‘นันทิยา อินทรลิบ’ ความสุขและสิ่งที่เรียนรู้จากการจัดงาน ‘Bangkok Chef Charity’

‘นันทิยา อินทรลิบ’ ความสุขและสิ่งที่เรียนรู้จากการจัดงาน ‘Bangkok Chef Charity’

‘นันทิยา อินทรลิบ’ นักธุรกิจหญิงผู้เริ่มจากการสร้าง ‘กำแพง’ โรงเรียน สู่งานการกุศลใหญ่แห่งปี ‘Bangkok Chef Charity’

“อาหารที่อร่อยที่สุด ไม่ใช่อาหารที่แพงที่สุดนะ” 

‘เจี๊ยบ’ นันทิยา อินทรลิบ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวานันท์ จำกัด เอ่ยประโยคบอกเล่ากึ่งคำถามนี้ขึ้น ก่อนจะตักก๋วยเตี๋ยวเรือเข้าปาก เคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อยพร้อมรำลึกถึงความหลังเงียบ ๆ

ยังไม่ทันจะเอ่ยปากถามว่า แล้วอาหารอะไรที่อร่อยที่สุดสำหรับเธอ ผู้บริหารหญิงที่คุยเก่งและเป็นกันเองก็รีบเฉลย 

“อาหารที่อร่อยที่สุดสำหรับเจี๊ยบคืออาหารที่เรากินตอนเป็นเด็ก”

ไม่รู้จะด้วย ‘โชคชะตา’ หรือ ‘ความบังเอิญ’ เพราะงานการกุศลที่คุณเจี๊ยบเป็น ‘แม่งาน’ ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ‘อาหาร’ 

งานดังกล่าวมีชื่อว่า ‘Bangkok Chef Charity’ ซึ่งคนในแวดวงอาหารและแวดวงธุรกิจต่างรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเป็นงานที่จัดมา 10 ครั้งแล้ว และกำลังจะกลับมาอีกครั้งในปีนี้

‘นันทิยา อินทรลิบ’ ความสุขและสิ่งที่เรียนรู้จากการจัดงาน ‘Bangkok Chef Charity’

งาน Bangkok Chef Charity จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2552 เป็นการรวบรวมเชฟใหญ่จากโรงแรมชั้นนำในกรุงเทพฯ มาปรุงอาหารมื้อพิเศษ โดยในปี 2562 ซึ่งเป็นการจัดงาน Bangkok Chef Charity ครั้งที่ 10 ทางผู้จัดงานสามารถระดมทุนได้จำนวน 44 ล้านบาท

หลังว่างเว้นไป 4 ปีในช่วงโควิด-19 ระบาด งาน Bangkok Chef Charity 2024 จะกลับมาอีกครั้งเป็นครั้งที่ 11 ในวันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 11.00 น.

โดยในงาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานการจัดงาน ณ ห้องรอยัล บอลรูม โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โดยรายได้จากการจัดงานทั้งหมดจะสมทบเข้ามูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใด ๆ

คุณเจี๊ยบการันตีว่า การจัดงานครั้งนี้แตกต่างและพิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะได้รับเกียรติจากเชฟดังบนเกาะฮ่องกง เชฟใหญ่จากโรงแรมชั้นนำ และเชฟระดับมิชลินจากร้านอาหารดังรวม 32 คน มาร่วมรังสรรค์เมนูสุดอลังการ 10 คอร์ส ยังไม่รวม canape อีก 16 รายการ สำหรับผู้เข้าร่วมงาน 380 ท่าน 

“นอกเหนือจากการระดมทุน เจี๊ยบยังอยากให้งานนี้เป็นไฮไลต์ของธุรกิจอาหาร (Food Industry) อยากให้ธุรกิจอาหารมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง หรือมีคนทำอะไรอย่างนี้บ้าง สำหรับเจี๊ยบครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ระดมเชฟมาได้มากถึง 32 ท่าน นับว่ามากที่สุดในชีวิตเลยจริง ๆ”

หลังจากฟังไฮไลต์ต่าง ๆ ในงาน ที่คุณเจี๊ยบเล่าด้วยความกระตือรือร้น เราจึงขอให้เธอเล่าถึง ‘สารตั้งต้น’ ในการจัดงาน Bangkok Chef Charity

“เจี๊ยบทำธุรกิจมา ประสบความสำเร็จมาก เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่มีโอกาสที่ดีในชีวิต จึงอยากแบ่งปันและหยิบยื่นโอกาสให้คนอื่น ๆ บ้าง ทีนี้พอคิดว่าเราจะให้สิ่งเหล่านี้กับใครดี เลยคิดย้อนไปเมื่อประมาณปี 2009 ที่ได้เดินทางไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ได้ไปพูดคุยกับเด็ก ๆ เพื่อดูว่าเขาอยากได้อะไร มีครั้งหนึ่งเด็กตอบว่า เขาอยากได้ ‘กำแพง’ เจี๊ยบฟังแล้วน้ำตาจะไหล

“คือตอนนั้นโรงเรียนเขามีพื้นปูนซีเมนต์แล้ว มีหลังคาแล้ว ถ้าได้กำแพงมาอีกก็จะมีห้องเรียนที่จะไม่โดนฝนสาด เด็ก ๆ บอกว่า อยากได้แค่กำแพง ไม่ต้องสร้างโรงเรียนให้หรอก มันเปลืองเงิน เด็กอยากได้แค่นี้ ตอนนั้นเราก็สร้างกำแพงให้เลยค่ะ”

