พี่นัทพี่แนน Disney Club: แด่ความทรงจำในวัยเยาว์ ทุกเช้าวันเสาร์

พี่นัทพี่แนน Disney Club: แด่ความทรงจำในวัยเยาว์ ทุกเช้าวันเสาร์
หากใครมีช่วงชีวิตวัยเด็กในยุคคาบเกี่ยวระหว่าง 80s - 90s เช้าวันเสาร์และอาทิตย์คือช่วงเวลาทองของคุณหนู ๆ ที่ทุกคนต่างเฝ้าหน้าจอ ยอมลุกจากที่นอนโดยไม่เกียจคร้าน พร้อมจับจองรีโมทเพื่อนั่งดูทีวี ที่แม้ทางเลือกจะไม่เยอะเช่นปัจจุบัน แต่แทบทุกช่องก็ใช้ช่วงเวลานี้แย่งชิงเวลาเพื่อให้เด็ก ๆ ได้รับชมการ์ตูนขวัญใจกันอย่างเต็มที่ ช่อง 9 ที่มี “ช่อง 9 การ์ตูน” ที่คัดสรรการ์ตูนญี่ปุ่นสุดฮิตในยุคนั้น อย่าง ดราก้อนบอล ให้เราได้ปล่อยพลังคลื่นเต่าของโกคู หรือช่อง 3 ก็ฟาดฟันด้วยพลังคอสโมกับเหล่านักรบชุดเกราะเซนต์เซยา ซึ่งเป็นช่วงยุคทองของการ์ตูนต่อสู้ และการ์ตูนญี่ปุ่น ที่ทำให้ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่แม้จะผ่านเนินนานกว่า 30 ปีแล้ว เด็กยุคนั้นที่เป็นผู้ใหญ่จวบจนวันนี้ก็ไม่มีวันลืมเลือนได้ลง หากแต่ในช่วงเวลานั้นเอง ช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ กลับสร้างทางเลือกอีกทางให้กับคุณหนู ๆ ที่อยู่ในวัยเด็กเล็กกว่า ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนชื่อดังของค่ายในตำนานจากฟากฝั่งอเมริกานั่นคือ Disney จนช่วงเวลา 8 โมงเช้า ที่มาก่อนละครจักร ๆ วงศ์ ๆ เรื่องดัง เป็นช่วงเวลาสวรรค์ที่เราจะได้ชมการ์ตูนสั้นจบในตอนของเหล่า มิกกี้ / มินนี่ / โดนัลด์ดั๊ก / ชิปกับเดล ไปจนถึงหมีพูห์ ในรายการ Disney Club นั่นเอง Disney Club คือรายการแนววาไรตี้ผสมการ์ตูนที่กลายเป็นตำนานหน้าหนึ่งของวงการโทรทัศน์ไทย ที่ช่อง 7 ได้ติดต่อซื้อลิขสิทธิ์กับค่ายยักษ์ Disney ในยุคที่ประเทศไทยเริ่มให้ความสำคัญกับกฎหมายลิขสิทธิ์กันอย่างจริงจัง โดย Disney เองในช่วงเวลานั้นก็เพิ่งหลุดพ้นจากสภาวะขาดทุนจากหนังการ์ตูนที่เสื่อมความนิยม จนมีการแก้เกมและให้ความสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ดีสนีย์ในทั้งในประเทศ และตลาดต่างประเทศ ด้วยการสร้างการ์ตูนฉายโรงที่ทั้งเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูดี อย่าง Oliver & Company (เหมียวน้อยโอลิเวอร์กับเพื่อนเกลอ,1988) ก่อนจะกลับมาโด่งดังถึงขีดสุดกับ เงือกน้อยผจญภัย (The Little Mermaid, 1989) ที่เป็นจุดเริ่มของการสร้างตำนานเจ้าหญิงดิสนีย์อีกครั้ง โดยมีการใส่เนื้อร้องภาษาท้องถิ่นในประเทศนั้น ๆ เข้าไปด้วย และเมื่อธุรกิจหนังโรงกลับมาสร้างเม็ดเงินให้อย่างมหาศาล ชื่อของดีสนีย์ก็กลับมาเรืองรองอีกครั้ง ค่ายดิสนีย์ที่มีคลังการ์ตูนสั้นยาวตั้งแต่ยุค 1930s และเคยเรืองรองจนมีรายการของตัวเองในชื่อ The Mickey Mouse Club รายการโด่งดังตั้งแต่ยุคแรกที่โทรทัศน์ถือกำเนิดขึ้นในยุค 