23 พ.ย. 2565 | 16:40 น.
ทมิตา จงสวัสดิ์วรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลองค์กร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ผลจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ทำให้ทุกธุรกิจต้องปรับตัวอย่างมาก เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่ง อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ในฐานะผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ก็ต้องปรับตัวต่อเนื่องในทุกมิติเช่นกัน
รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรบุคลากรที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยเฉพาะการบริหารจัดการทรัพยากรบุคลากรในอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE: Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) ที่มีความท้าทายมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ เนื่องจากต้องใช้แรงงานคนเป็นหลัก
โดยพยายามสนับสนุนให้พนักงานพัฒนาตนเอง ด้วยการเพิ่มทักษะใหม่ๆ เรียนรู้พร้อมกับนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้เพื่อช่วยในการทำงานให้สะดวก รวดเร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ให้พร้อมรองรับทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งยังมีการปรับโครงสร้างองค์กรให้คล่องตัวขึ้นด้วยการควบรวมบางแผนกเข้าด้วยกัน ปรับแยกสายงานให้เหมาะสม เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังอยู่ และสิ่งที่เกิดขึ้นจากแนวโน้มตลาดแรงงานทั่วโลก คือ การลาออกของพนักงานเป็นจำนวนมาก (The Great Resignation) จากความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะมีผลกระทบนี้ในประเทศไทยมากเนื่องจากระบบสวัสดิการต่างๆ ยังไม่รองรับ แต่เรื่องที่น่าจะกระทบกับทุกธุรกิจคือ เกิดภาวะการหาคนยาก โดยอาจมีหลายสาเหตุ เช่น คนที่เคยออกจากระบบการทำงานไปเมื่อช่วงที่เกิดวิกฤต ไม่กลับเข้าสู่ระบบการทำงานประจำ อาจเป็นเพราะช่วงวิกฤตที่ผ่านมาได้สร้างธุรกิจส่วนตัวแล้ว หรือ มีอาชีพเสริมที่มีความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น
รวมถึงสไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ที่อาจจะไม่ชอบการทำงานประจำ และวิถีการทำงานแบบใหม่ๆที่เกิดขึ้นช่วงโควิด ทำให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของหลายๆ องค์กรกำลังเผชิญปัญหาเดียวกันคือ การหาคนทำงานยากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาคนเก่งให้อยู่กับองค์กร ทำให้หลายบริษัทต้องปรับแผนการบริหารงานบุคคล ปรับโครงสร้างงานให้มีความยืดหยุ่น รองรับวิถีการทำงานแบบใหม่ที่เกิดขึ้น
ในส่วนของอิมแพ็คได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ้างพนักงานใหม่ให้มีหลายแนวทางขึ้น เช่น การจ้างงานแบบ Project Based หรือแบบ Gig Economy เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน รวมถึงทางเลือกในการใช้ Outsource ในบางงานที่ทำได้ ปรับกระบวนการทำงานไปสู่ HR Tech โดยพัฒนาระบบและเทคโนโลยีใหม่ๆด้าน HR และปรับแผน Employer Branding เพื่อให้สามารถเข้าถึงและดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้สนใจมาทำงานกับทางอิมแพ็คมากขึ้น
นอกจากนี้ได้พัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ ผ่านโครงการกล้า MICE ซึ่งเป็นเสมือนแคมป์สำหรับนักศึกษาฝึกงานโครงการแรกของอุตสาหกรรมไมซ์ที่เกิดขึ้นปีแรกในปี 2562 เพื่อพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความสนใจในการทำงานในอุตสาหกรรมไมซ์ พร้อมแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรและสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ธุรกิจไมซ์ โดยวางแผนระยะยาวไปถึงการทำ MICE Academy ในอนาคต
สำหรับการพัฒนาบุคลากรในองค์กร ทางบริษัทเร่งเสริมสร้างทักษะใหม่ๆแก่พนักงาน ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 2,000 คน ให้มีทักษะการทำงานที่หลากหลาย (Multi Skill) และพยายามปลูกฝังแนวคิดด้านนวัตกรรม (Innovative Mindset) ให้พนักงานโดยได้ริเริ่มโครงการประกวดนวัตกรรม R2i (From Routine to Innovation) ขึ้น ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการคิดนอกกรอบ การคิดแก้ปัญหาจากแนวทางใหม่ๆ และเปิดโอกาสให้บุคลากรได้แสดงศักยภาพของตนเอง สร้างความมีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาองค์กร โดยปีนี้จัดเป็นปีที่ 4 แล้ว และมีหลายผลงานที่ได้รับคัดเลือกไปพัฒนาให้เกิดขึ้นจริงในเชิงธุรกิจด้วย