24 มี.ค. 2566 | 22:14 น.
“คำตอบมันก็ง่าย ๆ เพราะผมชอบทั้งดนตรีเมทัลแล้วก็ไอดอลไงล่ะ”
ประโยคหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ผู้ชายใส่ชุดโครงกระดูกปิดมิดชิดทั้งตัวนามว่า โคบายาชิ เค (Kobayashi Kei) หรือนามแฝง โคบะเมทัล (KOBAMETAL) ชายผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ‘BABYMETAL’ วงไอดอลหรือวงเมทัล อะไรก็ตามแล้วแต่จะเรียก ในขณะที่ถูกถามว่า “คิดอะไรถึงได้ทำวง BABYMETAL ขึ้นมา”
ไม่ง่ายเลยที่จะมีวงเมทัลที่แหกขนบธรรมเนียมดนตรีแขนงนี้แล้วได้รับการยอมรับมากมายขนาดนี้ เนื่องจากในช่วงเวลาที่วงถือมีชื่อเสียงขึ้นมา โลกของดนตรีเมนสตรีมป็อปและเมทัลยังไม่ได้มาบรรจบกันดังเช่นในปัจจุบันนี้ คอดนตรีทั้งสองฝั่งต่างก็ยังไม่ได้เปิดใจให้ดนตรีอีกสไตล์มากนัก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านภาพจำที่ดูมีความรุนแรงของดนตรีเมทัล หรือการทำเพลงที่เน้นความเป็นคอมเมอร์เชียลมากกว่าให้ความสำคัญในแง่ศิลปะของดนตรีป็อปก็ตาม
เหล่านี้มักเป็นอคติอยู่ลึก ๆ ในใจของแฟนเพลงมาช้านาน แต่ ‘BABYMETAL’ คือหนึ่งในวงที่นำพาเส้นทางของวัฒนธรรมดนตรีทั้งสองมาบรรจบกัน ฝ่าฟันเสียงวิจารณ์ที่ถาโถม สู่การเป็นหนึ่งในศิลปินที่ถูกกล่าวขวัญถึงมากที่สุดในทศวรรษนี้ได้สำเร็จ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับพวกเธออย่างละเอียดตั้งแต่ต้นกำเนิดมาจนถึงปัจจุบันครับ
จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่ปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่
สืบเนื่องมาจากความสำเร็จของวงทริโอไอดอลนามว่า Perfume ที่นำเอาดนตรีอิเล็กทรอนิกส์/ซินธ์ป็อปมาปรับใช้กับเพลงป็อปสไตล์ไอดอลจนประสบความสำเร็จ ตัวของโคบะเมทัลเองที่เป็นโปรดิวเซอร์อยู่ในสังกัด Amuse เอเจนซี่ของ Perfume อยู่แล้ว รวมถึงยังมีโปรไฟล์ในการเป็นซาวนด์เอ็นจิเนียร์ให้กับวงร็อคสายอนิซองชื่อดังอย่าง Flow และ ONE OK ROCK ในช่วงแรก ๆ มาก่อน ก็อยากจะลองโปรดิวซ์วงไอดอลที่นำเอาดนตรีทั้ง 2 สไตล์ต่างขั้วที่เขาชอบมาผสมผสานกันบ้าง เนื่องจากยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนนั่นเอง
แต่เดิมทีนั้นเขาตั้งใจจะปั้นเด็กสาวคนหนึ่งผู้มีความสามารถทางการร้องเพลงที่โดดเด่นนามว่า นากาโมโตะ สุซุกะ (Nakamoto Suzuka) หรือเรารู้จักกันภายหลังในชื่อ ซูเมทัล (SU-METAL) มานานแล้ว ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงไอดอล Sakura Gakuin ที่มีคอนเซปต์เป็นโรงเรียนชั้นมัธยมต้น สมาชิกวงจะมีอายุอยู่ในช่วง 11 – 15 ปี
โดยซูเมทัลเป็นน้องสาวของนากาโมโตะ ฮิเมกะ (Nakamoto Himeka) สมาชิกรุ่นที่ 1 ของ Nogizaka46 ไอดอลหญิงอันดับ 1 ของญี่ปุ่นในปัจจุบัน (จบการศึกษาแล้ว) และยังเคยเป็นไอดอลมาก่อนในนามวง Karen Girls ก่อนจะมาเข้าร่วมกับ Sakura Gakuin เนื่องจาก Karen Girls เป็นวงที่มีไว้สำหรับร้องเพลงประกอบอนิเมะเรื่อง Zettai Karen Children เมื่ออนิเมะจบลงก็ต้องแยกวงไปด้วย เธอจึงได้มาพบกับโปรดิวเซอร์ที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาลด้วยประการฉะนี้
