มาร์ค ลี : ผลผลิตแรกที่เป็นผลลัพธ์การเรียนรู้และความพยายามที่ไม่สิ้นสุด

เคยมีคนบอกว่า เราอาจกำลังรักศิลปินเหมือนลูกคนหนึ่ง

อาจเป็นเพราะหลาย ๆ คนเดบิวต์ตั้งแต่ยังเด็ก แล้วเราก็เห็นชีวิตของเขาที่ค่อย ๆ เติบโตขึ้น เช่นเดียวกับ 

‘มาร์ค ลี’ ศิลปินจากค่าย SM Entertainment ที่เดบิวต์บ่อยที่สุด แล้วเราก็เห็นเขาเติบโตขึ้นทุกวัน 

มาร์คได้ชื่อว่าเป็นศิลปินอายุน้อยร้อยงาน ร้อยการเดบิวต์ เพราะเขาเป็นทั้งสมาชิกวงของ NCT, NCT Dream, NCT 127 และ SuperM โดยยังไม่นับรวมกับผลงานเดี่ยวต่าง ๆ ในระยะเวลาเกือบ 10 ปีของการเดบิวต์

มาร์คเดบิวต์ตั้งแต่อายุ 15 ปี ผ่านบททดสอบมามากมาย แต่เขายังรักษารอยยิ้ม เสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง และยังคงทำงานหนักกว่าใครเสมอ 

ถึงใครจะว่าอย่างไร แต่การเป็นสมาชิกของบอยกรุ๊ปหลายวง คือ คำตอบการเดินทางความฝัน การต่อสู้กับตัวเอง การเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด เพื่อค้นหาตัวเอง และค้นพบนิยามของศิลปินในแบบที่เขาอยากจะเป็น

เด็กชายที่ตามพี่ไปออดิชั่น

มาร์คหรือ ‘อีมินยอง’ เป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน เกิดที่โตรอนโต ประเทศแคนาดา จนอายุ 7 ขวบก็ย้ายไปอยู่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และย้ายมาอยู่ที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดาตอนอายุ 12 ปี 

เด็กชายคนนี้เป็นเด็กเรียนดี คะแนนสูงจนพ่อแม่คาดหวังว่า ลูกชายจะประสบความสำเร็จและเรียนจบจากมหาวิทยาลัยที่ดีได้

“ครอบครัวของผมหวังให้พี่เป็นดารา K-Pop แล้วพวกเขาก็บอกว่า ส่วนลูก (มาร์ค) ต้องไปเรียนที่ฮาร์วาร์ด บรรยากาศบ้านผมเป็นแบบนั้น เพราะว่าพี่มีเพื่อนเยอะ แล้วก็ชอบออกไปข้างนอก ส่วนผมคงเป็นคนที่ความรู้สึกไม่ค่อยมั่นคง” มาร์คบอกในสารคดี NCT127 Documentary : The Lost Boys

เอาจริง ๆ มาร์คไม่ได้ฝันอยากจะเป็นดารา ไม่ได้อยากออดิชัน แต่เขาบอกว่า การที่เขาได้มาเป็นเด็กฝึกมันเหมือนพรหมลิขิต วันหนึ่ง ค่าย SM Entertainment มาเปิดออดิชั่นที่แวนคูเวอร์ แล้วเผอิญว่า โรงเรียนหยุดวันนั้น มาร์คเลยตัดสินใจไปออดิชั่นกับพี่ชายด้วย 

"มันไม่ใช่วันหยุด มันเป็นวันธรรมดา แล้วผมก็กำลังจะไปโรงเรียนอยู่แล้ว แต่ผมลองใช้ความกล้าไปออดิชั่น หลังจากที่โรงเรียนหยุดในสัปดาห์นั้น ผมก็เลยคิดว่า ไหน ๆ ก็ไม่ต้องไปเรียนแล้ว งั้นลองไปดูสักหน่อย ผมไปกับพี่ชายของผม และมันก็กลายเป็นแบบนี้" 

