แฮร์รี่ เคน: จากเด็กน้อยผู้รักษาประตูสู่ดาวยิงเวิลด์คลาส ความสำเร็จที่มาจากการพัฒนาไม่หยุด

แฮร์รี่ เคน: จากเด็กน้อยผู้รักษาประตูสู่ดาวยิงเวิลด์คลาส ความสำเร็จที่มาจากการพัฒนาไม่หยุด
หากพูดถึงนักเตะศูนย์หน้าที่เก่งที่สุดของโลก หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงของสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และกัปตันทีมชาติอังกฤษ เจ้าของรางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 3 สมัย และผู้ทำประตูสูงสุดในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย แฮร์รี่ เคน อาจไม่ใช่นักฟุตบอลมากสีสัน หรือชอบทำตัวโดดเด่นเป็นข่าว แต่ผลงานและความสามารถของเขา คือ จุดขายที่หลายทีมอยากได้ไปร่วมงาน เขาอาจไม่ใช่นักเตะมากพรสวรรค์ แต่มีความมุ่งมั่นพัฒนาอยู่เสมอ และเป็นศูนย์หน้าที่ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้ามไม่อยากเจอมากที่สุดคนหนึ่ง แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ รู้หรือไม่ว่าชายผู้นี้เกือบแจ้งเกิดในตำแหน่งผู้รักษาประตู นอกจากนี้ยังเคยถูกมองข้ามจากสโมสรใหญ่ และยอมลดชั้นไปเล่นลีกล่างเพื่อบ่มเพาะประสบการณ์อยู่นานหลายปี และนี่คือเส้นทางชีวิตของดาวซัลโวระดับโลกผู้นี้ที่ชื่อ แฮร์รี่ เคน เริ่มจากเบ็คแฮมและผู้รักษาประตู แฮร์รี่ เคน เกิดวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ.1993 ในย่านอีสต์ ลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ ไม่ไกลจากสนามไวต์ฮาร์ทเลนของทีม ‘ไก่เดือยทอง’ เขาเริ่มเตะฟุตบอลตั้งแต่จำความได้ โดยเล่นกับพ่อและพี่ชายจน 6 ขวบ พ่อแม่จึงส่งเข้าอคาเดมีของทีมเยาวชนท้องถิ่นชื่อ ริดจ์เวย์ โรเวอร์ส เหตุผลที่เลือก ริดจ์เวย์ โรเวอร์ส นอกจากจะอยู่ใกล้บ้าน ยังเป็นทีมที่ เดวิด เบ็คแฮม อดีตมิดฟิลด์ซูเปอร์สตาร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกัปตันทีมชาติอังกฤษเคยสังกัด  เคนเป็นแฟนตัวยงของเบ็คแฮม ถึงขั้นเคยทำผมโมฮอว์กตามอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษตอนลงแข่งฟุตบอลโลก 2002 และมีรูปถ่ายคู่กับเบ็คแฮม สมัยที่แข้งซูเปอร์สตาร์เดินทางมาเปิดอะคาเดมีที่โรงเรียน ชิงฟอร์ด ฟาวน์เดชัน สถาบันการศึกษาเก่าที่เบ็คแฮมเคยเรียน และเคนก็เรียนอยู่ที่นั่น อย่างไรก็ตาม แทนที่จะได้เป็นนักเตะตามรอยเบ็คแฮม หนูน้อยแฮร์รี่ เคน เกือบต้องเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังในตำแหน่งผู้รักษาประตู “ตอนนั้นเรากำลังฝึกยิงประตู ผมถามว่ามีใครเล่นโกลได้ไหม และเขาก็ยกมือขึ้น” เดฟ บริคเนลล์ อดีตประธานสโมสรและโค้ชของริดจ์เวย์ เล่าถึงแฮร์รี่ เคน สมัยเป็นน้องใหม่ในทีม “ผมยังไม่รู้จักเขาเลยตอบไปว่าโอเค เขาป้องกันประตูได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ชกบอลข้ามคาน เขาทำได้หมด ผมนึกในใจ ‘วิเศษเลย ผมได้ผู้รักษาประตูแล้ว’ เพราะเด็กเล็กมักไม่ค่อยมีใครอยากเป็นโกล “จากนั้นผู้ปกครองคนหนึ่งก็เดินมาหาผมและบอกว่า ‘เขาไม่ใช่ผู้รักษาประตูนะ เขาเป็นนักเตะ’ พอเขาไม่ได้เป็นผู้รักษาประตู เขาก็ยิงประตูแบบสนุก ๆ ได้ด้วย” อาร์เซน่อลมองข้ามจนต้องมาสเปอร์ส เคนลงเล่นให้ริดจ์เวย์ จนอายุ 9 ขวบ จึงถูกแมวมองของทีมดังในพรีเมียร์ลีกอย่าง ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซน่อลดึงตัวเข้าอะคาเดมี แต่อยู่ที่นั่นได้แค่ปีเดียวก็ต้องเดินจากมา เนื่องจากไม่ได้ต่อสัญญา เพราะอาร์เซน่อล มองว่า เบนิค อะโฟเบ้ กองหน้าวัยเดียวกันดูหน่วยก้านดีมีอนาคตกว่า จึงทุ่มเทให้กับว่าที่ศูนย์หน้าทีมชาติดีอาร์คองโกผู้นั้น การปล่อยตัวเคนออกมาถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่อาร์เซน่อลยอมรับในเวลาต่อมา เพราะนอกจาก อะโฟเบ้ จะทำผลงานไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ ยังทำให้เคนได้ไปเป็นนักเตะของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทีมคู่รักคู่แค้นร่วมกรุงลอนดอน ฝีเท้าของเคนไปเข้าตาแมวมอง ‘ไก่เดือยทอง’ จนต้องดึงมาร่วมทีม หลังจากเคนในวัย 11 ปี ทดสอบฝีเท้ากับอะคาเดมีของทีมวัตฟอร์ด ลงดวลแข้งกับสเปอร์ส และโชว์ฟอร์มดี เขาจึงได้ย้ายมาอยู่ถิ่นไวต์ฮาร์ทเลน ตั้งแต่ปี 2004 ช่วงแรกเคนถูกจับให้เล่นมิดฟิลด์เหมือนเบ็คแฮม แต่เนื่องจากร่างกายยังไม่โตเต็มวัย ทำให้ไม่มีทั้งความแข็งแรงและความเร็ว เขาจึงไม่ใช่นักเตะที่โดดเด่น กว่าจะเริ่มฉายแววเก่งต้องรอจนอายุ 15 - 16 ปี เมื่อโตเต็มที่มีทั้งความสูงและความแข็งแกร่ง แม้สเปอร์สยังเล็งเห็นความสำคัญของดาวรุ่งดวงนี้ และเริ่มจับมาเล่นหน้าเป้า แต่เคนก็ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นชุดใหญ่ได้เต็มตัว จนต่อมาต้องยอมให้ต้นสังกัดปล่อยยืมตัวไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในลีกล่าง และนั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต ลดชั้นเล่นลีกล่างเก็บเกี่ยวประสบการณ์ “ผมประทับใจที่เขาบอกกับตัวเองว่า ‘ผมจะไปเล่นให้เลย์ตัน โอเรียนต์ ผมจะออกจากสภาพแวดล้อมของพรีเมียร์ลีกและไปเล่นฟุตบอลอาชีพเพื่อเรียนรู้วิธีแสดงออกในสนาม’ มันคือทัศนคติที่ยอดเยี่ยมสำหรับเด็กวัยนั้น”  รัสเซล สเลด อดีตผู้จัดการทีมเลย์ตัน โอเรียนต์ กล่าวถึงเคนในวัย 17 ปี ซึ่งยอมลดชั้นมาเล่นลีกวันในปี 2011 และได้ลงสนามในฐานะนักเตะอาชีพชุดใหญ่อย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก “ความต้องการอันแรงกล้า (desire) คือสิ่งที่ผมเห็นได้ชัด ความต้องการแรงกล้าที่จะทำผลงานให้ดี ฝึกซ้อมอย่างหนัก และซ้อมมากกว่าคนอื่นอีกนิดแม้จะเป็นช่วงที่อายุยังน้อย และสิ่งที่เขามีตอนอายุ 17 ปี ก็คือศักยภาพ (petential) “ผมจำวันที่เขาลงเล่นนัดแรกได้ เราออกไปเยือน รอชเดล และเขาถูกเปลี่ยนลงเป็นตัวสำรอง เราต้องเล่นบนพื้นสนามที่เต็มไปด้วยโคลน