Winebration: กิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟของ The People ที่นำเอาอาหารไทย ไวน์ ดนตรีแจ๊ส และผู้คนมาพบกัน

ครั้งแรกของการจับคู่อย่างลงตัว อาหารไทย 5 คอร์ส, ไวน์ 5 ตัว และเพลงแจ๊ส 5 สไตล์ มาไว้ในงานเดียวกันกับกิจกรรม Winebration  

- เมี่ยงกลีบบัว, หมี่กรอบส้มซ่า / Sparkling Wine / Bossa Nova

- ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ / Chardonnay / Swing Jazz

- ต้มข่ากรรเชียงปู / Riesling / Cool Jazz

- ข้าวมันอัญชัน ส้มตำไก่ย่าง / Nebbiolo / Modal Jazz

- เนื้อ (ริบอาย/วากิว) ย่าง จิ้มแจ่ว / Red Bordeaux / Hard Bop

- ข้าวต้มมัดและไอศกรีมมะพร้าวอ่อน / Coffee-Tea / All That Jazz

 _____

พลบค่ำวันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 ณ ย่านสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพมหานคร เหล่าผู้รักไวน์ อาหารอีสาน และเสียงเพลงแจ๊ส ได้มารวมตัวกันอยู่ที่งาน Winebration ที่จัดขึ้นในร้านอาหารไทยชื่อดังกลางเมือง- ร้านไก่ย่างเสือใหญ่ สุขุมวิท 39   เย็นย่ำเวลาประมาณ 18.00 น. แขกมากหน้าหลายตาทยอยกันเข้ามาในงานพร้อมกับวิถี new normal แบบใหม่ในการเข้าร้านอาหาร คือสวมหน้ากากอนามัย และต่างพากันกดปั๊มเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้างาน เหล่านักดนตรีแจ๊สทั้งมือเปียโน ดับเบิลเบส และมือกลองพากันตระเตรียมตัวเพื่อเริ่มบรรเลงเพลงต้อนรับเหล่าคนรักไวน์และแจ๊ส แล้วงานก็ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยการกล่าวทักทายแขกเหรื่อของ อนันต์ ลือประดิษฐ์ บรรณาธิการบริหาร สื่อออนไลน์ The People ตามด้วยการแนะนำพาร์ตเนอร์ผู้ร่วมสรรสร้างงาน Winebration ให้เกิดขึ้นได้ ทั้ง เบญจวรรณ วิสุทธิสิน แห่ง Fin Wine, ศุนันทวดี อุทาโย ผู้บริหารร้านไก่ย่างเสือใหญ่ สุขุมวิท 39 และวิทยากรผู้ช่ำชองเชี่ยวชาญในยุทธจักรของไวน์ ผู้มาบรรยายเกร็ดความรู้เรื่องเหล้าไวน์ตลอดงาน ไพรัช อินทะพุฒ อดีตนายกสมาคมซอมเมอลิเยร์แห่งประเทศไทย เมื่อการกล่าวทักทายจบลง เสียงดนตรีแจ๊สบอสซาโนวาจากวงซันนีทรีโอ ประกอบการขับกล่อมจากเสียงของ แนท - บัณฑิตา ประชามอญ หรือ แนท The Voice ได้เริ่มขึ้นพร้อมกับอาหารเรียกน้ำย่อยจานแรก - หมี่กรอบและเมี่ยงกลีบบัว รสชาติเปรี้ยวปนหวานและ texture ความกรอบของหมี่ตามด้วยรสเปรี้ยว หวานมัน และเค็มแบบพอดีคำของเมี่ยงกลีบบัว เมื่อดื่มคู่กับ Sparkling Wine ไวน์ออร์แกนิกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสดซ่า จาก Fin Wine ที่เสิร์ฟในแก้ว Lucaris Wine Glassware ล้วนแล้วแต่กระตุ้นความอยากอาหารจานต่อไปได้เป็นอย่างดี อาหารจานที่สองถือเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่การรับประทานอาหารจานหลักได้อย่างเผ็ดร้อน ทั้งเครื่องพริกแกงฉู่ฉี่ที่รสชาติถึงเครื่อง และความสดใหม่ของกุ้งแม่น้ำขนาดตัวเท่าฝ่ามือ เสิร์ฟพร้อมไวน์ออร์แกนิกรสละมุน Chardonnay Wieninger 2017 จากออสเตรีย เคล้าไปกับเสียงดนตรีจังหวะสวิงของวงซันนีทรีโอและแนท The Voice ทำให้บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยรอยยิ้มด้วยความพึงใจในอาหาร ไวน์ และเสียงเพลง กอปรกับบทสนทนาของแขกที่นั่งรับประทานแต่ละท่านก็ดูจะเผ็ดร้อนออกรสตามความเข้มของรสอาหาร