27 ก.ย. 2567 | 11:00 น.
มูน แฮวอน (Moon Haewon) นักร้องแจ๊สชาวเกาหลีที่กำลังจะมาเยือนประเทศไทยในเร็วๆ นี้ เป็นศิลปินที่มีเสียงร้องอันไพเราะและมีเสน่ห์ เธอได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะนักร้องแจ๊สที่มีความสามารถทั้งในประเทศเกาหลีและต่างประเทศ
มูน เริ่มต้นเส้นทางดนตรีของเธอ ในฐานะนักร้องนำของวง Winterplay ซึ่งเป็นกลุ่มป๊อปแจ๊สของเกาหลี ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นศิลปินเดี่ยวในปี 2016 แต่น้อยคนจะรู้ว่า “จุดเริ่มต้น” ของความรักในดนตรีแจ๊สของเธอนั้นเกิดขึ้นโดยบังเอิญ
ในระหว่างกำลังศึกษาดนตรีที่มหาวิทยาลัยดังกุก มูนได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมโครงการเกี่ยวกับดนตรีแจ๊ส ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับดนตรีแนวนี้อย่างจริงจัง เธอเล่าถึงประสบการณ์นั้นว่า "ฉันโชคดีมากที่ได้มีประสบการณ์นี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกว่าดนตรีแจ๊สเหมาะกับฉัน และฉันก็เหมาะกับมัน ดังนั้น ฉันจึงเปลี่ยนทิศทางความทะเยอทะยานทางดนตรีของฉันโดยสิ้นเชิง"
ก่อนหน้านี้ มูนเคยฝันที่จะเป็นนักร้องเคป๊อปมาตั้งแต่วัยรุ่น แต่หลังจากได้ฟังเสียงของ เอลลา ฟิทซ์เจอรัลด์ (Ella Fitzgerald) เป็นครั้งแรก มันได้เปลี่ยนแปลงความหลงใหลในดนตรีของเธอไปตลอดกาล
หลังจากจบการศึกษา มูนได้ร่วมงานกับ ลี จู-ฮาน (Lee Ju-han) นักแต่งเพลงและนักทรัมเป็ตชื่อดัง ที่มีอาวุโสมากกว่าถึง 19 ปี เพื่อก่อตั้งวง Winterplay ในปี 2008 ทั้งคู่ได้ผสมผสานความรักในเพลงป๊อปและแจ๊สเข้าด้วยกัน โดยได้แรงบันดาลใจจาก Louis Armstrong ศิลปินตำนานของวงการ
ลี เคยอธิบายถึงแนวคิดของ Winterplay ว่า "เราต้องการทำแบบเดียวกับ Louis Armstrong และกลับไปสู่รากเหง้าด้วยเสียงสมัยใหม่ จริงๆ แล้ว มันเป็นเพลงป๊อปที่มีสีสันของแจ๊สมากกว่า"
Winterplay ได้ปล่อยอัลบั้มแรก "Choco Snow Ball" ในปี 2008 โดยมีเพลงนำภาษาอังกฤษ "Melon Man" ซึ่งเป็นเพลงป๊อปที่มีกลิ่นอายของแซมบ้าผสมผสานกับการโซโล่ทรัมเป็ตแจ๊สของลี วง Winterplay ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและฮ่องกง
ในปี 2013 เพลง "Shake It Up and Down" ของพวกเขาได้ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตนานาชาติของสถานีวิทยุยอดนิยมในฮ่องกง โดยเอาชนะศิลปินดังระดับโลกอย่าง Bruno Mars, Beyonce และไอดอลเคป๊อป อย่าง Girls' Generation
ในปี 2016 มูนได้เริ่มต้นเส้นทางการเป็นศิลปินเดี่ยวอย่างเต็มตัว เธอได้ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก "Kiss Me" ในปี 2018 ภายใต้สังกัด Universal Music อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยขึ้นสู่อันดับ 1 บน iTunes Jazz Chart ในญี่ปุ่น และยังได้ครองอันดับ 1 บน Pop Chart ในฮ่องกง เอาชนะอัลบั้มของ Ariana Grande ที่ปล่อยในช่วงเวลาเดียวกัน
ในปี 2019 มูนได้ปล่อยอัลบั้มชุดที่สอง "Tenderly" ซึ่งบันทึกเสียงในญี่ปุ่นร่วมกับวงดนตรีแจ๊สชาวญี่ปุ่น อัลบั้มนี้รวบรวมบทเพลงแจ๊สและป๊อปที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายศิลปิน ตั้งแต่ George Gershwin ไปจนถึง The Corrs และ Green Day
สองเพลงที่โดดเด่นในอัลบั้มนี้คือ เวอร์ชันสบายๆ ของเพลงคลาสสิก "Loving You" ของ Minnie Ripperton ซึ่งมูนเลือกที่จะหลีกเลี่ยงโน้ตสูงๆ ของต้นฉบับ ทำให้เพลงมีความซับซ้อนมากขึ้น และเวอร์ชันอันยอดเยี่ยมของเพลง "Walk on By" ของ Burt Bacharach ซึ่งเสียงร้องอันนุ่มนวลของเธอลอยอยู่เหนือการเรียบเรียงดนตรีแจ๊สที่ซับซ้อนแต่โปร่งเบา ให้ความรู้สึกเหมือนกระแสลมในฤดูร้อนที่แสนสดชื่น