ในขณะที่ คิคุจิ โมอะ (Kikuchi Moa) หรือ โมอะเมทัล (MOAMETAL) เธออยู่กับสังกัด Amuse มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบจากการประกวด Ciao Girl Audition 2007 ก่อนที่จะมาเดบิวต์ในฐานะ Sakura Gakuin ในปี 2010 ในช่วงเวลาเดียวกับ มิซุโนะ ยุย (Mizuno Yui) หรือ ยุยเมทัล (YUIMETAL) อดีตติ่ง Karen Girls วงเก่าของซูเมทัล เนื่องจากทั้งคู่มีรูปร่างเล็กทัดเทียมกัน และยังมีทักษะการเต้นที่ไม่ธรรมดา โคบะเมทัลจึงจับเอาทั้งคู่มายืนขนาบข้างประกบซูเมทัลผู้เป็นนักร้องเสียงหลัก แล้วให้อีก 2 คนทำหน้าที่เปรียบเสมือนแดนเซอร์และคอรัสของกลุ่ม
BABYMETAL จึงเริ่มต้นขึ้นในฐานะ ‘ชมรมเครื่องดนตรีหนัก’ ของ Sakura Gakuin เนื่องจากคอนเซปต์ของวงเป็นโรงเรียนมัธยมต้น และมีสมาชิกอยู่มากมาย ทำให้มีการก่อตั้งยูนิตย่อยขึ้นภายในวงด้วยรูปแบบเดียวกับชมรมต่าง ๆ
โดยชื่อ BABYMETAL นั้นก็เป็นการเล่นคำกับชื่อแนวดนตรี Heavy Metal เนื่องจากคำว่า Baby มีการออกเสียงที่ใกล้เคียงกับ Heavy และยังมีความหมายแฝงอีกอย่างว่าเป็น “เมทัลที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่” พร้อมสร้างคำนิยามเป็นฌอง (Genre) มาใช้บรรยายสไตล์ดนตรีของวงว่า คาวาอี้เมทัล (Kawaii Metal) และเริ่มต้นด้วยการออกผลงานในระดับอินดี้ด้วยเพลง Doki Doki Morning ในปี 2011 อันเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมด
เส้นทางการเติบโตสู่ระดับโลก
หากสังเกตดูแต่ละซิงเกิ้ลที่ปล่อยออกมาในช่วงแรก จะพบว่าโคบะเมทัลค่อย ๆ ทำงานที่มีพัฒนาการทางสัดส่วนดนตรีมากขึ้นเรื่อย ๆ Doki Doki Morning ที่เป็นเพลงเปิดตัวของวงนั้นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอายในแบบไอดอลญี่ปุ่น ดนตรียังไม่ค่อยหนักมาก แต่จะแทรกความเป็นเมทัลเข้าไปอย่างเป็นสัดส่วนลงตัวพอเหมาะ แล้วค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนของดนตรีเมทัลเข้าไปในงานต่อมา จนในที่สุดก็ไม่เหลือกลิ่นอายของเพลงป็อปไอดอลญี่ปุ่นอีก
แน่นอนว่า ในช่วงแรกสามสาวเองก็ไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรกับดนตรีเมทัลสักเท่าไร แต่โคบะเมทัลเขาพยายามค่อย ๆ ป้อนข้อมูลให้ทุกคนซึมซับวัฒนธรรมของดนตรีเมทัลไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำวงดนตรีที่น่าสนใจ หรือการพาไปขึ้นแสดงกับวงเมทัล ไต่ระดับไปจนถึงขึ้นงานเฟสติวัลใหญ่ที่สุดในประเทศอย่าง Summer Sonic 2012 สร้างสถิติเป็นศิลปินที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ขึ้นแสดงงานนี้ ณ เวลานั้น แม้นั่นจะเป็นแค่เวทีเล็กสุดตรงบริเวณฟู้ดคอร์ทของสถานที่จัดงาน แต่ก็เป็นก้าวสำคัญของประวัติศาสตร์ใหญ่ที่ตามมาภายหลัง
จุดเปลี่ยนใหญ่ครั้งแรกของ BABYMETAL คือการยกระดับจากการเป็นยูนิตย่อยของ Sakura Gakuin มาสู่การเป็นวงเอกเทศเต็มตัว เนื่องจากในเวลานั้น ซูเมทัลกำลังจะมีอายุเกิน 15 ปี โดยตามกฎของ Sakura Gakuin ที่เป็นเสมือนโรงเรียนมัธยมต้นแล้ว คนที่อายุเกินก็ต้องจบการศึกษาออกไปเติบโตต่อไป (และนั่นก็ทำให้เราได้รู้จักกับมิโยชิ อายากะ หรือคุณหมออัน จาก Alice in Borderland ด้วย)
