ไม่ได้ วงที่เหลืออยู่และที่กำลังจะเดบิวต์ก็คงจะต้องรับบทนักแบกค่ายจนหลังแทบหัก
และหาก YG ยังไม่เปลี่ยนตัวเองจากยอดนักดองมาให้ความสำคัญ ให้ความใส่ใจกับศิลปินมากขึ้น สักวัน ‘YG’ อาจจะเหลือแค่ชื่อ อย่างที่แฟน ๆ ของค่ายเคยกล่าวไว้จริง ๆ ก็ได้