แคนนอนเปิดตัวกล้อง V ซีรีส์ใหม่ EOS R50 V และ PowerShot V1 สำหรับวิดีโอครีเอเตอร์ยุคใหม่

ท่ามกลางกระแสการสร้างวิดีโอคอนเทนต์ที่สูงขึ้นในหมู่ครีเอเตอร์รุ่นใหม่ แคนนอน (Canon) ประกาศเปิดตัวกล้อง V ซีรีส์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ EOS R50 V และ PowerShot V1 ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เทรนด์การสร้างวิดีโอคอนเทนต์โดยเฉพาะ 

นำโดย ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหารบริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เมื่อวันที่ 1 เมษายน

“เมื่อกระแสการสร้างวิดีโอคอนเทนต์ของกลุ่มครีเอเตอร์รุ่นใหม่กำลังเพิ่มมากขึ้น เราจึงต้องการสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์กล้อง PowerShot V Series และ EOS V Series รุ่นใหม่ ซึ่งเน้นที่การถ่ายทำวิดีโอระดับคุณภาพ เพื่อให้ครีเอเตอร์รุ่นใหม่สามารถผลิตเนื้อหาที่มีความโดดเด่น ด้วยภาพและเสียงที่คมชัด สว่างใส สวยงาม ตรงตามจินตนาการของพวกเขาได้มากที่สุด” ฮิโรชิกล่าว

นอกจากนี้ยังชวน 2 อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง กอล์ฟ - กันตพัฒน์ พฤฒิธรรมกูล คอนเทนต์ครีเอเตอร์ เจ้าของเพจ กอล์ฟมาเยือน และพลอย - พลอยไพลิน ตั้งประภาพร อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เจ้าของเพจ Pigkaploy ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์จากการใช้งานกล้อง V ซีรีส์รุ่นใหม่ 

“การที่มีเลนส์กว้าง16 ช่วยในการถ่ายทำได้ดีมาก จากที่เคยมีปัญหาเวลาเดินทางโดยเครื่องบิน รถไฟ รสบัสที่ถ่ายเก็บได้ไม่หมดเพราะพื้นที่แคบ สิ่งที่พลอยชอบในกล้องรุ่นนี้เพราะสามารถเก็บภาพได้กว้างมากขึ้น และขนาดกล้องที่เล็กทำให้ใช้งานได้คล่องตัว อีกทั้งยังเฟรนด์ลี่ต่อคนรอบข้าง ซึ่งถึงตัวกล้องจะเล็กแต่คุณภาพดีมาก PowerShot V1 ตอบโจทย์ได้ อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบมากคือการที่มีพัดลมปรับความร้อนทำให้สามารถถ่ายได้ต่อเนื่องมากขึ้น” พลอยไพลินกล่าว

อีกทั้งกันตพัฒน์กล่าวว่า “EOS V Series ออกแบบมาให้ถ่ายได้สะดวกมาก ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน และการออกแบบปุ่มที่อยู่ด้านหน้าทำให้สามารถถ่ายตัวเองได้ง่ายขึ้น ทำให้มีความยืดหยุ่นในการถ่าย และหากอยากเปลี่ยนอารมณ์ของภาพก็เปลี่ยนฟิลเตอร์ของกล้องที่มีถึง 14 สีได้เลย ซึ่งช่วยในการเกรดสีภาพได้ง่ายขึ้นด้วย”

กล้องทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของครีเอเตอร์ยุคใหม่ที่ต้องการอุปกรณ์ถ่ายวิดีโอขนาดกะทัดรัดแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ 

EOS R50 V เป็นกล้องมิเรอร์เลสแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ใน EOS V Series ติดตั้งเซนเซอร์ APS-C ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล ซึ่งเทียบเคียงเซนเซอร์ Super 35 มม. ที่ใช้ในกล้องถ่ายภาพยนตร์หลายรุ่น เช่น EOS C70 ได้รับการออกแบบมาสำหรับครีเอเตอร์ที่มีความมุ่งมั่นและต้องการคุณภาพการทำงานที่ดีกว่า พร้อมด้วยความคล่องตัวในการผลิตวิดีโอ

PowerShot V1 เป็นกล้องคอมแพกต์แบบออลอินวันใน PowerShot V Series รุ่นแรกที่เน้นการถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ ติดตั้งเซนเซอร์ความละเอียด 22.3 ล้านพิกเซล ขนาด 1.4 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าเซนเซอร์ขนาด 1 นิ้วที่พบในกล้องคอมแพกต์ส่วนใหญ่เกือบ 2 เท่า ทั้งยังมาพร้อมกับเลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษในตัวที่มีขอบเขตการมองเห็น (Field of View) เทียบเท่าเลนส์ระยะ 17-52 มม. เมื่อถ่ายวิดีโอ และเทียบเท่าระยะ 16-50 มม. เมื่อถ่ายภาพนิ่ง

ดีไซน์กะทัดรัด ใช้งานง่ายแม้ทำงานคนเดียว

ทั้ง EOS R50 V และ PowerShot V1 ถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถพกพาไปใช้งานได้สะดวก ทั้งยังช่วยลดความเมื่อยล้าจากการถือกล้องเป็นเวลานาน ด้วยการตัดช่องมองภาพออก ทำให้ตัวเครื่องเพรียวบางขึ้น และออกแบบปุ่มควบคุมและสั่งงานกล้องได้ง่าย พร้อมถือถ่ายวิดีโอมือเดียวได้สะดวกมากขึ้น

