เอซรา มิลเลอร์ กับ ความงามนอกกรอบ

ดวงตาทรงอัลมอนด์ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากรูปกระจับได้รูป กรามสันคมชัดที่ทำให้ เอซรา มิลเลอร์ (Ezra Miller) โดดเด่นไม่เหมือนใคร เขาคือส่วนผสมที่ลงตัวของความหล่อเหลาแบบผู้ชาย ขณะเดียวกันก็สามารถนำเสนอความงดงามแบบผู้หญิงได้เมื่อแต่งแต้มสีลงบนกลีบปากสวย และเขาไม่เคยอายที่จะวาดปากแต่งสีใดก็ได้เมื่อเขาต้องการ เอซรา มิลเลอร์ เป็นที่รู้จักในหมู่แฟน ๆ และชาว LGBTQ ในฐานะนักแสดงฮอลลีวูดที่เป็นแถวหน้าที่เปิดตัวในความเป็น Queer และ Gender-Bending เขาคือส่วนผสมของทั้งชายและหญิง และมักถูกเรียกว่าเป็นคนที่ทลายกำแพงในด้านต่าง ๆ เอซราไม่อยากถูกจำกัดความในเพศใด ๆ ถึงแม้ว่าจะยินดีให้เรียกเขาว่า He หรือ Him โดยไม่จำเป็นต้องเรียกว่า They ตามภาษาของชาว Non-Binary (กลุ่มคนที่ไม่อยากถูกจำกัดโดยเพศสภาพใด ๆ) เพราะบางครั้งเอซราก็ยอมรับว่าตัวเขาเองก็ประหลาดจนแทบไม่อยากเรียกว่าเป็นมนุษย์ แต่ทุกวันนี้แฟน ๆ ต่างชื่นชอบในความ “ประหลาด” และ “ความเป็นตัวของตัวเอง” ของเขา จนเปรียบเขาว่าเป็นดั่งผลงานศิลปะที่ไม่จำเป็นจะต้องเข้าใจเหมือนกันทุกคน แต่ควรค่าแก่การถกเถียงและตีความ “มาตรฐานความงาม ให้ความรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญกับมันเหมือนยึดมาจากรากฐานความเป็นจริง แต่จริง ๆ แล้วมันต่างออกไปมากเลย” เอซราให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Allure ถึงการเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์เครื่องสำอาง Urban Decay ซึ่งเขาได้เข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัว Global UD Citizen ร่วมกับคนดังอีกหลายคน ทั้งนักร้องสาวตัวแม่วงการ K-Popอย่าง ซีแอล (CL), นักแสดงสาวน้อยโจอีย์ คิง (Joey King), ลิซโซ่ (Lizzo) นักร้องสาวพลัสไซส์ดาวรุ่ง และ คารอล จี (Karol G) นักร้องสุดแซ่บจากโคลอมเบีย ในแคมเปญ Pretty Different ภายใต้คำนิยามว่าความงามไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแบบเดียวตามที่สังคมกำหนด เอซราเป็นคนเดียวที่มีภาพลักษณ์ภายนอกเป็นเพศชาย เพราะทางแบรนด์เห็นว่าตัวตนของเขาเหมาะกับคำว่า “Different” ซึ่งไม่ได้หมายความว่า “แปลก” หรือทำตัวสวนกระแสสังคมเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการยอมรับในตัวเองอีกด้วย แม้ว่าเขาจะยอมรับในความเป็นตัวเอง แต่เขาไม่ขอยอมรับในฐานะrole model หรือแบบอย่าง ให้กับใคร “การเป็น role model มันแอบแฝงถึงการเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับ มันหมายความว่าเป็นใครสักคนที่เป็นแบบอย่างในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แล้วสิ่งนั้นคือสิ่งที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคม ซึ่งมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่ผมสนใจ” อย่างไรก็ตาม เอซราไม่ปฏิเสธกระแสที่เขาได้รับความสนใจนี้ เพราะเขาเชื่อว่ามันเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่จะทำให้มุมมองของความสวยงามนั้นมีการพัฒนาขึ้น    [caption id="attachment_11642" align="alignnone" width="1024"] Ezra Miller ในงาน The 2019 Met Gala Celebrating Camp[/caption]   จากเด็กฟาร์ม สู่สายแฟ (ชั่น)   ภาพการแต่งตัวบนพรมแดงแบบหลุดโลก ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางของ เอซรา มิลเลอร์ และการเกิดและโตในนิวเจอร์ซีย์ อาจทำให้หลายคนคิดว่าเขาคงเป็นคนเมืองที่ใกล้ชิดกับวัฒนธรรมป็อปและแฟชั่นอันจัดจ้าน แต่แท้จริงแล้วเอซราบอกว่าเขาใช้ชีวิตแบบบ้านนอก ทุกวันนี้เขาอาศัยอยู่ที่ฟาร์ม 100 เอเคอร์ในเวอร์มอนต์ อยู่กับบรรดา ไก่ เป็ด ไก่งวง และแพะ ที่เขาปล่อยให้วิ่งเล่นเป็นอิสระ รวมถึงปลูกบลูเบอร์รี่ เห็ด ผักและพืชสมุนไพรตามแต่ใจจะต้องการ เพราะรู้สึกว่าปลูกกินเองถูกกว่าไปซื้อจากตลาด “เป็ดของผมมีชีวิตอยู่ดี มีสามตัวมั้งที่สู้ชีวิตไม่ไหวแล้วตายจากไป แต่ผมก็สวดมนต์ให้พวกมันนะ เรามีไข่ไก่กินเองวันละ 25 ฟอง นมที่ได้จากแพะก็เอามาพาสเจอไรซ์แล้วดื่มหรือทำชีสกิน” เอซราบอกว่าตั้งแต่เกิดมาก็รู้สึกได้ว่าตัวเองมีบางอย่างไม่เหมือนเด็กคนอื่น เขามีปัญหาเรื่องการพูดติดขัดตั้งแต่ยังเล็ก แม้ว่าจะไปเข้ารับการบำบัดแต่กลับทำให้เขาติดอ่างมากกว่าเดิม โชคดีที่พ่อแม่ส่งไปเรียนหัดร้องเพลงโอเปร่าตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ซึ่งเป็นผลดีกับการพูดของเขาไปด้วย เพราะการได้ฝึกควบคุมลมหายใจทำให้เขาหายติดอ่างภายในเวลา 1 ปี ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่ไม่เหมือนใครของเอซราแสดงออกผ่านการชอบเล่นแต่งหน้า แต่งตัว ทำเล็บ ร่วมกับพี่สาวทั้งสองคน แม้เขาจะเป็นน้องชายคนเล็กของพี่ ๆ แต่ความแตกต่างทางเพศนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เอซราให้สัมภาษณ์ถึงพี่สาวบ่อยครั้งว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขารับตัวเองแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้ “ผมมีประสบการณ์โดนมองว่าเป็นตัวประหลาดมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยครับ คนชอบคิดว่าบ้านผมมีลูกสาวสามคน แต่พี่ ๆ เป็นเหมือนแบบอย่างที่ดีเรื่องบทบาททางเพศให้กับผม พี่สอนให้ผมรักษาจุดยืนของตัวเองไว้ และยอมรับในสิ่งที่ตัวผมเป็น ผมคิดว่าเราเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่กันและกันได้เพราะความสนิทสนมเหนียวแน่นในครอบครัวของเรา ผมมีคนที่รักผมที่บอกให้ผมรู้ตั้งแต่เด็กว่า มันไม่เป็นอะไรนะ ถ้าเราจะแปลก แตกต่าง เบี่ยงเบนจากคนอื่น” แม้ว่าจะไม่มีแบรนด์เครื่องสำอางที่ชอบเป็นพิเศษ แต่เวลาแต่งหน้าเอซรามักชอบแต่งอะไรที่แวววาวและวิบวับ เขาเผยทัศนคติต่อการแต่งเติมเสริมแต่งใบหน้าว่า “เครื่องสำอางมีศักยภาพอันน่าเหลือเชื่อในการนำเสนอสิ่งที่นอกเหนือไปกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ รูปแบบการแต่งหน้าที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เรารู้จัก ไม่ได้ใช้เพื่อการตกแต่งหรือความสวยงามเท่านั้น แต่ยังนำเสนอตัวตนที่แท้จริงของบุคคลนั้นอีกด้วย”   วีรกรรมของคนไม่ปกติ   เพราะมีครอบครัวที่เปิดกว้าง ทำให้ เอซรา มิลเลอร์ กล้าแสดงออกในสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้อง เขาสร้างวีรกรรม ตั้งแต่อายุ 10 ปี เพราะไปพ่นสีบนกำแพงร้าน Gap ร้านเสื้อผ้าชื่อดังว่า "stop sweatshop labor" เรียกร้องให้หยุดการใช้แรงงานที่ไม่เป็นธรรม แม้ว่าภายหลังจะถูกจับได้ตอนไปพ่นสีครั้งที่สอง เพราะวิ่งหนีมาได้แล้วแต่มัวเอาเหรียญไปวางเล่นบนรางรถไฟกับเพื่อน ๆ จนคนที่ตามมาจับตัวทัน   ชมเอซรา เล่าวีรกรรมวัยเด็กได้ที่นี่ 

The cast of #FantasticBeasts: The Crimes of Grindelwald confess their IRL crimes to @JoshuaHorowitz. pic.twitter.com/2trSDJG6YL

— MTV (@MTV) November 16, 2018

  แต่การเป็นตัวของตัวเองมากไปก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้ทุกคนยอมรับ เอซราเล่าว่าเพราะเขาเป็นอย่างนี้เนี่ยแหละถึงตกเป็นเป้าของการกลั่นแกล้ง และเคยถูกทำร้ายจากกลุ่มคนผู้เกลียดกลัวชาวรักร่วมเพศสมัยที่เขายังเรียนชั้นมัธยม “ตอนผมเรียนมัธยมต้น ผมเคยเป็นสมาชิกวงชื่อว่า Attack! Attack! ตอนนั้นผมใส่เสื้อกำมะหยี่สีเขียว ซึ่งมันก็ไม่ใช่เสื้อผ้าที่ถูกใจชาวร็อคแบบเมทัล/ฮาร์ดคอร์เท่าไหร่หรอกนะ ตอนนั้นผมลงไปเต้นแรด ๆ ยั่ว ๆ อยู่ใน Mosh Pit พอสนุกได้ที่แล้วกำลังจะออกไป ก็ได้ยินเสียงตะโกนว่า ‘อีตุ๊ด’ ที่ข้างหู พอผมหันไปเท่านั้นล่ะครับ ก็เจอกำปั้นของใครสักคนตรงเข้าเบ้าตาซ้ายผมเลย ...จนตอนนี้ผมยังมีแผลเป็นที่คิ้วจากเหตุการณ์นั้นอยู่เลยครับ”  หลังจากนั้นไม่นาน พออายุ 16 ปี เอซราก็ลาออกจากโรงเรียนเพราะคิดว่าตัวเองควรมาเอาดีด้านงานการแสดงมากกว่า ตอนนั้นเขากำลังมีผลงานหนังเรื่อง Afterschool เมื่อปี 2008 มีงานซีรีส์ Californication และมาดังเปรี้ยงจากการรับบทเด็กมีปัญหาในWe Need to Talk About Kevin (2011) ต่อด้วยหนังขวัญใจวัยรุ่นอย่างThe Perks of Being a Wallflower (2012) ซึ่งระหว่างถ่ายทำเรื่องนี้ เขาโดนตำรวจจับข้อหามีกัญชาไว้ในครอบครอง 20 กรัม จนโดนปรับ 600 ดอลลาร์ ทุกวันนี้เอซราก็ยังสูบกัญชาอยู่ แต่สูบในพื้นที่ไม่ผิดกฎหมาย และออกตัวสนับสนุนให้สามารถใช้กัญชาเสรี เอซรายังเป็นนักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางสังคมตัวยง เขาเคยเข้าร่วมการประท้วงกับ ชนเผ่าซูแห่งสแตนดิง