เอลิชา เกรฟส์ โอทิส : ชายผู้ยอมเสี่ยงชีวิต โชว์ตัดสายเชือกลิฟต์ เพื่อพิสูจน์ว่าลิฟต์แบรนด์ Otis ปลอดภัย

เอลิชา เกรฟส์ โอทิส : ชายผู้ยอมเสี่ยงชีวิต โชว์ตัดสายเชือกลิฟต์ เพื่อพิสูจน์ว่าลิฟต์แบรนด์ Otis ปลอดภัย
ไม่ว่าจะเป็นตึกระฟ้า หรือราคาที่อยู่อาศัยที่ ‘ยิ่งสูง ยิ่งแพง’ ล้วนมีนวัตกรรมอำนวยความสะดวกอย่าง ‘ลิฟต์’ อยู่เบื้องหลัง หลายคนอาจจะเคยเห็นชื่อ Otis อยู่ตามลิฟต์ในอาคารอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่แน่ใจว่าชื่อนี้มีที่มาอย่างไร คงต้องย้อนกลับไปในยุคหนึ่งที่ลิฟต์กลับเป็นอุปกรณ์สุดอันตราย เพราะหากเชือกหรือสายเคเบิลขาดเมื่อไร ชะตากรรมของคนที่อยู่ในลิฟต์ก็มีโอกาสสิ้นสุดลงเมื่อนั้น  โชคดีที่ราว 170 ปีที่แล้ว ‘เอลิชา เกรฟส์ โอทิส’ (Elisha Graves Otis) สามารถคิดค้นวิธีที่ช่วยให้ลิฟต์ปลอดภัยขึ้นมาได้  และนี่คือเรื่องราวเบื้องหลังลิฟต์ Otis กับชายผู้คิดค้นและเปิดตัวลิฟต์ให้ ‘โลกจดจำ’ เอลิชา เกรฟส์ โอทิส : ชายผู้ยอมเสี่ยงชีวิต โชว์ตัดสายเชือกลิฟต์ เพื่อพิสูจน์ว่าลิฟต์แบรนด์ Otis ปลอดภัย ย้อนไปในปี 1811 เด็กชายโอทิสลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ณ เมืองแฮลิแฟกซ์ (Halifax) รัฐเวอร์มอนต์ (Vermont) สหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่เมืองทรอย ในมหานครนิวยอร์ก เมื่ออายุได้ประมาณ 19 - 20 ปี ในช่วงเวลานั้น เขาทำงานเป็นคนขับรถม้าก่อนจะพบรักแล้วแต่งงานกับ Susan A. Houghton ภรรยาคนแรกของเขา ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน ทว่าไม่นานหลังจากนั้นภรรยาของเขาได้จากไปอย่างไม่หวนกลับ โอทิสจึงกลายเป็นพ่อม่ายที่ดูแลลูกทั้ง 2 คนเพียงลำพัง  จนกระทั่งปี 1845 เขาย้ายไปที่เมืองออลบานี (Albany) แล้วเริ่มต้นชีวิตคู่ครั้งใหม่กับ Elizabeth A. Boyd ภรรยาคนที่สอง พร้อม ๆ กับเริ่มต้นชีวิตการทำงานอีกสายงานหนึ่ง โดยโอทิสรับหน้าที่เป็นช่างในบริษัทผลิตเตียง ซึ่งเขาค่อย ๆ ฉายแววความเป็นนักประดิษฐ์ออกมาทีละน้อยจากการคิดค้นเครื่องจักรที่ช่วยประหยัดแรงงานคนภายในบริษัทแห่งนี้ ต่อมาในปี 1852 เขาถูงส่งตัวไปยังเมืองยองเกอร์ส (Yonkers) เพื่อดูแลโรงงานแห่งใหม่พร้อมติดตั้งเครื่องจักรชนิดต่าง ๆ โอทิสและพนักงานอีกหลายคนจึงต้องหาวิธีนำเครื่องจักรหนักอึ้งขึ้นไปยังชั้นบน ๆ แต่การใช้รอกนับเป็นวิธีที่เสี่ยงอันตราย เพราะหากเชือกหลุดหรือขาดลงเมื่อไร ก็คงกลายเป็นโศกนาฏกรรมในโรงงานทันที ส่วนลิฟต์ในช่วงเวลานั้นเหมาะกับการท่องเที่ยวมากกว่าการโดยสารขึ้น-ลงในชีวิตประจำวัน อย่าง ‘ascending room’ ที่สร้างขึ้นในปี 1823 แม้จะมีหน้าตาและฟังก์ชันคล้ายลิฟต์ แต่ก็ใช้เพื่อพานักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวแบบพาโนรามาในกรุงลอนดอนเพียงเท่านั้น  จึงไม่น่าแปลกใจที่หากได้ย้อนกลับไปราว 2 ทศวรรษก่อนหน้า เราจะไม่พบตึกระฟ้าสูง ๆ หรือพบว่าราคาห้องชั้นบน ๆ จะถูกกว่าชั้นล่างอย่างลิบลับ  เมื่อมองเห็นสิ่งที่ ‘ยังไม่มี’ บวกกับปัญหาตรงหน้า โอทิสจึงเริ่มคิดว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสสำหรับการคิดค้นสิ่งใหม่ในอุตสาหกรรมนี้ก็เป็นได้ และโอกาสที่ว่า ก็คือการทำรอกและลิฟต์ให้ ‘ปลอดภัย’ มากยิ่งขึ้น  โอทิสจึงสร้างสิ่งที่เป็นเหมือนเบรกนิรภัยแบบอัตโนมัติให้กับลิฟต์ เพื่อให้ลิฟต์ไม่ตกลงมากระแทกพื้นหากเชือกขาด  เมื่อคิดค้นได้สำเร็จ เขาจึงก่อตั้งบริษัทลิฟต์ของตัวเองอย่างเป็นทางการในปี 1853 โดยในช่วงแรกเริ่มเขาใช้ชื่อว่า Union Elevator Works  (ก่อนจะกลายเป็นชื่อ Otis Elevator Company ในเวลาต่อมา) แต่สิ่งที่ยากพอ ๆ กับการคิดค้นสิ่งใหม่ขึ้นมา คือการสร้าง ‘ความเชื่อมั่น’ ให้กับลูกค้า เพราะคงไม่มีใครอยากจะลองเสี่ยงชีวิตมาใช้งานลิฟต์ตัวแรกที่อ้างว่า ‘ปลอดภัย’  โอทิสจึงเริ่มคิดว่า หากการขายสินค้าด้วยวิธีการธรรมดาแล้วโลกไม่จำ ก็ต้องทำให้โลกจดจำลิฟต์ของเขาในวิธีที่ ‘ไม่ธรรมดา’ ถ้าเป็นยุคปัจจุบัน เวลาจะบอกเล่าถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ หรือเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจส่วนใหญ่คงเป็นการยืนบนเวที TED Talks หรืองาน WWDC (Apple’s World Expos) แต่ในยุคของโอทิส หนึ่งในงานที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนมหาศาลในช่วงศตวรรษที่ 19 คงจะเป็นงาน World’s Fairs ที่เริ่มมีครั้งแรกในลอนดอนราวปี 1850 - 1851 และเมื่องาน World’s Fair มาจัดที่นิวยอร์กในปี 1854 โอทิสจึงคว้าโอกาสนี้เรียกความสนใจจากสาธารณชนด้วยการยืนอยู่บนลิฟต์ที่เขาสร้างขึ้น แล้วตัดสายเคเบิลด้วยขวาน  ฉึบบบ! หากอยู่ในภาพยนตร์สักเรื่อง เป็นไปได้ว่านี่คงจะเป็นฉากที่ผู้คนนิ่งเงียบ จับจ้องไปที่โอทิสด้วยสายตาตื่นตระหนกกึ่งลุ้นว่าเขาจะรอดชีวิตหรือไม่ “ผมปลอดภัยดี”  เขากล่าวอย่างภูมิใจ หลังจากที่ลิฟต์หยุดอยู่กับที่โดยไม่ร่วงตกลงสู่พื้น ความเชื่อมั่นในลิฟต์ของโอทิสจึงเริ่มต้นขึ้นนับแต่วินาทีนั้น… เอลิชา เกรฟส์ โอทิส : ชายผู้ยอมเสี่ยงชีวิต โชว์ตัดสายเชือกลิฟต์ เพื่อพิสูจน์ว่าลิฟต์แบรนด์ Otis ปลอดภัย บริษัท  Otis Elevator Company เริ่มมีลูกค้าสั่งทำลิฟต์เพิ่มมากขึ้น โดยปี 1857 ลิฟต์โดยสารตัวแรกเกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าขนาด 5 ชั้นของ E.V. Haughwout & Co. แห่งมหานครนิวยอร์ก และความสำเร็จในครั้งนี้ได้กลายเป็นมาตรฐานของลิฟต์สมัยใหม่ รวมทั้งทำให้เริ่มมีตึกหลายชั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่อมา เพราะผู้คนสามารถโดยสารลิฟต์ขึ้น - ลงในอาคารได้อย่างปลอดภัยและสบายใจมากกว่าเดิม ปัจจุบัน Otis Elevator Company กลายเป็นบริษัทติดตั้งลิฟต์และบันไดเลื่อนขนาดใหญ่ รวมทั้งติดตั้งในอาคารที่มีชื่อเสียงของโลกหลายแห่ง เช่น หอไอเฟล ตึกเอ็มไพร์สเตต เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์  แม้ว่าโอทิสจะไม่ใช่คนคิดค้นลิฟต์คนแรกของโลก แต่เขาคือคนเปลี่ยนให้ลิฟต์ปลอดภัยมากพอที่ผู้คนจะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้อง ‘เสี่ยงชีวิต’ และทำให้ผู้คนสามารถขึ้นราคาห้องพักชั้นบน ๆ ไปจนถึงการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในแนวดิ่งผ่านตึกสูงได้อย่างในปัจจุบัน   ที่มา: https://edition.cnn.com/style/article/short-history-of-the-elevator/index.html https://www.britannica.com/biography/Elisha-Otis https://www.thoughtco.com/history-of-the-elevator-1991600 https://study.com/academy/lesson/elisha-otis-biography-inventions-quotes.html http://www.elevatorhistory.net/elevator-inventor/elisha-otis/