ไวน์ และแจ๊สที่กำลังไล่ระดับความเข้มข้นมากขึ้น อาหารจานซุปของงาน Winebration ที่เอกลักษณ์ของงานว่าด้วยอาหารไทยคงจะหนีไม่พ้น ‘ต้ม’ จานซุปของงานวันนี้จึงเป็นต้มข่ากรรเชียงปู ปกติเราคงเคยเห็นต้มข่าไก่หรือต้มข่ากุ้งกันจนชินตา มาวันนี้ ต้มข่ากรรเชียงปู ที่ความเข้มข้นนวลเนียนของหัวกะทิ พร้อมรสเค็มมันและปลายสัมผัสรสหวานเพียงเล็กน้อยที่เสิร์ฟพร้อมก้อนเนื้อปูชิ้นโต เมื่อรับประทานคู่กับ Riesling ที่อาจารย์ไพรัชกล่าวบรรยายว่า “เป็นไวน์ที่เกิดมาเพื่อคู่กับอาหารไทย” ก็คงจะเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินไป เพราะกลิ่นรสที่หวานหอมแต่ไม่หนักหวานจัดจนเกินไปของ Riesling ช่วยตัดกลิ่นของตะไคร้ ใบมะกรูดของต้มข่าได้เป็นอย่างดี แต่หากคุณพอใจกับกลิ่นสมุนไพรในต้มข่า การจิบ Riesling หลังจากที่คุณจัดการต้มข่าและเนื้อปูก้อนโตนั้นช่วยเสริมสุนทรียะของ aftertaste ที่ผสมผสานกันระหว่างอาหารกับไวน์ได้เป็นอย่างดี   อาหารจานที่ 4 ของงาน คือข้าวมันอัญชัน ส้มตำไก่ย่าง ซึ่งถือว่าร้านไก่ย่างเสือใหญ่ไว้ลายเอกลักษณ์ความเป็นอาหารอีสานของร้านได้อย่างสมศักดิ์ศรี ทั้งข้าวมันอัญชันที่หอมนุ่ม พร้อมส้มตำที่รสจัดจ้านกำลังพอดี และไก่ย่างเนื้อนุ่มหนังกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับความน่ารักในการจัดแต่งจานมาในสุ่มไก่อันเล็กที่ครอบไก่ย่างอยู่ ในส่วนของออร์แกนิกไวน์ที่ทาง Fin Wine จัดมาให้เคียงกับข้าวมันอัญชัน ส้มตำไก่ย่างจานนี้ก็เด็ดดวงไม่น้อยหน้า ไวน์ Bordeaux Cru Monplaisir 2016 ที่เมื่อแรก เราอาจได้กลิ่นหอมกุหลาบในสัมผัสแรกที่สูดดม หากแต่เมื่อลิ้นได้สัมผัสรสกลับมีกลิ่นอายของถั่วอัลมอนด์ เมื่อรับประทานเคียงกับอาหารรสจัดจ้านจานข้าวมัน ส้มตำไก่ย่าง คลอไปกับเพลง ‘ส้มตำ’ ที่ถูกนำมาเรียบเรียงให้เป็น Modal Jazz แล้ว จึงผสานลงตัวทั้งกลิ่น รส เสียง สัมผัสเลยทีเดียว อาหารจานหลักปิดท้ายคือเนื้อย่างริบอาย/วากิว กับซอสจิ้มแจ่ว พร้อมข้าวเหนียวและผักสด ทั้งเนื้อย่างที่ย่างมาแบบ medium rare ที่ความสุกของเนื้อด้านนอกกรอบเป็นสีน้ำตาล แต่ด้านในยังคงเป็นสีชมพูพร้อมความ juicy ฉ่ำเนื้อ บวกกับความนุ่มหอมของข้าวเหนียวและความแซ่บของจิ้มแจ่วที่ร้านไก่ย่างเสือใหญ่ปรุงรสออกมาได้เปรี้ยวเผ็ดหวานกำลังพอดี ผนวกกับไวน์ Nebbiolo Perbacco 2017 ออร์แกนิกไวน์จากอิตาลี ที่น้ำหนักและสัมผัสของรส Nebbiolo ตัดกับรสชาติของเนื้อย่างและจิ้มแจ่วแบบละมุนลิ้น คลอไปกับดนตรีที่เริ่มเข้มข้นขึ้นแบบ Hard Bop จากเสียงร้องของแนท และเสียงดนตรีของวงซันนีทรีโอ   อาหารหวานจานสุดท้ายของงานจบด้วยข้าวต้มมัดและไอศกรีมมะพร้าวอ่อน ที่เสิร์ฟมาให้แขกผู้ร่วมงานได้ล้างปากไปกับชา/กาแฟ ก็แล้วแต่ท่านจะเลือกสรรกัน พร้อมกับบทเพลงปิดท้าย All That Jazz ที่ถือเป็นการขมวดสรุปการเดินทางของอาหารไทย ไวน์ และเพลงแจ๊สที่ทางผู้จัดงานสามารถเรียงระดับของความเข้มข้น ง่าย-ยาก เบา-หนัก ของรสชาติอาหาร เครื่องดื่ม และเสียงสัมผัสอย่างลงตัว ทำให้ค่ำคืนของวันจันทร์เป็นการส่งท้ายวันแรกของสัปดาห์ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งมิตรไมตรีและความอิ่มเอมใจในการกิน ดื่ม ฟัง อย่างเปรมใจ เรื่อง: มณีเนตร วรชนะนันท์ ภาพ: จุลดิศ อ่อนละมุน