ทางต้นสังกัดที่เห็นว่าไหน ๆ วงย่อยก็ดังกว่าวงหลักอยู่แล้ว งั้นแยกมาทำต่างหากเลยดีกว่า โดยการประกาศยกระดับวงนี้มีขึ้นในคอนเสิร์ต Legend Z ที่ Zepp Tokyo ในปี 2013 ไปพร้อมกับการทัวร์ BABYMETAL Death Match ที่จะประชันกับวงเมทัลของจริงบนเวที ซึ่งในทัวร์นี้ก็ได้เปลี่ยนรูปแบบของ BABYMETAL จากวงไอดอลเมทัลที่เปิดแบ็คกิ้งแทร็คเต้นมาเป็นการแสดงร่วมกับวงแบ็คอัพที่ชื่อว่า Kami Band (วงเทพเจ้า) อันเปรียบเสมือนเทพแห่งดนตรีที่ส่งกำลังมาสนับสนุน BABYMETAL ผู้ได้รับเลือกโดยท่าน Kitsune (เทพจิ้งจอก) เพื่อลงมากอบกู้ดนตรีเมทัล
และในเมื่อเป็นเทพเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องมีชื่อ แถมยังสามารถสลับสับเปลี่ยนสมาชิกได้ตามวาระโอกาสอีกด้วย โดยสมาชิกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นนักดนตรีชื่อดังในแวดวงเมทัลญี่ปุ่นหมุนเวียนมาเล่นให้นั่นเอง
Note – ตามตำนานของวงแล้ว เกือบทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้น กิจกรรมต่าง ๆ ที่ดำเนินไป เขาจะอ้างว่าท่าน Kitsune เป็นผู้กำหนดมา แต่จริง ๆ ก็เป็นเรื่องเล่าสร้างกิมมิคให้วงดูมีความลึกลับน่าค้นหาในสไตล์วงเมทัลเท่านั้นครับ
หลังจากทัวร์ BABYMETAL Death Match พวกเธอก็ได้กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่ถูกจับตามองมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เวที Summer Sonic ที่เคยให้พวกเธอไปแสดงต่อหน้าคนทานมื้อกลางวันก็ได้ยกให้ BABYMETAL เป็นหนึ่งในวงหลักประจำเทศกาลในปี 2013 รวมถึงยังได้แสดงในเทศกาล Loud Park ซึ่งเป็นเทศกาลเฉพาะสายเมทัลล้วน และได้กลายมาเป็นไวรัลจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เนื่องจากพวกเธอได้ถ่ายภาพรวมกับศิลปินเมทัลระดับโลกที่มาทำการแสดงในงานนั้นหลายวง กล่าวได้ว่า ณ เวลานั้น โลกของดนตรีเมทัลฝั่งตะวันตกได้เริ่มรับรู้ถึงการมีอยู่ของวงดนตรีฉีกขนบธรรมเนียมวงนี้แล้ว
ก่อนที่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 BABYMETAL ได้ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกในชื่อเดียวกับวง ผลงานชิ้นนี้ประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อทั้งในแง่ยอดขายที่ถล่มทลายจนได้ติดอันดับชาร์ทเพลงทั้งในและนอกประเทศในอันดับสูง ๆ โดยเฉพาะอันดับ 1 iTunes Metal Chart ในสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ และเยอรมนี รวมไปถึงอันดับ 187 บน Billboard 200 กลายเป็นศิลปินเอเชียที่อายุน้อยที่สุดที่ติดชาร์ทนี้ได้สำเร็จ
เดือนต่อมาพวกเธอยังคงสร้างสถิติต่อไปด้วยการเป็นศิลปินอายุน้อยที่สุดที่ได้ขึ้นแสดงใน Nippon Budokan กลายเป็นใบเบิกทางสำคัญสู่การออก World Tour จนกลายเป็นปรากฏการณ์ของวงการเพลงทั่วโลกในเวลาต่อมา หลังจากก่อนหน้านี้มีเพียงโชว์เล็ก ๆ ที่บางประเทศในทวีปเอเชียเท่านั้น
เส้นทางแรกในระดับโลกของ BABYMETAL คือทวีปยุโรป โดยเริ่มออกสตาร์ทที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ตามด้วยเยอรมนี จนกระทั่งวงได้ประกาศโชว์ในเทศกาล Sonisphere 2014 ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งแต่เดิมแล้วผู้จัดงานวาง BABYMETAL ไว้แสดงบนเวทีเล็กเท่านั้น แต่ด้วยการผลักดันของแฟน ๆ เจ้าถิ่น พวกเธอถูกยกระดับขึ้นมาแสดงบนเวทีหลักของงานร่วมกับวงดนตรีระดับตำนานอย่าง Deftones หรือ Iron Maiden สร้างกระแสไวรัลในวงการเพลงเมทัลให้กระจายกว้างขวางยิ่งขึ้นไปอีก นำไปสู่การทัวร์อเมริกาแบบ Sold Out หรือบัตรขายหมดเกลี้ยงในเวลาต่อมา
ก่อนที่จะกลับมาโชว์ใน Summer Sonic 2014 เป็นคำรบที่ 3 ตามมาด้วยโชว์ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการเพลงญี่ปุ่นด้วยการเป็นศิลปินญี่ปุ่นเบอร์แรกที่ได้แสดงในฐานะ Headline ที่ Wembley Arena ประเทศอังกฤษ ในปี 2016 (คนละที่กับ Wembley Stadium ที่เป็นสนามฟุตบอลนะครับ) ก่อนจะกลับมาปิด World Tour ในบ้านเกิดที่ Tokyo Dome
แต่ก่อนจะออกไปสร้างประวัติศาสตร์ที่ประเทศอังกฤษ ก่อนหน้านั้นวงก็ได้ปล่อยอัลบั้มใหม่ Metal Resistance ผลงานชุดแรกที่วางจำหน่ายทั่วโลกอย่างเป็นทางการ ผลงานชุดนี้ขึ้นอันดับ 2 ของ Oricon Weekly Chart ชาร์ทเพลงใหญ่สุดในประเทศตั้งแต่สัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย และติดอันดับ 39 บน Billboard 200 ชาร์ทเพลงของฝั่งอเมริกาซึ่งถือว่าเป็นชาร์ทเพลงที่ใหญ่ที่สุดของวงการเพลงทั่วโลก ส่งให้ BABYMETAL คือศิลปินญี่ปุ่นรายแรกในรอบ 53 ปีบนตาราง Billboard ถัดจาก Sakamoto Kyu ที่เคยพา Ue wo Muite Arukou หรือ Sukiyaki ยืนหนึ่งบนชาร์ท Billboard Hot 100 ในปี 1963 เส้นทางของพวกเธอในตอนนี้ ทำอะไรก็ออกมาสวยหรูไปเสียหมด
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ
หลังจากปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 และมี World Tour เต็มตัวครั้งแรกแล้ว กิจกรรมของ BABYMETAL ก็วนเวียนอยู่กับการออกทัวร์อีกนับครั้งไม่ถ้วนร่วมกับเหล่าศิลปินระดับโลกทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงจัดคอนเสิร์ตของตัวเอง สลับกับพักเบรคหายไปเงียบ ๆ เป็นระยะ จนกระทั่งปี 2017 ในคอนเสิร์ต Big Fox Festival วันที่ 15 ตุลาคม ณ เวลานั้นยังไม่มีใครทราบว่านี่จะเป็นโชว์สุดท้ายในฐานะ BABYMETAL ของยุยเมทัล อันเนื่องมาจากปัญหาสุขภาพของเธอ
แถมในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ปี 2018 วงก็ได้เสียสมาชิก Kami Band คนสำคัญอย่างคุณ Fujioka Mikio ไปด้วยวัยเพียง 36 ปี จากอุบัติเหตุพลัดตกระเบียงของจุดชมวิวแห่งหนึ่งในวันที่ 30 ธันวาคม 2017 นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดของวง ก่อนที่ BABYMETAL จะออกทัวร์รอบโลกในปี 2018 โดยมีสมาชิกหลักเพียงแค่ 2 คน ตามมาด้วยในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน วงได้ปล่อยเพลงที่ชื่อ Starlight ซึ่งเป็นการ Tribute แก่คุณ Mikio ผู้ล่วงลับ รวมถึงยังได้ประกาศการสิ้นสถานะสมาชิกวงอย่างเป็นทางการของยุยเมทัลอีกด้วย
หลังจากหยุดพักไปช่วงหนึ่ง BABYMETAL ในฐานะวงดูโอกลับมาแสดงคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกของปี 2019 ในวันที่ 28 มิถุนายน ณ Yokohama Arena โดยมีสมาชิกเสริมที่มาสลับสับเปลี่ยนแทนในตำแหน่งของยุยเมทัลด้วยกัน 3 คน โดย 2 จาก 3 คนคืออดีตสมาชิก Sakura Gakuin เพื่อน ๆ ของทั้งซูเมทัลและโมอะเมทัล ในขณะที่อีกคนหนึ่งคือซายาชิ ริโฮะ (Sayashi Riho) สมาชิก Morning Musume รุ่นที่ 9 คู่แข่งสมัยเรียนด้วยกันกับซูเมทัลที่ Actor's School Hiroshima โรงเรียนที่ปั้นเด็กสาวจากจังหวัดฮิโรชิมะสู่วงการบันเทิงญี่ปุ่นมากมาย นอกจาก 2 สาวแล้วก็ยังมีวง Perfume และไอดอลจากแฟรนไชส์ 48 และ 46 อีกหลายคนที่เป็นศิษย์เก่าของที่นี่
