‘Birds of a Feather’ ความรักยิ่งใหญ่ที่ความตายมิอาจพราก โดย ‘บิลลี่ อายลิช’

‘Birds of a Feather’ ความรักยิ่งใหญ่ที่ความตายมิอาจพราก โดย ‘บิลลี่ อายลิช’

‘Birds of a Feather’ เพลงรักลุ่มลึกของ ‘บิลลี่ อายลิช’ ว่าด้วยสายสัมพันธ์ที่ความตายมิอาจพรากของคู่รักฟ้าลิขิต

แม้จะเปิดตัวมานานหลายเดือน แต่เสียงนุ่มละมุนของ ‘บิลลี่ อายลิช’ ในเพลง ‘Birds of a Feather’ ยังคงวนอยู่ในหัวใครหลายคนซ้ำไปซ้ำมา โดยเฉพาะในท่อนที่นักร้องสาวร้องย้ำ ๆ ว่า…

I’ll love you ’til the day that I die
‘Til the day that I die
‘Til the light leaves my eyes
‘Til the day that I die

ฉันจะรักเธอตราบจนวันตาย
รักเธอตราบจนวันตาย
จนกว่าดวงตาของฉันจะปิดลง
รักเธอตราบจนวันตาย

Birds of a Feather ซิงเกิลที่สองจากอัลบั้ม ‘Hit Me Hard And Soft’ ของ ‘บิลลี่ อายลิช’ ปล่อยออกมาตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 แต่ยังคงเลี้ยงกระแสได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยเนื้อเพลงที่ทั้งลุ่มลึก โรแมนติก แต่อีกแง่หนึ่งก็ชวนขนลุกอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะท่อนแรกที่ร้องว่า…

I want you to stay 
Til I’m in the grave
Til I rot away, dead and buried
Til I’m in the casket you carry

ฉันอยากให้คุณอยู่เคียงข้าง
จนกว่าร่างของฉันจะถูกฝังในหลุมศพ
จนกว่าร่างของฉันจะเปื่อยเน่าและถูกดินกลบ
จนกว่าฉันจะอยู่ในโลงศพที่คุณแบก

เพลงที่เหมือนถูกแต่งในสุสานของบิลลี่ อายลิช เพลงนี้ เปิดด้วยจังหวะซินธ์ป๊อปกับจังหวะกลองง่าย ๆ บวกกับโปรดักชันที่ใช้เครื่องดนตรีเพียงน้อยชิ้น ช่วยกระตุ้นให้คนฟังรู้สึกใกล้ชิดและเคลิบเคลิ้มไปกับท่วงทำนองที่ชูให้เนื้อเพลงโดดเด่นขึ้นมา 

Birds of a Feather เป็นเพลงที่ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘ความรัก’ และ ‘ความซื่อสัตย์’ ที่ไม่มีวันตาย การอยู่เคียงข้างกันทั้งในยามทุกข์และยามสุข รวมถึงการยอมสิ้นลมหายใจหากชีวิตนี้ปราศจากคนรัก โดยหนึ่งในท่อนที่ทรงพลังของเพลงนี้คือท่อนที่ร้องว่า  

If you go, I’m goin’ too, uh
‘Cause it was always you (Alright)
And if I’m turning blue, please don’t save me
Nothing left to lose without my baby

หากเธอตายจากไปเสียก่อน ฉันก็จะตายตามเธอไปด้วย
เพราะมันเป็นเธอมาตลอด (ใช่)
หากฉันโศกเศร้า ได้โปรดอย่าเข้ามาช่วย
ไม่มีอะไรจะเจ็บปวดไปมากกว่าการสูญเสียสุดที่รักของฉันไปอีกแล้ว

เนื้อเพลงท่อนนี้บอกเป็นนัยว่า ชีวิตที่ปราศจากคู่ครองนั้นไม่คุ้มค่าพอจะมีชีวิตอยู่ เธอขอตายไปเลยยังดีซะกว่า หากต้องอยู่โดยไร้คนรักเคียงข้าง

ส่วนในมุมมองของ ‘วิล แวนซ์’ โปรดิวเซอร์เพลงมืออาชีพ และคนฟังอีกจำนวนมาก เนื้อเพลงที่ดีที่สุดของ Birds of a Feather คือท่อนที่ร้องว่า 

Birds of a feather, we should stick together
I know I said I’d never think I wasn’t better alone

เพราะเราคือคนแบบเดียวกัน เราจึงควรอยู่ด้วยกัน
อย่างที่ฉันเคยพูด ฉันไม่มีวันคิดว่าฉันอยู่ตัวคนเดียวดีกว่า

