โคเซ อันเดรส: เชฟใหญ่ที่จะไม่ยอมปล่อยให้ผู้คนหิวโหยช่วงวิกฤต

โคเซ อันเดรส: เชฟใหญ่ที่จะไม่ยอมปล่อยให้ผู้คนหิวโหยช่วงวิกฤต
หน้าที่ของเชฟ คือช่วยบรรเทาทุกข์ผู้คนที่กำลังเจ็บปวดด้วยอาหารร้อน ๆ ใครหลายคนอาจไม่เคยได้ยินหรือรู้จักชื่อของ โคเซ อันเดรส (José Andrés) พ่อครัวชาวอเมริกันเชื้อสายสเปนมาก่อนในชีวิต แต่สำหรับคนวงการอาหารต่างต้องรู้จักเชฟคนนี้ เพราะเขาคือผู้ก่อตั้ง World Central Kitchen (WCK) องค์กรการกุศลไม่แสวงหาผลกำไร ทำหน้าที่จัดหาอาหารและที่พักให้กับผู้ประสบภัยจากภัยพิบัติต่าง ๆ และเป็นเชฟที่เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี 2019 ช่วงเวลาที่โลกต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อันเดรสออกมาช่วยเหลือผู้คนด้วยอาหารมื้ออร่อย เชิญชวนเชฟชื่อดังระดับโลกร่วมทำอาหารมากกว่า 750,000 มื้อต่อวัน ให้ประชาชนชาวอเมริกันที่เดือดร้อน เพราะเชฟส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าการมีข้าวกินจนท้องอิ่มจะทำให้ผู้คนมีเรี่ยวแรงและกำลังใจพร้อมเผชิญหน้ากับอุปสรรค ชีวิตวัยเด็กของอันเดรสไม่ต่างจากเด็กสเปนคนอื่นเท่าไหร่นัก เขารู้ว่าตัวเองหลงรักการทำอาหาร เลยไปลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนสอนทำอาหารที่เมืองบาร์เซโลนาตั้งแต่อายุ 15 ปี จากนั้นทำงานเป็นผู้ช่วยพ่อครัวของกองทัพสเปนหลายปี จนกระทั่งอายุ 21 ปี เขาตัดสินใจสานต่อความฝันว่าอยากเป็นเชฟที่ประสบความสำเร็จ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และมีเงินเหลือติดตัวเพียง 50 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,700 บาท) โคเซ อันเดรส: เชฟใหญ่ที่จะไม่ยอมปล่อยให้ผู้คนหิวโหยช่วงวิกฤต วันเวลาผ่านไปพร้อมกับการเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว อันเดรสสะสมชื่อเสียง สร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ในที่สุดก็ได้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ในปี 2013 เขาเริ่มมีชื่อเสียงในวงการอาหาร เป็นเจ้าของร้านอาหารมากกว่า 30 แห่งในสหรัฐฯ ออกรายการแข่งขันทำอาหารตามรายการโทรทัศน์ ใช้เวลาว่างพัฒนาสูตรการทำอาหารสเปน ด้วยการนำอาหารสเปนดั้งเดิมมาประยุกต์ให้ทันสมัย ทำให้บาร์ของเขาถือเป็นร้านอาหารที่จองคิวยากที่สุดร้านหนึ่งของสหรัฐฯ มีเงินเก็บและทรัพย์สินมากพอที่จะเริ่มลุยงานเพื่อสังคม ยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนด้วยอาหารจานเด็ด ย้อนไปปี 2010 เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศเฮติ ส่งผลให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ผู้คนจำนวนมากไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีอาหาร บางคนขาดกำลังใจมีชีวิตต่อ ข่าวน่าเศร้านี้ทำให้อันเดรสตัดสินใจก่อตั้งองค์กรการกุศลชื่อว่า World Central Kitchen (WCK) เพื่อส่งอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวเฮติผ่านพ้นไป องค์กร WCK