THE CHAIR เมื่อศิลปินล้อมวงเปิดใจ ถึงภาพลักษณ์ที่อยากลบออกไป เพื่อให้รู้จักตัวตนพวกเขามากกว่าเดิม 

THE CHAIR เมื่อศิลปินล้อมวงเปิดใจ ถึงภาพลักษณ์ที่อยากลบออกไป เพื่อให้รู้จักตัวตนพวกเขามากกว่าเดิม 
อยากให้ลบภาพลักษณ์อะไรออกไป? เราทุกคนต่างมีเรื่องที่อยากให้ลบ หรือให้ผู้คนลืมเลือน ไม่ต้องพูดถึงศิลปินที่อยู่ท่ามกลางแสงไฟ หลายคนอาจเห็นเพียงด้านสว่างของการเป็นคนมีชื่อเสียงผู้ขับร้องเพลงที่โด่งดัง แต่น้อยคนจะรู้ว่ายิ่งสว่างเท่าไหร่ เงาข้างหลังก็ยิ่งทอดตัวมืดมิดไม่แพ้กัน และเรื่องต่าง ๆ ที่ซ่อนตัวภายใต้เงาดำนี้เอง ที่ศิลปินอยากลบเลือนมันออกไป “ถ้าจะมีสิ่งที่อยากให้ลบผมอยากให้ลบภาพนักร้องของผม เพราะผมอยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็ก พอได้มาเป็นจริง ๆ อยู่ดี ๆ สังคมก็คาดหวังในตัวเรามากขึ้นเรื่อย ๆ เราเลยรู้สึกว่าบางเวลาไม่ต้องมองเราเป็นนักร้องก็ได้ เพราะนักร้องก็แค่อาชีพหนึ่งที่เลี้ยงชีวิต ไม่ใช่ยศบรรดาศักดิ์ เราอาจไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ทุกคนอยากให้เป็นตลอดเวลา” อาจฟังดูแปลกที่ กิต-กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ นักร้องนำของวง Three Man Down เปิดใจใน THE CHAIR โปรเจกต์ JOOX Original 100x100 Season 3 ว่า เขาอยากที่จะลบภาพลักษณ์นักร้องของเขา  “ผมเคยมองโลกในแง่ดีตอนนี้กลายเป็นมองโลกในแง่ร้ายสุด ๆ ผมจะระแวงเวลาที่มีเรื่องดี ๆ เข้ามาในชีวิต การมีชื่อเสียงเร็วแล้วเป็นคนที่ไม่อยากเปิดเผยตัวเองให้ใครรู้ เวลาได้รับปฏิกิริยาจากคนรอบข้าง ผมเลยเลือกเก็บไว้กับตัวเองทำให้เครียดมาก ผมจะรู้สึกดีมาก ๆ เวลาคนเข้ามาพูดคุยกับผมเหมือนคนทั่วไป ไม่ต้องมีหัวโขน ผมอยากถอดหัวโขนแล้วเป็นกิตคนเดิมที่ไม่ต้องแบกรับอะไรมากมาย ผมแค่อยากเป็นนักร้องอาชีพเวลาตอนที่ร้องเพลงบนเวที นอกจากนั้นก็แค่อยากเป็นคนธรรมดา” THE CHAIR เมื่อศิลปินล้อมวงเปิดใจ ถึงภาพลักษณ์ที่อยากลบออกไป เพื่อให้รู้จักตัวตนพวกเขามากกว่าเดิม  ความคาดหวังที่พ่วงมาพร้อมกับชื่อเสียงที่ได้รับ เป็นเหมือนภาระหน้าที่ซึ่งศิลปินต้องแบกเอาไว้ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้สังเกตได้คือการที่คนส่วนมากมองว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นบุคคลสาธารณะ “ผมเกลียดคำว่าคนสาธารณะมาก เพราะผมก็ทำงานลงทุนลงแรง เหมือนแม่ค้าขายผักคนหนึ่ง ผมขายเพลงหาเงินทำงานเลี้ยงครอบครัวไม่ต่างจากคนอื่น ๆ งานผมคือเป็นศิลปินทำผลงานแล้วคนชอบ คนฟังแล้วผมได้ตังค์ ไม่ใช่งานเป็นคนสาธารณะที่ทุกคนจะมาด่าได้ คุณต้องให้เกียรติผมเหมือนกันคน ๆ หนึ่ง” สิ่งที่ YOUNGOHM หรือ รัธพงศ์ ภูรีสิทธิ์ ระบายออกมาแทบไม่ต่างจากเรื่องราวที่เขาเคยบอกเล่าไว้ในบทเพลง ดูไว้ (Doo White)  ‘กูไม่โทษใครโทษอะไรกูเอาแต่โทษตัวเอง กูจะดีรึไม่ดีมันก็อยู่ที่เพลง มันจะดังรึไม่ดังสำหรับกูไม่สำคัญ คนจะฟังรึไม่ฟังแต่กูก็ต้องทำ’ “เพลงผมดีมันก็ต้องมีบางอย่างที่ดีในตัวมัน ตั้งแต่วันแรกที่ทำเพลงไม่ได้มานั่งคิดเลยว่าคนจะมองเรายังไง ผมจบตั้งแต่ทำเพลงแล้วเพราะผมมีความสุขกับมัน เราไม่ได้พิเศษไปกว่าคนอื่นมากมาย แค่ทำหน้าที่ของเราให้ดี ทำความฝันของเราให้ดีที่สุด ชีวิตส่วนตัวของเราบางมุม ทุกคนไม่ต้องรู้ก็ได้เสพแค่งานของผม เพราะผมก็เหมือนทุกคนแหละมีสุข ทุกข์ โกรธ เศร้าไม่ต่างกัน” THE CHAIR เมื่อศิลปินล้อมวงเปิดใจ ถึงภาพลักษณ์ที่อยากลบออกไป เพื่อให้รู้จักตัวตนพวกเขามากกว่าเดิม  ผลงานเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วตามมาด้วยชื่อเสียงเงินทองมากมาย จนหลายคนเผลอคิดกันไปเองว่า ความสำเร็จของศิลปินเหล่านี้ต่างได้มาโดยง่าย แล้วมองข้ามความพยายามที่เคยผ่านมาของพวกเขาไป “หนูโดนว่าตั้งแต่เรื่อง ปล่อยเพลงแรกก็ดังเลยนะ, เพลงพักก่อนเอาเรื่องดรามามาขาย ,เหยียดเพศ, stereotype LGBT อยากบอกว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ หนูต้องประกวดทุกรูปแบบมาตั้งแต่ ป.2 และภาษาในเพลงเป็นภาษาที่หนูใช้พูดประจำ แต่ยอมรับว่าอาจจะคิดน้อยที่เอาภาษาเฉพาะกลุ่มมาใช้ในที่สาธารณะ เพราะก็ไม่รู้ว่าเพลงจะดังเราแค่แต่งเพราะชอบ เลยไม่เสียใจที่ตอนนั้นเราแต่งแบบนี้ แล้วหนูก็จะไม่ลบเพลง เพราะเพลงนี้ทำให้สังคมรู้ว่ายังมีคนที่เป็นแบบหนูอยู่ในโลกนี้ อย่างน้อยก็ทำให้คนตระหนักว่าคำพูดที่ใช้อยู่ทุกวัน อาจมีบางคำที่กำลังบูลลี่คนอื่นอยู่ก็ได้ หนูยอมเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แต่อย่ามาว่าหนูเป็นคนเหยียดเพศเลย เพราะไม่มีเหตุผลที่จะไปเหยียดเพศเดียวกับเรา” เราอาจไม่เคยมองในมุมที่ว่าสิ่งที่ตามมาพร้อมความสำเร็จของ ‘พักก่อน’ เพลงแจ้งเกิดของแร็ปเปอร์รุ่นใหม่ MILLI-ดนุภา คณาธีรกุล จะมีทั้งดอกไม้และก้อนหินจำนวนมากที่ถาโถมเข้ามาในรูปของคอมเมนต์ใน Twitter นับหมื่นข้อความ ที่เธอพยายามตอบเองทุกคอมเมนต์เพื่อให้คนได้เข้าใจเธอมากขึ้น “ถ้าทำได้หนูแค่อยากให้คนเข้าใจหนูมากกว่า ทุกวันนี้มีคอมเมนต์มาเป็นพันเป็นหมื่น หนูจะอ่านคอมเมนต์แรกจนถึงสุดท้าย แล้วพิมพ์ตอบทั้งหมด ทำให้หนูเครียดมาก คนส่วนมากจะคิดว่าเป็นคนมั่นใจ แต่เราแค่อยากให้เขารู้จักหนูในมุมอื่น อยากให้ติชมในข้อเท็จจริง ไม่ใช่ด่าจากสิ่งที่เขาเชื่อ” THE CHAIR เมื่อศิลปินล้อมวงเปิดใจ ถึงภาพลักษณ์ที่อยากลบออกไป