The People จัดงาน 10 คนต้นแบบพร้อมสำหรับอนาคต 'People of Tomorrow' แนวคิดสะท้อนสังคมดีขึ้น

เพราะคำว่า ‘พรุ่งนี้’ เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน การเตรียมความพร้อมหรือแม้แต่ความคิดในการตั้งรับก็เป็นสิ่งสำคัญในการปรับตัวในยุคปัจจุบัน

The People ได้รวบรวมข้อมูลเรื่อง ‘คน’ แบบเจาะลึกในทุกแง่มุม ไปจนถึงบทวิเคราะห์วิธีคิดของบุคคลผู้ที่มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงสังคมในเชิงบวก จากอดีต ปัจจุบัน จนถึงอนาคต ผ่านช่องทาง www.thepeople.co และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ จึงมองเห็นโอกาสในการนำเสนอเรื่องราวชีวิตของคนจากหลากหลายอาชีพ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจที่ดีให้กับสังคม โดยปีนี้เป็นปีที่ 2 ของการมอบรางวัลให้กับบุคคลที่มีความโดดเด่นในการสร้างผลกระทบเชิงบวกในสังคม เพื่อทำให้วันพรุ่งนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

งานประกาศรางวัล ‘The People Awards 2023’ ภายใต้แนวคิด ‘People of Tomorrow’ ณ เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท กรุงเทพฯ ในวันพุธที่ 5 เมษายน 2566 ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด (SEIKO Thailand) แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีนโยบายในการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และโรงพยาบาลเมดพาร์ค โรงพยาบาลชั้นนำแห่งภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ มาร่วมเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอนาคตในวันพรุ่งนี้ของทุกคน

‘อนันต์ ลือประดิษฐ์’ บรรณาธิการอำนวยการ ผู้ร่วมก่อตั้งสื่อออนไลน์ The People ได้พูดในงานว่า “หลายคนถามเสมอว่าลายนิ้วมือของ The People คือของใคร เราต้องการเปรียบเทียบเป็นลายนิ้วมือของทุกคนตามคอนเซปต์ของ The People: everyone has own story ซึ่งปีนี้ก็ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 5 แล้ว เรายึดมั่นการนำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ ของคนในหลากหลายแง่มุมเชิงลึก”

“จึงอยากจะส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับสังคมและอีกหลาย ๆ คน ในการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ยากเกินจะคาดเดาในแต่ละวัน ซึ่งรางวัล ‘The People Awards 2023’ ในปีนี้ มาในคอนเซปต์ ‘People of Tomorrow’ หมายถึง คนที่โดดเด่นเรื่องความพร้อมสำหรับการรับมือโลกในวันพรุ่งนี้ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นวิทยาการ เทคโนโลยีสุดล้ำสมัย

การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของปัญญาประดิษฐ์ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ การเคลื่อนไหวทางสังคมที่เป็นจุดเริ่มต้นการยอมรับความแตกต่าง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลกับทุกชีวิตไปจนถึงโรคอุบัติใหม่ที่เปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ไปตลอด สิ่งเหล่านี้ทำให้ทุกวันนี้คนต้องเตรียมพร้อมปรับตัวให้เร็วยิ่งกว่า”

“ซึ่งไอเดียของทีมงาน The People พันธกิจของเราก็คือ การทำสปอตไลท์ให้กับคนที่น่าสนใจ และทำให้ผู้คนได้รับรู้ ปีนี้เป็นปีที่ 2 ของงานนี้ และเราเชื่อว่างานนี้จะดำเนินต่อไปอีก”

ทั้งนี้ จุดประสงค์ของการจัดงาน The People Awards 2023 หลัก ๆ เลยก็คือ เพื่อนำเสนอเรื่องราวของคนที่เป็นต้นแบบ มีความโดดเด่นในเรื่องความพร้อมปรับตัวเพื่อรับมือโลกในวันพรุ่งนี้ และมีส่วนทำให้โลกในวันพรุ่งนี้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ลุกขึ้นมาสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้นในแบบของตัวเอง

