เกนคิ คาวามุระ โปรดิวเซอร์หนังระดับเทพจากญี่ปุ่น Confessions และ Your Name
เกนคิ คาวามุระ โปรดิวเซอร์หนังระดับเทพจากญี่ปุ่น Confessions และ Your Name
ถ้าพูดชื่อ เกนคิ คาวามุระ หลายคนคงทำหน้างงๆ แล้วสงสัยว่าเขาคือใคร?แต่หากพูดถึงผลงานภาพยนตร์ที่เขาเป็นผู้อำนวยการสร้างแล้วล่ะก็ ทุกคนต้องร้องอ๋อ ตบเข่าฉาด แล้วพูดว่า “เคยดูแล้ว!” ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Confessions (2010), Attack on Titan เวอร์ชันคนแสดงทั้งสองภาค หรือเหล่าแอนิเมชันชื่อดังอย่าง Wolf Children (2012), The Boy and the Beast (2015), Your Name (2016) หรือล่าสุด Mirai no Mirai (2018)หากไล่ดูผลงานข้างต้น คงไม่ผิดมากนักถ้าจะบอกว่า เกนคิ คาวามุระ คือโปรดิวเซอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เพราะไม่เพียงภาพยนตร์จะประสบความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่นหรือวงการฮอลลีวูดอย่างเดียว ภาพยนตร์ของเขายังโด่งดังข้ามมายังประเทศไทยอีกด้วยนี่ยังไม่นับ If Cats Disappeared From the World ผลงานการเขียนนิยายของเขาที่เพิ่งดัดแปลงมาเป็นภาพยนตร์ไปหมาดๆ การันตีความสามารถรอบด้านของชายหนุ่มจากแดนอาทิตย์อุทัยคนนี้ตามประวัติ เกนคิ คาวามุระ เกิดปี 1979 จบการศึกษาจาก Sophia University ในกรุงโตเกียว สาขาสื่อมวลชน (Journalism) เขาเริ่มทำงานบริษัท Toho เจ้าพ่อแห่งบริษัทผลิตภาพยนตร์และละคร โดยเริ่มต้นด้วยการเป็นโปรดิวเซอร์หนัง เช่น Confessions ภาพยนตร์โรคจิตที่ทำให้ใครหลายคนเกลียดกลัวการกินนมไปสักพัก ซึ่งกลายเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ที่มียอดจำหน่ายตั๋วถล่มทลายกว่า 2,000 ล้านเยน กระทั่งได้รับเลือกจาก The Hollywood Reporter ให้เป็น Next Gen Asia และในปีต่อมาเขากลายเป็นบุคคลที่อายุน้อยสุดที่ได้รับรางวัล Fujimoto Prize สำหรับผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ในญี่ปุ่นในปี 2012 เขาเริ่มต้นเขียนนวนิยายเรื่องแรก If Cats Were to Disappear from the Earth (ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้) ซึ่งมียอดขายกว่า 7 แสนเล่ม และมีผลงานสร้างชื่อเสียงอีกหลายเรื่อง อาทิ Million Dollar Man, April She Will“ผมเขียนหนังสือและมีโปรเจกต์ดนตรีต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นงานส่วนตัว อย่างนิยายของผม If Cats Disappeared From the World ตีพิมพ์กว่า 1.3 ล้านเล่มทั่วโลก ตอนนี้แปลขายหลายภาษาทั่วทั้งเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น ไทย, เกาหลีใต้, จีน, ไต้หวัน, เวียดนาม และ สิงคโปร์ ซึ่งเร็วๆ นี้กำลังจะแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส, เยอรมนี และ อิตาลี”อย่างไรก็ดี เขาไม่คิดว่านิยายเรื่องนี้จะกลายเป็นภาพยนตร์ในวันหนึ่ง“ผมไม่เคยคิดจริงๆ ครับ ทำไมรู้ไหม ลองจินตนาการว่า ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้ จะกลายมาเป็นภาพยนตร์ดูสิ – เมืองทั้งเมืองและโลกหายไป – คุณจะถ่ายทำอย่างไร? ตอนที่ผมเขียนนิยาย ผมต้องการสร้างเรื่องราวที่แปลงออกมาเป็นภาพยนตร์ได้ยาก”ถึงแม้ผลงานของ คาวามุระ จะประสบความสำเร็จในฮอลลีวูดเป็นอย่างมาก กระนั้นเขาเคยกล่าวว่าไม่อยากไปทำงานในวงการฮอลลีวูด โดยให้เหตุผลว่าตัวเองทำงานของตัวเองเพื่อบ้านเกิด“ปกติแล้วโปรดิวเซอร์ฮอลลีวูดมักทำงานอิสระและติดต่อเข้ามายังสตูดิโอเพื่อทำโปรเจกต์หนึ่งๆ แต่ในประเทศญี่ปุ่น โปรดิวเซอร์เกือบจะเป็นลูกจ้างของสตูดิโอเต็มตัว ผู้กำกับญี่ปุ่นมักทำงานอิสระมากกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงมีความเสี่ยงและทำงานกันอย่างเร่งรีบ การทำโปรเจกต์เดี่ยวในญี่ปุ่นจึงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับโปรดิวเซอร์ที่เป็นลูกจ้าง”อีกหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือ ในญี่ปุ่น ‘ผู้กำกับ’ และ ‘โปรดิวเซอร์’ เป็นบทบาทที่แยกออกจากกันชัดเจน แต่ในอเมริกันเราจะเห็นคนอย่าง เจ.เจ. แอบรัมส์ เป็นทั้งผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และคนเขียนบท ซึ่งหากเรื่องนี้เกิดที่ประเทศญี่ปุ่นมันจะเป็นเรื่องผิดแปลกทันทีจะว่าไปถ้าเราพิจารณาผลงานนิยายของเขา ล้วนแล้วแฝงไปด้วยแง่มุม “ความสิ้นหวังจากธรรมชาติของมนุษย์” เห็นได้ชัดจากธีมนิยาย If Cats Disappeared From the World ที่เกี่ยวข้องกับคนที่เผชิญหน้ากับความตายแล้วเริ่มต้นใช้ชีวิตหนังสือเล่มที่สอง Million Dollar Man เกี่ยวกับผู้คนที่ทำงานเอาเป็นเอาตายเพื่อความร่ำรวย แต่ทันทีที่พวกเขามีเงิน พวกเขาก็ไม่มีความสุข “เงินถูกสร้างโดยมนุษย์แต่สุดท้ายมันกลับยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์เสียอีก”ส่วนหนังสือเล่มที่สาม April She Will ซึ่งได้ชื่อนี้มาจากเพลงหนึ่งของ Simon & Garfunkel เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสามประเด็นเดียวกับภาพยนตร์ที่คามากุระอำนวยการสร้าง“เพราะไม่ว่ามนุษย์จะฉลาดมากเพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่สามารถรับมือกับสามสิ่งนี้ได้ – ความตาย ความรัก และเงินตรา – มนุษย์เคยตั้งคำถามสิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่สมัยโสกราตีสและเพลโต้ แต่ก็ไม่มีใครค้นพบทางออกที่แท้จริง”ท้ายที่สุดเขายังไม่คิดว่าตัวเองเป็นโปรดิวเซอร์มือทองสักเท่าไหร่ และยังรู้สึกประหลาดใจทุกครั้งที่ผลงานของตัวเองประสบความสำเร็จ แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ พรสวรรค์ของเขาส่งให้ชื่อ เกนคิ คาวามุระ กลายเป็นหนึ่งในนักเขียนและโปรดิวเซอร์รุ่นใหม่ที่น่าจับตามองไม่เพียงระดับประเทศ แต่คือระดับโลกที่มา