ถัดจากนั้นอีก 2 วัน วงก็ลัดฟ้าไปทำการแสดงที่เวทีหลักของเทศกาลดนตรี Glastonbury Festival ที่ประเทศอังกฤษ บันทึกเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะศิลปินญี่ปุ่นรายแรกที่แสดงบนเวทีหลักของเทศกาลดนตรีอันเก่าแก่ยาวนานนี้ ก่อนจะตามมาด้วย Arena Tour ในอเมริกา แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้เราประหลาดใจได้อีกแล้วครับ เนื่องจากในเวลานี้ ไม่มีใครมอง BABYMETAL เป็นเพียงเด็กสาวจากประเทศญี่ปุ่นอีกต่อไป เพราะพวกเธอคือหนึ่งในศิลปินระดับโลกอย่างเต็มตัวไปแล้ว
ทว่าอาจจะไม่ใช่กับแฟน ๆ ชาวไทยที่ยังมีเรื่องให้เซอร์ไพรส์อยู่ เพราะย้อนไทม์ไลน์กลับไปอีกนิด ในวันที่ 28 มิถุนายน ก่อนหน้าโชว์แรกของปีที่ Yokohama Arena ไม่กี่อึดใจในวันเดียวกัน วงได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ที่ชื่อว่า PA PA YA!! เพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาหารไทยอย่างส้มตำ และยังได้คุณกอล์ฟ F.HERO ศิลปินฮิปฮอปสัญชาติไทยมาร่วมแรปเป็นภาษาไทยในเพลงด้วย ส่งให้สาว ๆ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งกว่าเดิมในประเทศไทย และเป็นการส่งสัญญาณอันดีว่าคนไทยมีโอกาสจะได้สัมผัสโชว์ของ BABYMETAL ในอนาคตอันใกล้เป็นแน่แท้ ก่อนจะมีการประกาศโชว์ในไทยอย่างเป็นทางการจริง ๆ และฝันสลายในเวลาไม่นานเพราะ COVID-19 เจ้ากรรม
ในช่วงการระบาดของ COVID-19 ไม่เพียงแค่ BABYMETAL ศิลปินและอีกหลากหลายอาชีพทั่วโลกต่างก็ต้องหยุดชะงักในกิจกรรมของตัวเอง ช่วงนี้จึงไม่มีการออกทัวร์หรือปล่อยเพลงใหม่ใดๆ สิ่งเดียวที่มีให้พูดถึงน่าจะเป็นการขึ้นแสดงบนเวที NHK Kohaku Uta Gassen หรือเทศกาลคอนเสิร์ตขาวแดง ครั้งที่ 71 ในคืนวันสิ้นปี 2020 เพียงเท่านั้น
กลับคืนสู่ทัวร์พร้อมปักหมุดแผนที่ประเทศไทยอีกครั้ง
หลังจากเงียบหายไปเกือบ 2 ปี ในวันที่ 11 ตุลาคม 2022 BABYMETAL ประกาศวางจำหน่ายอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 THE OTHER ONE ในวันที่ 24 มีนาคม 2023 ที่ผ่านมา ทางวงกล่าวว่า ผลงานชิ้นนี้จะเป็นคอนเซปต์อัลบั้ม หรืออัลบั้มที่เล่าเรื่องราวใหญ่ผ่านบทเพลงทั้งหมด ซึ่งในขณะที่เขียนบทความนี้ ตัวผู้เขียนเองก็ยังไม่ทราบถึงเนื้อหาในอัลบั้มทั้งหมด เพราะยังไม่มีโอกาสได้ฟังและตีความหรืออ่านที่แฟนตัวจริงเค้าถอดความหมายออกมา
ในการโปรโมตผลงานครั้งนี้ วงยังได้นำเอาเพลง Monochrome หนึ่งในซิงเกิ้ลที่ปล่อยออกมา ไปร้องสดโชว์แบบเทคเดียวในรายการ THE FIRST TAKE รายการเพลงญี่ปุ่นยอดนิยมบน YouTube อีกด้วย ไม่อาจทราบได้ว่านี่คือสัญญาณที่ดีในการปรับภาพลักษณ์ให้มีคอนเทนท์ที่หลากหลาย เข้าถึงง่ายมากขึ้นหรือเปล่า
นอกจากข่าวดีเกี่ยวกับการกลับมาทำกิจกรรมอีกครั้ง แฟน ๆ ในโซนเอเชียที่เคยถูกยกเลิกทัวร์ไปในช่วง COVID-19 ก็ได้กลับมาเฮอีกครั้ง รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน เพราะวงกำลังจะมีคอนเสิร์ตครั้งแรก (หากไม่เกิดอะไรขึ้นอีก) ในบ้านเราวันที่ 28 พฤษภาคม 2023 ที่ TRUE ICON HALL ห้าง Icon Siam ติดตามรายละเอียดกันไว้ให้ดี ๆ แล้วไปปลดปล่อยพลังที่เก็บไว้จากการรอคอยอันยาวนานกันได้เลยครับ
อิทธิพลต่อวงการเพลง