วันนั้นเขาสวมสตั๊ดสีขาวคู่งาม แต่พอแข่งจบคุณแทบมองไม่เห็นรองเท้าคู่นั้นเลย “นั่นคือสภาพการเล่นในลีกล่างและเขาก็รับได้ เขาไม่สนใจว่าทำไมไม่ได้เล่นบนสนามหญ้าสวยงาม หรือมันเป็นฟุตบอลคนละแบบกันหรือไม่ เพราะเขาแค่ต้องการพัฒนา ต้องการทำให้ดีขึ้น และต้องการเรียนรู้ “เขายอมออกจากคอมฟอร์ตโซนที่สเปอร์ส ซึ่งมีทุกอย่างเพียบพร้อมเพื่อมาแข่งกับรอชเดลในคืนวันอังคารอันหนาวเหน็บ มันไม่ใช่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ราบรื่นแน่นอน แต่เขาก็ยอมรับสภาพและมีทัศนคติที่ยอดเยี่ยมเพื่อความสำเร็จ” แจ้งเกิดกับมิลวอลล์ หลังหมดสัญญาครึ่งซีซั่นกับเลย์ตัน โอเรียนต์ เคนถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นต่อกับมิลวอลล์ในลีกแชมเปี้ยนชิป และเจ้าตัวบอกว่าสโมสรนี้ ‘มีส่วนสำคัญมาก’ ในการพัฒนาฝีเท้าในวัย 18 ปี แม้เขาจะออกสตาร์ท 13 นัดแรกทำได้แค่ 1 ประตู แต่สามารถช่วยทีมรอดตกชั้น และคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสร โดย 14 นัดสุดท้ายของฤดูกาล เคนทำได้ถึง 7 ประตู ดาร์เรน วอร์ด อดีตเพื่อนร่วมทีมมิลวอลล์ บอกว่า เคนมีความมุ่งมั่นสูงมาก และมีความเป็นมืออาชีพมาตั้งแต่วัยรุ่น “ผมเคยนั่งข้างแฮร์รี่ในห้องแต่งตัว ทุกวันหลังซ้อม เขามักนั่งนิ่งตรงมุมเดิมจนคุณคิดว่า ‘เขากำลังทำอะไร เขาจ้องมองอะไร’ เขาไม่ขยับไปไหนอยู่สักพัก “วันหนึ่งมีคนถามว่า ‘แฮร์รี่ แกกำลังทำอะไร’ และเขาตอบว่า ‘ฉันแค่กำลังคิดว่าต้องปรับปรุงจุดไหนในการซ้อม การซ้อมที่ผ่านมาเป็นอย่างไร จุดไหนใช่ จุดไหนไม่ใช่’ “ทุกครั้งที่ผมมองหาเขาหลังซ้อม เขาจะนั่งอยู่ตรงนั้น ครุ่นคิดมันในหัว นั่นคือผู้เล่นที่ใส่ใจหน้าที่ของตัวเอง เขาจริงจังกับมัน และตอนนั้นเขาเพิ่งอายุ 18 มันน่าเหลือเชื่อมาก” ผงาดเป็นจอมทัพทีมชาติและสโมสร หลังจบฤดูกาลอย่างสวยงามกับมิลวอลล์ เคนโดนปล่อยยืมตัวไปหาประสบการณ์ต่อกับนอริช ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก และเลสเตอร์ ซิตี้ ในแชมเปี้ยนชิป แม้เขาไม่ค่อยมีโอกาสลงเล่นให้ทั้งสองทีมมากนัก แต่ก็ไม่ท้อ เขายังคงเดินหน้าสู้ต่อและไม่หยุดพัฒนาจนกระทั่งโอกาสที่เฝ้ารอมาถึง เคนได้แจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ของสเปอร์ส หลังอังเดร วิลลาส-โบอาส โดนปลดจากเก้าอี้ผู้จัดการทีมในปี 2013 และทิม เชอร์วูด ผู้จัดการทีมชุดยู-23 ที่ร่วมงานกับเคนมาอย่างใกล้ชิด ได้ขึ้นรักษาการณ์ผู้จัดการทีมชุดใหญ่ ก่อนเชอร์วูดขึ้นมา เคนได้ลงเล่นยูโรป้าลีกและพรีเมียร์ลีกแค่ไม่กี่นัด แต่วันที่ 7 เมษายน 2014 เชอร์วูดส่งเคนลงพรีเมียร์ลีกเป็นตัวจริงครั้งแรก นัดนั้นสเปอร์สถล่มซันเดอร์แลนด์ 5 - 1 และเคนทำประตูแรกในลีกสูงสุดของตัวเองให้กับต้นสังกัดได้สำเร็จ จากนั้นเคนสามารถทำ 3 ประตูใน 3 นัดที่ลงเล่น หลังปลดล็อกกับซันเดอร์แลนด์ เขายิงได้อีกในนัดเจอเวสต์บรอมวิชอัลเบี้ยน และฟูแล่ม หลังจากสเปอร์สตั้ง