เฟรดดี้ เมอร์คิวรี สุดเกลียด ‘ฟันหน้า’ ตัวเองแต่หารู้ไม่เพราะ ‘ฟัน’ นี่แหละถึงกลายเป็นตำนาน

เฟรดดี้ เมอร์คิวรี สุดเกลียด ‘ฟันหน้า’ ตัวเองแต่หารู้ไม่เพราะ ‘ฟัน’ นี่แหละถึงกลายเป็นตำนาน

เกลียด ‘ฟันหน้า’ ตัวเองแต่หารู้ไม่เพราะ ‘ฟัน’ นี่แหละถึงกลายเป็นตำนาน

หลังจากที่ Smile วงแตก ไบรอัน เมย์ และ โรเจอร์ เทเลอร์ ก็กำลังมองหานักร้องคนใหม่มาทำเพลงด้วยกัน พวกเขาได้พบกับ เฟรดดี้ เมอร์คิวรี เด็กหนุ่มจากแซนซิบาร์ ที่ก็วงแตกมาเหมือนกัน ทั้งสามพูดคุยกันถูกคอ ก่อนที่เมอร์คิวรีจะถามเมย์ อย่างตรง ๆ ว่า เป็นไปได้ไหมที่เขาจะขอมาร่วมวงด้วย เมย์ และเทเลอร์ ก็ตอบกลับแบบตรง ๆ เช่นกันว่า “ได้ แต่ต้องไม่ใช่ฟันพวกนั้น” เมอร์คิวรี ไม่รอช้ารีบโชว์เสียงร้องของตัวเองและอธิบายให้ทั้งคู่ฟังว่า เพราะเจ้าฟันที่ดูประหลาดนี่แหละ ทำให้เขามีการร้องที่ไม่เหมือนใคร และนี่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานแห่งวง Queen “ฉันเกิดมาพร้อมกับฟันหน้าที่ยื่นและเกินมาสี่ซี่ นั่นทำให้ในปากมีพื้นที่มากขึ้น และมันก็มาพร้อมกับช่วงเสียงที่กว้างขึ้นด้วยเช่นกัน” เฟรดดี้ เมอร์คิวรี หรือในชื่อ ฟารุค บัลซารา เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน 1946 ในแซนซิบาร์ ประเทศแทนซาเนีย เมอร์คิวรี เกิดมาพร้อมกับฟันหน้าที่งอกขึ้นมาผิดปกติสี่ซี่ มันทั้งใหญ่และยื่นออกมามากกว่าคนทั่วไป จนกลายเป็นทั้งจุดเด่นและปมด้อยของเขา เมอร์คิวรี เกลียดฟันหน้าของเขาสุด ๆ นี่เป็นเรื่องที่คนรอบตัวของเขารู้ดี ในตอนเด็กเขาถึงขั้นแทบไม่อยากไปโรงเรียน เพราะกลัวจะโดนเพื่อนล้อฟันหน้าของเขา แม้กระทั่งตอนมีชื่อเสียงแล้ว เมอร์คิวรี ก็ยังรู้สึกอายเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ปีเตอร์ ฟรีสโตน เพื่อนสนิท และผู้ช่วยของเมอร์คิวรี เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ถ้าต้องอยู่หน้ากล้อง เขามักจะยกมือมาบังฟันของตัวเองตลอด หรือไม่ก็เอาริมฝีปากปิดฟันเหล่านั้นไว้ เขาไม่เคยมั่นใจในตัวเองเพราะมีฟันหน้าแบบนั้น ตอนเขาเด็ก ๆ เวลากลับไปบ้าน เขาก็ไม่เคยได้รับการดูแลที่ดี” ไม่ใช่แค่อาย แต่ผมต้องทนทุกข์ ! เมอร์คิวรี ต้องทนทุกข์กับสิ่งนี้นานหลายปี มันไม่ใช่แค่เรื่องที่น่าอาย แต่ฟันที่ขึ้นบิดเบี้ยวด้านในบางครั้งมันก็สร้างความเจ็บปวดไปทั่วปาก แถมนี่ยังไม่รวมเวลากินข้าวที่ทำได้ยากกว่าคนปกติ หลายคนตั้งคำถามกับเมอร์คิวรีว่า ถ้าทนทุกข์ขนาดนั้นทำไมไม่ไปเอามันออก เพราะก่อนเสียชีวิต เมอร์คิวรี ก็ทำเงินจากการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกได้มหาศาล เขามีเงินเหลือเฟือที่จะใช้นำมาลบปมด้อยเหล่านี้ แต่เหตุใดเขาถึงเลือกเก็บสิ่งนี้ไว้ เมอร์คิวรี ค่อย ๆ เรียนรู้ผลที่ตามมาของความผิดปกติ เขาเรียนรู้ว่าจากฟันที่เพิ่มขึ้นมามันสร้างให้เขามีเสียงร้องที่พิเศษกว่าใคร ๆ มันทำให้ปากของเขาใหญ่และมีพื้นที่มากขึ้น และที่สำคัญเขาเชื่อว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้ ช่วงเสียง (range) การร้องของเขากว้างขึ้นไปสูงกว่า 4 อ็อกเทฟ (octave) นึกภาพตามง่าย ๆ ว่า เสียงร้องของเมอร์คิวรีครอบคลุมโน้ตได้เกือบทั่วทั้งเปียโน เมอร์คิวรี ไม่รู้สึกอายอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกมั่นใจขึ้นเพราะเสียงร้องอันทรงเสน่ห์ที่มาจากฟันยื่น ๆ ของเขากลบความอายในอดีตไปหมด แต่ก็มีหลายคนแนะนำให้เมอร์คิวรีไปเอามันออกเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น เมอร์คิวรีกล้า ๆ กลัว ๆ กับเรื่องนี้ เขาคิดเสมอว่าถ้าไปผ่าเอาฟันเหล่านี้ออกอาจทำให้เสียงร้องของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เสียงร้องและความผิดปกติของเมอร์คิวรี ถูกนักวิทยาศาสตร์นำไปวิเคราะห์หลายครั้ง แต่ก็มีเสียงแตกออกเป็นสองฝั่ง บ้างก็ว่าฟันไม่เกี่ยว อีกฝ่ายก็ยืนยันว่าเพราะเจ้าฟันที่ยื่นมานี่แหละ “แค่คุณดัดฟันเสียงของคุณก็เปลี่ยนแแล้ว รูปแบบของฟันที่ผิดเพี้ยนแบบนั้น เอื้อต่อเสียงออกมาจากปากเขา” คริสเตียน เฮิร์บ นักวิทยาศาสตร์เรื่องเสียงร้อง แห่งมหาวิทยาลัยเวียนนา กล่าว เมอร์คิวรี เคยได้รับข้อเสนอให้ไปร้องโอเปร่า ในฐานะนักร้องเสียงบาริโทน คู่กับนักร้องโอเปร่าระดับตำนานอย่าง มอนต์เซอร์รัต คาบาลเย แต่เขาปฏิเสธโดยให้เหตุผลง่าย ๆ ว่า “กลัวคนจะไม่จำเสียงร้องของเขา” ด้าน รามี มาเลค นักแสดงหนุ่มผู้รับบทเป็น เมอร์คิวรี ในหนัง ‘Bohemian Rhapsody’ ได้ออกมาเปิดเผยว่าเขาได้เก็บฟันปลอมสีทองที่ใช้ประกอบภาพยนตร์ กลับบ้านเอาไว้เป็นของที่ระลึกด้วย “ผมได้ฟันปลอมสีทอง มันเป็นไรที่ดูโอ้อวดดีสำหรับผม ผมว่ามันเป็นจิตวิญญาณของเฟรดดี้ และยิ่งมันเป็นสีทองด้วยมันยิ่งเจ๋งสุดๆ” Queen กลายเป็นวงร็อกระดับตำนานได้ ส่วนหนึ่งมาจากเอกลักษณ์ด้านเสียงร้องอันทรงเสน่ห์ของ เมอร์คิวรี เขาจากไปด้วยวัยเพียง 45 ปีเท่านั้น ภายใต้ชื่อวง Queen เขาฝากเพลงฮิตมากมายไม่ว่าจะเป็น Bohemian Rhapsody, We Will Rock You หรือ We Are The Champions และจากฟันที่เขาเกลียดในวัยเด็กกลายมาเป็นอวัยวะที่เขาหวงที่สุดในร่างกาย แม้จะแบบไม่เต็มใจนักก็ตาม “ผมไม่เคยชอบฟันหน้าของตัวเองที่มันยื่นออกมาแบบนี้ ผมจะไปจัดการมันทีหลัง(ฟัน) แต่ผมไม่มีเวลา ถ้านอกจากนั้นแล้ว ผมว่าผมก็เพอร์เฟกต์ระดับหนึ่งแล้ว” เมอร์คิวรีในตอนนี้ไม่สนภาพลักษณ์ของตัวเองอีกต่อไปแล้ว เขาห่วงแค่เสียงร้องและฟันของตัวเองเท่านั้น