09 พ.ค. 2566 | 17:00 น.
หากกล่าวถึงชื่อ ‘ลีเดีย - ศรัณย์รัชต์ ดีน’ แน่นอนว่าเราก็คงนึกถึงเธอในภาพการเป็นศิลปิน นักร้อง R&B และนักแสดง ที่มีผลงานฝากไว้ให้เราได้จดจำหลายชิ้น ถือเป็นโอกาสอันดีที่ The People ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอถึงเรื่องต่าง ๆ
แต่ในคราวนี้อาจจะต้องสลัดเรื่องราวผลงานด้านบันเทิงและแสงสีระยิบระยับไปเสียก่อน เพราะสิ่งที่ The People อยากจะชวนลีเดียคุยถึงคือในด้านของชีวิต ครอบครัว และมูลนิธิ Care for Children ที่เธอเองอยากเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยตีแผ่เรื่องราวดี ๆ นี้ให้กับใครอีกหลายคน
บทบาทของเธอที่จะมานั่งคุยกับเราในวันนี้คือการเป็น ‘แม่’ หรือหนึ่งในผู้มอบไออุ่นของครอบครัวให้แก่ ‘ลูก’ ว่ามีความสำคัญต่อเส้นทางการเติบโตอย่างไรบ้าง และการได้โอบอุ้มดูแลชีวิตของใครสักคนหนึ่ง มันช่วยเปลี่ยนโลกทั้งใบของ ‘เขา’ และ ‘เธอ’ ไปอย่างไร สามารถติดตามได้ในบทความนี้
ไออุ่นของครอบครัวและมูลนิธิ Care for Children
“พอเราได้รู้ว่า Care for Children คืออะไร เราก็รู้สึกว่ามันดีมาก ๆ เพราะเราเองก็มีลูก 3 คน เราก็ทราบดีว่าความสำคัญของการเลี้ยงเด็กสักคนให้โตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ มันไม่ใช่แค่ให้อาหาร จับอาบน้ำ แล้วส่งเข้านอน แต่มันเกี่ยวกับว่าเขาจะเติบโตอย่างไรให้มีคุณภาพ ซึ่งเราจะต้องเอาใจใส่เขา ให้ความรักเขา ให้เวลากับเขา ทำให้เขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกมีตัวตน
“ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าสิ่งแรกที่สำคัญที่เด็กคนหนึ่งควรจะได้รับคือความรักจากพ่อและแม่ หรือครอบครัว”
คือเหตุผลที่ ‘ลีเดีย - ศรัณย์รัชต์ ดีน’ ตัดสินใจเป็นหนึ่งกระบอกเสียงที่อยาจะมุ่งแพร่กระจายและสนับสนุนปณิธานของ ‘Care for Children’ มูลนิธิ ที่มุ่งหาและสนับสนุน ‘ครอบครัวอุปถัมภ์’ (Foster Family) ให้แก่เยาชนที่ต้องใช้ชีวิตในสถานสงเคราะห์โดยปราศจากผู้ปกครองในหลาย ๆ ประเทศ ที่ครอบคลุมถึงประเทศไทยด้วย
“เมื่อกล่าวถึง Care for Children เดียคิดว่าเป็นอะไรที่ดีอย่างมากเลย เพราะประเทศเราก็มีเด็กกำพร้าเยอะ มีสถานสงเคราะห์มาก ซึ่งเราก็เคยมีโอกาสได้ไปและเคยเห็นการเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ที่นั่น
“ในบางทีที่พวกเขาร้องไห้ เขาอาจจะไม่ได้รับการโอ๋ การกอด หรือความรักเหมือนที่ครอบครัวสามารถให้ได้ บางทีสิ่งที่เดียเห็นคือพวกเขาทำได้แค่ปลอบตัวเองด้วยการนั่งกอดตัวเองแล้วโยก มันเป็นวิธีเดียวที่เขาจะปลอบประโลมตัวเองได้”
สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ลีเดียตั้งคำถามว่า ถ้าเด็กเหล่านั้นได้รับไออุ่นของครอบครัวที่จะสามารถเลี้ยงเขาได้อย่างมีคุณภาพและเข้าใจ มันจะทำให้เยาวชนในสังคมเราเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพมากขึ้น และสนใจในเป้าหมายของ Care for Children เป็นอย่างมาก
แต่คำถามต่อมาที่อาจจะเกิดขึ้นคือ ‘ครอบครัวอุปถัมภ์’ หรือ ‘Foster Family’ คืออะไร? มีความแตกต่างจาก ‘การรับบุตรบุญธรรม’ หรือ ‘Adoption’ อย่างไร?
