“กูเป็นฝ่ายค้านก็ล่อมึงได้” บทสัมภาษณ์เต็ม ‘เสรีพิศุทธ์’ จาก ผบ.ตร. สู่ ส.ส. ซัดประยุทธ์

“กูเป็นฝ่ายค้านก็ล่อมึงได้” บทสัมภาษณ์เต็ม ‘เสรีพิศุทธ์’ จาก ผบ.ตร. สู่ ส.ส. ซัดประยุทธ์

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เล่าถึงเรื่องราวในเส้นทางอาชีพในบทบาทต่าง ๆ จากตำรวจ ถึงการเมือง และความคิดเห็นต่อสถานการณ์ทางการเมืองของรัฐบาลยุคพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

  • พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ให้สัมภาษณ์ถึงเส้นทางชีวิตและอาชีพตำรวจ มาถึงนักการเมือง ที่ยืนยันจุดยืนของตัวเอง
  • พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่า จะไม่ยุบไปรวมกับพรรคใหญ่ และยืนข้างฝ่ายประชาธิปไตย

อะไรที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น ในโลกที่ดูเหมือนเวลาผ่านไปเร็วขึ้นตามความไวของเทคโนโลยีและวิธีการสื่อข้อมูลข่าวสาร ขณะเดียวกันบทบาทแต่ละบุคคลที่จะได้รับการจดจำในแต่ละช่วงเวลาก็ไม่ได้หยุดนิ่ง ณ จุดใดจุดหนึ่งเพียงจุดเดียว

The People สัมภาษณ์ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย รวมถึงเป็นประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ของสภาผู้แทนราษฎรด้วย

นักการเมืองผู้มีที่มาจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เคยควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) วันที่เคลื่อนขบวนไปชุมนุมที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ บ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ หรือ ‘ป๋าเปรม’ เมื่อปี 2550

ตั้งแต่แกนนำขบวนการเคลื่อนไหวนี้ยังสวมเสื้อเหลืองเช่นเดียวกับกลุ่ม ‘พันธมิตรฯ’ ก่อนจะมาเป็น ‘คนเสื้อแดง’ หรือ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขบวนการเคลื่อนไหวที่มีบทบาทอย่างมากในทศวรรษที่แล้ว ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลจากการรัฐประหารและสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

ขณะเดียวกันอดีตผบ.ตร. ผู้นี้ หลังเกษียณอายุราชการได้ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรกในการชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. เมื่อปี 2556

การเลือกตั้งครั้งนั้นไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. แต่ทำให้ได้เห็นคะแนนตัวเอง ก่อนตั้งพรรคการเมืองและได้ 10 ส.ส.เข้าสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งปี 2562

ปัจจุบัน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เป็นหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พรรคร่วมฝ่ายค้านที่หัวหน้าพรรคมีบทบาทโดดเด่นอยู่ฝั่งตรงข้ามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงขนาดนายกรัฐมนตรี เคยประกาศตัดพี่ตัดน้องกลางที่ประชุมสภามาแล้ว

The People: หากนับแต่เหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 ถึง 2557 อะไรเป็นจุดพลิกผัน จาก ผบ.ตร.(ปี 2550) ในยุคหลังรัฐประหาร 2549 มาเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์การรัฐประหารโดย พล.อ.ประยุทธ์ ในปี 2557

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: ผมก็ไม่ได้ร่วมรัฐประหาร (ปี 2549) กับเขานี่ จริง ๆ ผบ.ตร. ก็ไม่ได้ไปคิดรัฐประหารกับใครหรอก แต่ถึงเวลา เขาจับไปร่วมนั่งโต๊ะแถลงข่าวด้วย อย่างปี 2549 เขาก็เอาคุณโกวิท (พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ) ไปแถลงข่าว

แล้วปี 2557 เขาก็เอา คุณอดุลย์ (พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว) ไปแถลงข่าว ผมไม่ได้ไปร่วมกับเขาด้วยนี่

ส่วนการเป็นผบ.ตร.ในปี 2550 (หลังเหตุการณ์ รัฐประหาร 19 กันยายน 2549) เนื่องจากผมรับราชการมาตั้งแต่เด็ก เจริญเติบโตมาเร็วมาก เพราะผลงานผมนำมาตลอด แต่พอมาถึงตอนที่เริ่มเห็นว่าใครจะชนะ ก็เริ่มมีการสกัดกันแล้ว ผมเป็นนายร้อยถึงเป็นนายพลในเวลาแป๊บเดียว

แต่พอเป็นนายพลแล้วช้า อืดเลย ไม่เหมือนบางคนที่เขามีนายดูแลอยู่

ตอนผมเป็นนายพล มี ‘พี่บัติ’ (พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์) รุ่นก่อนผม 2 รุ่น แต่ ‘พี่บัติ’ ก็มีอธิบดีกรมตำรวจ ชื่อ ‘สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์’ (พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์)

พี่บัติก็ถีบผมไม่ยอมให้ขึ้นสักที เพื่อจะได้ไม่แซงน้องชายแกไง จนกระทั่งผมต้องฟ้องอธิบดีสวัสดิ์ ถึงยอมปีต่อไปจะให้ผมขึ้น แต่ผมก็ช้าไป 1 ปีแล้ว แล้วต้องมากลายเป็นธุระทะเลาะผู้บังคับบัญชา

เขาไม่ให้ขึ้นสกัดไว้ ผมก็ด่าแม่งให้ เขาก็เลยตั้งกรรมการสอบสวนผม จะเอาผมออก ยังไม่ทันเซ็นคำสั่งเลย ตัวเองก็ถูกปลดก่อน

ผมก็ช้าไปอีก ปีต่อมาก็ยุคท่านนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ จะเอา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงอ้อ (พจมาน ดามาพงศ์) ขึ้นไง ก็เหยียบไม่ให้ผมขึ้น

ผมเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. 6 ปีเต็มๆ ที่ไม่ได้ขึ้น จนกระทั่งต้องฟ้อง เขาถึงยอมผม แต่จะให้ เพรียวพันธ์ ขึ้นไปก่อน แล้วถึงจะให้ผมเป็นผบ.ตร.

