‘จ่าอูหมูเกาหลี’ หมูกระทะในตำนานเริ่มความอร่อยในกรมทหาร จนกลายเป็นขวัญใจมหาชน

• จุดเริ่มต้นร้าน จ่าอูหมูกระทะ เกิดจากในกรมทหารฯ เพียงเพราะอยากหารายได้เพิ่มให้กับครอบครัว
• จ่าอูหมูกระทะ ในกรุงเทพฯ มีทั้งหมด 9 สาขา และทายาทรุ่น 2 ที่ดูแลทั้งหมดคือ เป้ - จิตราพร เหมาะดี
• ร้านยังไม่มีแผนขยายธุรกิจเป็นระบบแฟรนไชส์ทั้งในตอนนี้และอนาคต

หนึ่งในร้านหมูกระทะในตำนานที่เมื่อพูดถึงแล้วคนรู้จักก็คือ ‘จ่าอูหมูเกาหลี’ หมูกระทะที่ส่งออกความอร่อยมาจาก ‘กรมทหาร’ จุดเริ่มต้นเมื่อ 20 กว่าปีจากแม่บ้านคนหนึ่งที่อยากจะเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว และใช้เวลาว่างเพื่อลองทำหมูกระทะ คิดค้นน้ำจิ้มสูตรเด็ดขึ้นมา จนปัจจุบันมีทั้งหมด 9 สาขาในกรุงเทพฯ

‘เป้ - จิตราพร เหมาะดี’ ทายาทร้านจ่าอูฯ รุ่นที่ 2 ที่บริหารร้านทั้งหมดทุกสาขาเอง ทั้งยังเป็นคนรับช่วงต่อในการทำ ‘น้ำจิ้มรสเด็ด’ มาจากพ่อกับแม่ เพื่อส่งไปยังร้านสาขาอื่น ๆ ที่เหลือในกรุงเทพฯ

ความอร่อยในกรมทหาร

เป้ - จิตราพรบอกกับ The People ไว้ว่า “ย้อนไปตามอายุของเป้ 28 ปี ก็น่าจะเป็นเวลาที่มีหมูกระทะจ่าอู ซึ่งตอนนั้นบ้านยังอยู่ในกรมทหาร ขส.ทบ. ตรงเกียกกาย พ่อรับราชการและแม่ก็เป็นแม่บ้านเฉย ๆ แต่แม่มีความคิดว่าอยากจะเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว จึงคิดลองทำหมูกระทะขาย

“ตอนนั้นก็ลองผิดลองถูกพอสมควรเลย เริ่มจากเรียกให้คนในแฟลตมาลองชิมก่อน จากนั้นก็นำคำติชมมาพัฒนารสชาติต่อ จนเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น แรก ๆ หมูกระทะจ่าอูเริ่มส่งตามบ้าน แล้วก็มาเปิดร้านเล็ก ๆ ตรงข้างล่างแฟลต (แต่มีโต๊ะให้นั่งไม่กี่โต๊ะเท่านั้น)”

ซึ่งลูกค้าที่ติดใจก็เริ่มเรียกร้องให้มีการขยายร้าน เพราะอยากนั่งกินที่ร้านมากกว่าซื้อไปกินที่บ้าน ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ร้านจ่าอูสาขาแรกเปิดให้บริการที่ ‘สะพานแดง’ นอกจากนี้ เป้ - จิตราพรยังเล่าว่า ที่มาของชื่อ ‘จ่าอู’ มาจากชื่อของพ่อซึ่งตอนนั้นคิดแค่ว่า หากใช้ชื่อพ่อคงเป็นที่รู้จักอย่างดีในกรมทหาร และอาจจะทำให้คนมาอุดหนุนเยอะขึ้นก็ได้

ส่วนน้ำจิ้ม พ่อและแม่ของ เป้ - จิตราพร เป็นคนช่วยกันคิดสูตรและทำขึ้นมาเอง ลองปรับเปลี่ยนรสชาตินับครั้งไม่ถ้วนก่อนจะมาเป็นน้ำจิ้มสูตรเด็ดของจ่าอูหมูกระทะ ที่ทำให้ลูกค้าติดใจบอกต่อแบบปากต่อปาก และไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้

ซึ่ง เป้ - จิตราพร ได้พูดถึงน้ำจิ้มของร้านจ่าอูฯ ว่า “จุดเด่นของร้านที่คนส่วนใหญ่มองก็คือ น้ำจิ้ม เพราะว่าน้ำจิ้มของเราจะรสชาติแตกต่างจากร้านอื่น นอกจากนี้ยังมีคำชมจากลูกค้าเก่าที่เคยมากินตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อนว่า รสชาติยังเหมือนเดิม คุณภาพก็ยังเหมือนเดิมประมาณนี้ค่ะ”