“โครงการนี้จะไม่เหมือนกับการ Adoption เพราะว่าการ Adoption คือการนำเอาเด็กคนหนึ่งมาเป็นลูกเราเลย แต่ในด้านของครอบครัวอุปถัมภ์จากมูลนิธิของ Care for Children จะมีการสนับสนุนจากภาครัฐ ในด้านของการเรียนหรือสุขภาพ”
คือคำอธิบายความแตกต่างจากลีเดีย ก่อนที่เธอจะบรรยายต่อว่า หากมีคนทราบถึงเรื่องนี้ในวงกว้างกว่าเดิม อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระจายไออุ่นของครอบครัวไปสู่เยาวชนอีกมากมายที่กำลังต้องการอยู่ก็ได้ เธอจึงสนใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพูดถึงและแพร่กระจายเรื่องเหล่านี้ ให้ไออุ่นที่เด็กควรได้รับส่งถึงเด็กทุกคนที่ต้องการ
โลกทั้งใบที่เปลี่ยนแปลง
อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย อาจจะมองเหมือนเป็นแค่สภาพแวดล้อม อาจจะคิดว่าเป็นปัจจัยที่ไม่สำคัญ แต่หารู้ไม่ว่า ‘ครอบครัว’ อาจจะเป็นสิ่งที่พลิกโลกทั้งใบให้กับคน ๆ หนึ่งได้อย่างเกินความคาดหมาย The People จึงได้เอ่ยถามลีเดียว่า การที่เด็กคนหนึ่งมีครอบครัวมาชี้แนะและคอยโอบกอดระหว่างเส้นทางการเติบโต จะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบของเด็ก ๆ เหล่านั้นไปอย่างไรบ้าง
“เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเลยแหละค่ะ อย่างเดียมีลูก 3 คน เราจะรู้เลยว่ามันสำคัญขนาดไหนในการที่เราจะสอนเขาในแต่ละวันให้เขาโตขึ้นมา อย่างในวัยแบเบาะ เขาก็จะเรียนรู้ตามพัฒนาการของเขา พอขยับมา 2-3 ขวบ เขาก็ต้องคำสอน ความรัก และความห่วงใยจากผู้ปกครอง ยิ่งวัยรุ่นยิ่งต้องมี guidance ที่ดีจากผู้ปกครอง ที่จะทำให้เขาเลือกตัดสินใจในสิ่งที่เหมาะ ที่ควร และจะทำให้เขาเติบโตเป็นคนที่ดี
“ไม่ได้บอกว่าสถานสงเคราะห์ไม่ดีนะคะ คือพวกเขาก็ดี เพราะเขามอบโอกาสและทำให้เด็กที่ถูกพ่อแม่ทิ้งมีโอกาสที่จะมีชีวิต มีการศึกษา เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ แต่ถ้าจะให้ดีมากกว่านั้น ‘Family’ คือสิ่งที่จะเติบเต็มให้เขาเป็นคนที่มีคุณภาพมาก ๆ อีกคนหนึ่ง และเป็นคนที่ได้รับความรับจริง ๆ”
เราจะเห็นได้ว่าความพิเศษที่ครอบครัวสามารถมอบให้คือ ‘ความใส่ใจ’ ที่จะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้เด็กคนหนึ่งเติบโตไปอย่างมีคุณภาพ การจะฟูมฟักให้เด็กคนหนึ่งเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ การให้ข้าว น้ำ หรือที่อยู่อาจไม่ใช่ทั้งหมด แต่เป็นการโอบกอด พูดคุย และชี้แนะอย่างเข้าใจในรายละเอียด และคงหาสิ่งนั้นจากที่ไหนไม่ได้ นอกเสียจากครอบครัว
เราเริ่มจากการถามโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของเด็กจากมุมของผู้ปกครอง คำถามต่อมาจึงอยากจะเปลี่ยนมุมมองกันดูบ้าง ว่าการได้มีโอกาสดูแลฟูมฟักให้เด็กสักคนหนึ่งเติบโตขึ้นมา ในฐานะผู้ดูแล โลกทั้งใบของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง?