1950s จึงทำการปรับโฉมตัวเองเสียใหม่ในชื่อ The All-New Mickey Mouse Club รายการวาไรตี้คั่นด้วยการ์ตูนสั้นที่กลับมาสร้างสีสันบนจอทีวีอเมริกาอีกครั้งในปี 1989 โดยมีพิธีกรวัยรุ่นมาดำเนินรายการ ซึ่งเคยมีซูเปอร์สตาร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น บริตนีย์ สเปียร์ / จัสติน ทิมเบอร์เลก / คริสตินา อากีเลรา ไปจนถึง ไรอัน กอสลิง ก็ล้วนแล้วแต่แจ้งเกิดจากรายการนี้ทั้งสิ้น Disney ในยุค 90s คือการปลุกหนูที่เคยหลับไหลไปหลายทศวรรษให้กลับคืนมา ด้วยการรุกทุกสื่อที่มีอยู่ให้เป็นความบันเทิงทุกเพศทุกวัย นอกจากหนังใหญ่อย่าง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (Beauty and the Beast, 1991) อะลาดิน (Aladdin, 1992) และพุ่งสู่จุดสูงสุดของตารางหนังทำเงินด้วยหนัง เดอะไลอ้อนคิง (The Lion King, 1994) แผนการรุกคืบต่อไปการพารายการโทรทัศน์สู่ระดับโลก จึงเป็นที่มาของรายการ Disney Club ที่เริ่มแพร่ภาพออกอากาศในทวีปยุโรป ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกที่จัดตั้งรายการนี้ในปี 1989 เพื่อเตรียมต้อนรับ Euro Disneyland สวนสนุกแห่งแรกในภูมิภาคยุโรปในอีก 3 ปีต่อมา ซึ่งรูปแบบของรายการนั้นไม่ต่างกันกับ The Mickey Mouse Club แต่ใส่ความหลากหลายของคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนที่มีมากกว่า และที่มีเหมือนกันพิธีกรหนุ่มสาวที่พร้อมจะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กหน้าจอมาพูดเพื่อนำเข้าการ์ตูนสั้นจบในตอน และในที่สุด Disney Club ก็มาเยือนประเทศไทยที่ช่อง 7 สี ในปี 1992 นับเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้สิทธิ์ในการทำรายการนี้โดยแพร่ภาพทุก ๆ เช้าวันเสาร์ เวลาประมาณ 8 นาฬิกา โดยมีพิธีกรคู่ขวัญ ที่เป็นขวัญใจคุณหนู ๆ นั่นคือ พี่นัท - ศักวัต ด่านบรรพต และ พี่แนน - อรรัตน์ ฉัตรวลี พิธีกรหน้าใหม่ที่บุกเบิกรายการ Disney Club เป็นคู่แรก ก่อนหน้านั้นช่อง 7 สี ได้เปิดรับสมัครพิธีกรคู่ชายหญิง ท่ามกลางผู้สมัครมากมาย ในที่สุดรายการก็เลือกพี่นัทในวัย 17 และพี่แนนในวัย 14 ที่มีความเป็นธรรมชาติในแบบ Boy & Girl Next Door คือเด็กหนุ่มสาวข้างบ้าน ที่ไม่มีจริตแบบสตาร์ แต่มีความเป็นกันเองและเข้ากันเด็ก ๆ ที่เฝ้าหน้าจอได้ ซึ่งทั้ง 2 ต่างก็ทำหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการอ่านจดหมายจากน้อง ๆ หนู ๆ ที่เขียนถึงในยุคนั้น พร้อมทั้งวาดตัวการ์ตูนดิสนีย์ รูปของใครพี่นัทพี่แนนได้หยิบมาออกอากาศก็จะเป็นความภาคภูมิใจได้อวดเพื่อนในซอยกันเลยทีเดียว ในยุคนั้นพี่นัทพี่แนนจึงเปรียบเสมือนผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดให้กับเด็ก ๆ ยุคนั้น และเป็นทั้งพี่เลี้ยงเด็กหน้าจอที่สะกดน้อง