เรื่องราวของ เป๊ก ผลิตโชค 2 ปีผ่านไป เพราะอะไรรักเรายังเหนียวแน่น

เรื่องราวของ เป๊ก ผลิตโชค 2 ปีผ่านไป เพราะอะไรรักเรายังเหนียวแน่น

เรื่องราวของ เป๊ก ผลิตโชค 2 ปีผ่านไป เพราะอะไรรักเรายังเหนียวแน่น

ในโลกยุคปัจจุบันคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘โซเชียลมีเดีย’ กลายเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยผลสำรวจล่าสุดในปี 2018 ของ WISESIGHT ผู้นำด้าน Social Monitoring Tool รายใหญ่ของประเทศไทย ระบุว่าบุคคลที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในโซเชียลมีเดีย คือ ‘เป๊ก ผลิตโชค’ โดยมีจำนวนข้อความที่ถูกพูดถึงทั้งหมด 4,820,275 ข้อความ หรือคิดเป็น 43% ของทั้งหมด เขาจึงคว้ารางวัล Best Social Entertainment ในฐานะ Male Artist ประจำปี 2018 ไปครอบครอง นาทีนี้คงแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักนักร้องที่ชื่อ ‘เป๊ก ผลิตโชค’ บุคคลผู้แจ้งเกิด (อีกครั้ง) จาก ‘หน้ากากจิงโจ้’ ในรายการ The Mask Singer ซีซั่น 1 เมื่อปี 2017 ซึ่งหลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่ากระแสความนิยมในตัวของเขาจะกลับมาอีกครั้ง เห็นได้จากการถือกำเนิดขึ้นของกลุ่มแฟนคลับที่เรียกว่า ‘นุช’ ที่คอยตามสนับสนุนเป๊กไปทุกที่ แต่จนถึงตอนนี้ เกือบ 2 ปีผ่านไป คนกลุ่มนี้ก็ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม...ไม่สิ ดูจะเหนียวแน่นมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ นี่คงไม่ใช่กระแสเสียแล้ว...แต่เพราะอะไรล่ะที่ทำให้คนเรารักและยึดมั่นในสิ่งเดิมมาได้อย่างยาวนาน? ผลิต 3 แอพ เป๊กมีโซเชียลมีเดียทั้งหมด 3 ช่องทางคือเฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ ภายใต้ชื่อเดียวกันคือ Peckpalit ซึ่งเขาสื่อสารผ่านช่องทางเหล่านี้ตลอดทุกวันด้วยตัวเอง โดยจะครีเอตโพสต์ในแต่ละแอปฯ ไม่ซ้ำกัน จึงเป็นที่มาของฉายา #ผลิต3 แอพ และดูเหมือนว่านุชจะรวมกันตัวอยู่ในทวิตเตอร์มากที่สุด เป๊ก-นุช Is Real ความสัมพันธ์ของศิลปินกับแฟนคลับ อาจเป็นเรื่องที่หลายคนไม่เข้าใจ บางคนคิดว่านักร้อง แค่มาร้องเพลงบนเวที แฟนคลับมากรี๊ดๆ ชูป้ายไฟ พอจบงานแล้วก็แยกย้าย ศิลปินบางคนอาจจะเซอร์วิสแฟนๆ เช่น จับมือ แจกลายเซ็น ถ่ายรูปเซลฟี แต่สำหรับ ‘เป๊ก-นุช’ กลับมีอะไรที่มากกว่านั้น เมื่อเป๊ก ผลิตโชค มีงานอีเวนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะร้องเพลงหรือโชว์ตัว เหล่านุชจะพร้อมใจกันไปรอตั้งแต่ห้างยังไม่เปิด บางคนไปตั้งแต่ฟ้าสาง (แม้ว่างานวันนั้นเป๊กจะขึ้นเวทีตอน 6 โมงเย็นก็ตาม) เมื่อไปถึงต่างก็จับจองที่นั่ง พูดคุยเมาท์มอยกันตามประสาแฟนคลับ บางคนทำของที่ระลึกมาแจกให้นุชคนอื่นๆ จนเมื่อถึงเวลาที่เป๊กขึ้นเวที ทุกคนก็จะควักอุปกรณ์การเชียร์ต่างๆ ขึ้นมา ทั้งป้ายไฟ แท่งพลังแสงแห่งนุช ณ๊องพิคคี้ ฯลฯ เพื่อให้กำลังใจศิลปินที่ตัวเองรัก ซึ่งเป๊กก็จะมีการพูดคุย ‘บ่นขิงข่า’ ทั้งถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ เล่าเรื่องราวต่างๆ พูดคุยกันราวกับเป็นคนในครอบครัวที่ได้มาเจอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ก่อนจะปิดท้ายด้วยแฟนชานท์ (Fanchant) “รักเป๊กกี้มากมายน์ที่สุดในโลก ชีวิตจักรวาล บอโร่ว ตอเซ่ สวิตช์ดาวน์ เซเว่นโอทูเลยแหละ” นี่คือเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของเป๊กและนุช ไลฟ์สไตล์สีเทาๆ สุดคอนทราสต์ สิ่งที่ทำให้เหล่านุชหลงรักเป๊กนั้น นอกจากความสามารถในการร้องเพลงและการเต้นแล้ว ยังรวมไปถึงไลฟ์สไตล์ของเป๊กด้วย การใช้ชีวิตของเขาเรียกได้ว่า ‘ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน’ เพราะมีหลายรสชาติ หลายมุมให้เลือกที่จะชอบ ด้วยลักษณะนิสัยส่วนตัวที่เป็นกันเอง เข้าถึงง่าย ให้เกียรติผู้อื่นเสมอไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าเปรียบเป๊กเป็นสี ก็มีทั้งสีสันสดใส ไปจนถึงสีขาว สีดำ หรือแม้กระทั่งสีเทาๆ ซึ่งเป็นการคอนทราสต์กันอย่างสุดขั้ว เช่น เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน เคารพผู้ใหญ่ แต่ก็เป็นคนกวนและตลกโปกฮาเมื่ออยู่กับเพื่อนสนิท ทั้งหมดนี้คือความเรียลที่มาจากตัวเขา ทำให้มีเรื่องชวนลุ้นอยู่ทุกวัน ซึ่งถูกจริตคนที่ไม่ต้องการความสมบูรณ์แบบที่ถูกประดิษฐ์สร้าง นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้นุชของเป๊กมีหลากหลายกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ และทุกอาชีพ แม้กระทั่งผู้ชายที่มีภรรยาและลูกแล้ว ก็ยังมาเป็น ‘นุชาของเป๊ก’ หรือคุณยายอายุ 80 ก็ยังเอาชนะข้อจำกัดของร่างกายมาเพื่อดูเป๊กร้องเพลงในงานอีเวนต์ #เป๊กผลิตโชค ไลน์กลุ่มของชาว 702 ในโลกทวิตเตอร์ จะมีสิ่งที่เรียกว่าแฮชแท็ก (หรือสัญลักษณ์ #) เป็นเหมือนศูนย์กลางที่รวบรวมเรื่องราวของสิ่งที่เกี่ยวกับแฮชแท็กนั้นๆ เช่น #อร่อยไปแดก ก็จะเป็นแฮชแท็กที่รวบรวมรีวิวร้านอาหารอร่อย หรือ #นิ้งโศภิดา ก็จะเป็นแฮชแท็กเกี่ยวกับนิ้ง โศภิดา มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ฯลฯ ซึ่งแฮชแท็กหลักของ ‘เป๊ก’ และ ‘นุช’ คือ #เป๊กผลิตโชค โดยพวกเขาเรียกสิ่งนี้ว่า ‘บ้าน’ ซึ่งบ้านหลังนี้ไม่เคยหลับใหล เพราะมีข้อความไหลตลอด 24 ชม. เป็นรายวินาที!!! นุชที่ทำงานหรือเรียนแล้วสะดวกเล่นทวิตเตอร์ในเวลากลางวัน ก็จะเป็น ‘กะกลางวัน’ โดยจะทวีตข้อความและข่าวสารต่างๆ ส่วน ‘กะดึก’ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นนุชที่ทำงานในเวลากลางคืนหรือนุชที่อยู่ต่างประเทศ ก็จะทวีตข้อความ หรือทวีตรูปอาหาร ชวนคุยกันอย่างสนุกสนาน เพื่อไม่ให้บ้านเงียบเหงา โดยปกติแล้ววิถีของชาวทวิตเตอร์นั้นจะเน้นไปที่การรีทวีต (Retweet) แต่จะไม่รีพลาย (Reply) คุยกับคนที่ไม่รู้จัก แต่สำหรับเหล่านุชแล้ว #เป๊กผลิตโชค เป็นเหมือนไลน์กลุ่มขนาดใหญ่ที่ทุกคนจะคุยเรื่องอะไรก็ได้ ขอแค่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครก็พอ จึงมีตั้งแต่การหวีดศิลปิน การปรึกษาปัญหาชีวิต การปรับทุกข์ซึ่งกันและกัน การเล่าสู่กันฟังในเรื่องราวต่างๆ ที่แต่ละคนพบเจอ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ #เป๊กผลิตโชค จะติดเทรนด์ทวิตเตอร์อยู่ใน 20 อันดับแรกของโลกอยู่บ่อยครั้ง และติดอันดับเทรนด์ทวิตเตอร์ของไทยแทบจะตลอดเวลา และเมื่อเป๊กมีงานอีเวนต์ ก็จะมีแฮชแท็กของงานนั้นๆ เหล่านุชก็จะทวีตทั้งข้อความเล่าเรื่องในงาน รูปภาพ รูปวาด หรือคลิปวิดีโอกันเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าแทบจะทุกงานที่มีเป๊ก ผลิตโชค ไปปรากฏตัวหรือร่วมงาน แฮชแท็กของงานนั้นมักจะติดเทรนด์เสมอ และยิ่งถ้าเป็นงานเป๊กที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ จำนวนข้อความที่ทวีตนั้นจะมีมากถึงนับล้านข้อความเลยทีเดียว #เจ้าแม่แห่งการโหวต มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างอย่างหนาหูว่านุชของเป๊กนั้นคือเจ้าแม่แห่งการโหวต