เคนนี จี กับโชว์ครั้งที่ 7 ในไทย ชายที่แฟนเพลงรัก แต่สายแจซดั้งเดิมมักวิจารณ์เชิงลบ

เคนนี จี กับโชว์ครั้งที่ 7 ในไทย ชายที่แฟนเพลงรัก แต่สายแจซดั้งเดิมมักวิจารณ์เชิงลบ
ในบรรดาศิลปินที่มีโอกาสมาแสดงในไทยบ่อยครั้ง แฟนเพลงอาจนึกถึงชื่อ เคนนี จี (Kenny G) นักดนตรีสายเครื่องเป่า เจ้าของบทเพลงฮิตและอัลบั้มขายดีติดอันดับโลก ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา เขาแวะเวียนมาเล่นดนตรีในไทยบ่อยครั้ง ภาพที่คนทั่วโลกนึกถึงเมื่อเอ่ยชื่อเคนนี จี หนีไม่พ้นชายหนุ่มร่างเพรียวพร้อมทรงผมเอกลักษณ์แบบหยิกฟู ตามมาด้วยเสียงแซ็กโซโฟนโทนเสียงสูงแต่ยังเต็มไปด้วยความไพเราะนุ่มนวลจากเมโลดีที่สวยงาม ประกอบกับท่วงทำนองฟังง่ายติดหูถูกใจแฟนเพลงทั่วไป บทเพลงของนักเป่าชื่อก้องไปปรากฏอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ มากมายตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่เขาผลิตงานออกมา จนถึงวันนี้ก็ยังวนเวียนอยู่รอบตัวให้ได้ยินอยู่เสมอ ต้องกล่าวด้วยว่า ไม่ใช่แค่ในไทย แต่เป็นระดับนานาชาติ หลังจากช่วงสถานการณ์วิกฤตโรคระบาดเริ่มคลี่คลายลงบ้าง เคนนี จี มีโอกาสมาแสดงในไทยอีกครั้งในงาน International Jazz & Blues Festival 2022 จัดขึ้นที่หัวหิน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ค่ำคืนแห่งเสียงเพลงแจซและบลูส์เริ่มต้นขึ้นโดยวงชาวไทยโดยปราศจากวี่แววของฟ้าฝน บรรยากาศและสภาพอากาศชวนดื่มด่ำกับเสียงเพลงของอีกหนึ่งเจ้าพ่อสมูธแจซ (Smooth Jazz) ซึ่งมีโอกาสมาเปิดการแสดงในไทยอีกครั้ง แต่นี่เป็นเพียงแค่บทโหมโรงเท่านั้น เมื่อถึงเวลาเริ่มโชว์ที่ทุกคนรอคอย มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในความทรงจำของแฟนเพลง ก่อนหน้าสิ่งไม่คาดฝันจะหลั่งไหลเข้ามาในโชว์นี้ เคนนี จี เปิดตัวด้วยมาดหล่อเท่ เสียงโซปราโนแซ็กโซโฟน (Soprano Saxophone) ดังขึ้นหลังจากอินโทรเพลงโปรยทางให้พระเอกของรายการ เสียงที่ดังผ่านลำโพงขึ้นมาไม่ได้มาจากศิลปินที่เดินจากริมเวทีมาที่กลางเวทีเหมือนการแสดงอื่น เขากลับปรากฏตัวขึ้นโดยยืนอยู่ท่ามกลางพื้นที่นั่งชมด้านล่างเวทีใจกลางมวลหมู่ผู้ชมที่นั่งจดจ้องบนเวทีรอคอยศิลปินเดินออกมาพร้อมกับเครื่องเป่าตัวเก่ง แค่นี้ก็เรียกเสียงเฮดังกระหึ่มบริเวณทรูอารีนา ที่หัวหิน แล้ว หลังได้เฮกับพระเอกในงานที่ทุกคนรอคอย ผู้ชมเริ่มพบว่าเม็ดฝนกำลังโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า จากเม็ดเล็ก ๆ ค่อย ๆ เพิ่มระดับมากขึ้น ยังดีที่ผู้ชมส่วนใหญ่ได้รับเสื้อกันฝนจากเจ้าหน้าที่มาแล้ว ภาพเสื้อกันฝนหลากสีเริ่มปรากฏขึ้นเป็นหย่อม สำหรับคนที่ไม่มีเสื้อกันฝนเริ่มทยอยไปหลบในเต็นท์ด้านข้างกันบ้าง พอจะบอกได้ว่า บรรยากาศฟังดนตรีสมูธแจซจากแซ็กโซโฟนของเคนนี