ทำไมไม่เป็นหมูกระทะบุฟเฟต์

เมื่อถามถึงการเป็นหมูกระทะที่จ่ายเป็นชุด ซึ่งร้านจ่าอูฯ จะขายเพียง 2 ราคาเท่านั้นก็คือ ชุดละ 300 และ 500 บาท ซึ่ง เป้ - จิตราพร บอกเหตุผลกับเราว่า “ตอนนั้นคิดว่าบุฟเฟต์มันเป็นราคาการจ่ายที่ค่อนข้างสูง สมมติมากินกันทั้งครอบครัว 3 คนก็เป็นเงินหลักพันบาท แต่ถ้ามากินที่ร้านจ่าอูชุดละ 300 บาท 3 คนก็อิ่มแล้ว”

พูดง่าย ๆ เหตุผลหลักของผู้ก่อตั้งร้านจ่าอูหมูกระทะก็คือ อยากจะช่วยลูกค้าประหยัดเงินมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  โดยเฉพาะคนที่มากินแบบครอบครัวนั่นเอง

เมื่อถาม เป้ - จิตราพร เกี่ยวกับอุปสรรคหรือความท้าทายของการเปิดร้านหมูกระทะเมื่อ 20 ปีก่อนคืออะไร เธอบอกว่า พ่อแม่พยายามอย่างมากที่จะลองผิดลองถูกทั้งรสชาติน้ำจิ้ม การหมักหมู หรือแม้แต่การหาวัตถุดิบ เมื่อก่อนเธอบอกว่าต้องมานั่งหั่นเนื้อหมูเองเพราะไม่มีเครื่อง ไม่มีความสะดวกสบายเหมือนสมัยนี้

นอกจากนี้ กว่า 20 ปีก่อนที่เริ่มต้นเปิดร้านหมูกระทะด้วยการส่งตามบ้าน ก็ยังต้องจัดเอง ส่งเอง เก็บเอง เพราะว่าไม่มีเดลิเวอรี่เหมือนยุคนี้

 

มุมมองจากทายาทรุ่น 2

สำหรับ เป้ - จิตราพร เธอเติบโตและเห็นพ่อแม่กำลังก่อร่างสร้างตัวตั้งแต่อยู่ในกรมทหาร เธอเล่าว่า “เป้อยู่กับพ่อแม่และอยู่กับการขายของตั้งแต่เด็ก อยู่ทุกขั้นตอน เรียนรู้ทุกอย่างจากพ่อแม่ ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ การปรับสูตร พัฒนาคุณภาพหมูกระทะ จนถึงวันที่มีหน้าร้านอย่างเต็มตัว”

ร้านจ่าอูหมูกระทะสาขาแรกที่เธอเป็นคนบริหารก็คือ ‘สาขาบางซื่อ’ ซึ่งเธอเริ่มต้นเรียนรู้ตั้งแต่การหาวัตถุดิบ การบริหารร้าน การบริหารคน การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ไปจนถึงการทำน้ำจิ้มเอง และขนส่งไปยังสาขาอื่นทั่วกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ จ่าอูฯ ที่กรุงเทพฯ ภายใต้การดูแลของ เป้ - จิตราพร เธอบอกว่า ได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ร้านให้จำง่ายขึ้น สะดุดตามากขึ้น รวมไปถึงการเลือกโลเคชั่นร้านจ่าอูฯ ที่จะเน้นโลเคชั่นที่มีพื้นที่จอดรถมากขึ้น ซึ่งสาขาล่าสุดที่เธอเปิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็คือ สาขาพระราม 5 ซึ่งก็มีพื้นที่สำหรับลูกค้าไว้จอดรถเช่นกัน

ทั้งนี้ เธอได้พูดกับ The People ทิ้งท้ายด้วยว่า “ในช่วงแรก ๆ รู้สึกกดดัน เพราะว่าเป้เคยแต่เป็นคนคอยช่วยแต่ยังไม่เคยมาลุยเอง ประสบการณ์เรายังไม่เท่าพ่อแม่อยู่แล้ว แต่พอเปิดไปได้ 2 - 3 ปี เป้ก็พัฒนาตัวเองฝึกฝนตัวเองไปเรื่อย ๆ ทำให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นค่ะ

“สำหรับเป้ เรารู้สึกภูมิใจและมองว่าร้านจ่าอูหมูกระทะในตอนนี้ประสบความสำเร็จแล้ว ส่วนในอนาคตจะเติบโตต่อไปได้อีกแค่ไหนก็ถือว่าพอใจแล้ว สำหรับการเปิดขายแฟรนไชส์ เป้และพ่อแม่ยังไม่มีแพลนจะเปิดระบบแฟรนไชส์ตอนนี้ค่ะ”