06 มิ.ย. 2562 | 16:07 น.

ปาล์ม วง MEAN มือคีย์บอร์ด "หน้าละมุน" ที่ยุให้เพื่อนลาออกจากงานมาเล่นดนตรี

#นักดนตรีหล่อบอกต่อด้วย เป็นแฮชแท็กที่ต้องขอยกให้กับ ปาล์ม ปวีร์ ปรีชาวีรกุล มือคีย์บอร์ดประจำวง MEAN วงดนตรีสังกัดค่าย LOVEiS ที่มักจะมาพร้อมกับเพลงทำนองฟังสบาย แต่จังหวะติดหู โดยมีเพลงฮิตติดกระแสอย่างเพลง “หมายความว่าอะไร” และเพลง “ผู้ชมที่ดี”

แต่ความหล่อใสไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่เขามี ความสามารถทางดนตรีของมือคีย์บอร์ดคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน โดยในสมัยที่ปาล์มยังเป็นนักศึกษาในคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขาก็มักจะร่วมกิจกรรมด้านดนตรีอยู่เสมอ ตั้งแต่การขึ้นเล่น Music Director Concert "เพราะธรรมศาสตร์ สอนให้ฉันรักประชาชน” ไปจนถึงการคว้ารางวัลชนะเลิศจาก Thammasat University Music Contest ในปี 2011 และปี 2013 และ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศจาก Imagine Awards การประกวดชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

แต่สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด คือการที่ปาล์มได้เข้าร่วมกับชุมนุม TU Folksong ที่ที่เขาได้พบกับเพื่อนร่วมวงอีกสามคนซึ่งได้แก่ โปเต้ ปิยะพงษ์ (นักร้องนำและมือกีตาร์) พัด วรภัทร (มือกีตาร์) และกัน กันตพิชญ์ (มือเบสและมือกลอง) ถึงแม้ทั้ง 4 คนจะยังไม่ได้มาเล่นดนตรีร่วมกันในขณะนั้น แต่การพบกันของพวกเขาก็เป็นต้นกำเนิดของการรวมตัวกันเป็นวง MEAN ในอนาคต

เส้นทางหลังเรียนจบ และการรวมวงกันอย่างเต็มตัว

หลังจากพ้นรั้วมหาวิทยาลัย สมาชิกทั้ง 4 คนต่างก็ออกไปสร้างเส้นทางอาชีพของตนเอง โดยปาล์มได้เลือกเดินบนเส้นทางของดนตรีต่อ ด้วยการเล่นดนตรีแบ๊คอัพและทำเพลงประกอบสื่อต่าง ๆ ทั้งโฆษณา รายการทีวี และภาพยนตร์ ถึงแม้จะทำงานอยู่ต่างที่ แต่ปาล์ม พัด และกัน ก็ยังคงเล่นดนตรีด้วยกันอยู่เรื่อย ๆ ก่อนที่โปเต้ นักร้องนำ จะมาร่วมวงตามคำชักชวน โดยมีปาล์มเป็นแกนนำที่ยุยงให้เพื่อน ๆ ลาออกจากงานเพื่อมาทำวงอย่างเต็มตัว

“ผมชอบดูคลิปสัมภาษณ์ศิลปินรุ่นพี่ที่เขาต้องทุ่มเทฝ่าฟันอุปสรรคจึงประสบความสำเร็จ ฟังคลิปอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ กรอกหูว่า มึงมันกระจอก มึงมันกระจอก ทุกวันก็ยิ่งฮึด เอาวะ ไปบิลด์เพื่อน ๆ คนอื่นให้หยุดรับงานแล้วมาทำเพลงอย่างเดียว แล้วหลังจากนั้นชีวิตก็เละเทะเลย”

ในระยะแรก สมาชิกวงตัดสินใจที่จะควักเงินของตัวเองมาทำวงและออกเดินสายด้วยตัวเอง แต่ก็ประสบปัญหาทางการเงินจนเงินลงทุนร่อยหรอ ปาล์มจึงเกิดไอเดียที่จะให้วงไปลองออดิชันกับค่ายเพลงเพื่อเพิ่มงานให้กับวง ซึ่งวิธีการไปขอเข้าไปออดิชั่นของวงนี้ คือการเดินดุ่ม ๆ เข้าไปในบริษัทแบบไม่นัดล่วงหน้า แถมยังแอบโกหกว่านัดกับคนโน้นคนนี้ไว้อีกต่างหาก

“ผมคิดขึ้นมาว่าถ้าไปออดิชัน 1 ร้าน เราก็เล่นได้แค่ 1 ร้าน แต่ถ้าเราไปอยู่ที่ค่ายเพลง 1 ค่าย เขาจะสามารถหาร้าน หาเวทีให้เราเล่นได้อีกเยอะ ก็เลยคุยกัน ซ้อม ลิสต์ค่ายเพลงทั้งหมดในประเทศไทย ขนเครื่องดนตรีใส่รถ แล้ววอล์กอินเข้าไปเพื่อขอเล่นเพลงให้ดู”

หลังจากเข้าออดิชันและถูกปฏิเสธจากหลายค่ายเพลง ในที่สุดวง MEAN ก็ได้แจ้งเกิดอย่างเต็มวง เมื่อ บอย โกสิยพงษ์ ซึ่งเป็นผู้บริหารของค่ายเพลง LOVEiS ตัดสินใจรับวงเข้าสู่ค่าย และเปิดตัววง MEAN ด้วยเพลง อ่อนแอก็แพ้ไป ในเวลาต่อมา เรียกได้ว่า ถ้าปาล์มไม่ได้ชวนเพื่อนร่วมวงให้ลาออกจากงาน และออกมาออดิชันกับค่ายเพลงในวันนั้น เราอาจจะไม่ได้เห็นวง MEAN แบบที่เป็นอยู่ในวันนี้ก็เป็นได้