โดยเกณฑ์การคัดเลือกคนที่มีความโดดเด่นจะอยู่ภายใต้ 3 แกนหลักที่เรียกว่า ‘3P’ ก็คือ People (คนผู้สร้างผลกระทบกับ ผู้คน และสังคม), Planet (คนผู้สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสิ่งแวดล้อม) และ Progress คนผู้สร้างผลกระทบในเรื่องการเติบโตของธุรกิจ

ภายในงานได้มีการจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ ‘People of Tomorrow: โลกเปลี่ยน คนปรับ การเตรียมตัวเป็นผู้นำแห่งอนาคต’ โดยมี ‘หญิง - สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์’ ผู้ก่อตั้ง และหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, ทิม - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ ดร.เอ้ - สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเวทีเสวนาในครั้งนี้ด้วย

ซึ่งจากช่วงเสวนาภายในงาน The People ได้หยิบบางประโยคที่น่าสนใจจากทั้ง 3 ท่านที่แชร์มุมมองเกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทย และประเทศในฝันในฐานะนักการเมืองระดับแถวหน้า

ด้าน หญิงหน่อย – สุดารัตน์ ได้แชร์มุมมองว่า “17 ปีแล้วที่เราเกิดปัญหาภายในประเทศ เกิดขึ้นนานมาก การเลือกตั้งครั้งนี้ก็อาจจะไม่จบเหมือนกันถ้าเรายังอยู่ในกรอบแค่อำนาจ 2 ขั้ว ไม่อยากให้พอจบการเลือกตั้งแล้วก็เริ่ม war(สงคราม) กันใหม่ ฉันคิดในฐานะที่เป็นผู้นำทางการเมือง และในฐานะแม่ด้วย ฉันอยากจะสร้างโลกในสังคมไทยให้ดีขึ้น”

ส่วน ทิม – พิธา ได้พูดว่า “ตอนนี้เราต้องการคนที่กล้ามากกว่าคนเก่ง หรือยิ่งมีความกล้าแล้วเก่งด้วยก็ยิ่งดี เพราะต้องมีคนที่กล้าชนกับสิ่งที่ไม่ปกติก่อน เราต้องเอาความไม่ปกติเข้ามาสู่การเมืองให้ได้ สถานการณ์ดีขึ้นเมื่อไหร่

ขณะที่ ดร.เอ้ – สุชัชวีร์ ได้แชร์เกี่ยวกับประเทศในฝันบนเวทีไว้ว่า “อยากเห็นคนไทยเหมือนลูกของเรา เรารักลูก พร้อมให้ทุกอย่างกับลูก อยากให้ทุกคนคิดว่า ถึงเวลาที่คนไทยจะทุ่มทรัพยากรทุกอย่างกับเด็กไทย เพราะเหลืออยู่น้อยนิด อยากสร้างเด็กไทยให้อนาคตไม่แพ้ใครจริง ๆ”

นอกจากนี้ ปีนี้ The People ยังมีการมอบรางวัลสำหรับ Corporate of Tomorrow ที่มีส่วนทำให้วันพรุ่งนี้ดีขึ้นในมิติต่างๆ โดยมี 5 องค์กรที่ได้รับรางวัลนี้ ได้แก่ Med Park โรงพยาบาลที่ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องการเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นโรงพยาบาลแห่งอนาคต Medical Hub ให้กับผู้คนในวันพรุ่งนี้

บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด ที่จัดว่าเป็นองค์กรที่โดดเด่นเรื่องความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมสูง, EXIM BANK (ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย) ที่อยู่เบื้องหลังของ SMES ประเทศไทยมานาน กับรางวัล Social Responsibility

บริษัท บิทคับ แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ จำกัด สำหรับรางวัล Corporate of Tomorrow ที่โดดเด่นในเรื่อง Innovation และ บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เป็นองค์กรที่โดดเด่นเรื่อง MedTech จากการเป็นผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ชั้นนำของประเทศไทย

ทั้งนี้ ขั้นตอนการคัดเลือกในรอบแรก ทางคณะกรรมการได้ใช้วิธีการเสนอรายชื่อบุคคลที่น่าสนใจจำนวนทั้งหมด 100 คน จากนั้นก็พิจารณาคัดเลือกผู้ที่มีความโดดเด่นที่สุดจำนวน 10 คน ยกให้เป็นบุคคลต้นแบบแห่งปีของ The People Awards 2023 โดยในปีนี้ ได้แก่