มอริซิโอ ปอเชตติโน่ คุมทีมถาวรในฤดูกาล 2014/15 เคนได้พิสูจน์แล้วว่า เขาคือศูนย์หน้าตัวหลักคนใหม่ของทีม เคนจบซีซั่น 2014/15 ด้วยสถิติ 21 ประตูในลีก และ 31 ประตูทุกทัวร์นาเมนต์ พร้อมคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ จากนั้นจึงก้าวต่อไปเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 3 สมัย (2015/16, 2016/17, 2020/21) โดยฤดูกาล 2020/21 นอกจากจะคว้าดาวซัลโวด้วยสถิติ 23 ประตู เขายังได้รางวัลเพลย์เมกเกอร์ อวอร์ด จากการจ่ายให้เพื่อนพังประตู 14 แอสซิสต์ มากที่สุดในลีกด้วย ส่วนผลงานทีมชาติ เคนลงเล่นให้ ‘สิงโตคำราม’ ชุดใหญ่ครั้งแรกในยูโร 2016 รอบคัดเลือก และได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมลุยฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ก่อนจบทัวร์นาเมนต์นั้นด้วยตำแหน่งดาวซัลโว ทำได้ 6 ประตู และพาอังกฤษจบอันดับ 4  จากนั้นในยูโร 2020 (+1) เคนพาอังกฤษทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ แม้จะจบที่รองแชมป์ แต่ก็นับเป็นผลงานยอดเยี่ยมเพราะเป็นการเข้ารอบชิงฯ รายการใหญ่ได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี จุดเด่นของแฮร์รี่ เคน คือการเป็นศูนย์หน้าที่ครบเครื่อง ยิงได้ทั้งเท้าซ้าย-ขวา และโหม่งทำประตูได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยดึงตัวประกบและจ่ายให้เพื่อนทำประตูได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่พรสวรรค์ที่ได้มาแต่กำเนิด แต่มาจากความมุ่งมั่นทุ่มเทฝึกซ้อม ถ่อมตัว พูดน้อยแต่มั่นใจ ไม่หยุดเรียนรู้ และกระหายในชัยชนะ “ผมโตมาโดยต้องการเป็นผู้ชนะเสมอ ผมเกลียดความพ่ายแพ้ในทุกเรื่องที่ทำ ผมคิดว่ามันมาจากข้างใน ความกระหายที่จะเป็นที่หนึ่ง ถ้ายังมีคนสงสัย ผมต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าพวกเขาคิดผิด ผมคิดว่ามันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เกิด”  แฮร์รี่ เคน เปิดใจถึงนิสัยส่วนตัวซึ่งทำให้เด็กน้อยคนหนึ่งที่เคยถูกมองข้าม ก้าวมาเป็นศูนย์หน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกในปัจจุบัน และจากนี้ไปคงต้องมาดูว่าเส้นทางการค้าแข้งของเขาในฤดูกาล 2021/2022 จะมีความชัดเจนออกมาในรูปแบบไหนหลังจากที่ความสัมพันธ์กับสโมสรต้นสังกัดนั้นแตกต่างไปจากเดิม ข้อมูลอ้างอิง: https://www.efl.com/news/2021/july/feature-the-rise-of-harry-kane/ https://www.bbc.com/sport/football/57342918 https://www.hindustantimes.com/football/from-young-goalkeeper-to-star-goal-poacher-harry-kane-always-stood-out/story-yBR2u7RPtoGQ86iKiZ6a1M.html https://www.si.com/soccer/2018/09/27/former-teammate-reveals-why-harry-kane-was-released-arsenals-academy เรื่อง: ภานุวัตร เอื้ออุดมชัยสกุล ภาพ: Charlotte Wilson/Offside/Offside via Getty Images