ๆ หนู ๆ ให้อยู่ในโลกแห่งจินตนาการได้อย่างยอดเยี่ยม Disney เติบโตกลายเป็นสตูดิโอผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้น ๆ แห่งโลกบันเทิง มีการควบรวมกิจการมากมาย ตั้งแต่ Pixar ที่เปลี่ยนจาก animation 2-D กลายเป็น 3-D เทคนิคล้ำสมัย / ซื้อกิจการ Star Wars และสามารถต่อยอดความสำเร็จจากอดีต ไปจนถึง Marvel ที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์ซูเปอร์ฮีโร่ รวมไปถึงการควบรวมกิจการของ Fox จนนับได้ว่า Disney ในวันนี้ช่างต่างกับวันวานที่เคยขาดทุนในช่วงต้นทศวรรษที่ 80s ราวกับหนังคนละม้วน  จากเจริญเติบโตของ Disney นั้นก็ไม่ต่างกับเด็กน้อยที่เติบโตสู่วันรุ่น เมื่อกาลเวลาผ่านพ้น พี่นัทและพี่แนนก็ต้องก้าวต่อไปเช่นกัน สุดท้ายทั้ง 2 ก็โบกมืออำลารายการ Disney Club และส่งไม้ต่อให้กับพิธีกร Disney Club รุ่นต่อ ๆ ไป นั่นก็คือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร และ ส้ม-ณัฐวรา หงษ์สุวรรณ ในช่วงทศวรรษ 2000 โดยที่ทั้ง 2 ต่างแยกย้ายไปทำงานนอกวงการบันเทิง ทิ้งช่วงเวลาและความทรงจำดี ๆ ฝังใจเด็กยุค 90s ไปตลอดกาล จนเวลาผ่านไป เมื่อ Disney+Hotstar สตรีมมิ่งเจ้าใหม่ ประกาศการมาอย่างยิ่งใหญ่ในไทย ก็ถึงเวลาที่รายการ Disney Club ที่อยู่คู่จอช่อง 7 สีมาโดยตลอด 29 ปี ก็ถึงเวลาอำลาจออย่างเป็นทางการเช่นกัน เมื่อมีการประกาศอำลาจอ ชื่อพี่นัทพี่แนนที่ฝังอยู่ในความทรงจำของเด็ก ๆ ในยุคนั้นที่ต่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในยุคนี้ก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง หลายคนรำลึกถึงความประทับใจในตอนเยาว์วัยผ่านการแชร์ภาพถ่ายอันน้อยนิดที่หลงเหลือในโลกโซเชียล หลายคนส่งต่อความทรงจำให้กับรุ่นลูกรุ่นหลานรุ่นหลังถึงช่วงเวลาที่พวกเขาต้องตื่นทุกเช้าวันเสาร์เพื่อเฝ้าหน้าจอรอดูพี่นัทพี่แนน Disney Club กับพี่นัทพี่แนน จึงไม่ใช่เพียงรายการทีวีและพิธีกรดำเนินรายการเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาอันมีค่าและแสนประทับใจที่หลายคนต่างย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องราวในวันวาน และเชื่อมั่นว่าเทปสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 26 และวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายนนี้ ทุกคน ไม่ว่ารุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ต่างพร้อมใจกันตื่นเช้าเพื่ออำลารายการ Disney Club รายการที่จะฝังลึกอยู่ในความทรงจำตราบนานเท่านานอย่างแน่นอน   ที่มา: https://news.ch7.com/detail/493331?fbclid=IwAR0UIgiq-ltfIQlUMF1TqZp3AoTKK2j_0iKcj0Lqh9cfZSHTwEZrQuzFakc https://thestandard.co/7hd-disney-club-after-26-june-surprise/