ไม่เพียงแค่เก็บโปรไฟล์ประดับบารมีตัวเอง หรือสร้างสถิติใหม่มากมายให้กับวงการเพลงญี่ปุ่นเท่านั้น BABYMETAL ยังมีคุณูปการในแง่การเป็นผู้แผ้วเส้นทางใหม่ ๆ ให้กับวงการไอดอลของประเทศญี่ปุ่นเคียงคู่กับอีกหนึ่งวงไอดอลที่มีชื่อว่า BiS หรือ Brand new Idol Society วงพี่สาวของ BiSH กับภาพลักษณ์ฉบับ Anti-Idol อะไรที่ไอดอลเค้าไม่ทำกัน BiS ทำ
เป็นที่น่าบังเอิญว่าทั้ง BABYMETAL และ BiS ต่างก็ถือกำเนิดในปี 2010 กันทั้งคู่ และปล่อยผลงานแรกในระยะเวลาไม่ห่างกันมาก ราวกับทั้งคู่คือผู้ถูกเลือกให้มาปฏิวัติวงการไอดอลทั้งในด้านแนวดนตรีและภาพลักษณ์
เมื่อผลงานของทั้งคู่แพร่กระจายบนโลกโซเชียล ทั้งผู้สร้างสรรค์ผลงานและผู้บริโภคต่างก็ได้รับการเบิกเนตรแล้วว่า ไอดอลไม่จำเป็นต้องร้องเต้นเพลงป็อปเสมอไป ไม่จำเป็นต้องใส่ยูนิฟอร์มฟูฟ่องหรือชุดนักเรียนมัธยม ไม่จำเป็นต้องทำตัวน่ารักตลอดเวลาก็ได้ ในญี่ปุ่นอาจจะไม่มีคำนิยามในการเรียกไอดอลที่แหกขนบเหล่านี้ชัดเจน ก็เหมารวมเป็นจิกะไอดอล (Chika Idol) ที่หมายถึงไอดอลใต้ดินไป (เนื่องจากทำการแสดงตามไลฟ์เฮาส์ที่อยู่ชั้นใต้ดินจริงๆ ก็เลยเรียกแบบนั้น) แต่ในคอมมูนิตี้ต่างประเทศ จะมีคำนิยามเรียกไอดอลประเภทนี้ว่า Alternative Idol
หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อไอดอลแนวทรานซ์คอร์ (Trancecore) อย่าง PassCode มาบ้าง พวกเธอน่าจะเป็นหนึ่งในวงที่ได้รับอิทธิพลจาก BABYMETAL ชัดที่สุด ด้วยแนวคิดแบบเดียวกันคือนำเอาเพลงเมทัลและป็อปไอดอลมารวมกัน ปัจจุบัน PassCode ก็ยังคงอยู่ และประสบความสำเร็จในเส้นทางของตัวเองกับแนวดนตรีทรานซ์คอร์ที่ยึดมั่นมาแต่แรก
หรือถ้าไม่ใช่เพลงเมทัล ก็ยังมีไอดอลแนวอินดี้ร็อกฝั่งอังกฤษ Bellring Shoujo Heart รวมถึงวงรุ่นน้องร่วมค่าย AqbiRec เหมือนกันอย่าง MIGMA SHELTER กับสไตล์ดนตรีที่เรียกว่า ไซคีเดลิกทรานซ์ (Psychedelic Trance) ในยุคแรกก่อนรีเซ็ทภาพลักษณ์มาเป็นสายแดนซ์ที่แข็งแรงเฉียบคมอย่างในปัจจุบัน วงนี้มีการแสดงสดที่แปลกแหวกแนวเหมือนทำพิธีกรรมบางอย่าง อีกวงที่อยากแนะนำให้ไปลองหาชมหาฟังกันคือ Maison book girl ไอดอลแนววิจิตรศิลป์กับดนตรีอาร์ทป็อป (Art Pop) ที่มีความแอ็บสแตรค ต้องอาศัยการตีความอย่างลึกซึ้งเพื่อเข้าถึงงานเพลงและการแสดงของพวกเธอ
ไม่มีใครฟันธงได้ว่า หากไม่มี BABYMETAL (และ BiS) มาเปิดฟลอร์ให้ วงไอดอลตามรายชื่อที่ผู้เขียนยกมาจะถือกำเนิดขึ้นหรือเปล่า เพราะบางวงก็อาจจะเกิดจากไอเดียที่ทางโปรดิวเซอร์เพาะบ่มไว้นานแล้วเพิ่งได้ลงมือทำทีหลังก็เป็นไปได้ แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือทั้งคู่คือผู้มีอิทธิพลต่อไอดอลญี่ปุ่นอย่างมหาศาล ในแง่ของการมอบความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้กับวงการ
จากความสำเร็จของ BNK48 ในประเทศไทย ทำให้มีวงไอดอลสไตล์ญี่ปุ่นถือกำเนิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จนในปัจจุบันนี้มีอีเวนท์ไอดอลในกรุงเทพฯ ให้ไปสนุกกันทุกสัปดาห์ หลาย ๆ วงเองก็ได้อิทธิพลจาก Alternative Idol ญี่ปุ่น นำมาประยุกต์ใช้กับผลงานของตัวเองด้วย
สัปดาห์ไหนว่าง ๆ ผู้อ่านลองไปตามอีเวนท์เหล่านี้ดูก็จะสามารถพบว่าไม่ใช่ทุกวงที่จะเป็นไอดอลแบบ BNK48 เสมอไป บางวงก็เป็นไอดอลแนวร็อก เมทัล หรือถ้าหาดี ๆ แม้แต่แนวชูเกซ (Shoegaze) ก็ยังมี!