เพื่อให้รู้จักตัวตนพวกเขามากกว่าเดิม  เรื่องมุมมองผู้คนที่มีต่อความสำเร็จอันรวดเร็วของ MILLI ไม่ต่างจากประสบการณ์ที่เคยได้รับของ NONT TANONT-ธนนท์ จำเริญ ศิลปินมากความสามารถ เจ้าของรางวัลชนะเลิศรายการประกวดร้องเพลง เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซั่นที่ 1 และ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ซีซั่นที่ 4 ที่หลายคนมองว่าความสามารถของเขาไม่คู่ควรรางวัลที่ได้รับ “ผมโดนคำว่าได้มาโดยง่ายบ่อยมากแต่ผมไม่ให้ราคา หลายคนเห็นเราตอนก้าวที่สิบแต่น้อยคนจะเห็นวันที่เราพยายามเดินตั้งแต่ก้าวที่หนึ่งถึงเก้า เราต้องไม่เอาตัวเองไปอยู่ในบรรยากาศ toxic แบบนั้น การที่เรามาอยู่จุดนี้ได้ ไม่ได้เพราะคน ๆ เดียว เปรียบเทียบกับการแล่นเรือใบเราอาจจะคุมลมไม่ได้ แต่เราคุมใบเรือได้ ศิลปินอย่างเราไม่ได้มีหน้าที่ทำให้เพลงดัง เราแค่ทำให้เพลงดีที่สุด ชีวิตเราไม่มี lose มีแต่ learn ในทุกวันที่ตื่นขึ้นมาเรายังมีโอกาสเสมอ” THE CHAIR เมื่อศิลปินล้อมวงเปิดใจ ถึงภาพลักษณ์ที่อยากลบออกไป เพื่อให้รู้จักตัวตนพวกเขามากกว่าเดิม 

ข้อคิดจากศิลปินผู้ร้องเพลง ‘แน่ใจไหม’ ช่วยยืนยันว่ากว่าที่จะมาเป็นคนเบื้องหน้าคอยให้ความบันเทิงกับผู้คนผ่านเสียงร้องอย่างที่พวกเราเห็นในทุกวันนี้ เบื้องหลังพวกเขาต้องผ่านอุปสรรคอะไรมาแล้วมากมาย ซึ่งหลายอย่างเป็นภาพหม่นตรงข้ามกับผลงานสดใสที่พวกเขาได้สร้างสรรค์ขึ้นมา แต่หลายเรื่องก็ถูกแปรเปลี่ยนเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดเพลงดี ๆ ที่ทุกคนต่างจดจำได้ THE CHAIR เมื่อศิลปินล้อมวงเปิดใจ ถึงภาพลักษณ์ที่อยากลบออกไป เพื่อให้รู้จักตัวตนพวกเขามากกว่าเดิม  มาทำความรู้จักตัวตนที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ของ 13 ศิลปินไปพร้อมกัน กับโปรเจกต์ JOOX Original 100x100 SEASON 3 ที่พวกเขาและเธอจะมานั่งเปิดใจเรื่องราวและเบื้องลึกความรู้สึกที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ติดตามได้ใน THE CHAIR EP.2

 

ซึ่ง THE CHAIR EP.2 ได้เปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับศิลปินหลายคนที่เราคิดว่ารู้จักพวกเขาดีแล้ว บางเรื่องก็ไม่น่าเชื่อว่าเคยเกิดขึ้นจริง จนเรามีโอกาสได้ยินมาจากปากของศิลปินเองนั้น ซึ่งสิ่งที่เคยเกิดขึ้นนี้ช่วยมาย้ำตัวตนในแบบที่พวกเขาและเธอเป็น และทำให้ผลงานของเหล่าศิลปินมีความหมายมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ว่าแล้วก็มาฟังเพลงจาก JOOX Original 100x100 Season 3 ไปพร้อมกัน ได้แล้ววันนี้ที่ JOOX เท่านั้น! https://open.joox.com/s/rd?k=mKFtI