ถึงจะดูมาออดิชั่นแบบไม่ตั้งใจ แต่ความสามารถของเขาก็ดันถูกตาต้องใจกรรมการจนเลือกให้มาร์คเข้ามาเป็นเด็กฝึก  ค่าย SM Entertainment ได้สำเร็จในปี 2012 พร้อมกับต้องเก็บกระเป๋ามาใช้ชีวิตที่เกาหลีใต้

มาร์คฝึกฝนตัวเอง ผ่านไป 1 ปี มาร์คถูกเปิดตัวในฐานะสมาชิกคนล่าสุดของทีม ‘SMROOKIES’ เด็กฝึกที่กำลังจะได้เดบิวต์ในเวลาอันใกล้

แล้วถึงจะดูเหมือนว่าจะได้เดบิวต์ แต่มาร์คไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง และตั้งเป้าทำทุกอย่างแบบสุดความสามารถ จนกลายเป็นเด็กฝึกที่หลาย ๆ คนยอมรับ

อายุน้อยร้อยเดบิวต์

“มาร์คจะถูกได้รับเลือกเป็นสมาชิกที่ฝึกหนักมากที่สุด” แทยง หัวหน้าวง NCT127 พูดถึงมาร์คไว้แบบนั้น

ถึงเราจะไม่ได้เห็นชีวิตเบื้องหลังการเป็นเด็กฝึก แต่เรารับรู้ได้ถึงความตั้งใจและความพยายามของมาร์ค ในรายการ Dive Studio มาร์คเองก็เล่าว่า วันที่ออดิชั่น เขาแรปไม่เป็น ออดิชั่นเข้ามาด้วยการร้อง

แต่เมื่อเข้ามาอยู่ที่เกาหลี เขาก็ฝึกร้อง ฝึกเต้น และที่สำคัญ คือ ‘พยายามใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด’

ความพยายามและความตั้งใจของมาร์คทุกคนรับรู้ได้ รวมถึงสมาชิกของ NCT Dream จีซองน้องเล็กของวงเคยพูดว่า มาร์คฝึกหนักมาก เวลาที่มาร์คจะได้พัก คือ ช่วงเวลากินข้าวเท่านั้น

"มาร์คฝึกฝนมากจนเกินจินตนาการ เขาฝึกทุกวันตลอดทั้งวันยกเว้นช่วงเวลาที่ต้องกินอาหาร ดังนั้นถ้าเขารู้สึกเหนื่อยจากการเต้น เขาก็จะฝึกการแร็ปต่อไป" 

มาร์คใช้เวลาประมาณ 3 ปี ฝึกร้อง ฝึกเต้น ฝึกแรปเป็นลูปชีวิตอยู่แบบนั้น จนปี 2016 เขาก็ได้เดบิวต์เป็นหนึ่งในสมาชิกของ NCT U ในเพลง ‘7th Sense’ ถึงจะเป็นน้องเล็ก แต่ก็เท่ไม่แพ้พี่ ๆ เลย 

“ด้วยชื่อเสียงของ SM และการที่พวกเราเป็นบอยแบนด์ที่เดบิวต์ หลังจาก EXO มันมีความคาดหวังสูงมาก เราเลยต้องฝึกกันอย่างหนัก แล้วระบบของ NCT เองก็ไม่ใช่อะไรที่ง่ายเลย ทั้งหมดนั้นมันยิ่งทำให้เราต้องเตรียมตัวให้หนักขึ้นไปอีก

“แต่พอได้เดบิวต์ด้วยเพลง The 7th Sense เป็นเพลงแรกของผม ผมรู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ เพลงนั้นมันเท่มาก แล้วมันก็ยังเท่มาจนถึงทุกวันนี้ด้วย ผมยังรู้สึกดีใจเสมอที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน”