ร็อก (Standing Rock Sioux) ต่อต้านการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันที่รัฐนอร์ธ ดาโคตา และล่าสุดยังมาช่วย เจสัน โมโมอา เพื่อนนักแสดงจาก Justice League ประท้วงการก่อสร้างหอดูดาวขนาดใหญ่ที่ยอดเขาเมานาเคอา ซึ่งรุกล้ำพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนพื้นเมืองฮาวายอีกด้วย ไปจนถึงสนับสนุนเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ เอซรามีความคิดอยากให้มีการล้มล้างระบบปิตาธิปไตย (การปกครองแบบชายเป็นใหญ่) เพราะคิดว่ามันคือจุดเริ่มต้นของปัญหาทุกอย่างบนโลกนี้   ชมคลิป เอซรา ให้ กัล กาโดต (Gal Gadot) พูดสนับสนุนการล้มล้างระบบปิตาธิปไตยในคลิปนาทีที่ 02.06 Wonder Woman and The Flash Interview Each Other   อายุ 26 ปีของเอซรา อาจดูไม่มากไม่น้อย แต่ผู้ชายคนนี้ผ่านเรื่องราวมากมายในชีวิต เขาเคยเล่าไว้ว่าหนังสือ Harry Potter ช่วยให้เขาสามารถจัดการกับความเศร้าที่เกิดจากประสบการณ์ที่เจ็บปวดต่าง ๆ อย่างเรื่องการโดนกลั่นแกล้ง เพราะมีรสนิยมทางเพศที่ผิดแผกจากผู้อื่น ไปจนถึงเคยเจอประสบการณ์ #MeToo เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศจากโปรดิวเซอร์ในวงการที่พยายามมอมเหล้าเขาและชวนไปเล่นหนังเกย์ เอซรานำสิ่งที่เผชิญมาเปลี่ยนเป็นแรงผลักดัน และต่อสู้เพื่อไม่ให้คนอื่นต้องมาเจอเรื่องแบบเขาอีกต่อไป   เอซรา บอลลูนที่ล่องลอยบนฟ้าสดใส   ถ้าให้เปรียบตัวเองเป็นอะไร เอซราขอเปรียบตัวเองเป็นเหมือนกับบอลลูนที่ล่องลอยบนท้องฟ้าอย่างอิสระและเต็มไปด้วยความท้าทาย“ผมมักคิดเสมอว่าผมเป็นบอลลูนที่เติมลมร้อนเอาไว้เต็ม แต่ถูกตรึงเอาไว้กับพื้นจนเหี่ยวฟีบ แต่ว่าชีวิตของผมในตอนนี้และในอนาคตกำลังจะปลดปล่อยเชือกที่พันธนาการเอาไว้ และผมก็หวังว่าทุกคนจะร่วมเดินทางไปกับผม เพราะกำลังจะมีผลงานที่น่าสนใจออกมามากมาย” ผลงานที่ว่านั้นคือภาคต่อของแฟรนไชส์ Fantastic Beasts และหนังเดี่ยวของซูเปอร์ฮีโร The Flash ที่เอซรายังคอนเฟิร์มว่ายังรับบทนี้อยู่ แม้ว่าจะมีข่าวการเปลี่ยนแปลงของโปรเจกต์ที่ทำให้ไม่คืบหน้าหลายอย่าง อีกทั้งผลงานเพลงที่ยังทำกับวง Sons of an Illustrious Father วงดนตรีแนว Alternative/Indie ของเขา และกำลังจะมีผลงานเพลงเดี่ยวของตัวเองด้วย ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่ามีแฟน ๆ รอคอยที่จะเห็นบอลลูนลูกนี้ ผู้เป็นอิสระเหนือคำนิยามใด ๆ ลอยเด่นบนท้องฟ้าในบทบาทต่าง ๆ ที่เขาเตรียมนำเสนออย่างแน่นอน   เรื่องโดย: ผู้ชายคนนั้นจากหนังเรื่องนี้   อ้างอิง สัมภาษณ์จาก Urban Decay Cosmetics https://www.youtube.com/watch?v=uZLq9PMTZ1I สัมภาษณ์จาก W Korea https://www.youtube.com/watch?v=jU09GJYsGUE&feature=youtu.be https://www.allure.com/story/ezra-miller-makeup-urban-decay-interview