จี ในครั้งนี้เริ่มกลายเป็นคอนเสิร์ตกลางสายฝนไปโดยปริยาย (ฝนหยุดตกในช่วงท้ายโชว์ซึ่งจะเล่าถึงในเนื้อหาต่อไป) ละอองฝนอาจทำให้ผู้ชมจำนวนไม่น้อยเปลี่ยนจุดที่จับจองกันไว้บ้าง นั่นไม่ได้ทำให้คอนเสิร์ตจืดชืดลงแต่อย่างใด เสียงแซ็กโทนเสียงสูงที่มาพร้อมเมโลดีและท่วงทำนองไพเราะเสนาะหูตรึงแฟนเพลงเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ตามมาด้วยลูกเล่นทีเด็ดสำหรับสายเครื่องเป่าที่มักโชว์พลังเป่าเสียงลากยาวต่อเนื่องแบบไม่มีหยุดพัก ลูกเล่นนี้น่าจะเป็นลายเซ็นสำคัญเป็นพิเศษสำหรับโชว์ของเคนนี จี จากที่กินเนส เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness World Records) บันทึกว่าในเวลานั้น (ราวปี 1997) เขาเป็นเจ้าของสถิติเล่นโน้ตด้วยแซ็กโซโฟนโดยลากเสียงยาวนานที่สุดในโลก โน้ตที่เคนนี จี เป่าลากเสียงถูกบันทึกว่ายาวต่อเนื่อง 45 นาที 47 วินาที ผู้เขียนไม่ได้พิมพ์เลขผิด ย้ำว่าเป่าโน้ตเดียวลากยาวต่อเนื่อง 45 นาที 47 วินาที (ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า circular breathing) ซึ่งภายหลังมีนักเป่าหลายรายอ้างว่าลากเสียงโน้ตยาวกว่าสถิติของเคนนี จี จนเป็นข้อถกเถียงกันมา แต่ในบทความจะไม่ได้อธิบายถึงประเด็นนี้ กลับมาที่เรื่องโชว์ในไทยครั้งนี้ เคนนี จี ลากเสียงโน้ตยาวเป็นระยะเวลาหนึ่งพอให้ได้เฮกัน ไม่ถึงกับยาวไปหลายสิบนาที สำหรับประสบการณ์ในโชว์ ปฏิเสธได้ยากว่า ฝนส่งผลต่อโชว์และบรรยากาศในระดับหนึ่งทีเดียว แม้แต่ตัวเขาเองยังเอ่ยปากบนเวทีว่า “ขอโทษสำหรับฝนด้วย” ซึ่งผู้ชมทราบดีว่าไม่ใช่ความผิดของนักดนตรีชื่อก้องโลกรายนี้เลย ไม่ใช่แค่นี้ ช่วงท้ายคอนเสิร์ต เคนนี จี จะยังเอ่ยถึงเหตุการณ์บางอย่างที่เชื่อว่าอาจเกิดขึ้นเพราะสาเหตุจากฝนด้วย เคนนี จี กับโชว์ครั้งที่ 7 ในไทย ชายที่แฟนเพลงรัก แต่สายแจซดั้งเดิมมักวิจารณ์เชิงลบ บทเพลงช่วงแรกที่เคนนี จี หยิบยกมาเล่นมีทั้งที่เป็นเพลงดังในสไตล์สมูธแจซ เล่นเนียนไพเราะเพราะพริ้งสมกับเป็นเจ้าพ่อของสายนี้ และมีทั้งที่เป็นกรูฟแบบฟังก์ หรือผสมลาติน ขยับจังหวะขึ้นมาสลับกับเพลงช้า แถมมีหยิบเพลงที่เป็นสไตล์แจซคลับย้อนยุคมานำเสนอด้วย หลังเคนนี จี เปิดตัวด้วยเซอร์ไพรส์เล็กน้อย และเป่าเพลงดังที่ทุกคนคุ้นหูให้แฟนเพลงได้หายคิดถึงกันแล้ว เขาทักทายผู้ชมด้วยประโยคภาษาไทย ข้อมูลจากปากคำของนักดนตรีมากประสบการณ์บอกว่า โชว์ครั้งนี้เป็นการแสดงในไทยครั้งที่ 7 ของตัวเขาเองแล้ว เช่นเดียวกับโชว์ส่วนใหญ่ของเคนนี จี เขาไม่ได้นำเพลง Going Home ไปไว้เป็นเพลงปิดท้ายโชว์เหมือนกับที่ในจีนเปิดเพลงนี้เพื่อเป็นสัญญาณให้คนในบริเวณทราบว่าพื้นที่นั้นกำลังจะปิดลงในวันนั้น คอนเสิร์ตที่หัวหินปี 2022 นักเป่าเล่นเพลง Going