1.ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ และ เซน-นครินทร์ ขุนภักดี ศิลปินจากวง Paper Planes วงป็อปพังก์แห่งยุคและหัวหน้าแก๊งฟันน้ำนม ซึ่งมีเพลงฮิตที่ร้องได้เกือบทุกวัยอย่าง ‘ทรงอย่างแบด’ และเพลง ‘เสแสร้ง’

2.วทันยา อมตานนท์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจเต่าบิน (Taobin) ตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติที่ตอนนี้พบเจอได้ทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

3.พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตตำรวจไทย และเคยเป็นพนักงานสอบสวนดีเด่น แต่ได้ลี้ภัยตั้งแต่ปี 2558 หลังพยายามปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่ภาคใต้

4.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระที่ทำกิจกรรมทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ใช้ชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน แสดงจุดยืนด้วยการ ‘อดอาหารและน้ำ’ เรียกร้องให้ศาลคืนสิทธิ์ประกันตัวให้ผู้ถูกคุมขังทางการเมือง

5.มิลลิ - ดนุภา คณาธีรกุล ศิลปินหญิงเดี่ยวคนแรกที่ได้ขึ้นเวทีระดับโลกในเทศกาลดนตรี Coachella และสร้างปรากฏการณ์จนเป็นกระแสไปทั่วโลก

6.ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย นักสอยคิวหญิงชาวไทย ฉายามิ้งค์ สระบุรี เจ้าของแชมป์โลก 2022 ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการ ขึ่นไปอยู่อันดับหนึ่งในการจัดอันดับสนุกเกอร์หญิงโลก

7.ซินเธีย หม่อง หมอเจ้าของรางวัลแมกไซไซ ผู้ลี้ภัยชาวพม่าในไทย ผู้ก่อตั้ง ‘แม่ตาวคลินิก’

8.ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าพ่ออ่าง เจ้าของฉายา ‘โจรจับโจร’ ผู้สร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองและสังคม

9.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน ที่สร้างแรงกระเพื่อมให้คนกรุงสนใจการเลือกตั้ง และเป็นคนที่ถูกคาดหวังให้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เมืองหลวงมากคนหนึ่ง

10.จุน วนวิทย์ เจ้าของอาณาจักร Hatari บุคคลตัวอย่างที่ช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่หวังผลตอบแทนหรือชื่อเสียงใด ๆ

ผู้ที่ได้รับรางวัลทั้ง 10 คน ได้กล่าวถึงหลาย ๆ แนวคิดที่น่าสนใจ และชวนตั้งคำถามต่อว่าเราจะมีส่วนร่วมในสิ่งเหล่านี้ได้มากน้อยแค่ไหน?

อย่างเช่น ‘ชัญญา พานิชตระกูล’ ตัวแทนของ จุน วนวิทย์ ที่พูดว่า “การคืนสู่สังคมเป็นความตั้งใจของอากงที่มีมาโดยตลอด”

สุนทรพจน์รับรางวัลของ ซินเธีย หม่อง ที่เธอพูดย้ำไว้ว่า “เราทุกคนต้องได้รับความเท่าเทียม และทุกคนสามารถสร้างสังคมแห่งความยุติธรรมได้ รวมถึงการปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดี ความสงบสุขและความเท่าเทียมร่วมกันได้”

ส่วน ‘วทันยา อมตานนท์’ เธอได้กล่าวว่า “เต่าบินผ่านความล้มเหลวมาหลายรอบ ทางทีมก็ผ่านมาได้ด้วยความสามัคคี ตัวตองส่วนตัวไม่ได้คิดว่า ความสำเร็จไม่ได้ดูกันที่ปลายทาง ระหว่างทางเราแก้ปัญหามาได้หลายรอบ”

ขณะที่ สุนทรพจน์รับรางวัลของ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ที่กล่าวผ่าน VTR ได้พูดฝากถึงการกระทำของเราทุกคนว่า "อย่างน้อย ๆ จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นมิติเล็ก ๆ หรือเรื่องใหญ่ ๆ ก็จะทำให้ดีที่สุด ทั้งยังย้ำว่าอย่าเพิ่งไปเปลี่ยนที่โลกหรือสังคมเลย ให้เริ่มเปลี่ยนที่ตัวเองก่อน”

