27 ธ.ค. 2566 | 16:34 น.
เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี ราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้ง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงไปด้วย
ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566ในช่วงระหว่างวันที่ 1 ต.ค. – 6 ธ.ค. เฉลี่ยอยู่ที่ 84.6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 85.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวต่อเนื่อง
ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คาดว่าราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ในไตรมาส 1 ปี 2567 มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 75 – 85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ด้วยแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งคาดว่าภาคการผลิตในสหรัฐฯ ยุโรป และจีนยังคงฟื้นตัวช้า กดดันอุปสงค์น้ำมัน
ประกอบกับอุปทานเพิ่มเติมจากนอกสมาชิก OPEC+ อาทิ สหรัฐฯ เวเนซุเอลา และบราซิล ที่จะทำให้อุปทานในตลาดคลายตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส แม้ว่าปัจจุบันจะไม่กระทบกับอุปทานในตะวันออกกลาง แต่หากสถานการณ์รุนแรงหรือบานปลาย อาจจะกระทบปริมาณการผลิตและส่งออกของประเทศข้างเคียง อาทิ ซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน
ขณะที่อุปทานภายในสมาชิก OPEC+ ที่มีการอาสาลดปริมาณการผลิตน้ำมันรวม 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน น่าจะเป็นแรงผลักดันให้ราคาน้ำมันยังคงมีแนวโน้มสูงกว่า70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 1 ปี 2567
และล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) วันที่ 13 ธ.ค. 66 มีการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.50% อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายภายในไตรมาส 1/67 ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาสูงขึ้น