Home อยู่ช่วงกลางโชว์ท่ามกลางสายฝน ก่อนจะสลับมาเป็นเพลงจังหวะลาติน และเริ่มมาโซโล่เดี่ยว ซึ่งเป็นอีกช่วงที่บ่งชี้ว่า ‘ฝน’ มีผลต่อบรรยากาศอยู่บ้าง เคนนี จี อาจเป็นที่จดจำว่าเป็นเจ้าของเพลงสมูธแจซอันไพเราะ เล่นโน้ตนุ่มนวล เมื่อมาถึงการโชว์ด้านเทคนิคทักษะด้านดนตรี โชว์โซโล่เดี่ยวแซ็กโซโฟนของเคนนี จี แสดงให้เห็นว่าในด้านทักษะก็ไม่ได้เป็นรองใครเหมือนกัน เขาร่ายโน้ตนับล้านตัวรัวอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปแล้ว การโซโล่เดี่ยวมักเป็นไปอย่างราบรื่นแล้วต่อด้วยการบรรเลงพร้อมวงต่อ สำหรับโชว์ครั้งที่ 7 ในไทยของเคนนี จี ที่เลข 7 ควรเป็นเลขนำโชคตามความเชื่อของหลายวัฒนธรรม แต่แล้วกลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน ขณะที่รัวโน้ตอย่างเมามัน เขากลับชะงัก แล้วเอ่ยขึ้นว่ามีอะไรไปติดอยู่ในอุปกรณ์เครื่องเป่าของเขา เคนนี จี สันนิษฐานว่าอาจเพราะฝนก็เป็นได้ เคนนี จี ขอให้พิธีกรช่วยขึ้นมาพูดบนเวทีขณะที่เขาไปแก้ไขปัญหาสุดวิสัยกับเครื่องดนตรีคู่ชีพของเขาก่อน จังหวะที่พิธีกรขึ้นมาพูด ฝนเริ่มหยุดแล้ว หลังจากฝนหยุด นักดนตรีสนับสนุนกลับขึ้นมาเล่นแจมกันเพื่อรอพระเอกของโชว์กลับมา นักดนตรีรายนี้หายไปไม่นานก็กลับขึ้นมาโปรยบทเพลงดังของเขาต่อในช่วงท้าย ซึ่งในช่วงนี้เอง เคนนี จี หยิบเพลงอมตะมาเล่นด้วยอย่าง My Heart Will Go On แล้วกลับมาโซโล่เดี่ยวต่อจากที่ค้างไว้ เพลงสุดท้ายของโชว์ พระเอกของรายการปิดท้ายด้วยบทเพลงอมตะของโลกอย่าง Somewhere Over The Rainbow ในบรรยากาศค่ำคืน อากาศเย็นสบายหลังฝนหยุดตก เสียงโซปราโน แซ็กโซโฟนของเคนนี จี ที่บรรเลงเพลง Somewhere Over The Rainbow คู่กับเปียโน ช่างเป็นเสมือนคำอำลาและปิดฉากโชว์ครั้งที่ 7 ของเขาในไทยได้อย่างน่าชื่นใจ โชว์ของเคนนี จี และเสียงดนตรีของเขาทำให้แฟนเพลงหายคิดถึงได้มากทีเดียว แม้จะมีเหตุติดขัดเล็กน้อย โดยรวมแล้ว ผู้ชมส่วนใหญ่พอใจกับงานนี้ หากเป็นแฟนเพลงตัวยงแล้วน่าจะยินดีกับโอกาสใกล้ชิดกับศิลปินระดับโลกเมื่อเคนนี จี มาตั้งโต๊ะแจกลายเซ็นให้แฟนเพลงที่ซื้อของที่ระลึกซึ่งทีมงานนำมาจำหน่ายเป็นโปสเตอร์และซีดีรวมฮิต ผู้เขียนมีโอกาสถามไถ่เคนนี จี เกี่ยวกับเหตุการณ์สุดวิสัยบนเวทีขณะยื่นซีดีให้นักดนตรีวัย 65 ปี เซ็นลงบนปกเคนนี จี ตอบอย่างเป็นกันเองพร้อมกับเซ็นซีดีไปด้วยว่า แซ็กโซโฟนของเขากลับมาใช้งานได้แล้วในเบื้องต้น แต่ยังต้องไปซ่อมแซมปรับปรุงเพิ่มเติมต่ออีก เคนนี จี กับโชว์ครั้งที่ 7 ในไทย ชายที่แฟนเพลงรัก แต่สายแจซดั้งเดิมมักวิจารณ์เชิงลบ เชื่อว่า สำหรับแฟนเพลงของเคนนี จี ทุกคนเอาใจช่วยให้อุปกรณ์ของเขากลับมามีสภาพสมบูรณ์อย่างแน่นอน