เล่นมุขจนเกิดเป็นชื่อวง

นอกจากจะเป็นคนชี้นำให้เพื่อนลาออกจากงานและไปออดิชันแล้ว ปาล์มยังเป็นคนที่ทำให้เกิดชื่อวง MEAN จากการเล่นมุขของเขาอีกด้วย โดยมีที่มาจากการที่สมาชิกกำลังพยายามคิดชื่อวงอยู่ โดยมีโจทย์ว่า อยากได้ชื่อวงที่จำง่าย มีความเป็นกลาง และมีความหมาย “ผมก็คิดไปคิดมา คุยกันว่าอยากได้ชื่อวงที่มีความหมาย ก็เลยพูดขึ้นมาว่า MEAN ละกันแปลว่าความหมาย เอามะ ก็คิดว่าจะกวน ๆ” ปาล์มกล่าว “ตอนนั้นดึกมากแล้วฮะ อยากกลับบ้านนอน ก็เลยเอา” พัด มือกีตาร์ของวงตอบ

ฝันไกลและจะไปให้ถึง

ถึงบุคลิกของปาล์มจะดูเป็นคนเรียบร้อย แต่เขาก็คนที่กล้าได้กล้าเสียอยู่พอสมควร ซึ่งนิสัยส่วนนั้นของเขาได้เผยออกมาอย่างชัดเจน ผ่านการยอมละทิ้งความมั่นคงในชีวิตเพื่อความฝันที่จะเป็นศิลปิน

“ความฝันของผมคืออยากทำทุกอย่างเกี่ยวกับดนตรี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนให้โอกาสทำต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ ทั้งเพลงประกอบภาพยนตร์ โฆษณา รายการโทรทัศน์ ฯลฯ แต่พาร์ตการเป็นศิลปินที่มีผลงานของตัวเอง ผมยังไม่เคยไปจนถึงจุดนั้นสักที ผมรู้สึกว่างานเพลงด้านอื่น ๆ พออายุเยอะเรายังกลับมาทำได้ แต่การเป็นศิลปิน มันทำได้แค่ตอนนี้เท่านั้น”

แน่นอนว่าเส้นแห่งฝันของวง Mean ก็ไม่ได้ราบรื่นและสวยงามทันทีที่วงได้รวมตัวกัน เมื่อถึงจุดที่วงต้องเจอกับอุปสรรคใหญ่เป็นเงินที่ไม่มากพอจะเดินต่อกับความฝัน แม้แต่คนที่บ้าบิ่นกับความฝันอย่างปาล์ม ก็มีแอบเขวอยู่เหมือนกัน

“เป็นคนที่อีโก้จัดมาก ไม่กลัวอะไรเลย ทำทุกอย่างด้วยความมั่นใจ แล้วพอไปถึงจุดที่คอนโทรลอะไรในชีวิตไม่ได้แล้ว พ่อแม่ไม่สนับสนุน เลิกกับแฟน แล้วกลายเป็นคนดาร์กมาก พอคนอื่นมาเข้าใกล้ก็จะดาร์กตามไปด้วย จนทุกอย่างเริ่มดีขึ้นตอนมาอยู่ที่ LOVEiS เริ่มเข้าใจเนื้อเพลง อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน (เพลง Live and Learn: กมลา สุโกศล) เออ ที่ผ่านมาเราอยู่กับสิ่งที่ฝันมาตลอดเลย ตอนนี้เลยต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งที่มีให้ได้มากขึ้นแล้ว”

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคก็ไม่ได้ทำให้ใครในวงยอมถดถอยไป แม้จะมีแอบมองหนทางสำรองอยู่บ้าง (อย่างโปเต้ นักร้องนำที่เกือบถอดใจไปทำงานที่ห้างบิ๊กซี) แต่สุดท้าย ความสำเร็จของวง Mean ในตอนนี้ ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าความพยายามของสมาชิกในวงไม่ได้สูญเปล่า และความกล้าเสี่ยงของปาล์ม ก็ไม่ได้เป็นแค่ความบ้าบิ่นแบบไร้ความหมาย

“สำหรับผมตอนนั้นว่าจะเลิกละ เลยลองอีกซักครั้งก่อนกลับเผื่อจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตถ้าเขาจะด่าก็ด่าไปเถอะ ไม่มีอะไรจะเสียละ”

ปาล์ม และเพื่อน ๆ วง MEAN กำลังจะขึ้นคอนเสิร์ตบนเวทีใหญ่อย่าง Singing in the Rain 4 "Let's Say, Play Together" เทศกาลดนตรีท่ามกลางสายฝนซึ่งจะจัดขึ้นวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2562 ณ Umbrella City เขาใหญ่ นครราชสีมา และนอกจาก MEAN แล้ว งานนี้ยังมีศิลปินระดับท็อปอีกมาก เช่น The Toys, Potato, Lipta, Polycat, สิงโต นำโชค และศิลปินชื่อดังอีกมากมาย จำหน่ายบัตรแล้ววันนี่ที่ Thaiticketmajor ทุกสาขา ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook.com/singingintherainfest