ผ่านไปอีกไม่กี่เดือน เขาก็เดบิวต์ครั้งที่ 2 กับการเป็นสมาชิกวง NCT127 ยูนิตแรกของจักรวาล NCT ซึ่งเป็นยูนิตหลักของเกาหลี และผ่านไปอีกเดือนเดียวเขาก็เดบิวต์ครั้งที่  3 กับการเป็นหัวหน้าวง NCT Dream ยูนิตที่สอง NCT ของสมาชิกแก๊งน้องเล็ก เพื่อมอบความฝันและความฝันให้กับพี่ ๆ ทุกคนบนโลกใบนี้   

ถึงจะดูหนักเกินไป สำหรับเด็กอายุ 15 ปี แต่มาร์คก็ทำได้ดีทั้งสองยูนิต ตอนอยู่กับ NCT127 เขาก็เป็นน้องเล็กคนรองที่ทำสาว ๆ ใจละลายในทุกท่อนที่เขาร้องและทุกการเคลื่อนไหว

ในฐานะศิลปิน เขาก็ยังรับรู้ว่า NCT127 เป็นวงที่เท่มาก ๆ และอยากให้โลกใบนี้รับรู้

“ผมเป็นคนหนึ่งที่เห็นพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนตั้งแต่เด็กฝึก แล้วตอนนี้ตรงหน้าของผมก็คือเหล่าเมมเบอร์ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ได้กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่เท่มาก ๆ แล้ว เพราะงั้นก็เลยคิดว่า ว้าว พวกคนที่ฝึกมาด้วยกันตั้งแต่ตอนนั้นเป็นคนที่เท่ขนาดนั้นเลยเหรอ 

“ทุกครั้งที่คิดแบบนั้น ผมก็รู้สึกภูมิใจในตัวเมมเบอร์ทุกคน แล้วก็พวกเรา 127 เพราะผมมั่นใจว่าพวกเราเท่เลยรู้สึกภูมิใจและอยากให้โลกนี้รับรู้ถึงมัน”

ส่วนตอนอยู่กับ NCT Dream มาร์คเป็นพี่ใหญ่ที่น่ารัก เป็นเพื่อนเล่น เป็นครอบครัว และเป็นผู้นำที่เมมเบอร์ทุกคนไว้ใจ 

"ผมรู้สึกว่าบทบาทของผมในทีมนี้... ใช่ ผมเป็นพี่ใหญ่สุดและเป็นลีดเดอร์ของวง ที่เกาหลี เรื่องอายุสำคัญมากก็จริง แต่พวกเราผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะมาก จนเส้นแบ่งพวกนั้นมันค่อย ๆ หายไป ตอนนี้พวกเราเหมือนเป็นเพื่อนกัน แล้วผมก็คิดว่าผมเองก็เป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งของพวกเขาด้วยเหมือนกัน"

จนมาถึงการเดบิวต์ครั้งที่ 3 การเป็นน้องเล็กในบอยกรุ๊ป ‘SuperM’ ในปี 2019 เพื่อตีตลาดสหรัฐอเมริกาโดย SuperM คือ ภาพสะท้อนการทำงานของศิลปินที่มีทักษะโดดเด่น ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 7 คน คือ แทมิน Shinee, แบคฮยอนและไคจาก EXO, แทยงและมาร์ค NCT รวมถึงลูคัสกับเตนล์จาก WayV

“บางครั้งผมก็คิดกับตัวเองในขณะที่กำลังซ้อมอยู่กับพวกเขา อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กันว่า ผมอยู่ในห้องซ้อมกับคนที่ผมเคยชื่นชมมาตลอดจริง ๆ แค่ได้อยู่กับพวกเขาผมก็ได้เรียนรู้อะไรมาเยอะมากแล้ว”

แม้โอกาสจะวิ่งชนเข้าหามาร์คอยู่ตลอด ถึงอย่างนั้น มาร์คก็ยังฝึกหนักและทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ตัวเองผิดหวังและแฟนคลับของเขาผิดหวัง

