สัมภาษณ์ ซินเธีย สก็อตต์ นักร้องรุ่นใหญ่อดีตคอรัสวง เรย์ ชาร์ลส์ : เล่นเก่งแต่ไร้ inner ไม่มีใครสนใจคุณหรอก

สัมภาษณ์ ซินเธีย สก็อตต์ นักร้องรุ่นใหญ่อดีตคอรัสวง เรย์ ชาร์ลส์ : เล่นเก่งแต่ไร้ inner ไม่มีใครสนใจคุณหรอก
นักร้องรุ่นใหญ่อย่าง ซินเธีย สก็อตต์ (Cynthia Scott) อาจจะไม่ใช่ศิลปินระดับท็อปของโลกที่ทุกคนรู้จักดีนัก แต่ถ้าให้พูดถึงด้านคุณภาพและความสามารถ ซินเธีย ถือเป็นตัวเป้งอีกคนในวงการเพลงแจ๊สเลยก็ว่าได้จากการที่สะสมประสบการณ์มาอย่างโชกโชน        ซินเธีย ก็เหมือนกับนักร้องผิวสีคนอื่น ๆ เธอเติบโตมากับดนตรีในโบสถ์หรือ กอสเปล แม้มันจะเป็นดนตรีที่เธอไม่ค่อยปลื้มนักในช่วงแรก แต่ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เธอได้รู้จักกับ ดนตรีแจ๊ส ซึ่งกลายมาเป็นส่วนเติมเต็มในชีวิตเธอจนปัจจุบัน ไฮไลท์สำคัญในชีวิตของเธอเกิดขึ้นในช่วงยุค 70s ซินเธียได้มีโอกาสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มนักร้องที่ชื่อว่า “The Raelettes” หรือนักร้องคอรัสประจำวงของ เรย์ ชาร์ลส์ ตำนานนักร้องผู้ล่วงลับ แต่หลังสร้างชื่อของตัวเองได้สำเร็จ สุดท้ายเธอตัดสินใจก้าวเท้าออกมาจาก comfort zone ของตัวเองเพื่อเริ่มต้นค้นหาลายเซ็นของตัวเองเต็มตัว ในอดีต ซินเธีย เคยร่วมงานกับนักดนตรีระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แฮง ครอวฟอร์ด, เรด การ์แลนด์, เดวิด ‘แฟทเฮด’ นิวแมน ฯลฯ หรือแม้กระทั่ง แฮร์รี คอนนิก จูเนียร์ ในช่วงที่ยังเป็นแค่นักเปียโนงานแต่งเท่านั้น [caption id="attachment_4822" align="aligncenter" width="1280"] สัมภาษณ์ ซินเธีย สก็อตต์ นักร้องรุ่นใหญ่อดีตคอรัสวง เรย์ ชาร์ลส์ : เล่นเก่งแต่ไร้ inner ไม่มีใครสนใจคุณหรอก ซินเธีย (คนที่สองจากขวา) กับวง The Raelettes[/caption]        แม้จะประสบความสำเร็จในฐานะนักร้องอาชีพ แต่เธอก็ไม่เคยคิดหยุดพัฒนาตัวเอง ซินเธีย กลับไปศึกษาดนตรีอย่างเป็นระบบ จนได้วุฒิปริญญาตรีและโท จาก Manhattan School of Music ในนิวยอร์กซิตี ก่อนที่ต่อมาเธอจะกลายเป็นแม่พิมพ์ที่คอยสอนเหล่านักร้องรุ่นใหม่ ๆ หลายคน The People ได้มีโอกาสนั่งคุยกับนักร้องมากความสามารถคนนี้เกี่ยวกับหลายประเด็นทางดนตรี บอกได้เลยว่านอกจากเธอจะเก่งแล้ว แนวคิดที่ดีในการใช้ชีวิตของเธอยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักดนตรีรุ่นใหม่ทุกคน The People : จุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณกลายมาเป็นนักร้องอาชีพ ซินเธีย : ฉันเกิดที่เมืองเอล โดราโด ในอาร์คันซอ การที่มีพ่อเป็นนักเทศน์ทำให้ฉันมีโอกาสเดินทางไปหลาย ๆ ที่ ฉันมีญาติหลายคนที่ทั้งเสียงดี และมีความสามารถกว่าฉันมาก แต่การได้เข้ามาเป็นนักร้องกอสเปลมันทำให้หูของได้ยินโครงสร้างของทำนองมากขึ้น จากนั้นฉันก็เปลี่ยนแนวมาเรียนรู้แจ๊สมากขึ้น แต่ถ้าเล่าย้อนไปกว่านั้นฉันเริ่มทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก่อนที่เท็กซัส