เราเป็นลูกผู้ชายเราก็ถอนฟ้อง ปรากฏว่าปี 2549 คุณทักษิณถูกยึดอำนาจ

ตอนนี้คุณทักษิณยังเป็นหนี้ผมนะ ถ้าเพื่อไทยจัดรัฐบาลต้องใช้หนี้ผมนะ (หัวเราะ) เพราะเคยแซงข้ามไป แล้วสัญญาว่าจะให้ผมขึ้น แล้วให้ผมถอนฟ้อง ผมก็ถอนให้แล้วไง แล้วยังไม่ได้ตั้งผม ก็ยังเป็นหนี้ผมอยู่

ปี 2547 ก่อนเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยา 2549 พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เป็น ผบ.ตร. ผมเป็นจเรตำรวจแห่งชาติ ก็ตำแหน่งเท่ากับรอง ผบ.ตร.

โกวิทไม่มีลูกโต ก็สนับสนุนพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้ขึ้นเป็นผบ.ตร.โดยถีบผมไปเป็นที่ปรึกษา เพื่อไม่ให้มีตำแหน่งหน้าที่การงาน

เผอิญ ดวงยังไงก็ขวางกันไม่ได้ ตอนเขาปฏิวัติ เราก็ไม่ได้ปฏิวัติกับเขานี่ ‘โกวิท’ แท้ ๆ ไปนั่งกับเขา

หัวหน้าปฏิวัติ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน รุ่น 6 ปลัดกระทรวงกลาโหม รุ่น 6 ผบ.ทร. รุ่น 6, ผบ.ทอ. รุ่น 6, ผบ.ตร.รุ่น 6

โอ้โห รุ่นเดียวกันหมด ยังไงเราก็แทรกไม่ได้หรอก ต้องรอโกวิทเกษียณอย่างเดียว แล้วผมโดนถีบไปเป็นที่ปรึกษา

โกวิทแย่ ไม่มีผลงานอะไร เพราะโกวิทเป็นผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) มาทั้งชาติ ไม่เคยสืบสวนสอบสวนจับกุมใครเลย เป็นผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน แล้วมาเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. แล้วมาเป็นผบ.ตร. จะคิดทำอะไรเป็นล่ะ

หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 เมื่อปลดโกวิทแล้ว เขาจะเลือกใคร

ดีที่นายกฯ ชื่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เลือกผมเป็น ผบ.ตร. เพราะมีประวัติดี มีผลงาน มีเหรียญรามา (เหรียญรามมาลา) และถูกแกล้งเหมือนท่านสุรยุทธ์ ตอนท่านจะขึ้นเป็นใหญ่ก็ถูกเขาถีบไปเป็นที่ปรึกษา ผมก็ถูกถีบไปเป็นที่ปรึกษาเหมือนกัน

ท่านก็เลยตั้งผม ผมถึงได้เป็น ผบ.ตร. ตั้งแต่ต้นปี 2550 ก็ดวงจะเป็น ผบ.ตร. ก็เป็น

The People: ควบคุมสถานการณ์หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ บ้านพักพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ (ป๋าเปรม) อดีตประธานองคมนตรี

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: ช่วงปี 2550 ผมเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในช่วงนั้นมีม็อบรุนแรงมากที่จะปั่นป่วนรัฐบาล จนกระทั่งสุดท้ายก็บุกมาที่หน้าบ้านป๋า ไม่ได้บุกมาต่อต้านอย่างเดียว แต่ใช้เครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่เปิดอัดเข้าไปที่บ้าน เสียงดังมากจะอยู่ไหวอย่างไร จนกระทั่งป๋าต้องหลบหนีออกไปข้างนอกด้านหลัง แต่คนอื่นไม่รู้

ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่ามีคนพาออกด้านหลังไปแล้ว

ก่อนที่จะไปหน้าบ้านป๋า ผู้ชุมนุมก็เผาโน่นเผานี่ ทำลายทรัพย์สินอะไรต่าง ๆ หรือตำรวจใช้เครื่องกีดขวางสกัดกั้นไว้ เขาก็ไม่ใส่ใจ ทำให้เสียหายแล้วก็ไปใช้เครื่องขยายเสียงที่หน้าบ้านป๋า

ปกติการทำงาน เรามีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบอยู่ อันนี้เป็นเรื่องของความมั่นคง ก็ให้ พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี มาดูแล แต่ขณะเดียวกันทางทหาร ก็มีการให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนนั้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 มาดูแล

ทั้งตำรวจและทหารก็ไปใช้สโมสรกองทัพบกที่ติดอยู่กับบ้านป๋า เป็นที่ทำงานที่จะปราบม็อบ

จนกระทั่งสี่ทุ่มกว่าแล้ว ยังไม่สำเร็จ ผมก็เลยตัดสินใจไปดูสถานการณ์ด้วยตัวเอง ก็ไปกับคนขับรถอีกคนเท่านั้นเอง เดินเข้าไปในสโมสร ก็เห็นประยุทธ์ เห็นรองฯ วิเชียร เดินคุยกันไปกันมา เดินแกว่งซ้ายแกว่งขวาตามสไตล์เขา ไม่ทำอะไร หรือทำไม่เป็นก็ไม่รู้

ผมเลยเรียกประชุมผู้การ 191 ที่ตอนนั้นสกัดกั้นม็อบไม่ให้เข้าบ้านป๋า

ประชุมในพื้นที่ที่สนามหน้าสโมสรนี่แหละ ไม่ได้ประชุมในห้อง ซึ่งผู้การ 191 ในขณะนั้นต่อมาก็เป็น ผบ.ตร.

