โอนิซึกะ เอคิจิ: ความ “เดือด” ของ GTO คุณครูพันธุ์หายาก

โอนิซึกะ เอคิจิ: ความ “เดือด” ของ GTO คุณครูพันธุ์หายาก
เขาคือชายหนุ่มที่จบจากมหาวิทยาลัยปลายแถว ฝันอยากเป็นครูมัธยมแค่เพื่อใกล้ชิดนักเรียนสาวแรกรุ่น และทั้งที่ยังไม่ทันได้รับการบรรจุเป็นคุณครู (หรือแม้แต่ผ่านการสอบสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ) เขาก็ก่อวีรกรรมจนเป็นที่เลื่องลือด้วยการจับรองครูใหญ่ -ที่ถากถางอดีตนักเรียนว่าเป็นขยะสามานย์- ทุ่มด้วยท่าเยอรมัน ซูเพล็กซ์ ต่อหน้าต่อตาคณะกรรมการคนอื่น ๆ ในโรงเรียน อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นแค่ปฐมบทความเดือดดาลของ โอนิซึกะ เอคิจิ ชายโสด (และซิง) วัย 22 ปี ที่ได้รับการบรรจุเข้าเป็นคุณครูเด็กมัธยมฯ ต้นในโรงเรียนเอกชน และเป็นแค่ต้นธารของเรื่องระห่ำอีกมากมายที่เขาก่อขึ้นหลังจากนั้นอีกมหาศาล ทั้งการถล่มแก๊งยากูซ่า เยียวยาจิตใจเด็กบ้านแตก ตลอดจนกอบกู้จิตวิญญาณเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างที่อยู่นอกเหนือไปจากตำแหน่งคุณครูประจำชั้น ความเดือดนี้ อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ Great Teacher Onizuka หรือเรียกกันอย่างย่นย่อว่า GTO กลายเป็นมังงะจากปลายปากกาของ โทรุ ฟูจิซาวะ ที่ขายดีติดอันดับมาตั้งแต่แรกตีพิมพ์ลงเป็นตอน ๆ ในนิตยสารโชเน็นวีคลีย์เมื่อปี 1997 เพราะมันจับจ้องไปยังสิ่งที่เป็นเสมือนขั้วตรงข้ามของกันและกัน อย่างภาพลักษณ์ของการเป็น ‘คุณครู’ กับ ‘นักเลงเถื่อน’ ของโอนิซึกะ ท่ามกลางกฎระเบียบมากมายในโรงเรียน ใครบ้างจะไม่อยากเห็นคุณครูย้อมผมทอง เจาะหู กับแบกไม้เบสบอลเดินอาด ๆ เข้ามาสอนเด็กในห้องเรียนบ้าง เราอยากมีคุณครูที่เราวางใจได้และให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนมากกว่าเป็นผู้ปกครอง จึงไม่แปลกที่โอนิซึกะจะครองหัวใจเด็กปีสองห้องสี่ซึ่งได้ชื่อว่า 'เจ้าปัญหา' มากที่สุดในโรงเรียน โอนิซึกะไม่ได้เป็นตัวละครที่ปรากฏตัวใน GTO เป็นครั้งแรก อันที่จริง ก่อนหน้านี้เขาคือหนึ่งในตัวละครหลักของ Shonan Junai Gumi (ชื่อภาษาไทย: คู่คนลุยเลอะ โดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ พับลิชชิ่ง) ที่เล่าเรื่องของโอนิซึกะ และ ดันมะ ริวจิ คู่หูอันธพาลในเขตโชนันที่ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนผ่านกำปั้นและการต่อสู้ ตัวมังงะประสบความสำเร็จด้วยการตีพิมพ์ติดต่อกันหกปีจนถึงปี 1996 ก่อนที่ฟูจิซาวะจะพักเบรค ร่างเส้นเรื่องที่ว่าด้วยคุณครูสุดห่ามในโรงเรียนมัธยมฯ ปลายขึ้นมา "ผมว่ามังงะเรื่องนี้มันเหมาะสำหรับนักเรียนมัธยมกับคนที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่น่ะ" ฟูจิซาวะบอก "ผมเขียนตัวละครโอนิซึกะ (ใน GTO) ขึ้นมา เพราะอยากให้เขาเป็นขั้วตรงข้ามกับภาพลักษณ์คุณครูที่ดี ในญี่ปุ่น คนที่มีลุคแบบโอนิซึกะคือพวกพังค์หรือพวกที่เราเรียกว่าแยงกี้" โอนิซึกะ เอคิจิ: ความ “เดือด” ของ GTO คุณครูพันธุ์หายาก โอนิซึกะจึงเป็นอีกด้านของการเป็นคุณครูในอุดมคติ นั่นคือแทบจะดูเป็นนักเลงหัวไม้ที่เดินดุ่ม ๆ เข้ามาในโรงเรียนเอกชนสุดหรู กับการรับมือนักเรียนมีปัญหาที่ได้ชื่อว่าทำคุณครูลาออกไปแล้วหลายต่อหลายคน ทั้งเด็กชายอัจฉริยะเนิร์ดคอมพิวเตอร์, คนแหยประจำห้องที่โดนกลั่นแกล้งอยากโดดตึกเพื่อจบปัญหา, เด็กสาวที่เกิดจากการผสมเทียมและหาที่ทางของตัวเองบนโลกไม่เจอ ตลอดจนเด็กที่เคยเป็นที่รักของทุกคนในห้อง และถูกหักหลังอย่างรุนแรงเสียจนเธอตามจงเกลียดจงชังครูประจำชั้นทุกคนหลังจากนั้น เส้นเรื่องของ GTO จึงว่าด้วยการที่โอนิซึกะเข้าไปทำความรู้จักนักเรียนแต่ละคน รับรู้ปัญหาและช่วยแก้ไขปมในใจของพวกเขาด้วยวิธีแบบผิดหลักสูตรจิตวิทยาเด็ก (ถ้ามันจะมีในหัวของโอนิซึกะสักหน่อยน่ะนะ...) และช่วยไม่ได้เลยที่คนอ่านจะรู้สึกเอาใจช่วยครูเถื่อนกับลูกศิษย์แต่ละคนที่ค่อย ๆ กลายเป็นพวกเดียวกันกับเขาในเวลาต่อมา นำไปสู่การคลายปมสุดท้ายที่ยุ่งเหยิงหากแต่ก็สะเทือนใจในเล่มที่ 25 อันเป็นเล่มจบ พฤติกรรมแบบโอนิซึกะนั้นสุ่มเสี่ยงหลายต่อหลายอย่าง นอกจากข้อหาทำร้ายร่างกาย (ทั้งเด็กและผู้ใหญ่) ตลอดทั้งเรื่อง เขายังเป็นชายบรรลุนิติภาวะเพียงคนเดียวที่มีท่าทีคุกคามทางเพศต่อเด็กสาว (แอบมองกางเกงใน ต้นขา หรือแสดงความหื่นกระหายแบบไม่ปิดบัง) เสียจนหากว่านำมาใช้ในชีวิตจริงน่าจะโดนพิพากษาไล่ออกจากการเป็นครูตั้งแต่สัปดาห์แรก แต่อีกด้านหนึ่ง มันก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คนอ่าน 'ทด' พฤติกรรมเขาไว้ในใจในฐานะความแฟนตาซีของเรื่องแต่ง จนความห่ามดิบในแบบของเขานั้นมีที่ทางแค่เฉพาะในการ์ตูนเท่านั้น เพราะเมื่อมันขยับขยายมาถึงสื่อที่เป็นวงกว้างกว่าอย่างอนิเมะหรือซีรีส์ภาพยนตร์ พฤติกรรมเดือดดาลในแบบของโอนิซึกะก็ถูก 'ลดรูป' ให้เป็นแค่ชายห่าม ๆ พูดจาหยาบคายและเป็นมิตร ไม่ถือตัวกับเหล่านักเรียนเท่านั้น (ในฉบับมังงะนี่ถึงขั้นจับเด็กนักเรียนมัดกับมอเตอร์ไซค์แล้วพาขับซิ่งลงเหวมาแล้ว) ทั้งในซีรีส์เวอร์ชันปี 1998 ที่ได้พระเอกหล่อ ทาเคชิ โซริมาจิ มารับบทเป็นโอนิซึกะ และเวอร์ชันปี 2012 ที่ได้ อะคิระ มาแสดงนำ และเห็นได้ชัดว่าเวอร์ชันของอาคานิชินั้น ตัวละครโอนิซึกะค่อนข้างประนีประนอมกับสถานการณ์และเป็นชายหัวทองเปี่ยมอารมณ์ขันที่พร้อมช่วยเหลือนักเรียนทุกคนที่เขาดูแลอย่างเต็มที่  แต่การเดินทางของโอนิซึกะไม่ได้สิ้นสุดแค่เล่มที่ 25 ของมังงะ GTO เท่านั้น เพราะในเวลาต่อมา ฟูจิซาวะเขียนภาคแยกออกมาอีกสองภาคอันว่าด้วยการผจญภัยในฐานะคุณครูของโอนิซึกะ GTO: Shonan 14 Days ที่เริ่มตีพิมพ์ในปี 2009 ว่าด้วยช่วงเวลาที่โอนิซึกะเก็บตัวหลังมีข้อวิวาทกับ เทชิงาวาระ หนึ่งในคุณครูสุดหลอนของโรงเรียน เขาแอบไปใช้ชีวิตอยู่ในโชนันบ้านเกิดอยู่ 14 วัน และพบเจอเพื่อนวัยเด็กกับความลึกลับดำมืดของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เรื่อยมาจน GTO: Paradise Lost เริ่มตีพิมพ์ในปี 2014 (ปัจจุบันยังไม่จบ) ที่เปิดเรื่องมาแบบชวนช็อค เมื่อโอนิซึกะติดแหง็กอยู่ในคุกด้วยข้อหาร้ายแรง ภายหลังเข้าไปเป็นคุณครูพิเศษในโรงเรียนของไอดอล  ไม่ใช่แค่เพราะโอนิซึกะเป็นคุณครูจอมเฮี้ยวที่ใช้กำปั้นเข้าจัดการปัญหาทุกเรื่องหรอกที่ทำให้การเดินทางของเขายังลากยาวมาจนถึงตอนนี้ แต่เป็นเพราะเขาคือเพื่อนในอุดมคติที่หลายคนฝันถึง เราล้วนอยากมีเพื่อนที่จริงใจและกอดคอกันเผชิญเรื่องราวต่าง ๆ แบบที่เด็ก ๆ เหล่านี้มีโอนิซึกะ หรือใครสักคนที่เราวางใจให้อยู่ด้วยกันใกล้ ๆ และเปิดเปลือยปัญหาที่มีให้กันอย่างไม่ปิดบัง และดูเหมือนว่านี่จะเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้โอนิซึกะยังครองพื้นที่ในหัวใจหลาย ๆ คนนั่นเอง