ทั้งหมดนี้ตั้งแต่ญี่ปุ่นมาถึงไทยรวมถึงวงการไอดอลในอีกหลายประเทศ ล้วนแล้วแต่มี DNA สืบทอดมาจาก BABYMETAL ไม่มากก็น้อยครับ
ผลงานสำคัญ
ในทรรศนะของผู้เขียนแล้ว การติดตามผลงานของ BABYMETAL ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมาก ด้วยความที่โคบะเมทัลเซ็ตให้วงมีภาพลักษณ์ที่ลึกลับเข้าถึงยาก สมาชิกวงจึงไม่ได้เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กใด ๆ เหมือนกับศิลปินทั่วไป สาวกเทพจิ้งจอกสามารถติดตามข่าวสารได้ผ่านช่องทางที่เป็นทางการของวง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Official Site หรือ YouTube ก็ตาม
ยิ่งถ้าอยากติดตามผลงานเพลงยิ่งง่าย เพราะคุณแค่หาอัลบั้มเต็ม 4 ชุดมาฟังก็พอแล้ว หรือถ้าอยากชมการแสดงของพวกเธอก็สามารถหาซื้อบันทึกการแสดงสดที่มีมากกว่าจำนวนอัลบั้มได้เช่นกัน (เรียกว่าขายบันทึกการแสดงสดเป็นหลัก อัลบั้มเป็นรองยังได้) แต่สำหรับผู้อ่านของ The People แล้ว ผู้เขียนก็อยากจะพูดถึงแต่ละอัลบั้มคร่าว ๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงผลงานแต่ละชุดได้ดียิ่งขึ้นครับ
Babymetal (2014)
อัลบั้มเต็มชุดแรกที่จนถึงทุกวันนี้ผู้เขียนก็ยังยกให้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดชุดนึงของวงการไอดอลที่นำเอาความเป็น J-Pop แบบไอดอลญี่ปุ่นมาผสมผสานกับดนตรีเมทัลได้อย่างลงตัวและหลากหลายสไตล์ อีกทั้งยังนำเอาเพลงเก่าตั้งแต่สมัยเพิ่งเปิดตัวมารวมเอาไว้อย่างเกือบครบถ้วน ทำให้อัลบั้มนี้เปรียบเสมือนการรวมผลงานในช่วงปี 2010-2014 เอาไว้ในงานเดียว เราจึงเห็นพัฒนาการทางดนตรีของพวกเธออย่างชัดเจน ผ่านดนตรีเมทัลหลากหลายฌอง ไม่ว่าจะเป็นทรานซ์คอร์, เมโลดิกเดธเมทัล (Melodic Death Metal), เมโลดิกเพาเวอร์เมทัล (Melodic Power Metal), เมทัลคอร์ (Metalcore) ฯลฯ
Metal Resistance (2016)
ผลงานสุดท้ายของ BABYMETAL ที่ยังมีกลิ่นอาย J-Pop ชัดเจนอยู่ ก่อนที่หลังจากนี้จะปรับแนวทางสู่ความเป็นเมทัลที่เข้มข้นมากขึ้นและลดความน่ารักแบบป็อปไอดอลลง อัลบั้มนี้มีเพลงดังอย่าง KARATE ในแนวกรูฟเมทัล (Groove Metal) ผสมผสานกับนูเมทัล (Nu Metal) ซึ่งเป็นเพลงที่มีอิมแพคต่อวงการเมทัลทั่วโลก ณ เวลานั้นมากที่สุดเพลงหนึ่ง แล้วก็ยังมี Sis. Anger เพลงที่ตั้งชื่อล้อ St. Anger ซิงเกิ้ลสุดห่วยของ Metallica ตำนานแธรชเมทัล (Thrash Metal) แต่กลับทำออกมาเป็นสไตล์แบล็คเมทัล (Black Metal) เสียอย่างนั้น ส่วนเพลงที่เหลือก็มีทั้งฮาร์ดร็อค (Hard Rock), เมโลดิกเพาเวอร์เมทัล, ไวกิ้งเมทัล (Viking Metal) และโปรเกรสสีฟเมทัล (Progressive Metal)
Metal Galaxy (2019)
