29 ธ.ค. 2565 | 19:30 น.
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับสโลเเกน "แคร์คุณทุกย่างก้าว" ของกรุงเทพประกันภัย (BKI) มายาวนานหลายทศวรรษ ด้วยความโดดเด่นเรื่องการดูเเลเอาใจใส่ลูกค้าเเบบ "ใจเขาใจเรา" ทำให้เเบรนด์กลายเป็น Top Of Mind ในใจคนไทยได้ไม่ยากนัก เเม้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาธุรกิจประกันภัยต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ซึ่งนอกเหนือจากการมีความมั่นคงทางการเงินที่ช่วยสนับสนุนความน่าเชื่อถือเเล้ว ความไว้วางใจก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ความไว้วางใจมิใช่สิ่งที่จะสร้างขึ้นมาได้เพียงชั่วข้ามคืน โดยจะต้องอาศัยการดำเนินงานที่ก้าวผ่านบทพิสูจน์ในสถานการณ์วิกฤติต่างๆ รวมไปถึงความไว้วางใจจากพนักงานที่มีต่อองค์กร ซึ่งเป็นเสมือนบันไดขั้นเเรกๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งจากภายในให้สะท้อนไปสู่สังคมภายนอก ช่วยให้องค์กรพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างมีพลัง มีความสุข เเละสนุกไปพร้อมกัน
ดังนั้นสโลเเกน "เเคร์คุณทุกอย่างก้าว" ของกรุงเทพประกันภัย จึงไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การดูเเลเฉพาะกลุ่มลูกค้าเพียงเท่านั้น เเต่ยังครอบคลุมถึงการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมเเละเท่าเทียม ส่งเสริมศักยภาพ ดูเเลความปลอดภัย เเละอาชีวอนามัย ตั้งเเต่พนักงานไปจนถึงคู่ค้า ชุมชน ตลอดห่วงโซ่อุปทาน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ตามเเนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งเเวดล้อม สังคม เเละธรรมาภิบาล ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคม ควบคู่ไปกับผลการดำเนินงานที่ดีอย่างสมดุล
สร้างสุขในการทำงาน ด้วยสวัสดิการที่ครบครัน
จากความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการกำกับดูเเลกิจการที่ดี เเละมุ่งปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเหมาะสมในหลากหลายมิติ ส่งผลให้กรุงเทพประกันภัยได้รับรางวัลด้านการจัดการสวัสดิการพนักงานมามากมาย นับเป็นความสำเร็จที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจกับ รางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2565 ระดับประเทศ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ประเภทสถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
ด้วยการตระหนักว่าก่อนที่จะส่งมอบบริการที่ดีและมีประสิทธิภาพให้แก่ผู้อื่นได้นั้น จะต้องเริ่มจากความสุขในใจของพนักงานก่อน BKI จึงมีการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการด้านแรงงานสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับบริบทสังคมอยู่เสมอ เพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงาน สร้างบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการทำงาน มีโครงสร้างเงินเดือนที่เหมาะสม ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น ให้โอกาสเเละอำนวยความสะดวกต่อการที่พนักงานจะพัฒนาตนเองหรือศึกษาความรู้เพิ่มเติม เคารพสิทธิมนุษยชนเเละความเเตกต่างของเเต่ละบุคคล พร้อมกับการเสริมสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นกับองค์กร
โดยพนักงานจะได้รับสวัสดิการที่ครอบคลุมทุกความต้องการ อย่างการประกันชีวิตเเละอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาลที่ครอบคลุมด้านทันตกรรม การตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ พร้อมการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สร้างสภาพเเวดล้อมในการทำงานให้สอดคล้องกับกฎหมายเเละข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนอกเหนือจากการดูแลสุขภาพกายแล้ว “สุขภาพใจ” ของพนักงานก็เป็นสิ่งที่กรุงเทพประกันภัยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยได้มีการปรับเพิ่มสวัสดิการด้านประกันสุขภาพและขยายความคุ้มครองการรักษาให้ครอบคลุมโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวลอีกด้วย
นอกจากนี้ พนักงานทุกคนยังสามารถลาพักผ่อนได้ตั้งเเต่เริ่มงาน โดยจะได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้นตามอายุงานเเละตำเเหน่งงาน พร้อมเข้าถึงสวัสดิการด้านเงินกู้ เพื่อบรรเทาภาระด้านการเงินในกรณีที่มีความจำเป็นด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ สนับสนุนสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ เเละรางวัลโบนัสประจำปี
เปิดโอกาสการเรียนรู้ พัฒนาทักษะใหม่ให้ทันโลก
ท่ามกลางสถานการณ์รอบตัวที่มีความผันผวนสูง กรุงเทพประกันภัยได้ส่งเสริมการ Upskill และ Reskill พนักงานผ่านการจัดอบรมทั้งภายในเเละภายนอกบริษัทฯ สนับสนุนการศึกษาภาษาต่างประเทศ การศึกษาในหลักสูตรประกันวิชาชีพ การศึกษาระดับปริญญาโท จัดทัศนศึกษาและสัมมนาทั้งในประเทศเเละต่างประเทศ เพื่อให้พนักงานสามารถนำทักษะมาต่อยอดความรู้เเละประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ ทั้งการทำงาน ชีวิตประจำวัน ครอบครัวเเละการช่วยเหลือสังคม
เสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในการทำงาน ด้วยรูปแบบเเละเครื่องมือที่หลากหลาย ตามเเนวทางการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่พัฒนาขึ้นอย่างเป็นระบบเเละสอดคล้องกับตำเเหน่งงาน ผ่าน Training needs by position ฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้เเละทักษะ สามารถปฎิบัติงานได้อย่างถูกต้อง เเละ On the jobs Training (OJT) ฝึกอบรมเเละเรียนรู้งานจากการปฎิบัติงานจริง โดยมีการวัดผลเพื่อนำไปพัฒนาการปฎิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังมีหลักสูตรการเรียนออนไลน์ กิจกรรมให้ความรู้ด้านการเงินต่างๆ และการมีระบบ Mentor (พี่เลี้ยง) กิจกรรม Career Consult รายบุคคลที่จะคอยช่วยเเนะนำ สนับสนุน เเละให้คำปรึกษา เพื่อให้พนักงานรู้สึกสบายใจ มีความสุขในการทำงาน ส่งผลให้บรรยากาศการทำงานดีขึ้น พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมหรือเเสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติงาน เช่น เรื่องสวัสดิการ สภาพเเวดล้อมในการทำงาน
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมุ่งสร้างจิตสำนึกให้ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อดูแลและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ เช่น การมอบเครื่องช่วยหายใจ สร้างห้องน้ำและมอบเครื่องกรองน้ำให้โรงเรียน ดูแลคนพิการ บริจาคโลหิต โครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ สร้างตึกโรคหัวใจ มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่ขาดแคลน ทุนการศึกษานักเรียนเรียนดี และกิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย
ดูแลพนักงานในทุกช่วงชีวิต พร้อมหลักประกันเพื่อการเกษียณ
กรุงเทพประกันภัย โดดเด่นในด้านการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การันตีด้วย รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ในการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ครั้งที่ 10 ประจำปี 2565 ประเภทกองทุนเดี่ยว Single Fund กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กลุ่มหน่วยงานเอกชน ขนาดกองทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท จากสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ด้วยการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างมีมาตรฐาน โปร่งใสเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล มีการกำหนดบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของนายจ้างและคณะกรรมการกองทุนอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมและตรวจสอบการดำเนินการจัดการกองทุน และคำนึงถึงการรักษาผลประโยชน์ให้แก่สมาชิกอย่างเหมาะสม ส่งเสริมให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถที่จะเป็นหลักประกันหลังเกษียณได้อย่างแท้จริง
โดยบริษัทฯ ยึดถือว่าหากหลักเกณฑ์ใดเอื้อประโยชน์แก่พนักงานมากกว่าก็ให้ใช้หลักเกณฑ์นั้น ซึ่งจะมีการปรับอัตราเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้พนักงานทุกระดับเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุงานสูงสุดที่ 15% เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2566 เป็นต้นไป พร้อมนำเสนอทางเลือกในการลงทุน ทั้งการลงทุนเเบบสมดุลความเสี่ยงเเละสมดุลตามอายุ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการออมระยะยาว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิตคนทำงาน และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม
จากการคำนึงถึงการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตของพนักงาน และความสำคัญของการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อบรรเทาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น กรุงเทพประกันภัยจึงมีการนำส่งเงินสมทบถูกต้องครบถ้วนมาโดยตลอด ไม่มีประวัติค้างชำระ โดยได้รับ รางวัลโล่ประกาศเกียรติคุณ ครบรอบ 32 ปี วันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานประกันสังคม 3 กันยายน 2565 ว่าเป็นสถานประกอบการต้นแบบในการชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมดีเด่น พร้อมทั้งรางวัลโล่ประกาศเกียรติคุณ ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ ด้านส่งเสริมความปลอดภัยและป้องกันการประสบอันตราย
บริษัทฯ ยังได้รับ รางวัลองค์กรต้นแบบความยั่งยืนตลาดทุนไทยด้านสนับสนุนคนพิการ ประเภทดีเด่น จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ร่วมกับกระทรวงแรงงาน ด้วยการส่งเสริมความเท่าเทียม มีนโยบายเพิ่มโอกาสการจ้างงานและสนับสนุนอาชีพผู้พิการในองค์กร โดยจัดสรรอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการทำงานและสอดคล้องต่อความต้องการของผู้พิการ
พร้อมกันนี้ บริษัท กรุงเทพ แอดวานซ์ เซอร์วิส จำกัด หรือ BAS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Outsource ของกรุงเทพประกันภัย ยังได้รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2565 ระดับประเทศ ปีที่ 1 ประเภทสถานประกอบกิจการขนาดกลาง หลังจากเมื่อปี 2564 BAS ได้รับรางวัลดังกล่าว ในระดับจังหวัดอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในสถานที่ทำงาน เพื่อให้พนักงานมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมมีความมั่นคงและปลอดภัยนั้น เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจสำคัญในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ สามารถให้การบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด พร้อมสร้างการเติบโตก้าวหน้าให้แก่องค์กรและสังคมได้ในระยะยาว กรุงเทพประกันภัยจึงยึดมั่นในหลักจรรยาบรรณ จริยธรรม และบรรษัทภิบาลในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ให้ความเป็นธรรม ปฏิบัติต่อลูกค้า คู่ค้า ตลอดจนพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนต่อไป
#BKI #BangkokInsurance #กรุงเทพประกันภัย #แคร์คุณทุกย่างก้าว