ผมก็สั่งการให้คนโน้นทำอย่างโน้นให้คนนี้ทำอย่างนี้ จนเริ่มทำงานได้ และมาทราบภายหลังว่า เขาไม่ค่อยได้ยินเราสั่งเท่าไหร่ เพราะเสียงดังจากฝั่งผู้ชุมนุม แต่ขณะเดียวกันเราก็สั่งจนสำเร็จก็เอากำลังตำรวจของ 191 สกัดกั้นม็อบ

ไม่ใช่สกัดกั้นอย่างเดียว พอเราออกทำงานปุ๊บ ฝั่งผู้ชุมนุมก็เริ่มแกะอิฐตัวหนอนจากทางเท้า ขว้างเข้ามาที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ตำรวจหัวแตกเยอะแยะ แต่ผมเหมือนมีพระรอด ยังไงก็ไม่โดน ไม่มีอะไรสะกิดผม

ต่อมาเมื่อผู้ชุมนุมยังไม่หยุด จึงใช้เครื่องยิงแก๊สน้ำตา ยิงถล่มเข้าไป เขาก็ทนไม่ไหว ก็ค่อย ๆ เคลื่อนถอยทัพออกไป ขณะเดียวกันก็จับแกนนำ 4-5 คน แล้วก็กลุ่มที่มากวนตำรวจก็โดนตำรวจจับกุมดำเนินคดีไปหลายคน ในที่สุดแกนนำก็ติดคุกทั้งหมด เพราะทำผิดกฎหมาย เป็นคนชื่อดัง ๆ ก็คงรู้จักว่ามีใครบ้าง

รุ่งขึ้น หรือ 1-2 วันหลังจากนั้น ป๋าเปรม ก็เรียกไปพบ ก็ขอบคุณที่ช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ แล้วหลังจากนั้น ผมก็เชิญป๋าไปเป็นประธานเปิดมูลนิธิเราจะเป็นคนดี ซึ่งตั้งมูลนิธิไว้อยู่แล้ว วันที่ป๋าไปเปิด ก็ยิ้มย่องผ่องใส

งานนั้นตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รวมถึงนายทหารทุกหน่วย ไปร่วมงานกันหมด งานก็เป็นไปอย่างมีเกียรติ สมศักดิ์ศรี ที่สโมสรตำรวจในขณะนั้นสามารถทำให้เรามีงบประมาณที่จะทำตามโครงการของมูลนิธิ โดยสนับสนุนเด็กนักเรียนช่วงนั้นมีประมาณ 17 โรงเรียน ให้มีกิจกรรมต่าง ๆ นอกจากการเรียนการสอนในโรงเรียน

The People: บทบาทการเป็นตำรวจ

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: ก็ไม่มีอะไรมาก เราต้องใช้ความเด็ดขาด

เป็นตำรวจจะกลัวโน่นกลัวนี่ กลัวเขาจะฟ้องหรืออย่างโน้นอย่างนี้ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ต้องตัดความกลัวออกไปให้หมด แล้วถือว่าเรามีหน้าที่ความรับผิดชอบ ก็ต้องทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด

ผมมันผ่านศึกมาเยอะแล้ว ตั้งแต่อยู่นาแก ปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ เสี่ยงความเป็นความตายมากกว่านี้ เรื่องแค่นี้จิ๊บ ๆ ไม่มีความหมายสำหรับผมหรอก

The People: หลังเกษียณอายุราชการ ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในปี 2556

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: หลังจากเกษียณอายุแล้ว ปกติผมออกกำลังกายมาโดยตลอด สุขภาพร่างกายยังดูดี ไม่เหมือนคนที่เกษียณแล้ว

ก็คิดว่า ถ้าเราไม่ทำอะไร ก็จะเหมือนคนแก่ เหี่ยวเฉา สมองไม่ได้คิด ร่างกายไม่ได้ขยับเขยื้อน ช่วงนั้นมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก็เลยไปทดลองลงสมัครรับเลือกตั้งแข่งกับเขา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จหรอก เพราะขณะนั้นมี 2 พรรคใหญ่สู้กันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย เกทับบลัฟแหลกกันน่าดู

ประชาธิปัตย์เป็นผู้ว่าฯ กทม. เก่ามาโดยตลอด ส่วนเพื่อไทยก็จะแย่งพื้นที่ให้ได้ เพราะต่อไปจะได้มีส.ส.ในระดับชาติได้มากขึ้น ฉะนั้น 2 ฝ่ายกระทุ้งกันอย่างเต็มที่

เราไม่เคยเลือกตั้ง ก็สู้อย่างเต็มที่เหมือนกัน ออกหาเสียงตลอด แต่เราสู้เขาไม่ได้จริง ๆ เพราะกำลังพลเขาเยอะ ทั้ง 2 พรรคมีกำลังพล มี ส.ส. มี ส.ก. ส.ข. ช่วยในการหาเสียง ที่สำคัญมีเงินอีก ฉะนั้น วัน ๆ เขาหาเสียงใน กทม. ได้ทั้ง 50 เขต แต่ละวัน

ส่วนเราไปได้ไม่กี่จุด แต่ก็ไปหาเสียงแทบไม่ได้พัก สุขภาพดี หาเสียงได้สบาย ๆ ตอนนั้นยังไม่มีประสบการณ์เท่าไหร่ มีตัวเองกับทีมงานสิบกว่าคนช่วยหาเสียง

ผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่าประชาธิปัตย์ แชมป์เก่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ชนะเพื่อไทย ผู้สมัครทั้ง 2 พรรค ได้คนละล้านต้น ๆ ชนะเฉียดฉิว ต่างกันในหลักหมื่นคะแนน

นอกนั้น ลำดับสามเป็นผม สรุปคนที่ลงในนามอิสระทั้งหมด ผมเป็นอันดับ 1

คะแนนพวกอิสระทั้งหมดรวมกันก็แพ้ผม มาคิดเอาภายหลัง เราสู้เขาไม่ได้เพราะคนเราน้อย เงินเราน้อย เราไม่พอจะสู้เขาหรอก

“กูเป็นฝ่ายค้านก็ล่อมึงได้” บทสัมภาษณ์เต็ม ‘เสรีพิศุทธ์’ จาก ผบ.ตร. สู่ ส.ส. ซัดประยุทธ์

The People: ซัดพล.อ.ประยุทธ์ หลังรัฐประหาร 2557

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เสร็จ เราก็กลับมาทำงานของเราต่อ จนกระทั่ง คุณประยุทธ์ ปฏิวัติ ปี 2557 คุณประยุทธ์ปฏิวัติ ซึ่งอะไรไม่ถูก ผมไม่ค่อยชอบ บอกตรง ๆ เราเป็นตำรวจ เราก็พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง

ส่วนตำรวจบางคนที่ทำไม่ดีงาม ไม่เหมาะสม ทำผิดกฎหมาย แสวงหาผลประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ผมก็ไม่อยากโทษเขาหรอก ต้องโทษผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ไม่คิดบริหารให้ได้มาซึ่งงบประมาณให้ตำรวจทำงาน