ยิ่งถ้าเป็นการโหวตทางทวิตเตอร์ก็ยิ่งเป็นเหมือนขนมหวานของเหล่านุช ทุกคนจะระดมสรรพกำลังทั้งทวีตและรีทวีตกันอย่างหนักหน่วง ไม่ติดเทรนด์ไม่เลิก! อย่างเช่นรางวัล Best Southeast Asia Act ในเวที MTV EMA 2017 ที่ลอนดอน ก็มีการเสนอชื่อเข้าชิงด้วยการโหวตทางทวิตเตอร์ งานนี้เหล่านุชทวีตและรีทวีตรวมทั้งสิ้นกว่า 25 ล้านข้อความ!!! และด้วยเหตุผลนี้ ทำให้มีเวทีรางวัลต่างๆ หลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศมองว่านุชมีพลังซัพพอร์ตอย่างมหาศาล และประกอบกับผลงานเพลงต่างๆ ของเป๊กที่ไพเราะติดหู จึงเป็นที่มาของรางวัล ‘Best Asian Artist Thailand’ จากงาน 2018 Mnet Asian Music Awards (MAMA) ที่ฮ่องกง หรือมีชื่อเสนอเข้าชิงรางวัล รวมทั้งเป๊กยังได้เป็นศิลปินไทยคนแรกที่จะได้ไปแสดงในงาน daf BAMA Music Awards 2018 ที่ดูไบ อีกด้วย “ทุกครั้งที่มีข่าวดีในด้อม (Fandom) ของพวกเรา นั่นหมายถึงว่าเฮีย (คำที่นุชใช้เรียกเป๊ก ผลิตโชค) จะมีความสุข เฮียจะยิ้มกว้างเสมอเวลาที่มีเรื่องราวดีๆ พวกเราก็เลยอยากจะทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เฮียมีความสุข เพราะความสุขของเฮียก็คือความสุขของพวกเราเช่นกัน และพวกเราก็จะอยู่เป็นลมใต้ปีก คอยพัดเฮียขึ้นไปสูงๆ แบบนี้ตลอดไปค่ะ” นี่คือความในใจจากนุช This Is Love นี่แหละความรัก ความรักของเป๊ก-นุช ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเผื่อแผ่ไปถึงสังคมและคนรอบข้างอีกด้วย ล่าสุดเป๊กและแฟนคลับได้บริจาคเงินที่ได้จากการจำหน่ายหนังสือภาพ (Photobook) ของเป๊ก จำนวนมากกว่า 6 ล้านบาท ให้กับ 22 มูลนิธิ อาทิ องค์การยูนิเซฟ, กองทุนโรคมะเร็งในเด็กฯ, มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยฯ, มูลนิธิสืบนาคะเสถียร, มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ ฯลฯ รวมถึงเด็กที่เป๊กอุปการะค่าใช้จ่ายและทุนการศึกษา นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าความรักระหว่างศิลปินและแฟนคลับไม่ใช่เรื่องไร้สาระเสมอไป นุชคนหนึ่งกล่าวว่า “ดีใจที่เงินจำนวนไม่มากของเราได้เป็นส่วนเล็กๆ ในการทำบุญครั้งนี้ มันยิ่งใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก หน้ากากจิงโจ้เคยบอกว่า ‘สายบุญไม่ค่อย’ แต่จริงๆ แล้วเฮียชอบทำบุญมากค่ะ เฮียทำบุญและช่วยเหลือสังคมมาตั้งแต่สมัยก่อนที่ยังไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าตอนนี้ แต่เฮียไม่เคยบอกใคร ทุกวันนี้ยังมีบางครั้งที่เฮียแอบไปทำบุญหรือบริจาคเงิน แล้วพวกเรามารู้ทีหลังเพราะคนที่ได้รับความช่วยเหลือเขามาขอบคุณน่ะค่ะ” The Story Will Never End รูปลักษณ์ภายนอกอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เราชอบใครสักคน แต่ตัวตนของเขาต่างหากที่จะทำให้เรารักตลอดไป เรารู้สึกยินดีที่ศิลปินไทยได้รับการสนับสนุน มีคนรักมากมายท่วมท้น ไม่ว่าศิลปินคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม แม้จะไม่มีใครรู้ว่าบรรดา ‘ลมใต้ปีก’ เหล่านี้จะยังพัดไปได้อีกนานแค่ไหน ก็คงเหมือนกับเพลงแรกในชีวิตของนักร้องที่ชื่อเป๊ก ผลิตโชค “ไม่มีใครรู้ว่ารักจะจบลงเมื่อไร ไม่มีใครรู้ว่ารักจะจืดจางเมื่อใด แต่ที่รู้ก็คือวันนี้รักเธอ อยากจะทำเวลาที่มีให้งดงาม...ก็อยู่ที่ใจสองใจจะเติมใจให้กันต่อไป” ที่มา ภาพ: https://www.facebook.com/whitemusicrecord/ https://www.facebook.com/TheMaskSingerTH/ เรื่อง: ดวงใจ ตั้งสายัณห์