‘birds of a Feather’ แปลว่า นกที่ขนเหมือนกัน หรือนกในฝูงเดียวกัน สื่อถึงคำพูดที่ว่า คนที่มีความสนใจและค่านิยมคล้ายคลึงกันจะดึงดูดเข้าหากัน ซึ่งสะท้อนว่าความรักระหว่างบิลลี่และคู่รักของเธอ ไม่ใช่แรงดึงดูดที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ทว่าเป็นสายสัมพันธ์ที่หยั่งรากลึกบนพื้นฐานของความเหมือนและความรู้สึกที่เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน 
.
หลัก ๆ แล้ว Birds of a Feather ทำหน้าที่พาทุกคนไปสำรวจความรัก ความผูกพัน และความปรารถนาในสายสัมพันธ์ที่ไม่มีวันแตกหักได้อย่างอ่อนโยนและสะเทือนอารมณ์ เนื้อเพลงแสดงถึงความทุ่มเทและความปรารถนาในรักที่อยู่เหนือกาลเวลา แม้ในยามที่ต้องเผชิญความตาย 
 

อีกหนึ่งสิ่งที่ดีงามมากที่สุดในเพลงนี้คือ ‘เสียงร้อง’ ที่นิ่มนวลและแผ่วเบาของบิลลี่ อายลิช ซึ่งขับให้เนื้อเพลงที่เรียบง่ายมีความโดดเด่นและกระแทกใจคนฟังไปเต็ม ๆ โดยเฉพาะในท่อนที่ร้องซ้ำ ๆ ว่า “I’ll love you ‘til the day that I die” (ฉันจะรักเธอตราบสิ้นลมหายใจ) ซึ่งตอกย้ำถึงการอุทิศตนชั่วนิรันดร์เพื่อรักครั้งนี้

แต่หากเป็นเพลงรักที่พร่ำเพ้อพรรณาถึงความรักเพียงอย่างเดียว ก็ดูจะไม่ใช่สไตล์ของเธอ เพราะในเพลงนี้ยังมีท่อนที่ร้องว่า “Can’t change the weather, might not be forever” ซึ่งเป็นการยอมรับถึงความไม่แน่นอนในชีวิต แม้เธอจะหวังให้ความรักครั้งนี้คงอยู่ตลอดไป เธอก็รู้ดีว่าไม่มีอะไรที่แน่นอน (แต่หากความรักคงอยู่ไปตลอด นั่นก็คงจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด)

นอกจากนี้ Birds of a Feather ยังสะท้อนถึงการต่อสู้เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคไปด้วยกัน ในท่อนที่ว่า “You wouldn’t believe if I told ya” (คุณคงไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันบอก) ที่แสดงให้เห็นว่า คู่รักของเธอไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง และเธอต้องการให้เขาเข้าใจว่าเขามีความหมายต่อเธอมากเพียงใด ขณะที่ในท่อนที่ร้องว่า “But you’re so full of shit” เริ่มแสดงให้เห็นถึงความหงุดหงิด เพราะบิลลี่รู้สึกว่าคู่รักของเธอไม่รู้จักคุณค่าในตัวเอง เธอต้องการให้เขาหยุดสงสัยในตัวเอง และมองเห็นความรักที่เธอมีต่อเขา

เพลงที่กำลังเป็นไวรัลนี้ยังแสดงให้เห็นถึง ‘ความเร้นลับ’ ตรงท่อนที่ร้องว่า “I knew you in another life. You had that same look in your eyes.” (ฉันรู้จักเธอตั้งแต่ชาติก่อน แววตาของเธอยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน) นอกจากจะเป็นความงดงามในแง่กวี เนื้อเพลงท่อนนี้ยังช่วยเพิ่มมิติให้เพลงดูลึกลับ และสื่อถึงการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณที่ข้ามผ่านกาลเวลาและภพชาติ ตอกย้ำว่าความรักครั้งนี้ไม่ใช่แค่การพบกันโดยบังเอิญ แต่เป็นสายสัมพันธ์ที่ถูกกำหนดโดยโชคชะตาหรือฟ้าลิขิต

โดยรวมแล้ว Birds of a Feather เป็นหนึ่งในเพลงที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถทางศิลปะของ ‘บิลลี่ อายลิช’ อย่างไม่ต้องสงสัย ขณะเดียวกันก็เชื้อเชิญให้คนฟังได้นึกย้อนไปถึงวันแรก ๆ ที่ได้ดื่มด่ำกับความรัก นับเป็นช่วงเวลามหัศจรรย์ที่คนสองคนแสดงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะรักษาให้ความรักนั้นยั่งยืนตลอดไป เพื่อให้รักนั้นก้าวผ่านข้อจำกัดของเวลา และสถานที่

แด่ทุกความรักที่ไม่ผุพังตามกาลเวลา และความตายมิอาจพราก

 

เรียบเรียง: พาฝัน ศรีเริงหล้า
ภาพ: Getty Image
อ้างอิง:
Meaning of ‘Birds Of A Feather’ by ‘Billie Eilish’
Billie Eilish BIRDS OF A FEATHER Meaning and Review
Birds Of A Feather Billie Eilish Lyrics: Breaking Down The Words And Meanings Of The Viral Record