ในรายการวิทยุเมื่อปี 2022 แจมินให้สัมภาษณ์ว่า “​​สมาชิกที่ทุ่มเทที่สุดและไม่เคยเปลี่ยนไปเลยก็คือมาร์ค ลี ซึ่งตอนนี้ก็นั่งอยู่ตรงหน้าผม พี่มาร์คแทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยในบรรดาทุกคนที่ผมเคยรู้จัก เขาฝึกฝนอย่างไม่หยุดหย่อนมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กฝึกแล้ว”

จากการเดบิวต์ในหลากหลายยูนิต ทั้งในฐานะน้องเล็ก พี่ใหญ่ หรือแม้แต่ลีดเดอร์ มาร์คพิสูจน์ให้เห็นว่า เขาเป็นศิลปินที่เต็มไปด้วยความสามารถ แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่ทำให้เขาเป็นที่รักและได้รับการยอมรับจากทั้งแฟนคลับและเพื่อนร่วมวงมาตลอด ก็คือ ความทุ่มเทที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้

ศิลปินที่ยุ่งมาก แต่ยังคงค้นหาตัวตน

ปี 2023 มาร์คถูกจัดอันดับเป็นศิลปิน K-Pop ที่มีตารางงานมากที่สุดเป็นอันดับ 2 คือ 433 งาน

และปี 2024 เขาก็ยังคงอันดับ 2 การเป็นศิลปิน K-Pop ที่มีตารางงานมากที่สุด คือ 674 งาน

อาจเป็นเพราะในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมา มาร์คต้องไปออกทัวร์กับ NCT127 ต่อด้วย NCT Dream ยังไม่นับรวมผลงานเดี่ยวของตัวเองที่ปล่อยซิงเกิลอย่าง ‘Golden Hour’ และ ‘200’ และตารางงานในฐานะ Brand Ambassador ของ Polo Ralph Lauren ด้วย 

ขณะเดียวกันโอกาสต่าง ๆ ที่เข้ามาก็มาพร้อมกับบททดสอบอีกมากมาย บททดสอบแรก คือ วันที่เขาซึ่งเป็นพี่ใหญ่และหัวหน้าวงอายุครบ 20 ปี ต้องจบการศึกษาจาก NCT Dream  ตามเงื่อนไขเรื่องอายุ แต่สุดท้ายมาร์คก็กลับมาเติมเต็มฝันได้สำเร็จ หลังผ่านไป 3 ปี

“ตอนที่ผมกลับมา ผมไม่ได้โล่งใจขนาดนั้น ผมไม่รู้ว่าแฟน ๆ จะรู้สึกอย่างไร มันเป็นเรื่องค่อนข้างซับซ้อน แต่มันก็หมายความว่าเราสามารถทำอะไรบางอย่างในฐานะ 7Dream ที่เราใฝ่ฝันมาตลอดได้”

ทุกคนรู้ มาร์คทำงานหนัก อยู่หลายวง เป็นทุกอย่าง แต่สำหรับมาร์คการทำหลายหน้าที่จนไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้วตัวตนของผู้ชายที่ชื่อ ‘มาร์ค ลี’ คือใคร

“ตอนเป็นเด็กฝึก ผมต้องฝึกหนักมาก แต่สิ่งที่ผมกังวลมากที่สุด คือ ผมไม่สามารถนิยามตัวเองได้ นี่ผมเป็นคนเกาหลีหรอ หรือเป็นคนแคนาดา มันยากจะที่ตอบคำถามนั้น เหมือนผมกระโดดไปรอบ ๆ จากกรุ๊ปหนึ่งไปอีกกรุ๊ปหนึ่ง ผมนิยามตัวเองไว้หลายทาง แต่ผมมักจะคิดว่า ตัวตนไหนคือตัวตนของผมจริง ๆ”

มาร์คไม่ได้เร่งหาคำตอบ เขาเลือกที่จะตั้งใจทำงานและค้นหาตัวตนผ่านเสียงเพลง รวมถึงเรื่องราวมากมายบนเส้นทางดนตรี 