ไม่เหมือนทหาร ทหารใช้เวลาคิดแต่งบประมาณ ปากกาด้ามเดียวยังคิดเงินเลย ดินสอ ธูปเทียนจุดจัดพิธีอะไรคิดเงินหมด

พูดง่าย ๆ ทหารโกงหมด พูดตรง ๆ ไปออกเผยแพร่ได้เลย ปีที่แล้วเอาไปตั้งสองแสนสองหมื่นกว่าล้าน เอาไปทำไม มันไปเสวยสุขกันเองโกงกันเอง ตอนยึดอำนาจในยามที่บ้านเมืองวุ่นวายสับสนก็มีงบประมาณเพิ่มเข้าไปอีก

เงินรับเต็ม ทหารอาจจะได้ไม่เต็ม แต่ผู้บังคับบัญชาได้เต็ม หลวงต้องจ่ายเต็มหมด

จะทำอะไรโกงหมด จะเกณฑ์ทหารก็โกง ก็คงรู้กัน ตั้งแต่จะเกณฑ์แล้ว ใบแดง ใบดำ คนละห้าหมื่น พอเข้าไปเป็นทหารเสื้อผ้า รองเท้า หมวก กางเกงใน เข็มขัด ยารักษาโรค อาหารการกินทุกวัน โกงหมด เบี้ยเลี้ยงทหาร มึงกลับไปบ้านเซ็นไว้ โกงหมด ต้องสังคายนา ผมก็คิดว่า เมื่อคุณประยุทธ์ ปล้นเขามาก็ทำผิดรัฐธรรมนูญ

คุณประยุทธ์ กล้าเสี่ยง แต่ก็เสี่ยงไม่มาก เพราะทำ(รัฐประหาร)กับรัฐบาลพลเรือน พอขู่เขาก็ยอมหมด...

ผมได้เหรียญรามาธิบดีตั้งแต่ปี 2520 สี่สิบกว่าปีที่แล้ว ได้ดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยา คุณประยุทธ์มาอ้างหลัง ๆ บอกได้ว่าได้ดื่ม

ปกติพอในหลวงจัดพิธีพระราชทานเหรียญก็ต้องมีพิธีดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยา มีเชิญคนรุ่นก่อน ๆ ด้วย ผมรุ่นรับเหรียญรามาก่อนคุณประยุทธ์ตั้งนาน ไม่เห็นได้รับเชิญไปร่วมพิธีดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของคุณประยุทธ์เลย ไม่รู้ได้จริงหรือได้ปลอม โกหกหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ

The People: ตัดสินใจอย่างไรตั้งพรรคการเมือง

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: ผมก็คิดว่า บ้านเมืองมันแย่อยู่แล้ว แม่งปฏิวัติตลอด ปฏิวัติครั้งก่อนก็ปี 2549 อะไรผ่านไป 7-8 ปี เอาอีกแล้วเหรอ มันเกินไป มันเป็นเรื่องของคนบ้าอำนาจคนอยากได้อำนาจ แต่ไม่ยอมอยู่ในกติกา มึงแน่จริงก็ลงมาเลือกตั้งดิ ลาออกจาก ผบ.ทบ. มาเลือกตั้งเลย ผมเคยเป็น ผบ.ตร. ยังมาลงเลือกตั้ง ส่วนประยุทธ์ ไม่ลงเลือกตั้ง ไม่อยู่ในกติกา

แล้วก็หลอกพี่น้องประชาชนตลอด จำได้ไหม ตอนยึดอำนาจใหม่ ๆ ก็แต่งเพลง เราจะอยู่ไม่นาน จะทำตามสัญญาห่าอะไรของมันน่ะ

แล้วก็โกหกด้วยว่าเดี๋ยวรัฐธรรมนูญจะเสร็จ รัฐธรรมนูญปราบโกงอะไร นี่มันรัฐธรรมนูญโคตรโกงเลย โกงแม้กระทั่งกติกาเลือกตั้ง

ก็เลยคิดว่า เอาล่ะ จะยึดอำนาจก็ยึดไป แต่ต่อไปยังไงก็ต้องมีเลือกตั้งหลังจากเขียนรัฐธรรมนูญเสร็จ

พอรัฐธรรมนูญ 2560 เสร็จ รัฐธรรมนูญก็โกง มีหรือ เอาส.ว. 250 คนไปเลือกนายกฯ ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นเลยนะเรื่องนี้เรื่องเดียวเลยนะ ได้คะแนนแต้มต่อไป 250 เสียง ไม่ชนะได้ไง เนี่ยการเป็นนายกฯ ไม่ได้สง่างามหรอก อายเขา ต่างประเทศเขาก็เห็น เขาก็รู้ อายเขา เขาก็ไม่ให้เกียรติ นี่ประเทศใหญ่ ๆ ไม่มางานเอเปค นอกจากผู้นำจีนเท่านั้น ประเทศใหญ่ที่ยังมีสัมพันธไมตรีดีกับไทย สี จิ้นผิง มา นอกนั้นผู้นำประเทศใหญ่ ๆ ไม่มา เขาไม่ได้ให้เกียรติเรา

เอาล่ะ ยึดอำนาจก็ยึดมา ถึงเวลายังไงก็ต้องเลือกตั้งใช่ไหม ฉะนั้น ผมก็เตรียมตัว คือถ้าเราไม่คิดอะไรก็คงไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใดพรรคหนึ่ง แล้วก็ไปลงเลือกตั้ง เขาจะให้ลงเขตไหน หรือ ให้เป็นปาร์ตี้ลิสต์ลำดับไหนก็เรื่องของเขา แต่เราคิดว่า ถ้าทำอย่างนั้น เราก็แทบไม่มีสิทธิ์มีเสียงทำอะไรเลย

ก็เลยคิดว่าตั้งพรรคการเมืองดีกว่า ตอนตั้งพรรคการเมืองก็เลือกกันจะเอาชื่ออะไร โลโก้ยังไงดี

สรุปเป็นชื่อพรรคเสรีรวมไทย เพราะว่าบ้านเมืองมันแตกแยกมานาน ประยุทธ์มาทำให้แตกแยกเยอะแยะ ต้องการรวมให้เป็นหนึ่งเดียว เลิกเสียทีการปฏิวัติ ถ้าผมเป็นนายกฯ รับรองทหารปฏิวัติไม่ได้แน่