ล่าสุด มูน ได้ร่วมงานกับ สึโยชิ ยามาโมโต (Tsuyoshi Yamamoto) นักเปียโนชื่อดังชาวญี่ปุ่น ในอัลบั้ม Midnight Sun (2024) ที่รวบรวมเพลงสแตนดาร์ดแจ๊ส โดยมีทั้งเพลงระดับขึ้นหิ้ง อย่าง "Misty" (บทประพันธ์ของ Errol Garner) และเพลงออริจินัลของ Moon อย่าง "Look to the Moon" อัลบั้มนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนเพลงแจ๊สและนักฟังเพลงทั่วไป
มูนมีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งนุ่มนวลและมีพลัง เธอสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของเพลงได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นเพลงรักหวานซึ้งหรือเพลงสนุกสนาน เสียงของเธอมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนไปตามแนวเพลงได้อย่างหลากหลาย
แนวดนตรีของมูนเป็นการผสมผสานระหว่างแจ๊สและป๊อป เธออธิบายว่า "เมื่อคนคิดถึง Winterplay พวกเขามองว่าเราเป็นนักดนตรีแจ๊ส และจินตนาการว่าทุกอย่างที่เราทำจะเป็นแจ๊ส แต่เมื่อคุณฟังเพลงของเรา บางเพลงก็ห่างไกลจากแจ๊สมาก อาจจะฟังดูเป็นแจ๊ส แต่แน่นอนว่าไม่ใช่แจ๊สล้วนๆ"
แม้ว่ามูนจะประสบความสำเร็จในฐานะนักร้องแจ๊ส แต่เธอยอมรับว่าดนตรีแจ๊สยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในเกาหลี เธอกล่าวว่า "ฉันคิดว่ามันเป็นเทรนด์ทั่วโลกที่คนไม่ค่อยฟังแจ๊สเท่ากับเพลงป๊อป โดยเฉพาะในเกาหลี แจ๊สเป็นเพียงส่วนน้อยของส่วนน้อย"
อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่าแจ๊สสามารถเป็นที่นิยมในเกาหลีได้ โดยอ้างอิงจากประสบการณ์ของตัวเองที่ตกหลุมรักดนตรีแจ๊สหลังจากได้ฟังเป็นครั้งแรก "ยิ่งฟังเพลงแจ๊สมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งหลงเสน่ห์ของมันมากขึ้นเท่านั้น ฉันเชื่อว่าฉันมีหูแบบเดียวกับคนส่วนใหญ่ที่คุ้นเคยกับเพลงป๊อปมากกว่าแจ๊ส แต่ฉันตกหลุมรักมัน และใครๆ ก็สามารถเป็นแบบนั้นได้"
การทำเพลงในแนวที่ไม่ได้เป็นกระแสหลักในประเทศบ้านเกิดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มูนเล่าว่าแม้แต่บริษัทต้นสังกัดเดิมของเธอก็ยังไม่รู้ว่าจะวางตำแหน่งทางการตลาดให้กับ Winterplay อย่างไร "เราทำเพลงป๊อปที่มีองค์ประกอบของแจ๊ส ดังนั้น พวกเขาจึงจัดประเภทเราไว้ในแนวแจ๊ส”
แต่ความท้าทายเหล่านี้ก็ไม่ได้หยุดยั้งความสำเร็จของมูน เธอได้สร้างฐานแฟนเพลงที่แข็งแกร่งทั้งในเอเชียและยุโรป โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและฮ่องกง ความสามารถในการผสมผสานองค์ประกอบของแจ๊สเข้ากับเพลงป๊อปได้อย่างลงตัวทำให้เธอสามารถดึงดูดทั้งแฟนเพลงแจ๊สและผู้ฟังทั่วไป
"เราไม่ได้ต้องการเข้าหาผู้ฟังด้วยแนวดนตรีเฉพาะแนวใดแนวหนึ่ง" เธอกล่าว "เราแค่อยากเป็นนักดนตรีที่ทำเพลงที่ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลาย มีความสุข และบางครั้งก็ให้ความอบอุ่นใจด้วย"
การแสดงที่กำลังจะมาถึงในกรุงเทพฯ จึงไม่เพียงแต่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับแฟนเพลงในการสัมผัสกับเสียงร้องอันไพเราะของมูน แต่ยังเป็นโอกาสสำหรับเธอในการแนะนำตัวเองและดนตรีแจ๊สให้กับผู้ฟังชาวไทยอีกด้วย
คอนเสิร์ต "Tsuyoshi Yamamoto Trio & Moon Haewon - Live in Bangkok!" เป็นการแสดงร่วมกับ สึโยชิ ยามาโมโต ทริโอ วงแจ๊สชั้นนำจากญี่ปุ่น จะจัดขึ้นสองรอบด้วยกัน เริ่มจาก Grand Concert ในวันที่ 21 ตุลาคม 2024 เวลา 20:00 น. ณ โรงละครอักษรา Aksra Theatre และอีกงาน จัดในรูปแบบ Gala Concert ในวันที่ 22 ตุลาคม 2024 เวลา 19:00 น. ณ The Living Room, Sheraton Grande Sukumvit
ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรได้ที่ www.jazzlegendsbkk.com