อย่างเพลง ‘Child’ ซิงเกิลแรกของมาร์คที่ปล่อยออกมาปี 2022  ที่พูดถึงเรื่องการรับผิดชอบในฐานะผู้ใหญ่ แม้ในบางครั้งเขายังคงรู้สึกเหมือนเด็ก เพราะสุดท้าย “เขาก็เป็นเพียงเด็กคนหนึ่งที่ไม่สามารถเป็นแบบที่คนอื่นต้องการได้”

มาร์คเคยให้สัมภาษณ์ว่า เพลง ‘Child’ ทำให้เขาเริ่มค้นพบตัวเองที่อยากจะทำให้ทุกอย่างดีที่สุด โหยหาการทำงานและเพลงที่มีคุณภาพที่สุด พร้อมกับเรียนรู้ว่าเขาได้เติบโตไปพร้อมกับเสียงเพลง

“หลังจากเพลง 'Child' ผมเริ่มรู้ตัวว่า ผมต้องขยายวิธีรมองตัวเองทั้งในด้านดนตรีและในฐานะคนคนหนึ่งด้วย มีหลายสิ่งในโลกและตัวตนที่ผมต้องค้นหา  ดังนั้นยิ่งผมรู้จักตัวเองมากขึ้น ยิ่งผมเติบโตขึ้น ผมแค่ต้องการใส่สิ่งเหล่านั้นลงไปในเพลงของผม เติบโตไปพร้อมกับดนตรี และดูว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน”

อายุที่มากขึ้น ประสบการณ์ที่มากขึ้น และชั่วโมงบินในวงการที่มากขึ้น ทำให้มาร์คโตขึ้นจริง ๆ เมื่อเดือนตุลาคม 2023 มาร์คไปออกรายการ Dive Studio เขาบอกว่า จากที่คิดว่าชีวิตต้องสมบูรณ์แบบ แต่วันนี้เขาเริ่มยอมรับว่าชีวิตอาจไม่สมบูรณ์แบบ

“ช่วงแรก ๆ ที่ผมมาเกาหลี ผมคิดว่าผมจะต้องสร้างชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่สุด ผมไม่โทษใคร ไม่โทษสภาพแวดล้อม เพราะมันเป็นเรื่องที่อยู่ภายในตัวผม แต่ตอนนี้ผมเริ่มยอมรับความไม่สมบูรร์แบบ และพยายามและมองหาสิ่งที่จะช่วยให้ชีวิตผมใกล้กับความสมบูรณ์แบบในแบบที่ผมคิด แล้วก็ปล่อยให้ชีวิตมันดำเนินต่อไป”

ปี 2025 ก็เป็นอีกปีที่มาร์คยังทำงานหนัก แต่ที่พิเศษ คือ มาร์คกำลังจะปล่อยอัลบั้มโซโล่แรกเป็นของตัวเอง ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางดนตรีของเขา

ผลผลิตแรกของมาร์คลี

ไม่เพียงแค่หมวกการเป็นสมาชิก NCT, NCT Dream, NCT127 หรือ Super M แต่วันที่ 7 เมษายน 2025 นี้ มาร์คกำลังจะสวมหมวกและเดบิวต์เป็นศิลปินเดี่ยวอย่างเป็นทางการ

จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้ มาร์คก็ปล่อยซิงเกิลเดี่ยวของตัวเองออกมาต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Child, Golden Hour, 200 หรือ Fraktsiya  (프락치) ที่ร่วมแรปกับอียองจี  ถึงอย่างนั้น มาร์คก็กำลังจะปล่อยอัลบั้มโซโล่เดี่ยวเป็นครั้งแรกในชื่อ ‘The First Fruit’ อัลบั้มที่สื่อถึง ‘ผลผลิตแรก’ ของมาร์ค

“มันคือผลแรกที่ผมผลิตออกมา ล้ำค่าที่สุด ผมจะมอบสิ่งที่สำคัญที่สุด ผลผลิตแรกมันสำคัญที่สุด มันมีความหมายแบบนั้นครับ”