‘นันทิยา อินทรลิบ’ ความสุขและสิ่งที่เรียนรู้จากการจัดงาน ‘Bangkok Chef Charity’

หลังจากความสุขจากการ ‘ให้’ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ คุณเจี๊ยบก็อดแบ่งปันความรู้สึกนี้ไปยังคนอื่น ๆ ไม่ได้ เธอเริ่มจากการคุยกับเชฟที่รู้จักท่านหนึ่ง จนเกิดไอเดียรวบรวมเชฟมาทำงานการกุศลร่วมกัน เพื่อระดมทุนช่วยเหลือเด็ก ๆ ในถิ่นทุรกันดาร โดยเฉพาะตามโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ที่ขาดแคลนแม้กระทั่งถุงเท้า รองเท้า โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ 

“ปีแรกรวบรวมเชฟมาได้ 16 คน สนุกดีค่ะ ทีนี้เรื่องมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เราเริ่มมีกำลังมากกว่ากำแพงแล้วนะ เราหาเงินได้มากขึ้นเรื่อย ๆ จาก 3 ล้าน เป็น 5 ล้าน ไปจนถึง 12 - 20 ล้าน”

นอกจากการแบ่งปัน อีกเรื่องที่คุณเจี๊ยบมักเล่าด้วยน้ำเสียงตื้นตันใจคือความช่วยเหลือที่ได้รับจากผู้เกี่ยวข้องทุกคน ไม่ว่าจะเป็นบรรดาเชฟคนดังที่สละเวลามาสร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษในงาน บริษัทไวน์ บริษัทนำเข้าอาหาร หรือจะเป็นนักดนตรีที่ยินดีมาบรรเลงเพลงในงานโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย 

“เจี๊ยบรู้สึกว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริง” คุณเจี๊ยบตอบสั้น ๆ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มยามที่พูดถึง ‘น้ำใจ’ ที่ได้รับจากทุกคน ซึ่งทำให้เธอลืมช่วงเวลาที่ต้องวุ่นอยู่กับการติดต่อผู้คนมากมาย ต้องรับโทรศัพท์ที่ดังตลอดทั้งวันทั้งคืน ตลอดหลายเดือนของการเตรียมงาน 

ระหว่างที่ทำงานเพื่อเดินหน้า Bangkok Chef Charity ขอบเขตการช่วยเหลือของคุณเจี๊ยบก็ขยายขึ้นอีก ไม่เพียงเด็กเท่านั้นที่ได้รับโอกาสดี ๆ แต่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในโครงการ ‘จัน-กะ-ผัก’ ก็ได้รับโอกาสที่ดีจากการจัดงานนี้เช่นกัน เพราะข้าวปลอดสารเคมีที่เกษตรกรเหล่านี้ปลูกอย่างพิถีพิถันนั้น จะถูกนำมาเสิร์ฟอวดกลิ่นหอมในงานด้วย “ข้าวจากโครงการจัน-กะ-ผัก เป็นข้าวหอมมะลิ 105 ที่ไม่มีทั้งสารเคมี ไม่มีทั้งสารเคลือบยาฆ่ามอด สาเหตุที่เราพยายามนำข้าวมาเป็นหนึ่งในเมนู เพราะเราจะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับเกษตรกรไทย”

คุณเจี๊ยบยังกระซิบด้วยว่า เธอได้ทดลองกินข้าวแล้ว รู้สึกประทับใจมาก ข้าวเมล็ดยาวสวยงามกลิ่นที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ชนิดที่ว่า “แค่หุงก็หอมแล้ว เดินเข้าบ้านก็หอมเลย” 

เราปิดท้ายด้วยการถามเธอถึง ‘ความสุข’ ที่ได้จากการจัดงานเข้าสู่ครั้งที่ 11 เจ้าตัวตอบแบบไม่ต้องคิดนานเลยว่า “เชื่อไหม ตอนเตรียมงานมันหนักมากเลย แต่ตอนที่ได้ยืนอยู่ในงาน ตอนที่รู้ว่าเงินทั้งหมดจะไปช่วยผู้คนได้มากขนาดไหน น้ำตาจะไหลเลย 

“แล้วมันไม่ใช่แค่นั้น เวลาได้ไปเห็นรอยยิ้มของเด็ก ๆ ที่ขาดแคลนทั้งไฟฟ้าทั้งน้ำประปา ไม่มีแม้แต่ห้องน้ำ ไม่มีโรงพยาบาล เจี๊ยบภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือสังคม พอเห็นคนมีความสุข มันจบเลย” 

‘นันทิยา อินทรลิบ’ ความสุขและสิ่งที่เรียนรู้จากการจัดงาน ‘Bangkok Chef Charity’

นับเป็นอีกเรื่องราวของการ ‘แบ่งปัน’ ที่ ‘ผู้รับ’ ได้ ‘โอกาส’ ในขณะที่ ‘ผู้ให้’ ก็ได้ ‘เรียนรู้’ และส่งต่อ ‘แรงบันดาลใจ’ ให้กับคนที่มีกำลังคนอื่น ๆ ต่อไป