เราก็ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาด้วยเวลาอันจำกัด เราพรรคใหม่ พรรคไม่มีเงินด้วย ไอ้พวกส.ส. ที่มันต้องการหาเงินมันก็แวะมาเยี่ยมเยียน มาดู พอรู้ว่าไม่มีเงิน มันก็ไป

The People: ผลการเลือกตั้ง ปี 2562 เสรีรวมไทยได้ ส.ส. 10 คน

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: การนับคะแนนยังโกงผมอีก ให้ ส.ส. แค่ 10 คน ดูสิโกงทุกทาง นับคะแนนก็โกง มีเปิดหีบใหม่ที่ไหนคะแนนพรรคผมขึ้นมาทุกที แต่ถูกโกง ที่หน่วยก็ด้วย ก็เลยได้ส.ส.มาแค่ 10 คน

แต่ 10 คนก็ยังเป็นที่หมายปองนะ เพราะตอนนั้นคะแนนผมมากกว่าพรรคชาติไทยพัฒนาอีก

ชาติไทยพัฒนาตั้งมาสามสิบปีแล้วมั้งยังแพ้ผมนะ ผมก็ประมาณพรรคลำดับ 6 นับจาก เพื่อไทย ส.ส.มากที่สุด รองลงมาพลังประชารัฐ, อนาคตใหม่, ภูมิใจไทย, ประชาธิปัตย์ แล้วก็พรรคผม ก็ยังดี

ทีนี้อย่างที่บอก ไม่ชอบเผด็จการ ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ทุกวันนี้บ้านเมืองเสียหายหมด พอเลือกตั้งเสร็จแล้วจะไปอยู่กับเผด็จการได้อย่างไร เราก็ต้องอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย

The People: ไม่ไปรวมเสียงตั้งรัฐบาลกับฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: น้องเชื่อไหม ตอนรวมเสียงจะตั้งรัฐบาล มี 10 เสียงก็สำคัญนะ อย่างพรรคชาติพัฒนามันก็ไปกับเขา(ประยุทธ์) ก็ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีไปคนหนึ่ง ของผมเป็นผู้ใหญ่หน่อย มีคนมาเสนอจะให้เป็นรองนายกฯ คุมตำรวจ แล้วก็ให้อีก 300 ล้าน เพราะผู้สมัครแต่ละคนหาเสียงอย่างต่ำคนละ 30 ล้านทั้งนั้น บางคน 50 ล้าน บางคน 100 ล้านที่ใช้ลงเลือกตั้ง

ตอนนั้นเขาจะให้ 300 ล้าน ให้เป็นรองนายกฯ แต่เราจะไปได้ไง ไปอยู่กับเผด็จการ เราไม่เหมือนพรรคภูมิใจไทย ไม่เหมือนพรรคประชาธิปัตย์นี่ เวลาไปหาเสียงออกทีวี บอกนายกฯ ทั้งหมดจะต้องอยู่บนเวทีนี้ ไม่มีคนอื่น

พอเลือกตั้งเสร็จ แม่งไปอยู่ฝ่ายโน้นหมด ยกมือเลือก ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เป็นนายกรัฐมนตรี

นักการเมืองพวกนี้เลว ต่อไปอย่าไปเลือก ไม่มีสัจจะกับพี่น้องประชาชน ขอให้มันได้ประโยชน์เท่านั้นเอง ภูมิใจไทยถึงได้รัฐมนตรีไปสามคน รองนายกคนหนึ่ง ประชาธิปัตย์ก็เหมือนกัน แล้วพวกนี้เลือกกระทรวงสำคัญด้วยนะ เพราะประยุทธ์ต้องง้อ ถ้ามันออกเมื่อไหร่รัฐบาลก็พัง ฉะนั้น มันจะบริหารประเทศได้ยังไง แค่นี้ตัวเองก็สั่งนักการเมืองด้วยกันไม่ได้แล้ว

ฉะนั้น ใครจะกินใครจะโกง กูก็ต้องหลับหูหลับตา ถึงแม้จะไม่โกง แต่ความจริงก็โกงนะ ไม่ใช่ไม่โกง

วันที่จะเลือกนายกฯ ผมก็เดินเข้าสภา เชื่อไหม ไอ้พวกนายหน้าทั้งหลาย ยังมาหาผมเลย จะให้ผมยกมือให้ประยุทธ์ให้ได้ ไอ้พวกนี้มันหน้าด้านไง ขอให้กูได้อย่างเดียวพอแล้ว ลักษณะนั้น ซึ่งผมไม่ใช่คนอย่างนั้นนี่ มันไม่สำคัญหรอก จะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือเป็นฝ่ายค้าน ไอ้คนขี้โกง คนคิดแต่หาประโยชน์ ยังไงมันก็ต้องเป็นรัฐบาลให้ได้ แต่พรรคผมไม่ใช่อย่างนั้นนี่ เราทำเพื่อประชาชน

จะอยู่ฝ่ายค้านกูก็ล่อมึงได้เหมือนกัน จนหน่อยก็ช่างมัน ก็พอมีกิน พอใช้ พอแล้ว ไม่มีปัญหา ไม่เหมือนพรรคบางพรรคตั้งแต่รุ่นพ่อแล้ว เลียปากแผล็บ ๆ รู้ใช่ไหมพรรคอะไร พรรคที่อยู่รัฐบาลตอนนี้

เราก็ไม่ไป ก็ต่อสู้กันมาอย่างนี้ ทีนี้ก็ใกล้จะหมดวาระแล้ว ผมก็ทำงานของผมเต็มที่นะ ส.ส.ของผมก็ทำงานเต็มที่ พรรคเสรีรวมไทยได้ชื่อว่าเป็นพรรคที่มีระเบียบวินัยมากที่สุดในสภา เสียงไม่แตกเลย มีมติอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่เหมือนพรรคอื่นเสียงแตกหมด เดี๋ยวคนโน้นก็ถูกเขาซื้อ แต่ตัวยังไม่ได้ย้ายพรรค นั่งอยู่ตรงนี้ แต่ไปยกมือให้ฝ่ายโน้น

