16 มี.ค. 2566 | 19:00 น.
ก่อนที่จะกลายเป็นหนึ่งในธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบมากที่สุดในโลกดังที่เรารู้จักกันในนามว่า ‘เครดิต สวิส’ (Credit Suisse) ก่อนหน้านี้ธนาคารดังกล่าวไม่ได้ใช้ชื่อนี้ แถมยังไม่ได้มีฟังก์ชั่นหลักเหมือนดั่งทุกวันนี้อีกด้วย
เครดิต สวิสก่อตั้งโดย ‘อัลเฟรท เอ็ชเชอร์’ (Alfred Escher) ผู้เป็นนักการเมือง นักธุรกิจ แถมยังเป็นผู้พัฒนาลางรถไฟคนสำคัญคนหนึ่งของประวัติศาสตร์สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเขาเป็นผู้วางรากฐานให้องค์กรสำคัญหลายองค์กรของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท Swiss Northeastern Railway, สถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิส (Swiss Federal Institute of Technology), บริษัทประกันสวิซไลฟ์ (Swiss Life), และรวมถึงธนาคารหนึ่งที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญเป็นโยงใยไปทั่วทั้งโลกอย่างเครดิต สวิสอีกด้วย
เอ็ชเชอร์นับว่าเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลและมีความสำคัญในแง่ของการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงศตวรรษที่ 19 เป็นอย่างมาก แต่ในบทความนี้เราจะไม่ได้กล่าวถึงเรื่องราวของเขาโดยตรง แต่เป็นหนึ่งในผลงานที่เขาได้ก่อตั้งและวางรากฐานอย่างเครดิต สวิสมากกว่า
เดิมทีธนาคารเครดิต สวิสมีนามว่า ‘Schweizerische Kreditanstalt’ หรือที่รู้จักในนาม ‘SKA’ แม้ชื่อจะดูสะกดอย่างแตกต่างไปค่อนข้างมากจากชื่อปัจจุบัน แต่ถ้าหากแปลกลับมาเป็นความหมายในภาษาอังกฤษก็จะแปลกลับมาในชื่อเครดิต สวิสนี่แหละครับ
โดยธนาคารดังกล่าวถูกก่อตั้งมาเพื่อสนับสนุนในด้านการลงทุนเพื่อพัฒนาทางรถไฟในยุคในช่วงที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประเทศและเศรษฐกิจเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม (Industrialization) และเครดิต สวิสก็ถือว่าเป็นธนาคารที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบรางรถไฟภายในประเทศและภูมิภาคประเทศยุโรปเป็นอย่างมาก
ในปี 1870 เป็นเวลากว่า 14 ปี กว่าที่เครดิต สวิสจะมีสาขาตัวแทนที่ตั้งอยู่นอกประเทศเป็น ซึ่งตั้งอยู่ ณ นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา หลังจากที่โลกก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 จากเดิมที่เครดิต สวิสเป็นธนาคารที่สนับสนุนในด้านรางรถไฟให้แก่บริษัทต่าง ๆ เป็นหลัก เขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นธนาคารเพื่อผู้บริโภค (Retail Banking) เพื่อตอบสนองกับการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลาง
หลังจากที่มุ่งมั่นแข่งขันและควบรวมธนาคารอื่น ๆ มากมายจนมีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า จนได้รวมกลุ่มและเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการเป็น ‘กลุ่มเครดิต สวิส’ (Credit Suisse Group) จนปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในธนาคารที่มีความสำคัญทางระบบการเงินและการลงทุนระดับโลก ที่ส่งอิทธิพลลึกเข้าเนื้อไปถึงระบบกลไกหากเกิดปัญหาขึ้น
แต่แม้จะมีความสำคัญในด้านต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านมา เครดิต สวิสก็มีเรื่องอื้อฉาวอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกันโดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรี่องเกี่ยวกับการเข้าไปเกี่ยวโยงกับการลักลอบค้ายาเสพติดและการฟอกเงิน แต่ถึงกระนั้นเครดิต สวิสก็ยังคงเป็นธนาคารที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลกอยู่ดี
ด้วยเหตุนี้ เมื่อเครดิต สวิสกำลังเผชิญกับวิกฤต ทั้งโลกจึงต้องจับตามองความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป อะไรจะเป็นคลื่นสะเทือน วิกฤตินี้จะกระทบแต่ละประเทศอย่างไรบ้าง และความรุนแรงของมันจะอยู่ในระดับไหน
ช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ ตั้งแต่ 2021 มาจนถึงปี 2022 สถานะการเงินของเครดิต สวิส ถ้าจะเรียกว่าเผชิญกับวิกฤตก็ไม่ผิดเสียเท่าใดนัก เพราะทางธนาคารได้สูญเสียเงินไปปริมาณมากในรอบหลายปี หากนับตั้งแต่วิกฤตที่เกิดขึ้นในปี 2008 แถมยังได้มีการคาดการณ์กันว่าทางธนาคารจะไม่ทำกำไรไปจนกว่าจะถึงปี 2024
และเมื่อธนาคาร Silicon Valley Bank ถูกสั่งปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม จึงทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นทั่วโลกสั่นคลอนไปเป็นอย่างมาก และเมื่อธนาคารเครดิต สวิสได้ออกมาประกาศว่าพบความอ่อนแอในรายงานการเงินก็ได้ส่งผลกระทบให้หุ้นของธนาคาร มาจนถึง ณ ขณะนี้ ดิ่งลงไปกว่า 30 เปอร์เซ็นต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนั้นก็ยังมีปัจจัยเรื่องการที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่าง ธนาคารแห่งชาติซาอุดี (Saudi National Bank) หรือ SNB ได้ออกมาประกาศว่าจะไม่เพิ่มปริมาณหุ้นไปถึง 10 เปอร์เซ็นต์เพราะจะทำให้มีกฎเกณฑ์อีกมากมายที่เพิ่มขึ้นมากว่าเดิม ทั้งในฝั่งของตัวเองและฝั่งของสวิตเซอร์แลนด์
ด้วยความดิ่งลงทั้งหมด ผสานกับปัจจัยแวดล้อมกับสิ่งที่เกิดกับธนาคารอื่น ๆ ก่อนหน้า เครดิต สวิสจึงถูกจับตามองอย่างหนักถึงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป ว่าวิกฤตครั้งนี้จะไปหยุดที่ตรงไหนและจะรุนแรงมากเพียงใด เพราะดังที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้าว่าเครดิต สวิสถือเป็นธนาคารที่มีความสำคัญกับระบบการเงินทั่วทั้งโลก หากเกิดปัญหาจนถึงขั้นที่ธนาคารต้องล้ม แน่นอนว่ารอยร้าวนี้จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจนกลายเป็นปรากฎการณ์โดมิโน่อย่างแน่นอน
ภาพ :
Getty Images
Wikimedia Commons
อ้างอิง :
https://www.credit-suisse.com/about-us/en/our-company/who-we-are.html#22.-221947533
https://www.bbc.com/thai/articles/c6pl9g2jlqyo
https://www.bbc.com/news/business-64964881