นักดนตรีรายนี้เป็นที่รักของแฟนเพลงตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีนับตั้งแต่อัลบั้มแรกของเขาประสบความสำเร็จช่วงปลายยุค 80s จนถึงวันนี้ อัลบั้มของเขาทำยอดขายทั่วโลกได้มากกว่า 75 ล้านชุด อย่างไรก็ตาม เหรียญอีกด้านสำหรับความสำเร็จของเคนนี จี เขาต้องรับมือกับเสียงวิจารณ์ที่มีต่องานดนตรีมาโดยตลอด สารคดี Listening to Kenny G ใน HBO นักเป่าคนดังพูดถึงเสียงวิจารณ์ที่เกิดขึ้น และรู้ดีว่ามีคน ‘เกลียด’ งานของเขา แต่ก็ไม่ได้ถือสาคำกล่าวเหล่านี้ เคนนี จี ให้สัมภาษณ์กับ NPR แห่งสหรัฐฯ ว่า คนที่วิจารณ์ดนตรีของเขาอาจคิดว่าดนตรีของเคนนี จี จะไปส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของดนตรีแจซดั้งเดิม (traditional jazz) ซึ่งในความคิดของเคนนี จี คิดว่าดนตรีของเขาไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งใด ๆ “พวกเขามีสิทธิ์จะแสดงท่าทีปกป้องถ้านั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการทำ ผมมีอย่างอื่นที่ต้องทำ ซึ่งก็คือการผลิตงานและฝึกซ้อม” เคนนี จี กล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับ NPR หากอ้างอิงจากรายงานเมื่อปี 2014 ของ New York Times สื่อเก่าแก่ในสหรัฐฯ ดนตรีของเคนนี จี ไม่ได้เป็นเพียงดนตรีที่ไพเราะซึ่งแฟนเพลงฟังในเวลาส่วนตัวหรือฟังขณะทำกิจกรรมใดก็ตาม ดนตรีของเคนนี จี ถูกนำมาใช้ในแง่มุมทางสังคมด้วย ดังที่กล่าวข้างต้น ในประเทศจีน เพลง Going Home ถูกใช้เป็นเพลงเปิดในพื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ในห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟ โรงเรียน และศูนย์กีฬา เพื่อให้ผู้ใช้บริการทราบว่า นี่คือเวลาที่ปิดทำการในวันนั้นแล้ว หรือเรียกว่าได้ว่า เป็นเพลงสำหรับสื่อความหมายเพื่อ ‘เคลียร์พื้นที่’ นั่นเอง เพลง Going Home เป็นอีกผลงานของเคนนี จี เมื่อปี 1989 ซึ่งประสบความสำเร็จกลายเป็นเพลงฮิตมาจนถึงวันนี้ แต่สำหรับในจีน ผู้คนทั่วไปได้ยินเพลงนี้มาหลายสิบปี แต่ไม่ค่อยมีใครทราบว่า เพลงนี้ถูกใช้เป็นเพลง ‘เคลียร์พื้นที่’ ตั้งแต่เมื่อใด เคนนี จี ทราบดีว่าเพลงของเขาได้รับความนิยมและเป็นเพลงเชิงสัญลักษณ์ในทางวัฒนธรรมที่จีน เขากลับต้องยอมรับความจริงส่วนหนึ่งว่า ถึงแม้ว่าเขาหวังว่าจะได้รับส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์จากการใช้งานทรัพย์สินทางปัญญา แต่ก็ต้องยอมจำนนกับข้อเท็จจริงในแง่วิถีของแต่ละพื้นที่ และอีกส่วนหนึ่งคือ เมื่อเขาได้ยินเพลง Going Home ดังขึ้นในที่ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง มันทำให้เขารู้สึกว่า ดนตรีไม่มีกำแพงทางภาษา และเช่นเดียวกับในไทย เคนนี จี เปิดแสดงที่จีนหลายครั้ง เขาบอกด้วยว่า จะเล่นเพลง Going Home เป็นเพลงสุดท้าย เพราะไม่อยากให้ผู้ชมกลับบ้านก่อนเวลา