ยังคงทำงานต่อด้วยการทำอาหารแจกจ่ายให้ผู้เดือดร้อนทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามิ แผ่นดินไหว พายุเฮอริเคน ทอร์นาโด ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม และไฟป่า ช่วยเหลือเรื่องปากท้องของผู้คนมากกว่า 13 ประเทศ รวมถึงดินแดนยิ่งใหญ่อย่างสหรัฐฯ ที่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย การช่วยเหลือประชากรโลกขององค์กร WCK โด่งดังจนถูกตั้งชื่อเล่นว่าครัวโลก พวกเขาพัฒนาทักษะของผู้คนในประเทศด้อยพัฒนา สอนชาวบ้านให้เลือกวัตถุดิบเป็น สอนทำอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ นำการศึกษาด้านอาหารไปยังพื้นที่ห่างไกล ทีมเชฟกับอาสาสมัครเชื่อมั่นว่าอาหารมีส่วนช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนได้  การทำงานเพื่อการกุศลของอันเดรส ส่งให้คนจำนวนมากสนับสนุนโครงการเพื่อผู้ยากไร้ของเขา มีนักการเมืองสหรัฐฯ นักธุรกิจชื่อดังหลายคนบริจาคเงินให้กับองค์กรเพื่อต่อยอดซื้อวัตถุดิบทำอาหาร ทำให้ในปี 2012 และ 2018 เขาติด 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกของนิตยสาร Time จากการช่วยเหลือสังคมมาตลอดหลายปี โคเซ อันเดรส: เชฟใหญ่ที่จะไม่ยอมปล่อยให้ผู้คนหิวโหยช่วงวิกฤต ปี 2015 อันเดรสเคยขึ้นโรงขึ้นศาลสู้กับบริษัทของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากเขาวางแผนเปิดร้านอาหารใหม่ในโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชันแนล สาขา วอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมกับเซ็นสัญญาล่วงหน้าไปเรียบร้อย โดยจะเริ่มตกแต่งร้านปี 2016 ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งเดือนมิถุนายน 2015 อันเดรสดูข่าวทรัมป์ปราศรัยหาเสียงลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ และไม่พอใจมากที่ทรัมป์พูดจาดูแคลนผู้อพยพชาวเม็กซิกันด้วยการเรียกพวกเขาว่า “พวกพ่อค้ายา”  และ “พวกอาชญากร” อันเดรสตัดสินใจถอนตัวจากสัญญาที่เซ็นไว้กับโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชันแนล บริษัทจึงดำเนินการยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหาย 10 ล้านเหรียญ (ประมาณ 32 ล้านบาท) จากการฉีกสัญญาของอันเดรส แต่เชฟใหญ่สู้ไม่ถอย ยื่นฟ้องบริษัทกลับโดยใช้เหตุผลว่า คำแถลงของทรัมป์จะทำให้ร้านอาหารของเขาไม่สามารถหาพนักงานชาวสเปนและเม็กซิกันได้ เขาไม่สามารถเปิดร้านอาหารสเปนบนพื้นที่ที่เจ้าของโรงแรมดูหมิ่นชาติพันธุ์ หากร้านอาหารยังคงอยู่ในตึกของชายคนนี้ ลูกค้าหลักที่เป็นชาวสเปนและเม็กซิกันจะต้องไม่มาเหยียบที่ร้านแน่นอน สำนักข่าว Washingtonian รายงานสถานการณ์คุกรุ่นของเชฟชื่อดังกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน อิวานกา ทรัมป์ (Ivanka Trump) ต้องเร่งแก้ไขความบาดหมางของพ่อและอันเดรส เธอเขียนจดหมายถึงเชฟชาวสเปนว่า ที่นี่คืออเมริกา ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไม่เว้นแม้แต่พ่อของเธอ ดังนั้นขอให้วางความโกรธลงแล้วคุยกันด้วยสันติ แต่คดีความเรื่องร้านอาหารกลับยืดเยื้อนานถึงสองปี สุดท้ายในปี 2017 ข้อพิพาทดังกล่าวก็จบลงด้วยดี (ในแง่ธุรกิจ) ทั้งสองฝ่ายขอไม่เปิดเผยผลสรุปของคดี ชวนให้ผู้คนที่ตามข่าวมาตั้งแต่ต้น สงสัยจนถึงทุกวันนี้ว่าอันเดรสต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินจำนวน 10 ล้านเหรียญ ให้แก่บริษัทของทรัมป์หรือไม่ ปัจจุบัน เชฟอันเดรสยังคงวิจารณ์การทำงานของทรัมป์อย่างเปิดเผย ทุกคนต่างรู้แล้วว่าเขาไม่ชอบขี้หน้าผู้นำสหรัฐฯ เอามาก ๆ ส่วนทรัมป์เคยออกมาพูดถึงอันเดรสหลังขึ้นศาลว่า “แม้มีความคิดเห็นต่างกัน แต่เราจะทิ้งเรื่องเก่าเอาไว้ และก้าวไปข้างหน้าในฐานะเพื่อน”   หลังเรื่องธุรกิจสุดวุ่นวายจบลง อันเดรสมีเวลากลับไปใส่ใจงานเพื่อสังคมอีกครั้ง ปลายปี 2017 เปอร์โตริโกเสียหายอย่างหนักจากพายุเฮอริเคนมาเรียที่พัดถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4,600 ราย เขานำทีมพ่อครัวขององค์กร WCK ลงพื้นที่ เปลี่ยนโบสถ์ให้กลายเป็นครัวขนาดใหญ่ เร่งทำอาหารกว่า 60,000 จานต่อวันให้กับผู้ประสบภัยจากพายุ บรรเทาทุกข์ของผู้คนที่กำลังเจ็บปวดด้วยอาหารร้อน ๆ สะอาด สดใหม่ รสชาติอร่อย เป็นเวลาหลายปีที่องค์กร WCK สร้างสรรค์อาหารเปี่ยมด้วยโภชนาการให้กับผู้คนที่เดือดร้อนทั่วโลกมาแล้วกว่า 15 ล้านจาน ปี 2020 โลกต้องเจอกับปัญหาใหญ่อีกครั้งกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ช่วงที่ไวรัสยังไปไม่ถึงสหรัฐฯ อันเดรสนำทีมพ่อครัวทำอาหารให้กับคนที่ถูกกักตัวอยู่บนเรือสำราญ Diamond Princess ที่จอดเทียบท่าโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งโควิด-19 มาถึงสหรัฐฯ พร้อมกับการแพร่ระบาดที่ไม่สามารถควบคุมได้ ในตอนนี้คนจำนวนมากพากันตกงาน เชฟอันเดรสจึงประกาศกร้าวว่าเขาจะช่วยเท่าที่ช่วยได้ เขาเริ่มวางแผนให้บริการอาหารแก่ชาวอเมริกัน โดยเฉพาะมหานครนิวยอร์ก ที่เวลานี้กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของประเทศสหรัฐฯ ไปแล้ว โคเซ อันเดรส: เชฟใหญ่ที่จะไม่ยอมปล่อยให้ผู้คนหิวโหยช่วงวิกฤต อันเดรสทำเรื่องขอใช้สนามกีฬาของทีมเบสบอลวอชิงตัน เนชันแนล เปลี่ยนสนามเป็นครัวชั่วคราวคอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ใช้พื้นที่เตรียมอาหารจำนวนมากส่งให้ผู้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 มอบให้กลุ่มคนไร้บ้าน กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ส่งไปยังศูนย์พักพิงต่าง ๆ และมอบให้กับทีมแพทย์ที่ทำงานหนักในโรงพยาบาล พร้อมกับวิจารณ์การบริหารงานของทรัมป์ว่า “เรามีผู้นำที่มัวแต่ห่วงเรื่องวอลล์สตรีตมากกว่าไวรัส” ระหว่างการทำอาหารจำนวนมากให้ประชาชนชาวอเมริกัน เชฟอันเดรสขอความร่วมมือช่างตัดผมให้ช่วยโกนหนวดเคราแก่เชฟผู้ชาย และตัดผมให้เชฟผู้หญิงหากเธอต้องการ ทำตามคำแนะนำของประชาชนผู้หวังดีแชร์งานวิจัยมาให้อ่านว่า ขนบนใบหน้าทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของหน้ากากอนามัยลดลง เขาจึงโกนหนวดเคราที่ไว้มานานทิ้งแบบไม่เสียดาย และเร่งลุยงานเตรียมทำอาหารมอบให้ประชาชน นอกจากครัวชั่วคราวขนาดใหญ่ที่วอชิงตัน ดี.