อัลบั้มชุดแรกหลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากจากการสูญเสียทั้งสมาชิก Kami Band คนสำคัญ รวมถึงการถอนตัวออกจากวงของยุยเมทัล ทำให้ผลงานชุดนี้มีการเติบโตด้านซาวนด์ขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยอายุของสมาชิกวงทั้ง 2 คน การที่จะร้องท่อนฮุคน่ารักๆ อาจจะไม่เหมาะอีกต่อไป อย่าง DA DA DANCE ที่ได้ไอคอนวงการเจร็อค Tak Matsumoto จากดูโอ B’z มาเป็นแขกรับเชิญ แม้จะเป็นทรานซ์คอร์ที่ทำมาแล้วหลายครั้ง แต่เพลงก็มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่ต่างกับฟังงานของศิลปินสายนี้จริงๆ และในอัลบั้มนี้ก็ยังมีเพลง PA PA YA!! เพลงอิเล็กทรอนิกส์เมทัลคอร์ผสานซาวนด์ดนตรีไทยที่ได้ F.HERO ศิลปินชาวไทยไปร่วมร้องท่อนแร๊พเป็นภาษาไทยอีกด้วย แม้เพลงนี้จะมีความสนุกสนานจนคนฟังอยากลุกมาเซิ้ง แต่ก็แทบไม่เหลือกลิ่นอายของเพลงไอดอลแล้วเช่นกันครับ
หลังจากเงียบหายไปเกือบ 2 ปี ในวันที่ 11 ตุลาคม 2022 BABYMETAL ประกาศวางจำหน่ายอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 THE OTHER ONE ในวันที่ 24 มีนาคม 2023 ที่ผ่านมา ทางวงกล่าวว่า ผลงานชิ้นนี้จะเป็นคอนเซปต์อัลบั้ม หรืออัลบั้มที่เล่าเรื่องราวใหญ่ผ่านบทเพลงทั้งหมด ซึ่งในขณะที่เขียนบทความนี้ ตัวผู้เขียนเองก็ยังไม่ทราบถึงเนื้อหาในอัลบั้มทั้งหมด เพราะยังไม่มีโอกาสได้อ่านที่แฟนตัวจริงถอดความหมายออกมา
THE OTHER ONE (2023)
สานต่อแนวทางเมทัลที่สุขุมและละเมียดละไมถัดจากอัลบั้มก่อนหน้า อีกทั้งยังเป็นคอนเซปต์อัลบั้มที่เล่าเรื่องราวผ่านทุกบทเพลงที่ถูกจัดวางมาเป็นอย่างดีให้เหมาะกับการฟังต่อเนื่อง ด้วยความที่อัลบั้มเพิ่งถูกปล่อยออกมาให้ฟังในวันสุดท้ายก่อนผู้เขียนส่งต้นฉบับนี่เอง ทำให้ยังไม่สามารถแกะคอนเซปต์และทำความเข้าใจสิ่งที่ BABYMETAL ต้องการเล่าได้
แต่ในแง่พัฒนาการทางดนตรีแล้ว อัลบั้มนี้ไม่ได้มีพัฒนาการจาก Metal Galaxy มากนัก ด้วยความที่เทรนด์ดนตรีเมทัลในหลายปีมานี้ค่อนข้างนิ่ง ไม่มีแนวเพลงใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็นกระแส และอาจจะเพราะความเป็นคอนเซปต์ ทำให้เพลงในอัลบั้มนี้ค่อนข้างคุมโทนไปในทางเดียวกัน จึงอาจจะพูดได้ว่าเป็นผลงานที่มีความหลากหลายทางดนตรีน้อยที่สุดเท่าที่วงเคยทำมาก็ได้
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ทุกท่านก็น่าจะได้รู้จักกับ BABYMETAL เป็นอย่างดีแล้ว ยังไงก็อย่าลืมเตรียมตัวเตรียมตังค์ไปชมการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจของพวกเธอได้ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2023 นะครับ
เรื่อง: ภูริวัฒน์ เกิดภิบาล
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง:
นิตยสาร Into The Pit Magazine ฉบับที่ 21