25 ก.ค. 2563 | 02:32 น.
อเล็กซานเดอร์ แกลนต์ซ (Alexander Glantz) หรือ อเล็กซานเดอร์ 23 (Alexander 23) นักร้องหน้าใหม่ไฟแรงจากชิคาโก สร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยเพลง ‘Another Summer Night Without You’ บทเพลงที่ประกอบซีรีส์ 13 Reasons Why รวมถึงผลงานอัลบั้มล่าสุดอย่าง I’m Sorry I Love You ที่มีเพลงที่น่าสนใจอย่าง ‘See You Later’ และ ‘High School’
ปัจจุบัน อเล็กซานเดอร์ 23 กำลังไปได้ดีสุด ๆ กับซิงเกิลล่าสุด ’IDK You Yet’ ผลงานเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ตกหลุมรักในสิ่งที่ตนยังไม่เคยรู้จักเลย The People ได้มีโอกาสคุยกับชายคนนี้ผ่านเทคโนโลยีที่ชื่อว่า “ซูม” ก่อนที่เราทั้งคู่จะพูดคุยกันสารพันเรื่องราวที่เกี่ยวกับเลข 23 และดนตรีของเขา
The People: หมายเลข23 สำคัญกับคุณอย่างไร
อเล็กซานเดอร์: 23 ถือเป็นเลขที่ตามผมมาตลอดทั้งชีวิต ผมเกิดวันที่ 23 ผมเริ่มเขียนเพลงครั้งแรกก็อายุ 23 ผมมาจากชิคาโกและโตมากับการชอบบาสเก็ตบอล ซึ่งแน่นอนว่า 23 เป็นเลขของตำนานอย่างไมเคิล จอร์แดน ตอนที่ผมอยากจะทำเพลงออกมา ผมจึงรู้สึกอยากจะซื่อตรงกับตัวเองที่สุด ผมก็เลยเอาชื่อตัวเองนำหน้าและก็ใส่เลข 23 เข้าไปเพื่อเพิ่มอะไรให้มันแตกต่าง
The People: ใครเป็นคนพาคุณเข้าสู่โลกของดนตรี
อเล็กซานเดอร์: ผมได้เห็นพ่อผมเล่นกีตาร์ ตอนอายุ 9 ขวบ ตอนนั้นมันเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ๆ สำหรับผม ผมอยากจะเล่นมันให้ได้ และจากนั้นพอเล่นเป็นผมก็คลั่งไคล้มันจนไม่สามารถวางมันลงได้เลย แน่นอนว่าฮีโร่ทางดนตรีของผมคือ จอห์น เมเยอร์, เคซีย์ มัสเกรฟส์ หรือ The Beatles แต่ว่าคนที่ให้แรงบันดาลใจผมที่สุดคือเพื่อนผมคนหนึ่ง เขาเป็นต้นแบบของการทำงานหนักทุกวันเพื่อที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นในทุกวัน
The People: อัลบั้มไหนที่เปลี่ยนชีวิตคุณเลย
อเล็กซานเดอร์: แน่นอนว่าต้องเป็นอัลบั้ม Continuum ของจอห์น เมเยอร์ สำหรับผมผมรู้สึกว่ามันเป็นอัลบั้มแรกที่รวมความเป็นนักเขียนเพลงตัวจริงกับงานด้านโปรดักชั่นที่น่าสนใจและไอเดียที่น่าทึ่งไว้ และสำหรับผมมันสร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก ทั้งในฐานะนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์
The People: การให้บริการสตรีมมิ่ง เข้ามาปฏิวัติพฤติกรรมการฟังเพลงของทุกคนอย่างสิ้นเชิง ส่วนตัวในฐานะศิลปินที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญจาก physical สู่ดิจิทัล คุณมองเรื่องนี้อย่างไร
อเล็กซานเดอร์: มันเป็นเรื่องที่ผมคิดมาตลอดเลย ตลอดชีวิตผมโตมากับการฟังซีดี มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือมันทำให้คนสามารถเข้าถึงดนตรีได้มากขึ้น ก่อนหน้านี้มีการพูดถึงคุยตลอดถึงเรื่องว่าศิลปินแทบไม่จำเป็นต้องทำเพลงเป็นอัลบั้มแล้ว เพราะการทำอัลบั้มก็มาพร้อมกับการทำเป็นแพ็กเกจออกขาย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันเป็นข้อดีสำหรับศิลปินนะ เพราะเราเหมือนมีอิสระในการทำเพลงและรู้ว่าตอนนี้แฟนเพลงชอบผลงานแบบไหน ผมว่ามันดีสำหรับพวกผมเลยนะ เพราะบางทีผมก็อยากออกเพลงเป็นซิงเกิล หรืออีพีอัลบั้ม หรือบางครั้งก็อยากออกอัลบั้มเต็ม ซึ่งก็เหมือนเป็นการบอกให้โลกรู้ไปเลยว่านี่คือผลงานที่บ่งบอกตัวคุณเอง
The People: ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลกับการทำเพลงมากขึ้น คุณเคยคิดไหมว่าอีกไม่กี่ปีสิ่งเหล่านี้จะเข้ามาแทนที่มนุษย์อย่างสมบูรณ์
อเล็กซานเดอร์: ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้นะ ผมสำหรับผมเองปัจจัยที่จะบอกว่าเพลงไหนดีไม่ดีมันขึ้นอยู่ที่ความเป็นมนุษย์ของแต่ละคน เสน่ห์ที่สำคัญของมนุษย์คือความไม่เพอร์เฟ็กต์ ข้อผิดพลาดต่าง ๆ มันคือความความสวยงาม ผมไม่ใช่คนที่เชี่ยวชาญด้านเอไอหรอกนะ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้หรอก แต่เดี๋ยวเราคงได้รู้กัน ไม่แน่บางโปรแกรมอาจพิสูจน์ให้เห็นว่าผมคิดผิดก็ได้
The People: หัวใจสำคัญของการทำเพลงของคุณคืออะไร เพลงต้องติดหู หรือตลาดมาก ๆ ไหม
อเล็กซานเดอร์: สำหรับผมเนื้อเพลงคือส่วนที่สำคัญที่สุดเลย มันก็เหมือนเรื่องของภาษารักทั้ง 5 แหละ ที่พูดถึงการใช้เวลาอยู่ร่วมกัน หรือการให้ของขวัญอะไรทำนองนั้น ซึ่งสำหรับผมดนตรีมันเป็นแบบนั้น เวลาที่ผมฟังเพลงภาษาอื่น แม้ผมไม่รู้ความหมาย แต่ผมก็รู้สึกถึงความสวยงามของมัน
The People: คุณนิยามดนตรีอย่างไร
อเล็กซานเดอร์: ผมว่าดนตรีมันมีความงดงามในเรื่องของการสื่อสารนะ ซึ่งบางครั้งมันเป็นสิ่งที่คำพูดก็ไม่สามารถทำได้ อีกทั้งมันยังเป็นเรื่องของการถ่ายทอดและเข้าถึงอารมณ์ของคน อย่างตัวผมเองเวลาตื่นนอนมาแล้วอยากจะอารมณ์ดีผมก็จะหาเพลงดี ๆ ฟังสักเพลง หรือตอนผมอารมณ์ไม่ดี ผมก็อาจจะหาเพลงเศร้าฟังที่ช่วยให้ผมแย่ขึ้นไปอีก ดนตรีมันเป็นอีกหนึ่งภาษาที่จะทำให้คุณรู้สึกดีได้ เสียใจได้ หรือมีความสุขได้
The People: ภาพประทับใจที่สุดบนเส้นทางสายดนตรี
อเล็กซานเดอร์: ผมโชคดีมาก ๆ ที่ได้มีโอกาสเล่นที่เทศกาลดนตรีโลลาพาลูซ่า หน้าร้อนที่ผ่านมา ผมมาจากชิคาโกดังนั้นการได้เล่นในเทศกาลดนตรีแบบนั้นที่เมืองบ้านเกิดของตัวเองมันเป็นอะไรที่เหมือนฝันมาก ๆ ตอนนั้นครอบครัวผมมาดูด้วย ทั้งคุณปู่คุณย่า ผมมาไกลมากจากวันแรกที่เริ่มเล่นดนตรี ซึ่งวันนั้นมันน่าเหลือเชื่อมากจริง ๆ
อเล็กซานเดอร์ ทิ้งท้ายว่าเขาแทบรอไม่ไหวที่จะมาเยือนประเทศไทยพร้อมกับขอบคุณแฟนเพลงมากมายที่ให้การสนับสนุนเขาเสมอมา