ซึ่งในตอนนั้นฉันคือคนแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกที่ได้มีโอกาสเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แต่จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้ชอบการบินเลย ทุกวันนี้ก็ยังเกลียดอยู่ดี        สุดท้ายฉันโดนไล่ออกจากที่นั่น จากคดีที่ฉันถูกกัปตันคนหนึ่งล่วงละเมิดทางเพศ บริษัทเลือกไล่ฉันออกแทนที่จะเป็นกัปตันคนนั้น ตอนนั้นมันดูแย่แต่ฉันก็มองโลกในแง่ดีและคิดอย่างมีเหตุผล จากเหตุการณ์ตรงนั้นมันทำให้ฉันมาอยู่ในจุดนี้ (ได้มาเป็นนักร้อง) ต่อมาฉันหันมาเป็นเลขาในบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ แม้ตัวเองจะโชคดีที่มีหัวหน้างานที่ใจดีมาก แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกแย่ที่ต้องมาทำงานแบบนี้ ความสุขเดียวของฉันคือการได้ไปร้องเพลงในบาร์แจ๊สตอนกลางคืน สัมภาษณ์ ซินเธีย สก็อตต์ นักร้องรุ่นใหญ่อดีตคอรัสวง เรย์ ชาร์ลส์ : เล่นเก่งแต่ไร้ inner ไม่มีใครสนใจคุณหรอก        แต่แล้ววันหนึ่งฉันก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง ปลายสายนั้นคือเสียงของ เรย์ ชาร์ลส์ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตีห้าได้ ฉันกำลังหงุดหงิดกับหมาของฉันอยู่เลย และก็มีเสียงโทรศัพท์ดังตลอด ฉันรับสายนั้นและพูดตอบไปแบบเหวี่ยง ๆ ว่า hello ! ใครเนี่ย เขาตอบฉันกลับมาว่า ‘นี่ผม เรย์ เอง’ ฉันถาม ‘เรย์ ไหน’ เขาตอบกลับมาว่า ‘นี่ เรย์ ชาร์ลส์’ ทันใดนั้นฉันเข้าสู่โหมดเงียบทันที และเรย์ ก็พูดว่าเขาต้องการหานักร้องหญิงมาร่วมวงกับเขา แต่ฉันก็ยังไม่พูดกับเขาเพราะยังช็อกอยู่ พอฉันตั้งสติได้เลยตอบกลับเขาไปว่า ‘คุณเรย์ ตอนนี้ฉันเป็นเลขาอยู่ ฉันลาออกจากงานไม่ได้หรอก’ เขาพูดต่อทันทีว่า ‘คุณต้องการเวลาแค่ไหน’ ฉันตอบเขาไปว่าขอเวลาฉันเคลียร์ตัวเองสักสองอาทิตย์ เรย์ตอบกลับว่า ’จัดไป’ และจากนั้นสองอาทิตย์ ฉันอยู่ที่ฟินแลนด์บนเวทีที่ใหญ่มาก ๆ กับเรย์ และต่อมาอีกหลายปีฉันได้ร่วมทัวร์กับยอดนักดนตรีอย่าง เคาท์ เบซี, โจ วิลเลียมส์, ออสการ์ พีเตอร์สัน หรือ โจ แพสส์ เรย์ นักดนตรีที่มาจากเท็กซัส และโชคดีที่ฉันอยู่ที่ดัลลัสในช่วงนั้นพอดี The People : คุณคิดไหมว่าทำไมเรย์ถึงชอบเสียงร้องของคุณ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยได้ยินเสียงคุณมาก่อนเลย ซินเธีย : เรย์ ได้รับคำแนะนำมาจากคนอื่นทั้งนั้นเลย เวลาเขาจะหานักดนตรีสักคน เรย์เชื่อคำแนะนำจากคนเหล่านั้นเพราะพวกเขารู้ว่าเรย์ชอบแบบไหนและเรย์กำลังมองหาคนแบบไหนอยู่ ฉันว่าสิ่งแรกที่เรย์ต้องการอย่างแรกเลยคือคุณต้องเป็นนักร้องที่ดี ยิ่งไปกว่านั้นเขาชอบนักร้องที่มีพื้นฐานมาจากดนตรีกอสเปล The People : ตอนนั้นคุณโดนพ่อบังคับให้ฟังแต่กอสเปลจริงไหม ซินเธีย : ใช่แล้ว เพราะฉันไม่มีทางเลือกด้วย เราไม่สามารถฟังดนตรีอะไรได้เลยยกเว้นกอสเปล และทุกเช้าวันอาทิตย์พ่อฉันก็มีรายการวิทยุกอสเปลด้วย ซึ่งตอนนั้นฉันได้ไปร้องในรายการด้วย The People : จำโมเมนต์ตอนที่ทัวร์กับเรย์ได้ไหม ซินเธีย : มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากสำหรับเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจากอาร์คันซอ ที่ได้ร้องเพลงอยู่ในอารีน่าใหญ่ ๆ ได้นั่งเครื่องบินส่วนตัวใหญ่ ๆ ได้เจอผู้คนจำนวนมากและได้ร้องเพลง สัมภาษณ์ ซินเธีย สก็อตต์ นักร้องรุ่นใหญ่อดีตคอรัสวง เรย์ ชาร์ลส์ : เล่นเก่งแต่ไร้ inner ไม่มีใครสนใจคุณหรอก The People : การทำงานกับเรย์ ชาร์ลส์ เป็นอย่างไรบ้าง ซินเธีย : การทำงานกับเรย์ ไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้จะเป็นดนตรีคนละแนว จะแจ๊สหรือบลูส์ เขาจะนำตัวเองเข้าไปอยู่กับเพลง เขาเป็นคนที่ไม่มีขีดจำกัด เขาเป็นคนที่รักในเมโลดี้ที่ดี และแน่นอนเขารักเพลงที่มีการเล่าเรื่องราวที่ดี The People : ที่สุดของประสบการณ์ที่คุณได้รับจากเรย์ ชาร์ลส์? ซินเธีย : ฉันได้เรื่องการเล่าเรื่องมาจากเรย์ ถ้าเขาไม่เข้าใจหรือไม่อินกับเพลงเขาจะไม่ร้องมันออกมา ถ้ามันเป็นเพลงที่ไม่มีเมสเสจที่ดีฉันก็จะไม่ร้องออกมา ฉันได้ยินเรย์ร้องเพลงซ้ำ ๆ ทุกคืน แต่เขาไม่เคยทำให้ฉันเบื่อได้เลย เพราะเขาเหมือนมีเรื่องราวจะเล่าในทุก ๆ วัน หลายคนอาจจะคิดว่าการร้องเพลงคือแค่การร้องออกมา ฉันบอกกับนักเรียนของฉันตลอดว่า ไม่มีใครสนใจหรอกว่าคุณจะร้องเพลงอะไร คนจะสนใจคุณก็ต่อเมื่อคุณทำให้พวกเขาสัมผัสถึงอะไรบางอย่างได้ คนจะใส่ใจคุณก็ต่อเมื่อคุณส่งต่ออะไรบางอย่างไปถึงพวกเขา แล้วพวกเขาตอบโต้ความรู้สึกนั้นกลับมา มันไม่ใช่เรื่องของแค่การร้องเพลงหรือมีรูปร่างหน้าตาที่ดี The People : นักร้องมักถูกมองว่าเป็น อาชีพที่ง่าย คุณเห็นด้วยไหม ซินเธีย : ไม่เลย ไม่ใช่ในยุคนี้ด้วย นักร้องสมัยนี้ก็เหมือนกับนักดนตรี พวกเขาฝึกให้เสียงร้องตัวเองเหมือนกับการเล่นเครื่องดนตรี บางคนยังสามารถเล่นดนตรีได้อีกด้วย นักดนตรีบางคนเล่นเก่งอ่านโน้ตเก่ง แต่เล่นไม่มี inner คุณก็ไม่มีตัวตนบนเส้นทางนี้หรอก เพราะบนเวทีคุณจำเป็นต้องรู้สึกถึงสิ่งที่นักร้องส่งออกมา และตัวคุณเองก็ต้องเล่นออกมาให้นักร้องรู้สึกด้วยเช่นกัน การเป็นนักร้อง ใช่ คุณอาจจะไม่ต้องเรียนก็ได้ แต่คุณอยากจะบอกว่าตัวเองเป็นแค่ผู้คนหนึ่ง เป็นผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่ง หรือจะบอกว่าคุณเป็นเหมือน แนนซี วิลสัน, คาร์เมน แมคเร, ซาราห์ วอห์น, เบตตี้ คาร์เตอร์ คุณห้ามคิดว่าคุณเป็นนักดนตรีและเล่นสเกลได้ คิดแบบนั้นไม่มีใครสนหรอก เวลาคุณไปอยู่ในวงการไม่มีใครสนใจการไล่สเกลที่เหมือนกับหุ่นยนต์หรอก เขาสนแค่ไหนคุณมีเพลงของตัวเองเปล่า The People : เห็นว่าคุณจบปริญญาโทดนตรีด้วย ตอนนั้นคุณมีทั้งงานและประสบความสำเร็จในฐานะนักดนตรีแล้ว ทำไมถึงอยากเรียนไปเรื่อย ๆ ซินเธีย : นี่เป็นคำถามที่ดีเลย จริง ๆ ฉันไม่เคยวางแผนเรื่องการเรียนเอาไว้เลย ตอนย้ายมาที่นิวยอร์กแรก ๆ ฉันคิดมาตลอดว่าฉันคือนักร้องเบอร์หนึ่งจากดัลลัส ตอนนั้นฉันทะนงตนมาก ๆ แต่ไม่นานฉันก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้เก่งที่สุดและต้องปรับตัว ฉันร้องเพลงได้แต่ฉันไม่สามารถอ่านมันได้เลย ทั้งชีวิตของฉันเรียนรู้ดนตรีจากการใช้หู แต่พอได้เข้าไปเรียนฉันใช้หูน้อยลงและหันมาเรียนรู้ด้วยการใช้สายตามากขึ้น การได้เข้าไปเรียนดนตรีมันทำให้ชีวิตการเป็นนักร้องของฉันง่ายขึ้น The People : อัลบั้มที่คุณชอบที่สุด ซินเธีย : เชอร์รีย์ ฮอร์น อัลบั้ม Here's to Life ปี 1992 นี่คืออัลบั้มที่จะเติมเต็มคุณในเรื่องของอารมณ์และความรู้สึกของการร้อง ไมล์ส เดวิส ชอบเธอมาก ๆ และฉันก็ชอบผลงานของ ไมล์ส เหมือนกัน เพราะดนตรีของเขาทำให้คุณเต้นได้เสมอ สัมภาษณ์ ซินเธีย สก็อตต์ นักร้องรุ่นใหญ่อดีตคอรัสวง เรย์ ชาร์ลส์ : เล่นเก่งแต่ไร้ inner ไม่มีใครสนใจคุณหรอก The People : คุณเป็นคนที่ชอบเล่นกับนักดนตรีรุ่นใหม่เสมอหรือเปล่า ซินเธีย : ฉันชอบทำงานแบบนั้นตลอดเวลา ที่นิวยอร์กฉันได้เล่นที่คลับหนึ่งที่ชื่อว่า Smoke Jazz และในทุก ๆ วันอาทิตย์ฉันจะเลือกนักดนตรีที่ฉันอยากเล่นด้วยมาแสดงที่นี่ และแต่ละคนก็จะมีความสามารถคนละแบบกัน เรื่องนี้มันก็เหมือนกับอาหารนั่นแหละบางครั้งคุณก็อยากลองรสชาติอะไรใหม่ ๆ บ้าง The People : ที่สุดของความสุขของคุณคือการได้ร้องเพลงหรือเปล่า ซินเธีย : ฉันแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้กลับไปเล่นที่นั่น เพราะทุก ๆ วันต่อไปนี้เสียงร้องฉันจะแย่ลงเรื่อย ๆ เราไม่มีทางรู้อนาคต แม้ตอนนี้ฉันจะยังรู้สึกว่ามีพลังที่จะร้องอยู่ก็ตาม ฉันอยากจะมีเสียงร้องที่ดีตลอดไป ฉันโชคดีที่ไม่เจ็บป่วยอะไร ฉันไม่เคยเห็นเสียงร้องของเรย์แย่เลยจนกระทั่งเขาป่วยจากการดื่มเหล้าและเสพยามาก สิ่งพวกนั้นทำลายเสียงของเขา ตัวฉันเองไม่ค่อยดื่มมากนัก มากสุดคือสองสัปดาห์ครั้ง ส่วนเรื่องสูบบุหรี่ฉันก็ไม่สูบ ส่วนตัวฉันค้นพบความสุขจากการไม่คิดถึงอดีตหรืออนาคต ฉันมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน อย่างตอนนี้ฉันก็มีความสุขมากที่ได้มานั่งคุยกับคุณตรงนี้ The People : ฝากอะไรถึงนักดนตรีรุ่นใหม่ ซินเธีย : คุณต้องลงมือทำไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น คุณไม่ต้องสนเลยว่าทำงานที่ไหนจะให้เงินคุณมากกว่า มันเป็นเรื่องของ passion คุณไม่สามารถปฏิเสธ passion ได้ เพราะเมื่อตอนที่คุณมีเงินมาก ๆ แล้วพอมองย้อนกลับมาการที่คุณไม่ได้ทำตาม passion ของตัวเอง ไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ทั้งชีวิตคุณอยู่แต่การหาเงิน เวลาคุณตายไปเงินไม่สามารถตามคุณไปได้หรอก ถ้าคุณไม่ทำตาม passion ของคุณ มันจะทำให้คุณรู้สึกหิวตลอดเวลา มันจะทำให้คุณไม่มีรอยยิ้มเลย ตอนนี้ ซินเธีย มีคิวร้องประจำการร่วมกับ The Randy Cannon Group ที่เดอะ ลิฟวิ่ง รูม ชั้น 1 โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ทุกวันอังคาร – วันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 20:45 น. เป็นต้นไป และทุกวันศุกร์ – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 21:45 น. เป็นต้นไป ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ – 30 มีนาคมนี้