เพราะส.ส.ใช้เงินมาเป็นส.ส. ก็ต้องหาเงินไปใช้จ่าย แล้วเพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้าอีก เพราะฉะนั้น ยกมือมันก็เอาเงิน จะโหวตคะแนนอะไรมันก็เอาเงิน จะโหวตไม่ไว้วางใจประยุทธ์มันก็เอาเงิน ถึงมีข่าวอย่างงี้ไง

เพราะฉะนั้น ผิดหวังมาก การเลือกตั้งปี 2562 มันไม่ได้เป็นตามที่ใจคิดหรอก เพียงแต่ว่า เราก็ได้ทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผมได้รับความไว้วางใจตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ของสภาผู้แทนราษฎร ผลงานเพียบเลย

The People: บทบาทประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ของสภาผู้แทนราษฎร

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: ยิ่งทำให้ประชาชนมากก็ยิ่งมามาก ประชาชนเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน ข้าราชการที่ถูกร้องมากที่สุดคือ ข้าราชการกรมที่ดินกับกรมป่าไม้ ไม่ใช่ตำรวจที่ถูกร้องมากที่สุด

ใครทำไม่ดี ผมก็ส่งป.ป.ช. ดำเนินคดี แต่ถ้าไม่ผิดถึงดำเนินคดีก็ส่งไปให้หน่วยเขาดำเนินการวินัย แต่ถ้าสอบแล้วไม่ผิด เราก็ยุติเรื่องไป

The People: เคยใช้อำนาจประธานคณะกรรมาธิการฯ เรียกนายกรัฐมนตรี

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: ใช่ มีใครกล้าเรียกบ้าง ตอนนั้นผมเรียกคุณประยุทธ์กับคุณประวิตรมา เพราะทำผิดรัฐธรรมนูญ เรื่องอะไรรู้ไหม

เรื่องถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ เอาเทปมาเปิดเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ครบ เพียงแต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ยอมรับ

ก็เห็น ๆ ในกรรมาธิการผม เรียกเขาก็ไม่มา ผมก็จะดำเนินคดีแล้วนะ ตอนนั้นมีพระราชบัญญัติคำสั่งเรียก ถ้าเรียกแล้วไม่มาจะมีโทษปรับ ผมจะปรับนายกรัฐมนตรี แล้วมีการไปยกเลิกกฎหมายนั้น

แล้วหลังจากนั้น ก็มีการเอาตัวแสบเข้ามา 2 คน คือ สิระ เจนจาคะ กับ ปารีณา ไกรคุปต์ เข้ามาป่วนผมทุกอย่าง ไม่ให้ผมทำงาน มาป่วนหาเรื่อง จนกระทั่งผมก็จัดการซะ คือตอนนี้ตายไปจากการเมืองแล้ว หมดสภาพทั้งคู่ แล้วผมก็ทำงานเยอะแยะ

“กูเป็นฝ่ายค้านก็ล่อมึงได้” บทสัมภาษณ์เต็ม ‘เสรีพิศุทธ์’ จาก ผบ.ตร. สู่ ส.ส. ซัดประยุทธ์

The People: เคยเรียกเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาชี้แจง

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: นี่ใกล้เลือกตั้ง กกต. ก็ออกข้อกำหนดมา ห้ามปฏิบัติอย่างไร ให้ปฏิบัติอย่างไรได้บ้าง ก่อนการเลือกตั้ง 180 วัน แล้วเผอิญช่วงมีน้ำท่วมเยอะแยะ กกต. ก็ห้ามไม่ให้ฝ่ายการเมืองลงไปแจกของ ห้ามฝ่ายค้านลงไปแจกของ แต่ขณะเดียวกันรัฐบาลไปได้ เอางบประมาณไปในตำแหน่งนายกฯ ตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งหลาย เฮ้ย อย่างนี้ก็เอาเปรียบกันดิ

อย่างน้อยถ้าจะเป็นธรรม เมื่อห้ามฝ่ายหนึ่งก็ต้องห้ามอีกฝ่ายหนึ่ง ต่อให้ห้ามทั้ง 2 ฝ่าย ไปแจกกัน เราก็ยังเสียเปรียบเพราะฝ่ายรัฐบาลเอาเงินงบประมาณไปแจก ฝ่ายค้านต้องเอาเงินพวกเราไปแจก ต่อให้แจกได้ทั้งหมดทุกฝ่าย เราก็เสียเปรียบ แจกสู้ไม่ได้ แล้วมาห้ามทำไม

ผมเลยใช้อำนาจประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เรียกเลขาธิการ กกต. มาชี้แจง บอกเป้าหมาย กกต.สุจริตและเที่ยงธรรม แล้วอย่างนี้สุจริตไหม เที่ยงธรรมไหม คนนี้แจกได้ คนนี้แจกไม่ได้ แล้วห้ามยุบยับเลย ไปงานแต่งก็ช่วยเงินเขาไม่ได้ ไปงานศพก็ช่วยเงินเขาไม่ได้ นี่งานประเพณี คนไม่เคยลงเลือกตั้งมาออกกฎหยุมหยิม แล้วมาห้ามโน่นห้ามนี่ ออกมาทำไมข้อกำหนดอะไรแบบนี้

ผมบอกถ้าไม่แก้จะชี้มูลไม่สุจริต และไม่เที่ยงธรรม ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ เขาจึงยอมไปแก้ ขอเวลา 10 วันแล้วจะเสนอให้ กกต. เห็นชอบ

ก็คือ เขาก็ทำหน้าที่ของเขา เราก็ทำหน้าที่ของเรา แต่ถ้าเขาทำไม่ถูก เราก็เรียกเขามาได้ ในเรื่องปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แต่ถ้าเราทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เขาก็เรียกเราไปได้ ก็หน้าที่ใครหน้าที่มัน

The People: การใช้งบประมาณของทหาร

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: กำลังราชการ ทหารเอาไปกินหมด ผมเคยเรียกเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายจัดที่ดินแห่งชาติมา พี่น้องประชาชนเดือดร้อนกันมากเลยเรื่องที่ดินทำกิน ผมเรียกมาชี้แจง แล้วผมถามว่าคุณมีกำลังเท่าไหร่ เขาบอกมี 71 คน ซึ่งผมมองว่าจะไปทำให้คนทั้งประเทศได้ยังไง ผมก็ไปคุยกับ กพ. เขาก็ให้มาอีก 40 กว่าคน รวมร้อยต้น ๆ ก็ยังไม่พอหรอก