โดย EOS R50 V มีปุ่มเฉพาะสำหรับไลฟ์สตรีมและโหมดสี ด้วยการกดเพียงครั้งเดียว พร้อมคันโยกซูมที่ทำงานร่วมกับเลนส์ RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ ซึ่งเป็นเลนส์เพาเวอร์ซูมตัวแรกของ Canon อีกทั้งเลนส์รุ่นนี้ยังเหมาะสำหรับการถ่ายภาพแนวตั้งมากกว่ารุ่นก่อน โดยมีจอแสดงข้อมูลที่หมุนอัตโนมัติ การออกแบบด้านจับและตำแหน่งปุ่มใหม่

สำหรับกล้อง PowerShot V1 มีฟีเจอร์ช่วยให้การถ่ายวิดีโอง่ายขึ้น เช่น Subject Tracking IS ที่ติดตามตัวแบบให้อยู่ในเฟรมขณะเคลื่อนที่ รวมถึงระบบกันสั่น Movie Digital IS ที่ช่วยลดการสั่นไหวขณะบันทึกวิดีโอ เหมาะสำหรับผลิตวิดีโอคอนเท้นต์ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การบล็อกวิดีโอ การถ่ายทอดสด การถ่ายภาพยนตร์ หรือแม้แต่ภาพยนตร์สั้นหรืองานสารคดี นอกจากนี้ ยังมีพัดลมระบายความร้อนในตัวซึ่งพบได้เฉพาะในกล้องถ่ายภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ เพื่อช่วยกระจายความร้อนที่สะสมภายในทำให้สามารถถ่ายทอดสดและบันทึกวิดีโอได้นานขึ้น

ฟีเจอร์สุดล้ำเพื่อสร้างสรรค์ผลงานใกล้เคียงระดับมืออาชีพ

กล้องทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมโหมด Canon Log 3 10-bit ซึ่งช่วยเพิ่มช่วงไดนามิกแสงให้กว้างขึ้น เหมาะสำหรับการเกรดสีวิดีโอระดับมืออาชีพ และสามารถบันทึกวิดีโอ 4K 30p แบบไม่ครอป และ 4K 60p แบบครอป พร้อมรองรับ Full HD 120p สำหรับงานสโลว์โมชั่น อีกทั้งยังมีโหมดผิวหน้าเรียบเนียนและฟิลเตอร์สี 14 สี ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนมู้ดของงานวิดีโอได้อย่างง่ายดายจากกล้องโดยตรง

นอกจากนี้ ยังมีระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF II อันทรงพลัง, โหมด Movie for Close-up Demos ที่มีประโยชน์มากในการทำงานรีวิวสินค้าระยะใกล้  และระบบกันสั่นแบบ Movie Digital IS เพื่อช่วยยกระดับการโฟกัสและป้องกันภาพสั่นไหวให้ดีที่สุด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถจดจ่อกับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้อย่างเต็มที่

EOS R50 V ยังมีฟีเจอร์ Cinema EOS เช่น Custom Pictures, LUT และ HDR PQ/HLG รวมถึงฟังก์ชันการวัดแสงแบบ False Colours ที่ช่วยให้การควบคุมแสงเป็นเรื่องง่าย และยังสามารถบันทึกเสียงคุณภาพสูงด้วย ไมโครโฟน 3 ตัว ในตัวกล้อง พร้อมรองรับการต่อสายออดิโอแบบ LPCM 24-bit 4-channel เหมาะสำหรับการถ่ายทำสัมภาษณ์และคอนเสิร์ต 

เชื่อมต่อได้ง่าย รองรับการไลฟ์สตรีม 4K

EOS R50 V และ PowerShot V1 รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C และ Bluetooth สามารถใช้เป็น เว็บแคมสำหรับไลฟ์สตรีมได้โดยตรง โดย EOS R50 V รองรับไลฟ์สตรีมระดับ UVC และ UAC 4K 60p เพียงต่อสาย USB-C เส้นเดียวไปยังคอมพิวเตอร์พีซี และรองรับแอป Live Switcher Mobile Multi-Camera ที่ช่วยให้สามารถสลับมุมกล้องขณะไลฟ์สตรีมได้อย่างง่ายดาย

ราคาและวันวางจำหน่าย

Canon ประกาศราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 เป็นต้นไป

• EOS R50 V + เลนส์ RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ (สีดำ) – 30,990 บาท
• EOS R50 V + เลนส์ RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ (สีขาว) (PRE-ORDER) – 33,990 บาท
• PowerShot V1 – 31,990 บาท
• เลนส์ RF 20mm f/1.4L VCM – 67,390 บาท
• เลนส์ RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ – 13,290 บาท

กล้อง V ซีรีส์รุ่นใหม่นี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ Canon ในการสนับสนุนครีเอเตอร์ยุคใหม่ ให้สามารถสร้างสรรค์วิดีโอคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดาย และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดวิดีโอคอนเทนต์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว