20 พ.ค. 2564 | 19:14 น.

เฟรดดี โฮเวลส์: เพราะป้าวัย 90 สมองเสื่อม เด็กชายวัย 14 จึงคิดค้นระบบแจ้งเตือนเมื่อมีคนล้ม

“ป้า ‘แพท’ ของผมอายุ 90 ปี เธอเป็นผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมที่อาศัยอยู่คนเดียว” นั่นคือสาเหตุที่เด็กชายผิวขาว ผมหยักศก ลงมือเปลี่ยนความรู้และความห่วงใยให้กลายเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่จะช่วยแจ้งเตือนเมื่อมีคนล้มภายในบ้าน เด็กชายวัย 14 ปี จากเซาท์เวลส์คนนี้มีชื่อว่า ‘เฟรดดี โฮเวลส์’ (Freddie Howells) นอกเหนือจากงานอดิเรกในการเล่นไวโอลิน และเล่นกับน้องสาวอย่าง ‘เคที่’ แล้ว เขายังใช้เวลาว่างไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือคนในสังคม เฟรดดีเป็นเจ้าของรางวัลวิศวกรรุ่นจิ๋วที่สร้างสรรค์เทคโนโลยีขึ้นมา 2 ชุด โดยเขามีเป้าหมายในการปกป้องป้าของตัวเองจากการล้มที่อาจพรากชีวิตของเธอไป เพราะป้าของผมเป็นโรคสมองเสื่อม เนื่องจากระบบแจ้งเตือนในบ้านของป้าแพทเป็นระบบที่ทำงานเมื่อมีคนกดปุ่ม แต่ป้าของเฟรดดีเป็นผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม เมื่อเธอล้ม เธอจึงจำไม่ได้ว่าตนเองจะต้องกดปุ่มเพื่อขอความช่วยเหลือ และนั่นทำให้ผู้ดูแลมาพบเธอบนพื้นหลังจากเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง “เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ผมจึงสร้างระบบที่จะตรวจจับได้เมื่อมีคนล้ม เพราะฉะนั้นป้าของผมจึงไม่ต้องกดปุ่มอีกต่อไป” ‘Fall Alert’ และ ‘Fallbot’ คือชื่อสิ่งประดิษฐ์ของเขา โดย Fall Alert เป็นเซนเซอร์ที่สามารถสวมใส่ได้ เมื่อคนที่ใส่ล้มลง ระบบจะแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์มือถือของครอบครัวหรือผู้ดูแล หลังจากนั้นหุ่นยนต์ตรวจจับอีกตัวจะเริ่มวิ่งไปตามพื้นเพื่อค้นหาร่าง ซึ่งเฟรดดีออกแบบให้หุ่นยนต์ตัวนี้สามารถตรวจจับและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ นอกจากนี้ คนในครอบครัวยังสามารถควบคุม Fallbot ได้จากระยะไกล โดยพวกเขาจะเห็นภาพจากวิดีโอที่ติดอยู่กับหุ่นยนต์ “เพราะตอนนั้นผมเห็นป้าแพทนอนอยู่ที่หลังโซฟา” หลังจากนั้นเฟรดดีก็ให้คนในครอบครัวมาช่วยเขาทดลองสิ่งประดิษฐ์ของเขา โดยเฟรดดีบอกว่าจุดที่ยากที่สุดในการพัฒนา Fall Alert คือการทำให้อัลกอริทึมในการตรวจจับการล้มทำงานอย่างถูกต้อง เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่อาจเข้ามามีผลทำให้การตรวจจับผิดพลาด “ผมค่อย ๆ ปรับระบบทีละนิด แต่ต้องให้แม่ของผมทดลองล้มอยู่เรื่อย ๆ เพื่อหาให้ได้ว่าต้องแก้ไขระบบอัลกอริทึมตรงไหน อย่างไรบ้าง ซึ่งแม่ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่ผมซ่อมมันแล้ว เพราะเธอจะได้ไม่ต้องล้มลงกับพื้นอีก” ในปี 2020 ที่ผ่านมา เฟรดดีได้นำ Fall Alert เข้าร่วมการแข่งขันในงาน ‘The Big Bang Competition’ เป็นครั้งที่ 2 และชนะรางวัลวิศวกรรุ่นจิ๋วอีกครั้ง ส่วนสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รางวัลชิ้นแรกก็ได้แรงบันดาลใจมาจากความห่วงใยที่มีให้ป้าของเขาเช่นกัน โดยมันเรียกว่า ‘Door Pi’ เจ้าของรางวัลวิศวกรรุ่นจิ๋ว 2 ปีซ้อน ประตูจำลองบานสีแดงค่อย ๆ เปิดขึ้น หลังจากที่เฟรดดียื่นใบหน้าเข้าไปใกล้กับเซนเซอร์ ‘โปรดมองตรงมาที่กล้อง… ยินดีต้อนรับเฟรดดี ฉันกำลังเปิดประตู ตอนนี้ประตูเปิดแล้ว โปรดเข้ามาด้านใน และอย่าลืมปิดประตูให้สนิทด้วย’ เสียงจากลำโพงที่ประตูดังขึ้น สิ่งประดิษฐ์อีกชิ้นของเฟรดดีคือ เครื่องตรวจจับใบหน้าที่ประตูสำหรับผู้สูงอายุ เพราะเขาสังเกตว่ามักจะมีคนแปลกหน้ามาที่ประตูบ้าน และขอให้ป้าซื้อสินค้าของพวกเขา ทั้งที่จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้ต้องการมัน เฟรดดีจึงพัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าขึ้น เพื่อให้เฉพาะใบหน้าที่กล้องจดจำเท่านั้นที่จะสามารถผ่านเข้าบ้านมาได้ ‘Door Pi’ คือสิ่งประดิษฐ์ที่มีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และจะถ่ายภาพใบหน้าของคนคนนั้นเอาไว้ หากเป็นใบหน้าที่ถูกจดจำอยู่ในระบบ เครื่องจะให้นำ ID Tag ที่ทำหน้าที่เหมือนบัตรผ่านประตูไปแตะที่เซนเซอร์ เรียกว่าเป็นระบบรักษาความปลอดภัย 2 ชั้นที่เฟรดดีคิดขึ้น โดยเขาได้นำ Door Pi เข้าแข่งขันในงาน ‘The Big Bang Competition’ จนชนะรางวัลวิศวกรรุ่นจิ๋วประจำปี 2018 เนื่องจากสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคสมองเสื่อมเช่นเดียวกับป้าของเฟรดดี ซึ่งมีจำนวนมากถึง 850,000 คนทั่วสหราชอาณาจักร และ 1 ใน 6 ของคนจำนวนนี้มีอายุเกิน 80 ปี ส่วน 1 ใน 3 ของพวกเขาอาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวในบ้านที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายและอุบัติเหตุ สำหรับความสามารถในด้านเทคโนโลยีของเด็กอายุ 14 ปีคนนี้ คงต้องย้อนกลับไปในสมัยที่เขายังเรียนชั้นประถมศึกษา เพราะที่นั่นทำให้เขารู้ตัวว่า ตัวเองหลงรักการเขียนโปรแกรมมากขนาดไหน จากความชอบสู่ความสำเร็จที่ค่อย ๆ เติบโต เฟรดดีหยิบแผงวงจรไฟฟ้าขึ้นมาประกอบ สายไฟสีเขียว แดง ขาว เหลือง พันกันจนดูไม่ออกว่าสายไหนต่อเข้ากับอะไร แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเฟรดดี เขาหยิบไขควงขึ้นมาใช้อย่างคล่องแคล่ว เพื่อทำให้พัดลมตัวน้อยที่ต่อกับแผงวงจรทำงาน “ผมเข้าร่วมชมรมเขียนโปรแกรมตั้งแต่สมัยประถมฯ แล้วผมก็เรียนเขียนโปรแกรมจากที่นั่น จนรู้ตัวว่าชอบมันเอามาก ๆ” หลังจากชนะการแข่งขันวิศวกรรุ่นจิ๋ว เฟรดดีก็อยากจะรู้ว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาจะเป็นอย่างไรในตลาดการซื้อขาย ซึ่งเขาก็ได้สนทนากับ ‘รูธ เอมอส’ (Ruth Amos) ผู้ประกอบการ และนักประดิษฐ์ที่เคยชนะการแข่งขัน The Big Bang Competition ด้วยสิ่งประดิษฐ์ที่ชื่อว่า ‘StairSteady’ ที่จะช่วยให้คนชราเดินขึ้น-ลงบันไดได้อย่างสะดวก เพราะมีไม้ที่เคลื่อนที่ไปตามราวบันไดคอยทำหน้าที่เป็นที่กั้นกันตก และเครื่องพยุงไปในตัว ซึ่งเธอก็ได้แนะนำให้เขาไปพบกับนักประดิษฐ์คนอื่น ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น และนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเอง โดยในปัจจุบัน เฟรดดีได้นำโปรเจกต์ทั้งสองของเขาเข้าสู่เว็บไซต์ ‘Crowdfunder’ สถานที่ระดมทุนออนไลน์ เพราะเขาหวังว่าสิ่งประดิษฐ์ของตัวเองจะสามารถนำไปผลิตได้จริงในอนาคต เพื่อประโยชน์ของคนชรา และผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมทั่วโลก สำหรับความสำเร็จในฐานะนักประดิษฐ์ของเฟรดดี โฮเวลส์ นอกจากรางวัล The Big Bang Competition แล้ว เขายังชนะรางวัล ‘Siemens Digital Skills Award’ จากบริษัทวิศกรรมของสหราชอาณาจักร และรางวัล ‘Hardware Category at Coolest Projects UK’ งานแสดงสิ่งประดิษฐ์สำหรับนักประดิษฐ์รุ่นเล็ก รวมไปถึงได้รับเลือกให้เข้ารอบสุดท้ายของ ‘BT Young Pioneer of the Year’ รางวัลสิ่งประดิษฐ์จากความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ หลังจากนั้นเฟรดดีก็ยังคงพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ของเขาต่อไป อย่างการนำระบบ GPS เข้ามาใช้เพื่อติดตามคนในกรณีที่ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมหนีออกจากบ้าน ต้องขอบคุณเฟรดดี เด็กน้อยอายุ 14 ปี สำหรับสิ่งประดิษฐ์ที่เกิดจากความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือคนชราและผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้ช่วยแค่พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมเท่านั้น แต่ยังทำให้สมาชิกในครอบครัวที่อยู่ห่างไกล บรรเทาความกังวลที่มีต่อกันและกันลงไปอีกด้วย เรื่อง: วโรดม เตชศรีสุธี ที่มา: https://www.crowdfunder.co.uk/fallalert https://www.bbc.com/news/av/stories-52962878 https://www.southwalesargus.co.uk/news/18436134.caerleon-pupil-freddie-howells-wins-big-bang-competition-prize/ https://www.tech4goodawards.com/finalist/freddie-howells-door-pi-plus/ https://patient-innovation.com/post/3813 ที่มาภาพ: https://www.bbc.com/news/av/stories-52962878