แต่พอเรื่อง ‘กรศศิร์ บัวแย้ม’ ตำรวจหญิงที่เอาทหารหญิงมารับใช้ ผมเรียกเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) มาชี้แจงกำลังพลมีเท่าไหร่ ปรากฎมี 80,000 กว่าคน มีทำบ้าอะไร

โกงทั้งนั้น เอาคนโน้นคนนี้มาอยู่ ได้เงินเดือนจากส่วนราชการตัวเอง เป็นทหารเอามาก็ได้เงินเดือนของทหาร เป็นตำรวจก็ได้เงินเดือนของตำรวจ ได้ค่าตอบแทน เงินพิเศษ ได้ทวีคูณ คิดเป็นบำนาญ ได้เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบ (พ.ส.ร.) มันเอาเข้าไปโดยไม่ได้ทำงานกันหรอก มันถึงไม่สงบไง เนี่ยพวกนี้โกงชาติ โกงแผ่นดินทั้งนั้น

The People: การตัดสินใจรวมเสียงกับ 'ฝ่ายประชาธิปไตย' ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดพลาด?

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: ไม่ผิดพลาดเลย การลงสมัครส.ส. เป็นผู้แทนราษฎร เขาบอกเหรอ จะต้องเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เพียงแต่ว่าใครจัดรัฐบาลได้ จับมือกับพรรคไหนบ้างก็ได้ไปเป็นรัฐบาล แต่ผมไม่ได้คิดแบบเขานี่ จะเป็นรัฐบาลก็ได้ เป็นฝ่ายค้านก็ได้ เราทำหน้าที่

ไม่เหมือนหลาย ๆ พรรค ยังไงกูก็ต้องเป็นรัฐบาลอะไรทำนองนั้น เป็นรัฐบาลเป็นไปทำไม ก็ไปหาผลประโยชน์กัน

The People: ในอนาคต ถ้าอยู่ตรงข้ามกับพล.อ.ประยุทธ์แล้วต้องเป็นฝ่ายค้าน รับได้หรือไม่

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: รับได้ ไม่มีปัญหาเลย ที่ผมไม่ร่วมกับประยุทธ์เพราะผมไม่ร่วมกับเผด็จการ ดูย้อนหลังสิ ประวิตรเกษียณไปแล้ว อนุพงษ์เกษียณไปแล้ว 2 คนนี้จะมายึดอำนาจได้ยังไง ยึดไม่ได้ เพราะไม่มีกำลังอยู่ในมือ

ประยุทธ์เป็น ผบ.ทบ. ก็เป็นคนยึดอำนาจ แล้วก็ไปเชิญพี่(2ป.) มาร่วม เพราะฉะนั้น คนยึดอำนาจจริง ๆ ก็คือ ประยุทธ์ ถึงได้เป็นนายกฯ ไง

ปกติ ป้อม(ประวิตร)ก็เลี้ยงป๊อก(พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ป๊อกก็เลี้ยงประยุทธ์

ถ้าประยุทธ์จะกตัญญูก็ให้ประวิตรเป็นนายกฯ สิ นี่มันไม่ได้กตัญญูเลยนี่ กูยึดอำนาจกูเป็นนายกฯ นะ มึงมาเป็นลูกน้องกู อะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้น คนเผด็จการจริง ๆ คือ ประยุทธ์

ผมถึงบอก ถ้าจะรวมกับใครก็รวมได้ ยกเว้นประยุทธ์

ลองดู เลือกตั้งเสร็จ ผมยังไม่รู้ว่าผมได้เท่าไหร่นะ เพียงแต่ว่าให้ลองดูฝีมือผมบ้าง

The People: มองความสัมพันธ์พล.อ.ประวิตร กับพล.อ.ประยุทธ์ อย่างไร

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: ประวิตร กับ ประยุทธ์ ก็คงแยกกันจริง ประวิตรรุ่นพี่ปกครองประยุทธ์มานี่ ผมเป็นตำรวจไม่เคยให้รุ่นน้องปกครองนะ ผมจะนำรุ่นมาเรื่อย ๆ ไม่มีรุ่นน้องปกครอง เพราะฉะนั้น เล่นการเมืองก็เดี๋ยวดูเอานะครับ

The People: การเลือกตั้งครั้งต่อไป

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: ก็ทำเต็มที่ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่เหมือนกับคนอื่น กูต้องเอาให้ได้เป็นพรรคอันดับหนึ่ง ตอนนี้ก็ต้องซื้อแหลก ส่งคนไปซื้อ ๆ ๆ พรรคตั้งใหม่ 'รวมไทยสร้างชาติ' พรรคที่คุณประยุทธ์จะไปอยู่ด้วย

'รวมไทย' ก็มาจากชื่อผม 'เสรีรวมไทย' ส่วน ‘สร้างชาติ’ ก็เอามาจาก motto ของผม ‘รวมพลังสร้างชาติ’ ลอกผมทั้งนั้น แล้วตอนนี้ใครจะไปอยู่รวมไทยสร้างชาติ ถามว่ามึงไป ไม่รับเงินเขาเหรอ แม่งซื้อตัวกันทั้งนั้น ใครอยู่ประชาธิปัตย์ตั้งนาน โอ้โห แล้วจะย้ายไปทำไม ก็เขาซื้อตัว บางคนแก่แล้ว แม่งก็ขอมีเงินกินก่อนตายก็แล้วกัน

“กูเป็นฝ่ายค้านก็ล่อมึงได้” บทสัมภาษณ์เต็ม ‘เสรีพิศุทธ์’ จาก ผบ.ตร. สู่ ส.ส. ซัดประยุทธ์

The People: พรรคเสรีรวมไทย ไม่ยุบไปรวมกับพรรคใหญ่

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: ไม่ไป เราอยู่อย่างนี้ เราเป็นใหญ่อยู่แล้ว ไปรวมกับเขาแล้วเราจะเป็นใหญ่ได้ยังไง

ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยเป็นใหญ่ ใครก็ต้องเอาผมทั้งนั้น แม้พรรคเราจะไม่ได้มีส.ส.มากมายไม่สามารถจัดรัฐบาลเองได้ แต่คนก็ต้องง้อผม อยากได้ผมทั้งนั้น ถามว่าหัวหน้าพรรคแต่ละคนมีผลงานอะไรมา

บางพรรคเคยเป็นรองนายกฯ มากี่สมัยแล้ว แล้วตอนนี้ประกาศจะเป็นนายกฯ ปัดโธ่เอ๊ย ก็มึงเป็นแล้วยังทำไม่สำเร็จ แล้วจะมาทำสำเร็จได้ยังไงตอนนี้

The People: สามปีพรรคเสรีรวมไทย

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: สามปีที่ผ่านมา ผลงานพรรคเสรีรวมไทยเยอะเลย จะได้ส.ส. เพิ่มมากอีกเยอะแยะ แต่ตอนนี้มีการเปลี่ยนกติกา ก็แล้วแต่ เราก็ทำให้ดีที่สุด

เดี๋ยวนี้เวลาไปไหน พี่น้องประชาชนก็รู้จักผม รู้จักคนในพรรคมากขึ้น ไปที่ไหนถ้าไม่ได้ถ่ายรูป รู้สึกผิดหวัง จะมีคนมาขอถ่ายรูปตลอดเวลา ไปต่างจังหวัดมา มีคนเดินสวนแล้วชะงัก ถามว่า ท่านเสรีหรือเปล่า ขอถ่ายรูปด้วย

ไปจอดแวะร้านข้าวต้มก็มีคนมาขอถ่ายรูป ก็คิดว่าเสียงก็ดีขึ้น แต่มีกติกาแบบใหม่เลยยังเดาไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร

เป็นเสรีพิศุทธ์นี่ก็ดังนักหนาแล้ว รัฐมนตรีคนอื่นมันดังสู้ผมไหม รู้จักรัฐมนตรีท่องเที่ยวไหม รู้จักรัฐมนตรีทรัพยากรไหม ปัดโธ่

The People: หลังเลือกตั้งปี 2562 ได้รับการสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบเพิ่มขึ้นด้วย จะสื่อสารอย่างไรกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีเพดานการเมืองแตกต่างออกไป เช่น มีข้อเสนอปฏิรูปสถาบัน มีข้อเสนอแก้ไขจนไปถึงยกเลิกมาตรา 112

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส: คือรุ่นใหม่เกิดไม่ทันผม ตอนนี้ผม 74 ปี ย่าง 75 ปีแล้ว ถ้าคนอายุ 18 ปี ก็คือรุ่นที่เกิดตอนผม 60 ปลาย ๆ แล้ว เกิดมา 18 ปี เด็กรุ่นใหม่ยังไม่รู้จักผม ตอนเลือกตั้งเขาก็ไปเลือกพรรคอื่นกัน ถ้ารู้จักก็จะรู้ว่าอะไรเป็นยังไง

ถ้าคนเกิดทันผมแล้วจะรู้ว่าผมโชกโชน ไม่มีอะไรที่ผมคิดแล้วทำไม่ได้ ต้องทำได้

ส่วนเด็กรุ่นใหม่เห็นพรรคการเมืองหนึ่งหนุนเด็ก พรรคการเมืองนั้นก็ฉลาดนะ รู้ว่าเด็กมีกำลังมาก กูก็เล่นกับเด็กนี่แหละ เด็กก็เชียร์ ๆ หลับหูหลับตาเชียร์

คนไทยเนี่ยทำโพล์ออกมา บางครั้งคนไม่เคยทำอะไร กลายเป็นคนเหมาะสมจะเป็นนายกฯ

ส่วนที่ถามเรื่อง มาตรา 112 ตอนนี้มี 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งก็กลัวสถาบัน ก็บอกไม่เปลี่ยน อีกฝ่ายหนึ่งก็บ้า ๆ บ๊อง ๆ กูจะปฏิรูปให้ได้ แบ่งเป็น 2 ฝ่าย แต่มันไม่รู้ข้อเท็จจริงกันหรอกว่าอะไรผิดถูกทั้งคู่นั่นล่ะ

ส่วนแนวคิดในการปฏิรูปสถาบันของผม ต้องเอากฎหมายมาดู ที่เป็นปัญหาก็คือ มีการเอา 2 เรื่องมารวมกัน ดูหมิ่น หมิ่นประมาท ซึ่งไปด้วยกันได้ กับ อาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ มารวมกันโทษก็เลยสูง ถามว่า อาฆาตมาดร้าย ลอบปลงพระชนม์ วางแผน ทำไมมารวมกับดูหมิ่น ก็เอาตรงนี้ออกไปสิ ออกไปแยกมาตรา ก็จะเหลือดูหมิ่น หมิ่นประมาท ลดโทษเหลือ 3 ปีก็ได้

ฉะนั้นโทษที่ใครดูหมิ่น หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ จะบอกไม่ต้องลงโทษมันก็ไม่ได้ ใครหมิ่นเรา เราฟ้อง ศาลยังลงโทษเลย แล้วใครหมิ่นกษัตริย์ จะไม่ถูกลงโทษเหรอ ก็กำหนดโทษไม่เกิน 3 ปี ไม่ดีกว่าเหรอ ได้ทั้ง 2 ฝ่าย ต่อไปนี้ประชาชนคนไหนไปดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ไม่ต้องติดคุก 10-15 ปี เหลือแค่ 3 ปี ได้ทั้ง 2 ฝ่าย

พวกหนึ่งจะยกเลิก พวกหนึ่งก็ไม่เอา สรุปแล้วประชาชนแย่

ประเทศไทยอยู่ได้เพราะกษัตริย์ อย่างกรุงเทพฯ จากรัชกาลที่ 1 มาถึงรัชกาลที่ 10 ก็ลูกหลานรัชกาลที่ 1 ที่สร้างกรุงเทพมหานครมา เพราะฉะนั้น กษัตริย์มีบุญคุณกับประเทศไทยมาก ใครจะมาคิดว่าท่านใช้ชีวิตแบบนั้นแบบนี้ ไม่ถูกเรื่อง นั่นชีวิตส่วนตัวท่าน แต่สถาบันกษัตริย์ก็คือสถาบัน