ซี. กับนิวยอร์ก อันเดรสยังมีครัวอยู่อีกหลายเมืองใหญ่ แต่เขามักช่วยงานอยู่ที่นิวยอร์ก นำทีมพ่อครัวชื่อดังเปลี่ยนร้านอาหารที่ถูกสั่งปิดให้เป็นครัวชุมชน ร่วมมือกับอาสาสมัครกระจายตัวไปแจกจ่ายอาหารถูกสุขลักษณะตรงตามหลักโภชนาการ 160 จุดทั่วสหรัฐฯ บริการอาหารให้ประชาชนมากกว่า 750,000 มื้อต่อวัน  แถมยังมิวายแซวทรัมป์อีกครั้งว่า “We need to make sure we are building walls that are shorter and tables that are longer” หรือ “เราต้องทำทุกอย่างให้แน่ใจว่าจะสามารถสร้างโต๊ะอาหารที่ยาวกว่ากำแพงได้” เหน็บแนมเรื่องการสร้างกำแพงเม็กซิโกและการแบ่งแยกชาติพันธุ์ของทรัมป์ โคเซ อันเดรส: เชฟใหญ่ที่จะไม่ยอมปล่อยให้ผู้คนหิวโหยช่วงวิกฤต อาหารส่วนใหญ่ที่ครัวขององค์กร WCK ทำแจกจ่ายให้ผู้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 มักเป็นอาหารทานง่าย เช่น แซนด์วิชแฮมชีส แฮมเบอร์เกอร์หมู สตูว์ไก่ เนื้อตุ๋น ซุปร้อน ๆ มันบด และสลัดผัก ส่วนใหญ่เป็นอาหารนิ่ม ๆ เพื่อให้เด็กและผู้สูงอายุสามารถเคี้ยวได้ง่าย ๆ ถึงเมนูเหล่านี้จะไม่หวือหวาหรือแปลกใหม่ แต่อาหารทุกจานถูกสร้างสรรค์ด้วยความใส่ใจของเชฟมืออาชีพ เชฟชื่อดังที่เราได้ชิมฝีมือการทำอาหารของพวกเขาก็ต่อเมื่อไปรับประทานอาหารในโรงแรมหรู หรือร้านดังราคาแพงจองคิวยากที่มีมิชลินสตาร์ประดับร้าน ตอนนี้ชาวอเมริกันจะได้รับประทานอาหารจากเชฟคุณภาพ พวกเขาทุ่มเทฝีมือปรุงรสเพื่อให้อาหารทุกมื้ออร่อยตามมาตรฐาน กลิ่นหอมกับรสชาติช่วยให้ผู้คนรู้สึกดี มีกำลังใจ และเจริญอาหาร เพราะเวลาที่เศร้าโศกที่สุด ท้องก็ต้องอิ่มอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เหตุการณ์การแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 จะจบลง แต่ในทุก ๆ วัน เชฟอันเดรสกับเพื่อนเชฟของเขา ยังคงให้บริการอาหารจานร้อน เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการให้กับทุกคนที่กำลังหิวโหยอยู่อย่างแข็งขัน   ที่มา http://www.joseandres.com/ https://chicago.cbslocal.com/2020/04/16/chef-jose-andres-world-central-kitchen-steps-in-to-feed-chicagoans-in-need-during-covid-19-pandemic/ https://www.washingtonpost.com/news/food/wp/2019/10/11/jose-andres-doesnt-win-the-nobel-peace-prize-but-that-doesnt-slow-his-disaster-relief-work/ https://time.com/collection/apart-not-alone/5809169/jose-andres-coronavirus-food/ https://www.eater.com/2016/10/24/13380078/donald-trump-zakarian-jose-andres-dc https://www.npr.org/sections/thetwo-way/2017/04/07/523004201/trump-organization-settles-lawsuit-with-chef-jos-andr-s https://www.vox.com/policy-and-politics/2018/1/29/16945196/chef-jose-andres-ivanka-trump-cafe-milano   เรื่อง: ตรีนุช อิงคุทานนท์