เช่นเดียวกับ สุนทรพจน์รับรางวัลของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ที่ได้พูดผ่าน VTR ไว้ว่า “วันพรุ่งนี้หรืออนาคตยังมาไม่ถึง วันนี้มันอยู่กับเรา จึงควรทำสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ถูกต้อง แล้วเที่ยงตรง และไม่ต้องกังวลว่า จะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า เพราะเมื่อทำดี ทำสิ่งที่ถูกต้อง มันก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมให้คนมาฉุกคิดว่า เออ มันต้องทำแบบนี้สิ”

ขณะที่ ศิลปินทั้ง 2 คนของ Paper Planes ก็ได้พูดถึงรางวัลดังกล่าวผ่าน VTR ว่า “พวกเรามีความคิดจะเป็นพลังเล็ก ๆ ที่ขับเคลื่อนสังคม นอกจากทำผลงานดี ๆ เป็นสีสันในวงการเพลง สิ่งที่เราอยากทำก็อย่างที่บอก เป็นพลังขับเคลื่อนเล็ก ๆ”

ส่วนศิลปินที่ไปดังระดับโลกอย่าง ‘มิลลิ - ดนุภา คณาธีรกุล’ ก็ได้พูดผ่าน VTR เกี่ยวกับการรับรางวัลนี้ว่า “งานของหนูเปลี่ยนแปลงตัวหนูขึ้นเรื่อย ๆ เราเติบโตไปพร้อมเพลง เพลงก็เติบโตไปพร้อมกับเรา ถามว่าจะเปลี่ยนแปลงสังคมไหม หนูคิดว่า ทำอะไรให้สังคมก็คงเป็น โตไปจะเป็นผู้ใหญ่แบบที่ตัวเองไม่เกลียด ก็เลิศแล้วสำหรับหนูตอนนี้”

ขณะที่ ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย (มิ้งค์ สระบุรี) ได้ให้มุมมองว่า “ในฐานะเป็นตัวแทนนักกีฬาสนุกเกอร์และเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ อยากให้ทุกคนหันมามองกีฬาชนิดนี้ที่เปลี่ยนไปพัฒนาเหมือนโลกของเรา เพราะภาพเมื่อก่อนของสนุกเกอร์ไม่ดีเท่าไร”

สำหรับ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ เขาได้พูดในระหว่างที่ขึ้นรับรางวัลว่า “สิ่งที่ผมทำ ผมต้องการทำให้สังคมได้เห็น และผมก็ไม่สนใจในสิ่งที่ให้ผม เพราะนี่เป็นสิ่งที่ผมเลือกเอาเอง และสิ่งที่ผมเลือก ผมก็พร้อมที่จะรับชะตากรรมของผม”

สุดท้าย ‘ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ อรวรรณ ภู่พงษ์’ ที่ขึ้นรับรางวัล พร้อมกับพูดด้วยว่า “ปัญหามันยังอยู่ มันยังมีคนโดนปิดปาก ยังมีกฎหมายที่ปิดปากประชาชนอยู่ ยังมีคนโดนคดี ยังมีคนติดคุกอยู่ เพราะฉะนั้นเราก็เลยคิดว่าเราคงต้องสู้กันต่อไป”

นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางความคิดเห็นจากบุคคลต้นแบบทั้ง 10 คน ซึ่งคนแห่งอนาคตและการเตรียมรับที่เป็นคอนเซปต์ของ The People ในปีนี้ เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างมีความคิดเห็นที่แตกต่างหลายด้าน แต่ท้ายที่สุดผลลัพธ์ก็คือการร่วมกันสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับโลกเหมือนกัน ซึ่งปีที่ 2 ของงานประกาศรางวัลนี้ ถือว่าเป็นการสะท้อนคำว่า Tomorrow ผ่านบุคคลในเชิงลึกได้ดี และน่าติดตามว่าต่อ ๆ ไปโลกของเราจะหมุนกลับมาเพิ่มบทบาททางด้านไหนอีกในอนาคต