20 มี.ค. 2568 | 18:00 น.
KEY
POINTS
ราว 10 ปีก่อน ชื่อของ ‘เฟรย์ ทอร์เมนตา’ (Fray Tormenta) มวยปล้ำชาวเม็กซิกันเริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่ลีลาบนสังเวียนเท่านั้น แต่เรื่องราวของชายคนนี้เรียกน้ำตาคนทั่วโลกไปไม่น้อย เขาคือ ‘บาทหลวง’ นักบวชที่ทำหน้าที่เผยแผ่คำสอนทางศาสนา ผิดกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่โดยสิ้นเชิง การเป็นนักมวยปล้ำห่างไกลจากวิถีทางของพระเจ้าไปไกลโข
ส่วนเหตุผลที่บาทหลวงผู้นี้ตัดสินใจลงสังเวียนเดือด เป็นเพราะเหตุผลง่าย ๆ นั่นคือ เขาอยากเห็นเด็กกำพร้ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี อยากให้เด็ก ๆ มีบ้านอันอบอุ่น แต่เขาเป็นแค่บาทหลวง ไม่มีเงินทองมากมาย แถมยังมีอดีตอันเลวร้าย การเป็นนักมวยปล้ำจึงเป็นทางออกเดียวในการหาเงินช่วยเด็กกำพร้าเหล่านั้น
เฟรย์ ทอร์เมนตา มีชื่อจริงว่า ‘เซร์จิโอ กูเตียร์เรซ เบนิเตซ’ (Sergio Gutiérrez Benítez) เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1945 ในรัฐฮิดัลโก ประเทศเม็กซิโก เป็นลูกคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 18 คน เขาเติบโตมาในครอบครัวยากจน พ่อแม่ไม่มีเวลาให้มากนัก อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจของประเทศในช่วงนั้นก็ย่ำแย่ มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยคนไร้บ้านนอนอยู่ข้างถนน การเติบโตในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ หล่อหลอมให้เขาเข้าสู่วงการยาเสพติด ทั้งติดเหล้า ทำตัวเกเร ลักเล็กขโมยน้อย การเรียนก็ไม่เอาไหน ในที่สุดเด็กชายกูเตียร์เรซก็เข้าสู่วงจรอาชญากรรมจนกู่ไม่กลับ
“ผมเริ่มติดยาตอนอายุ 11 หรือ 12 ปีนี่แหละ ยาเสพติดมันหาไม่ยากหรอกในประเทศนี้
“ผมลองทุกอย่าง กัญชา โคเคน ใช้มันทุกวัน หลังจากนั้นก็หันมาลองเฮโรอีน”
ชีวิตของเขาแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี ไม่ใช่แค่ยาเสพติดเท่านั้นที่ทำชีวิตเขาพัง แต่กูเตียร์เรซยังเข้าร่วมแก๊งประจำถิ่น ทำให้เขาพลอยติดร่างแหข้อหาฆาตกรรมไปด้วยเมื่อตอนอายุ 20 ปี โชคดีที่มีหลักฐานว่าเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น เพราะพบหลักฐานว่ากูเตียร์เรซนอนหลับสลบเหมือดอยู่ในบาร์แห่งหนึ่ง จึงไม่มีทางมาร่วมก่อเหตุได้เป็นแน่
หลังจากนั้น กูเตียร์เรซพยายามกลับตัวกลับใจ เลิกยาเสพติด ตัดขาดความสัมพันธ์กับแก๊ง ออกห่างจากเรื่องเลวทรามให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเริ่มหันมาเข้าโบสถ์ ศึกษาคำสอนทางศาสนาเดินทางไปยังกรุงโรมและสเปน กระทั่งตัดสินใจว่าจะสารภาพความผิดบาปที่เคยก่อเอาไว้ในอดีตทั้งหมด ไม่ช้าเขาก็เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนของพระเจ้าอย่างสมบูรณ์
เมื่อกลับมายังเม็กซิโกกูเตียร์เรซตั้งเป้าหมายว่าจะต้องช่วยคนที่เคยหลงผิดเช่นเขา และต่อมาจึงก่อตั้งสถานเลี้ยงเด็กกำหร้าในปี 1976 แต่การทำความดีไม่ใช่เรื่องง่ายมากนักในโลกทุนนิยม เขาไม่มีเงินทุนหมุนเวียน จึงต้องหาทางออกเพื่อช่วยชีวิตเด็กกำพร้าในบ้านหลังนี้
ในปี 1983 กูเตียร์เรซได้ตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาตลอดกาล นั่นคือการเป็นนักมวยปล้ำ เพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง El señor Tormenta ซึ่งเป็นเรื่องราวของบาทหลวงที่ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อหาทุนให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และเขาตั้งใจจะเป็นฮีโร่ตัวจริงให้เด็ก ๆ ทำให้เห็นว่าฮีโร่ในชีวิตจริงไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ
อีกอย่างเขาเคยอยู่ในแก๊งมาก่อน การถูกแทง ทำร้าย และยิง เป็นเรื่องปกติ เขาจึงมีความอดทนต่อความเจ็บปวดสูง โดยเขาเลือกที่จะสวมหน้ากากสีแดงและทองตามประเพณีของ Lucha Libre (มวยปล้ำเม็กซิโก) เพื่อปิดบังตัวตนที่แท้จริง เนื่องจากเขากังวลว่าทางคริสตจักรอาจไม่เห็นด้วยกับการเป็นนักมวยปล้ำ และเริ่มปล้ำด้วยเงิน 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงไปทั่วเมือง ภายใต้ชื่อ เฟรย์ ทอร์เมนตา
"ผมตัดสินใจเป็นนักมวยปล้ำเพราะผมต้องการเงินเพื่อเลี้ยงดูเด็ก ๆ ผมไม่มีทางเลือกอื่น พระเจ้าทรงเข้าใจว่าผมไม่ได้ทำเพื่อชื่อเสียงหรือเกียรติยศ แต่ทำเพื่อเด็ก ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ"
กูเตียร์เรซฝึกซ้อมตั้งแต่ตี 4 ถึง 7 โมงเช้า มาทันเวลามิสซาเช้าของทุกวัน เวลาผ่านไปหนึ่งปี เขาก็มีอีกหนึ่งบทบาทเพิ่มเข้ามานั่นคือ นักมวยปล้ำ ถึงจะต้องเจอกับความเจ็บปวด เหนื่อยล้ามากเพียงใด แต่ชายคนนี้ก็ไม่เคยถอย เขามีปณิธานแน่วแน่ว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยเด็กกำพร้าให้รอดพ้นจากช่วงเวลายากลำบาก เหมือนกับที่เขาเคยเผชิญเมื่อตอนยังเด็กไปให้ได้
กูเตียร์เรซไม่เคยเปิดเผยตัวตน แต่วันหนึ่ง ‘ฮูรากัน รามิเรซ’ (Huracán Ramírez) นักมวยปล้ำเพื่อนร่วมอาชีพของเขาโทรมา เพื่อบอกว่า เราจะปล้ำกันวันเสาร์ จากนั้นกูเตียร์เรซก็หลุดปากออกไปว่า เขาทำไม่ได้ เพราะต้องประกอบพิธีแต่งงาน ปลายสายได้แต่ตกตะลึงถามเขากลับว่า ตกลงคุณเป็นบาทหลวงจริง ๆ เหรอ แม้ว่ากูเตียร์เรซจะขอให้เพื่อนร่วมอาชีพเก็บเป็นความลับไว้ แต่สุดท้ายทุกคนก็รู้อยู่ดีว่าเขาคือใคร
"หน้ากากของผมเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่น เมื่อผมสวมมัน ผมไม่ใช่แค่ต่อสู้เพื่อตัวเอง แต่ต่อสู้เพื่อเด็กทุกคนที่ต้องการบ้าน ต้องการอาหาร และต้องการความรัก"
"ผมไม่เคยคิดว่าจะทำได้นานขนาดนี้ แต่ทุกครั้งที่ผมคิดจะหยุด ผมมองหน้าเด็ก ๆ และรู้ว่าผมต้องทำต่อไป พวกเขาคือพลังของผม"
ตลอดอาชีพนักมวยปล้ำที่ยาวนานกว่า 20 ปี กูเตียร์เรซได้กลายเป็นตำนานในวงการ Lucha Libre ของเม็กซิโก เขาชนะเข็มขัดแชมป์หลายรายการและเป็นที่รู้จักในสไตล์การต่อสู้ที่พลิกแพลงและเต็มไปด้วยพลัง โดยเฉพาะท่า crucifijo (ไม้กางเขน) ที่กลายเป็นลายเซ็นประจำตัวของเขา
เรื่องราวอันน่าทึ่งของ Fray Tormenta ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Nacho Libre (2006) นำแสดงโดย ‘แจ็ค แบล็ก’ (Jack Black) ในบทของนักบวชที่กลายเป็นนักมวยปล้ำเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า แม้ภาพยนตร์จะมีการดัดแปลงเรื่องราวไปมาก แต่แก่นของเรื่องยังคงอิงจากชีวิตจริงของเฟรย์ ทอร์เมนตา
แม้ปัจจุบัน กูเตียร์เรซจะเกษียณจากวงการมวยปล้ำแล้ว แต่มรดกของเขายังคงอยู่ เขายังคงดูแลบ้านพักเด็กกำพร้าและทำงานในฐานะบาทหลวง ลูกศิษย์ของเขาหลายคนได้กลายเป็นนักมวยปล้ำเช่นกัน โดยใช้ชื่อ Tormenta Jr. เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของเขา
"ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงนำเราไปสู่เส้นทางที่เราไม่คาดคิด" เขากล่าวในวัย 70 ปี "ผมไม่เคยคิดว่าจะเป็นนักมวยปล้ำ แต่บางครั้งเราต้องก้าวออกจากความสบายใจเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง"
กูเตียร์เรซช่วยเหลือเด็ก ๆ มาแล้วกว่า 2,000 คน ซึ่งบางคนได้กลายมาเป็นทนายความ แพทย์ นักบัญชี และแน่นอนว่ารวมถึงบาทหลวงและนักมวยปล้ำด้วย
เรื่อง : วันวิสาข์ โปทอง
อ้างอิง