ไอริส แอปเฟล แฟชั่นไอคอนวัย 99 ปี ผู้แหกทุกกฎแห่งแฟชั่น

“คนชอบถามว่า กฎในการแต่งตัวของฉันคืออะไร คำตอบคือไม่มีกฎอะไรทั้งนั้น เพราะต่อให้มี ฉันก็แหกทุกกฎ”

ด้วยทรงผมซอยสั้น แว่นตาอันใหญ่ และเสื้อผ้าลวดลายแปลกตาสีสันสดใส ทำให้ ไอริส แอปเฟล (Iris Apfel) ในวัย 99 ปี ยังคงเป็นที่พูดถึงในแวดวงแฟชั่นไม่ขาดปาก นอกจากจะเป็นที่รู้จักในฐานะนักสะสมเสื้อผ้าและเครื่องประดับแปลกตาแล้ว ไอริสยังเซ็นสัญญากับ IMG โมเดลลิ่งชื่อดังระดับโลก ที่มีซูเปอร์โมเดลอย่าง คาร์ลี คลอส, โจแอน สมอลส์, เคต มอส รวมทั้งสองพี่น้องอย่าง จีจี้ และ เบลล่า ฮาดิด อยู่ภายใต้สังกัดเดียวกันอีกด้วย ไอริส แอปเฟล ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงแฟชั่นของนิวยอร์ก แต่ก่อนที่เธอจะโด่งดังในด้านนี้ ที่จริงเธอเคยมีชื่อเสียงอย่างมากในแวดวงนักออกแบบภายใน ย้อนกลับไปในปี 1921 ไอริส บาร์เรล (นามสกุลเก่า) เป็นลูกสาวคนเดียวที่เติบโตมาในครอบครัวแสนอบอุ่น เธอมีพ่อเอาการเอางานและแม่ที่รักการแต่งตัวเป็นชีวิตจิตใจ แม่ของไอริสมักจะจับลูกสาวใส่ชุดสีสันสดใส มันคงไม่แปลกอะไรถ้าเธอจะโตกับความสนใจด้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ไอริสเรียนจบด้านศิลปะที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ก่อนจะเริ่มงานประจำที่ Women's Wear Daily เธอทำงานเป็นผู้ช่วยของนักออกแบบตกแต่งภายในชื่อดัง เอลินอร์ จอห์นสัน และนักออกแบบลวดลายชื่อโรเบิร์ต กู้ดแมน ปี 1948 ไอริส แต่งงานกับคาร์ล แอปเฟล และก่อตั้งบริษัทสิ่งทอชื่อ Old World Weavers ร่วมกัน โดยคาร์ลทำหน้าที่บริหาร ส่วนไอริสทำงานในส่วนออกแบบ พวกเขารับงานตกแต่งสถานที่อันหลากหลาย ตั้งแต่บ้านหลังเล็ก ๆ ไปจนถึงอาคารสถานที่ขนาดใหญ่ ไอริสกับคาร์ลเคยรับงานออกแบบตกแต่งภายในทำเนียบขาวให้ประธานาธิบดีถึง 9 คน แถมยังจัดหาคอลเล็กชันผ้าให้พิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง เพราะเหล่าลูกค้าที่มีตำแหน่งสำคัญ มักไม่ชอบการตกแต่งสไตล์ซ้ำกับที่อื่น ไอริสและคาร์ลจึงต้องเดินทางเพื่อเฟ้นหาเนื้อผ้าและแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการตกแต่ง ช่วงเวลานี้เองที่ไอริสเริ่มสะสมเสื้อผ้าและเครื่องประดับหน้าตาแปลก ๆ จากทั่วโลก แน่นอนว่าเธอไม่ได้ซื้อมาเก็บไว้เฉย ๆ แต่ยังนำมาใส่ในชีวิตประจำวัน จนมันกลายเป็นเอกลักษณ์ของเธอไปแล้ว ไม่ว่าจะของมีแบรนด์ ไม่มีแบรนด์ ของมือสอง หรือของราคาถูกจากตลาด จะสีสันเข้ากันหรือไม่เข้ากัน ขอแค่มาอยู่ในมือของไอริส เธอก็เนรมิตให้มันกลายเป็นแฟชั่นได้หมด "คนชอบคิดว่าฉันอยากได้อะไรก็จะได้มาง่าย ๆ ฉันอยากตอบกลับไปว่า ‘จะบ้าเรอะ! กว่าฉันจะได้มาแต่ละอย่างฉันต้องพยายามแทบแย่’ ฉันก็ไม่ได้นิยมต่อราคาแบบโหด ๆ หรอกนะ แต่สำหรับบางที่การไม่ต่อราคาน่ะเป็นเรื่องไม่เหมาะสมเลย คุณอาจจะทำให้คนขายต้องฟุ้งซ่านไปตลอดทั้งวันว่า ‘ทำไมฉันไม่โขกราคามันเพิ่มไปอีกสัก 150 เหรียญกันนะ’ ก็ได้" ไอริส แอปเฟล เริ่มโด่งดังในฐานะแฟชั่นไอคอน เพราะพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทน (Metropolitan Museum of Art) ชักชวนเธอให้นำของสะสมมาจัดแสดงในปี 2005 ฮาร์โรลด์ โคดะ (Harold Koda) ภัณฑารักษ์จากสถาบันเครื่องแต่งกายบอกว่า มันเป็นครั้งแรกที่ทางพิพิธภัณฑ์ ตัดสินใจจัดแสดงคอลเล็กชันเสื้อผ้าและเครื่องประดับจากบุคคลที่ไม่ได้มาจากแวดวงแฟชั่น แต่เพราะงานจัดแสดงก่อนหน้านั้นผลตอบรับไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทางพิพิธภัณฑ์จึงต้องประหยัดงบในการโปรโมทงานของไอริส แม้จะรู้สึกว่างานครั้งนี้จะต้องเป็นอะไรที่แปลกใหม่ แต่เพราะไอริสไม่ใช่คนดังอะไร ทีมงานจึงไม่ได้คาดหวังกับผลตอบรับมาก แต่กลายเป็นว่านิทรรศการ Rare Bird : The Irreverent Iris Apfel ที่ไอริสเข้ามาช่วยออกแบบและจัดวางด้วยตัวเอง กลับได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมอย่างล้นหลาม และสร้างปรากฏการณ์ปากต่อปากจนกลายเป็นงานที่ผู้หลงใหลแฟชั่นต้องมาชมให้ได้  "พวกเขาอาจติดใจที่ฉันหลุดโลก บางคนก็มาเพื่อมองหาอะไรที่ชีวิตพวกเขาขาดหาย ฉันว่าที่งานนี้สำเร็จเป็นเพราะเสน่ห์บางอย่างนั่นล่ะ" ไอริส กล่าวในสัมภาษณ์ คอลเล็กชันเหนือธรรมดาของไอริส สร้างแรงบันดาลใจให้เหล่าดีไซเนอร์และบุคคลทั่วไปอย่างมหาศาล เมื่อประกอบเข้ากับบุคลิกก๋ากั่น คำพูดตรงไปตรงมา ไอริส แอปเฟล จึงก้าวขึ้นมาเป็น ‘ดาวเด่นแห่งมหานครนิวยอร์ก’ ในวัย 87 ปี "ตอนเด็ก ๆ เคยมีคนพูดกับฉันว่า สาวน้อย เธอไม่ใช่คนสวย และเธอจะไม่มีวันสวย แต่มันไม่สำคัญหรอก เพราะเธอมีดีกว่าความสวย เธอมีสไตล์" ไอริสยึดคำกล่าวนั้นและใช้ชีวิตต่อมาอย่างมั่นใจ หลังจากเกษียณอายุจากบริษัทผ้าที่สร้างมากับสามี เธอก็ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานไปกับการทำงาน ทั้งเดินทาง เรียนรู้ และถ่ายทอดมุมมองของเธอให้เด็กรุ่นใหม่ ๆ แม้วัยใกล้จะ 100 ปีเข้าไปแล้ว แต่เธอก็ยังไปเป็นอาจารย์พิเศษในวิชาการออกแบบสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย ให้เด็ก ๆ ในมหาวิทยาลัยเท็กซัส "ฉันพาเด็ก ๆ ไปดูอะไรที่พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าต้องมาดู สอนการขึ้นแบบ สอนการขอใบอนุญาต เรื่องที่พวกเขาอาจไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับแฟชั่นเลย เพราะมันไม่ได้หรูหราฟู่ฟ่า หรือน่าตื่นตาตื่นใจ แต่รู้อะไรไหม มันจำเป็นนะ วงการแฮนด์คราฟต์กำลังจะถึงจุดจบอยู่แล้ว ถ้าไม่มีใครสอนอะไรเด็ก ๆ เลย อีกไม่นานก็จะมีแต่ของโหล ๆ ที่หลุดมาจากเครื่องจักร ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้นหรอก" นอกจากเป็นอาจารย์พิเศษ ไอริสยังเป็นนางแบบโฆษณาให้แบรนด์แฟชั่น Kate Spade เครื่องสำอาง MAC และยังร่วมออกแบบคอลเล็กชันเครื่องประดับให้แบรนด์จิวเวอรี่น้องใหม่ ชื่อ WiseWear อีกด้วย เรียกได้ว่าช่วง 10 ปีให้หลังมานี้เธอกลายเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการแฟชั่นของนิวยอร์กอย่างแท้จริง  ปี 2019 ไอริสในวัย 98 ยังเซ็นสัญญากับโมเดลลิ่งชื่อดังที่มีแต่ซูเปอร์โมเดลระดับท็อปอยู่ภายใต้สังกัดอย่างที่กล่าวไปข้างต้น เธอบอกว่าตัวเองยังคาดหวังที่จะสนุกสนานในโลกของแฟชั่นต่อไป แม้จะอยู่ในวัยที่ใกล้จะแตะ 100 ปีแล้วก็ตาม "บางคนพอแก่ตัวลงอาจจะยอมแพ้ต่อหลาย ๆ เรื่อง ถ้าไม่อยากเป็นอย่างนั้นคุณก็ต้องฮึดสู้และลุกขึ้นมาทำมันต่อไป หรืออาจเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ ที่จะทำให้คุณลืมสภาพของตัวเอง ฉันเกลียดการอยู่เฉย ๆ เพราะฉันเป็นคนของโลก ฉันชอบที่ได้ออกไปท่องโลก ได้เจอกับคนใหม่ ๆ นั่นคือวิถีของฉัน"       ที่มา   https://www.independent.co.uk/life-style/fashion/iris-apfel-model-contract-img-age-gigi-hadid-netflix-a8765336.html https://edition.cnn.com/2019/02/08/opinions/iris-apfel-modeling-contract-changing-beauty-standards-henley/index.html https://www.cnbc.com/2018/03/29/10-life-lessons-from-96-year-old-iris-apfel.html https://www.townandcountrymag.com/style/fashion-trends/a13122155/iris-apfel-carl-apfel-love-story/ https://graziadaily.co.uk/celebrity/news/iris-apfel-film-quotes-documentary-husband-age/