เคนนี จี ยอมรับในความคิดเห็นและความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรมตามแต่ละบริบทพื้นที่ เช่นเดียวกับเสียงวิจารณ์ที่มีต่อดนตรีของเขา นักดนตรีดังเชื่อว่ามีคนทั่วโลกที่รู้สึกว่าต้องปกป้องบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ และมีผู้คนที่คิดว่าจะต้องพิทักษ์ดนตรีแจซแบบดั้งเดิมและสไตล์ของดนตรีแจซดั้งเดิมไว้ ขณะที่เขาเล่นดนตรีในรูปแบบที่แตกต่างออกไป ช่วงกลางยุค 80s โลกยังไม่มีเทคโนโลยีสื่อสารทันสมัยแบบทุกวันนี้ เคนนี จี เล่าว่า ไม่มีช่องทางที่ทำให้ผู้คนได้รู้ว่ามีดนตรีแบบไหนบ้างได้มากนัก และเขาก็ผลิตดนตรีในสไตล์ของเขาขึ้นมาจากพื้นที่เล็ก ๆ ของตัวเอง แค่เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่อยู่ข้างในตัวเขา “ผมแค่เล่นเครื่องดนตรีในแบบที่ผมเล่น ผมเล่นต่างจากที่คนอื่นเล่น ผมเขียนเพลงที่แตกต่าง ผมทำในสิ่งที่ผมต้องทำ และทุกคนก็มีสิทธิ์จะพูดในสิ่งที่พวกเขาต้องการ” แม้ตัวของเคนนี จี จะมองว่าดนตรีของเขาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งใด สำหรับแฟนเพลงจำนวนไม่น้อย เชื่อว่า หลายคนมีดนตรีของเคนนี จี ฝังอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของความทรงจำ บทเพลงที่แตกต่าง(จากแจซดั้งเดิม)ของเขาถูกนำมาใช้ในสื่อ ผู้คนเลือกเปิดเพลงของเคนนี จี ในพื้นที่ต่าง ๆ ตามจุดประสงค์ของแต่ละคน งานเพลงที่ไพเราะเรียบง่ายแบบสมูธแจซสไตล์เคนนี จี แตกต่างจาก ‘แจซ’ ในรูปแบบที่บางคนมอง บางคนมองว่าดนตรีของเคนนี จี มีโครงหลักอิงกับแนวป็อปเสียด้วยซ้ำ กาลเวลากลับเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า ดนตรีของเคนนี จี กลับมีบทบาท มีฟังก์ชัน และมีพื้นที่ในความทรงจำของคนทั่วโลกผ่านตัวอย่างที่ชัดเจนอย่างการแสดงครั้งที่ 7 ในไทยของเขา แฟนเพลงหลากหลายกลุ่มทั้งที่เป็นชาวต่างชาติ วัยรุ่นชาวไทย และครอบครัว ล้วนซึมซับกับงานของนักแซ็กโซโฟนซึ่งแตกต่างจากรูปแบบดั้งเดิมได้ ในอนาคตอันใกล้และระยะไกลออกไป ลักษณะของดนตรีที่เรียบง่ายผสมรายละเอียดในสไตล์แบบเคนนี จี จะยังมีพื้นที่อยู่ในวงการดนตรีได้หรือไม่ และจะสานต่อจากการแสดงหมายเลข 7 ในปี 2022 ไปสู่เลขอื่น ๆ ได้ไกลแค่ไหน คงเป็นคำถามที่ยากเกินไปที่จะให้คำตอบในเวลานี้ หากประเมินจากสภาพและบริบทในปัจจุบัน แฟนเพลงจำนวนมากทั่วโลกยังสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้เขาเสมอ การแสดงครั้งที่ 7 ของเขาในไทยเป็นตัวอย่างและหลักฐานอย่างหนึ่งที่พิสูจน์ได้ดีทีเดียว อ้างอิง : https://www.npr.org/2021/12/05/1061669090/kenny-g-documentary-listening-to-kenny-g-hbo https://www.nytimes.com/2014/05/11/world/asia/china-says-goodbye-in-the-key-of-g-kenny-g.html