13 พ.ค. 2562 | 15:15 น.
เนวิน ชิดชอบ คือใคร? นี่อาจเป็นอีกหนึ่งคำถามเช็คอายุ เพราะถ้าคุณเป็นคนวัยเลยเบญจเพส จะจดจำชายคนนี้ได้ในฐานะนักการเมืองรุ่นใหญ่ ฉายายี้ห้อยร้อยยี่สิบ เจ้าของวลี "ทุกอย่างจบแล้วครับนาย" และภาพคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวเปลี่ยนสีสลับขั้วทางการเมืองไปมาได้อย่างแนบเนียน และมีบทบาทสำคัญทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังในประวัติศาสตร์การเมืองไทยมานานหลายสิบปี แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ อาจจะคุ้นเคยภาพ “ลุงเนวิน” ใส่เสื้อบอลทีมบุรีรัมย์ สวมกางเกงขาสั้น ตะโกนสั่งการนักเตะอยู่ข้างสนามตลอดเวลา หรือไม่ก็ภาพเนวินในชุดนักบิดควบบิ๊กไบค์คันโตในสนามโมโตจีพี หรืออาจจะรู้จักเนวินในฐานะคนแรก ๆ ที่ผลักดันกัญชาเสรีในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยการจัดงาน “พันธุ์บุรีรัมย์” ในปี 2562 อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ชายคนนี้ปรับบทบาทตัวเองจากนักการเมืองฟูลไทม์ มาเป็นนักพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์บ้านเกิดของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ติดตามได้จากบทสัมภาษณ์นี้
ไอ้คนมีอำนาจตามกฎหมาย กับมีอำนาจเงิน จับมือกันจะเก็บค่าทางด่วน super highway ที่จะเกิดขึ้นจากกัญชา มันก็เลยเป็นปัญหา
The People : ปลูกเยอะทำให้มีปัญหาราคาตกต่ำ เนวิน : ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา คือหนึ่งกัญชามันต่างจากยาสูบ ยาสูบมันปลูกแล้วมันมีการกำหนดโควตา เพราะมีการรณรงค์ในการสูบ มันมีปัญหาต่อสุขภาพร่างกาย เป็นมะเร็ง มีโอกาศเสพติดมากกว่ากัญชา แต่กัญชาในความเป็นจริงความเข้าใจของผมนี่ มันใช้เป็นยารักษาโรค ใช้เป็นอาหารเป็นเครื่องดื่มที่มีผลดีต่อสุขภาพในสัดส่วนมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ผมยังไม่เห็นทางการแพทย์ว่าใช้กัญชาเพื่อสูบเป็นยารักษาโรค ผมเห็นเขาสกัดเป็นน้ำมัน ปรุงเป็นอาหาร หรือผสมเป็นยา กินเข้าไปเพื่อรักษาโรค เพราะฉะนั้นมิติมันต่างกัน แล้วมันไม่ใช่ยาที่รักษาโรคเดียว มันเป็นยาที่รักษาสารพัดโรค แล้วมันรักษาโรคที่คนส่วนใหญ่เป็นกันมากที่สุดคือมะเร็ง เรานับวันนี้ว่าโลกใบนี้มีคนเป็นมะเร็งเท่าไหร่ มีคนมีอาการออทิสติกเท่าไหร่ มีคนเป็นโรคพาร์กินสันอีกเท่าไหร่ มีคนเป็นเก๊าท์อีกเท่าไหร่ แล้วสุดท้ายจากประสบการณ์ที่ผมเห็นมาเลยก็คือคนเป็น HIV ก็ยังใช้กัญชารักษาได้ นี่เรายังไม่นับไมเกรน แล้วก็โรคเครียด โรคนอนไม่หลับ แล้ววันนี้นี่เราจนเจ๊ง ทำให้เป็นไมเกรน นอนไม่หลับเยอะแยะไปหมดล่ะ
ถ้าเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีในรัฐธรรมนูญ ก็ผมโชคดีที่ได้ตายเร็วกว่า เพราะตอนนี้ผม 60 กว่า แล้วไปปรับทัศนคติด้วยกัน
The People : มองประเทศไทยในอีก 20 ปีข้างหน้ายังไงบ้าง เนวิน : ถ้าเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีในรัฐธรรมนูญ ก็ผมโชคดีที่ได้ตายเร็วกว่า เพราะตอนนี้ผม 60 กว่า แล้วไปปรับทัศนคติด้วยกัน (หัวเราะ) The People : คิดอย่างไรกับยุทธศาสตร์ชาติ เนวิน : คือมันต้องทำให้ทุกคนเข้าใจแล้วเข้าถึงนะ อย่าไปตีกรอบเอาความคิดของตัวเองมากำหนดเส้นทางเดินให้คนอื่น ไม่อย่างนั้นประเทศไทยไปไม่ได้หรอก วันนี้คุณรู้ได้อย่างไรว่า 20 ปีข้างหน้าที่เขียนในยุทธศาสตร์ชาติ โลกมันจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน เมื่อสิบปีที่แล้วคุณว่าแอร์ไทม์มีเดียทีวีมีมูลค่าเท่าไหร่ มาถึงวันนี้ทีวีเจ๊งกันจนคุณต้องออก ม.44 อุ้มทีวีเพราะว่ามันเจ๊ง เพราะโลกมันเปลี่ยนไง คิดได้ยังไงกับการมากำหนดประเทศนี้ ต้องมี roadmap มียุทธศาสตร์ของตัวเอง 20 ปี วันนี้มันคือ economy of speed นะครับ เพราะฉะนั้นการอยู่กับ economy of speed มันต้องปรับตัวได้ตลอดเวลา และต้องปรับตัวได้เร็ว วันนี้เรารู้อยู่แล้วว่าโลกนี้ใครเร็วกว่า ใครคิด ใครทำก่อน คนนั้นก็จะประสบความสำเร็จก่อน การตีกรอบยุทธศาสตร์แห่งชาติ 20 ปีไว้ ผมว่ามันเป็นมรดกบาปให้กับลูกหลานคนไทยในอนาคตครับ