“มันเติมเต็มเราจากการที่เราได้เห็นเขาพัฒนา ได้เห็นเขาเริ่มชิมข้าวคำแรก ผลไม้คำแรก เพียงแค่เราได้เห็นเขามีความสุขจากการที่ได้ชิมอะไรใหม่ ๆ ได้ทำอะไรใหม่ ๆ ได้เห็นรอยยิ้มและได้ฟังเสียงหัวเราะ แค่นี้เอง เราไม่ต้องไปกินเอง หรือได้ทำเอง เพียงแค่มองเขาเราก็รู้สึกว่ามันเติมเต็ม”
หลังจากนั้นลีเดียก็ทิ้งท้ายกับเราเอาไว้ว่า การได้ดูแลใครสักคนหนึ่ง ความสุขมันไม่ได้อยู่ตรงที่ว่าเรามอบความรักให้กับเขา แต่เขาคนนั้นก็ยังได้มอบความรักและความสุขกลับมาหาเราเช่นเดียวกัน ดังที่เธอเห็นจากประสบการณ์ของตัวเธอเอง และเรื่องราวจากเหล่าครอบครัวอุปถัมภ์ที่มาแบ่งปันประสบการณ์จากมูลนิธิ Care for Children
นิยามของคำว่า ‘ครอบครัว’
“หากเปรีนยบเด็กคนหนึ่งเป็นบ้านหนึ่งหลัง ครอบครัวก็เปรียบเสมือนเสาเข็มที่จะคอยประคองให้คน ๆ หนึ่งโตขึ้นมาได้อย่างมีคุณภาพ”
หลังจากที่พูดคุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับครอบครัวและไออุ่นที่เด็กสักคนหนึ่งควรจะได้รับในขณะที่จะเติบโตขึ้นมา The People จึงย้อนกลับไปถามถึงนิยามของคำง่าย ๆ แต่เป็นรากฐานสำคัญของเรื่องราวทั้งหมดที่เราได้กล่าวกันมา ซึ่งก็คือ ‘ครอบครัว’ กับลีเดีย จึงได้คำตอบเป็นถ้อยความข้างต้น ก่อนที่เธอจะกล่าวต่อว่า
“ครอบครัวคือพื้นที่ที่ให้ความปลอดภัยกับคนสักคนหนึ่ง ให้ความรักที่จะช่วยเติมเต็มชีวิตของคนแต่ละคน มันจะช่วยส่งเสริมและเติมเต็มซึ่งกันและกัน
“เด็กคนหนึ่ง ถ้าได้รับการชี้แนะแนวทางที่จะทำให้เขาเติบโตไปในเส้นทางที่ถูกต้อง ลีเดียคิดว่าเราก็จะสามารถมีเยาวชนรุ่นถัดไปที่มีคุณภาพมาช่วยดูแลคนรุ่นอย่างพวกเราในตอนนี้ด้วย”
ไม่เพียงแค่การมอบไออุ่นของครอบครัวให้แก่เยาวชนที่ไม่เคยได้รับจะเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนรุ่นที่จะมารับช่วงต่อในการรับผิดชอบอนาคตต่อจากเรา แต่ลีเดียยังเล่าต่ออีกว่า โดยเฉพาะกับในสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่สภาวะสังคมผู้สูงอายุที่มีปริมาณการเกิดน้อยลงกว่าเมื่อก่อน หากเราสามารถฟูมฟักอนาคตของสังคมให้มีคุณภาพได้ วันพรุ่งนี้ของประเทศก็น่าจะมีความหวังและสดใสมากขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะก้าวแรก ๆ ของชีวิต ๆ หนึ่งที่กำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ อาจไม่ต้องการความหรูหราหรือความพิเศษมากมายใด ๆ เพียงแค่ความห่วงใยและความใส่ใจจากไออุ่นของครอบครัวก็สามารถเปลี่ยนโลกจากหลังมือเป็นหน้ามือได้ในพริบตา ขอเพียงแค่เราหันมาเห็นใจและใส่ใจไออุ่นเหล่านี้ให้มากขึ้น เพียงแค่เรา Care for Children ให้มากขึ้น ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้สังคมของเราเดินหน้าไปอย่างมีคุณภาพไม่มากก็น้อย
ณ ตอนนี้ แม้ว่าจะมีเด็กหลายร้อยคนทั่วประเทศไทยได้รับการดูแลด้วยความรักและเอาใจใส่ในครอบครัวในท้องถิ่นจากโครงการของมูลนิธิ Care for Children แต่ก็ยังมีเด็กอีกหลายพันคนที่กำลังรอคอยโอกาสที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่มีความสุข หากสนใจทราบรายละเอียดในการเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ หรือสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อได้ที่
ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร:
สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี - โทร. 02 354 7483
สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ - โทร 02 286 2013
บ้านพักเด็กและครอบครัวทุกแห่งในกรุงเทพฯ - โทร 02 354 7580
ในพื้นที่ภูมิภาค:
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
สถานรองรับเด็ก 33 แห่ง
บ้านพักเด็กและครอบครัว 76 แห่งทั่วประเทศ