อัลบั้ม First Fruit มีศิลปินที่ชื่อมาร์ค ลี เป็นผู้ควบคุมการผลิต มีเพลงไตเติ้ลชื่อ ‘1999’ ซึ่งมาจากปีเกิดของมาร์ค บรรจุเพลงไว้ทั้งหมด ‘13 เพลง’ ‘13 การเดินทาง’ จาก ‘4 เมือง’ ที่มาร์คใช้ชีวิตและเติบโตมา

โตรอนโต นิวยอร์ก แวนคูเวอร์ และโซล

แล้วดูเหมือนผลผลิตแรกของมาร์ค โดยเฉพาะเพลง ‘1999’ จะทำให้เขาเริ่มค้นพบแล้วว่า ตัวตนของเขาคือใคร 

“เป้าหมาย คือ การที่ผมได้เป็นศิลปินที่สามารถถ่ายทอดคุณค่าที่ผมแสวงหาได้ นี่ไม่ใช่แค่ความสำเร็จหรือเป้าหมายของผมเท่านั้น ผมอยากจะสร้างโลกที่ดีขึ้น ไม่อยากเป็นคนที่ลืมง่าย ๆ คงไว้ซึ่งความเสมอต้น เสมอปลาย เพราะตอนนี้คุณรู้แล้วว่า คุณจะเป็นคนแบบไหน อยากเป็นศิลปินแบบไหน 

“เพราะงั้นอย่าลืม ทุกก้าวที่ผมก้าวผ่าน คือ สิ่งที่ทำให้เป็นผมทุกในตอนนี้ ราวกับเป็นผลผลิตแรก เพราะนี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น”

สุดท้ายแล้ว ผลผลิตแรก (The First Fruit) ของมาร์คไม่ได้เป็นเพียงชื่ออัลบั้ม แต่เป็นผลผลิตแห่งความทุ่มเท การเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด และความพยายามที่ไม่ลดละของ ‘มาร์ค’ ที่ทำให้เรารู้ว่า การเดินตามความฝันนั้นไม่ใช่แค่การไปถึงจุดหมาย แต่คือการเติบโตในทุกก้าวของการเดินทาง

 

ภาพ : ทวิตเตอร์ NCT / อินสตาแกรม superm, nct_dream, NCT127 และ onyourm__ark

 

อ้างอิง

Mark Shares How His NCT Solo Music Refuels His Passion Within K-Pop ‘Chaos’ / Billboards

NCT DREAM Open Up on Maturing & Taking More Creative Control in Group’s ‘New Chapter’ / Billboards

NCT’s Mark Lee Gets Sentimental in “Child” / envimedia

Meet NCT’s Mark Lee, the Busiest Man in K-Pop / The Hollywood Reporters

Jisung told the story from Mark's trainee days / yaso_flower04

2024 End-Year Kpop Reports: The Busiest Kpop Idols, Groups With Most Schedules, Most Music Shows Wins And More / jazminemedia

Here Is What NCT DREAM’s Mark Was Known For Since His Trainee Days, According To His Members / koreaboo

NCT’s Mark Is The Most Successful Fanboy Of His Own “Avengers” Group SuperM / koreaboo

NCT’s Mark Reveals His Feelings Being Back In NCT DREAM After SM Entertainment Removed The Groups’ Graduation Concept / koreaboo

NCT’s Mark Lee says he feels he was “destined” to become a K-pop idol / NME

SuperM On How The Members Were Chosen, Their Group Dynamic, And More / soompi

NCT Dream Talks About The Song They Dedicated To Mark And Their Latest Comeback / soompi

NCT’s Mark Lee on Dreams, Instagram Poetry, and Growing Up / teenvogue

NCT Dream Talk New Album “Hot Sauce” and Mark’s Triumphant Return / teenvogue

MARK of NCT 127 Never Stops Talking, Can Anyone 'Fact Check' This Convo?! ✅ | DAEBAK SHOW S3 EP15 / Dive Studio

Finding | REcording MARK EP.2 / NCT

Mark Lee (b. 1999) / NCT

Laugh It Up, ‘Cause We Belong TogetherㅣFill It UpㅣEP. 5 / NCT127